Review : mhunoiii มาแชร์ประสบการณ์การทำ BOTOX ปรับรูปหน้ากับ Immagini Clinic จ้า ^^
Botox <<< คำสุดคุ้นหูในยุคนี้ทรายเชื่อว่าสาวๆหลายคนกำลังสนใจในเรื่องการแก้ไขสร้างมิติให้รูปหน้า ซึ่งวันนี้ทรายจะมารีวิวประสบการณ์ในการทำ Botox ของทรายซึ่งทรายได้รับเชิญให้ไปทดลองทำที่ Immagini Clinic โดยพี่แบงค์ หรือ คุณกัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย พี่สาวคนสวยเจ้าของคลินิก Immagini Clinic และ Daisy Diva ที่มีถึง 4 สาขาในห้างชั้นนำในกรุงเทพ สาวๆหลายคนอาจจะคุ้นกับพรีเซนเตอร์คนสวยของที่นี่คือ พี่เก๋-ชลลดา เมฆราตรี ซึ่งทรายเคยเจอพี่เก๋ตัวจริงสวยน่ารักและเป็นกันเองม๊ากก >< ในการทำครั้งนี้ทรายได้เลือกไปลองที่ Immagini Clinic สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งตอนนี้แม้ห้างจะปิดปรับปรุงแต่คลินิกได้ย้ายไปที่ชั้นออฟฟิสชั้น 6 ซึ่งสามารถเข้าไปรับบริการได้ตามปกติจ้า ขอบอกว่าสาขานี้เพิ่งย้ายขึ้นไปทำร้านใหม่ร้านสวยอลังการมากๆจ้า ก่อนจะชมรีวิวในการทำ Botox ของทรายทรายจะขอเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับการทำ Botox ว่าคืออะไร มีผลอย่างไร มีความแตกต่างในคุณภาพแต่ละยี่ห้ออย่างไร พร้อมกับชมภาพบรรยากาศในร้าน Immagini Clinic สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวที่เพิ่งทำใหม่ไปพลางๆจ้า ^^
BOTOX คืออะไร? BOTULINUM TOXIN (เลือกใช้เฉพาะ BOTULINUM TOXIN จากบริษัท Allergan อเมริกาเท่านั้น) เป็นโปรตีนจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีคุณสมบัติช่วยคลายการหดตัวของกล้ามเนื้อ ลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดขนาดของกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการรักษาใช้เวลาเพียง 10 นาที ด้วยการฉีดยาเพียง 2-3 จุด เห็นผลชัดเจนภายใน 3-5 วัน โดยจะสลายไปเองเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 4-6 เดือน
ความแตกต่างของยี่ห้อ BOTOX มีผลข้างเคียงหรือไม่ อย่างไร? BOTOX ถูกนำมาใช้ในเรื่องของความสวยงาม เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ ให้กับผิวพรรณมายาวนานกว่า 30 ปี BOTOX เป็นชื่อทางการค้าของ BOTULINUM TOXIN Type A ซึ่งไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์อื่นที่มีส่วนผสมของ BOTULINUM TOXIN คล้ายกันเพราะผลิตภัณฑ์ตัวอื่นอาจซึมผ่านหรือกระจายตัวในบริเวณใกล้เคียงได้ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงอันพึงประสงค์ได้มากกว่า เช่น ปากแห้ง กลืนอาหารได้ยากขึ้น และมีผลทำให้เสียงเปลี่ยนไป ถ้าฉีดที่คอ BOTOX มีส่วนประกอบของโปรตีน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน มาต่อต้านน้อยมากเมื่อเทียบกับ BOTULINUM TOXIN ตัวอื่นซึ่งมีโปรตีนสูงกว่า BOTOX ถึง2-10 เท่าการเกิดภูมิคุ้มกันนี้ทำให้การฉีด BOTULINUM TOXIN ในครั้งต่อๆไปไม่ได้ผลดังนั้นควรระวังผลข้างเคียงด้วย และเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยและได้ผลการรักษาที่ถูกต้อง โปรดถามหาขวด BOTULINUM TOXINที่แพทย์ฉีดให้ท่านว่า มีเครื่องหมายการค้า BOTOX ที่แท้จริงหรือไม่
ทำใมอิมเมจินี่ และเดซี่ ดิว่า คลินิก จึงเลือกใช้เฉพาะยี่ห้อ BOTOX ในการรักษาเท่านั้น? BOTOX คือยี่ห้อ เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ซึ่งสกัดได้จาก BOTULINUM TOXIN Type A ที่ฮอตฮิตติดอันดับหนึ่ง ของวงการความสวยความงามทั่งโลก BOTOX มีประสิทธิภาพในการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวพรรณ โดย BOTOX จะออกฤทธิ์ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆที่ก่อให้เกิดรอยย่นคลายตัว จึงมีการใช้สาร BOTOX ฉีดลบริ้วรอยกันอย่างแพร่หลายกว่า 70ปี ประเทศทั่วโลกนอกจากนั้น BOTOX ยังสามารถช่วยในการปรับแต่ง แก้ไขข้อบกพร่องของใบหน้าส่วนต่างๆของร่างกายให้ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรอยย่นบริเวณดั้งจมูก ปลายจมูกบาน หรือยกปลายจมูกให้ตั้งขึ้น ริองแก้มลึก ริ้วรอยบริเวณ รอบรีมฝีปาก รอยหยักรอยบุ๋มบริเวณคาง รอยย่นบริเวณลำคอ การปรับความโค้งของคิ้วในรูปแบบต่างๆการทำให้ดวงตาดูกลมโตขึ้น ส่วนเทคนิคที่น่าสนใจของการใช้ BOTOX ในขณะนี้คือการยกกระชับใบหน้า ให้ตึงขึ้น(Microbotox for lifting) โดยแพทย์จะผสม BOTOX ที่มีลักษณะเป็นผงร่วมกับน้ำเกลือ ในปริมาณที่สูงกว่าการฉีดแก้ริ้วรอย และแทนที่จะฉีดเข้าในกล้ามเนื้อ ก็จะฉีดให้ตื้นๆเข้าไปในชั้นหนังแท้แทน วิธีนี้ให้ผลดีมาก โดยหลังฉีดหนึ่งสัปดาห์ จะรู้สึกใบหน้าตึงกระชับขึ้นผิวที่เคยหย่อนคล้อยดูตึงขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง นอกจากนี้ยังทำให้ใบหน้าไม่มันและดูละเอียดขึ้น
การแก้ปัญหาต่างๆด้วย BOTOX มีอะไรบ้าง? 1. ยับยั้งเหงื่อ รักษากลิ่นตัวให้ผลด้วย BOTOX : เป็นการแก้ปัญหาโดยการนำเอา BOTOX ฉีดเข้าบริเวณใต้ผิวหนังบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก BOTOX จะออกฤทธิ์ยับยั้ง การหลั่งของสารเคมี Acetylcholine ที่กระตุ้นการหลั่งของเหงื่อบริเวณต่อมเหงื่อจึงช่วยปริมาณเหงื่อและกลิ่นตัวได้ถึง 83% การรักษาแบบนี้ใช้เวลาสั้นมากประมาณ 10นาที ก็สามารถกลับไปทำงานได้หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น และหลังการรักษาครั้งแรกประสิทธิภาพในการรักษาของBOTOX จะคงออกฤทธิ์อยู่ได้นาน 6-10 เดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และให้ผลในการรักษา ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้
2.ปรับโครงหน้าเหลี่ยมให้เรียวสวยด้วย BOTOX : ผู้ที่มีปัญหาโครงหน้าเหลี่ยม จะมีลักษณะกล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกร ที่ใหญ่กว่าปกติกล้ามเนื้อชนิดนี้มีชื่อว่า Masseter มักพบในคนที่นอนกัดฟัน สบฟันไม่สนิท หรือการเคี้ยวอาหาร ที่มีความเหนียวอย่างปลาหมึก หรือหมากฝรั่งมากๆก็เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามหรือขากรรไกรมีการพัฒนาให้หนานูนมากกว่าปกติหรือบางรายเป็นตั้งแต่กำเนิดเมื่อสังเกตบริเวณใบหน้าจะพบว่าคางเป็นเหลี่ยมชัดเจน หากลองกัดฟันจะเห็นบริเวณของกล้ามเนื้อบริเวณขากรรำกรทั้ง 2 ข้าง ชัดเจนกว่าคนปกติ การฉีด BOTOX จะทำให้ใบหน้าเหลี่ยมดูเรียวเล็กได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงเหมือนกับการผ่าตัดกราม เพราะ BOTOX จะออกฤทธิ์ โดยการคลายกล้ามเนื้อและช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณของขากรรไกร ความหนานูนของกล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามจึงลดลง ทำให้รูปหน้าดูเรียวเล็กลงได้ BOTOX จะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากฉีดไปแล้ว ประมาณ 2 4 สัปดาห์ และออกฤทธิ์เต็มที่ช่วง2-3 เดือนหลังฉีด ซึ่งผลการรักษาแต่ละครั้งจะอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน 3.ลดน่องให้เรียวสวยเล็กน่ามอง : ผู้มีปัญหาน่องใหญ่ เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณน่องโตมากผิดปกติ อาจมีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ หรือการเดินผิดวิธี การฉีด BOTOX เพื่อลดน่อง อาศัยหลักการเดียวกับการลดกล้ามเนื้อ ที่มุมกรามการฉีด BOTOX ที่น่อง จะทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวลดการทำงานลง ทำให้ขนาดของน่องค่อยๆลดลงเรื่อยๆ เรียวเล็กตามธรรมชาติ เนื่องจาการใช้งานน้อยลง หากรู้จักเลือกใช้อย่างถูกวิธี เพียงเท่านี้ก็สามารถมีใบหน้าสวยๆ น่องเรียวเล็กได้ด้วยวิธีง่ายๆโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม 4.ลดริ้วรอยด้วยการใช้ BOTOX : จากการทดลองการลดริ้วรอยด้วยครีมลดริ้วรอยเปรียบเทียบกับการใช้ BOTOX พบว่า ครีมลดริ้วรอยไม่สามารถลดริ้วรอยได้อย่างมีนัยสำคัญ แตกต่างจากการใช้ BOTOX สามารถทำให้ริ้วรอยหายไปได้จริง และเห็นผลได้ชัดภายใน 3-7 วัน ทั้งยังมั่นใจในความปลอดภัยได้ เพราะ BOTOX ถูกนำมาใช้ในเรื่องความสวยความงามเพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิวพรรณมายาวนานกว่า 30 ปี และได้รับการยอมรับถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา ของสหรัฐอเมริกา(FDA)มานานกว่า 16 ปี --------------------------------------------------------------------------------------- มาถึงขั้นตอนการรีวิวของทรายกันเลยค่ะ วันที่ทรายไปได้พบกับพี่แบงค์เจ้าของคลินิคคนสวยซึ่งทางพี่แบงค์ได้เล่าให้ทรายฟังเกี่ยวกับความเป็นมา คอร์สต่างๆของคลินิก ซึ่งที่นั้นมีทั้งการปรับรูปหน้า การทำเลเซอร์ รวมทั้งการกำจัดขนที่มีสาวๆให้ความสนใจเยอะมากกกกกซึ่งทรายจะทยอยมาลงให้ชมกันจ้า ในกรณีการเลือกที่จะปรับรูปหน้าหรือทำเลเซอร์ของที่นี่ จะต้องมีการปรึกษากับทางคุณหมอซึ่งจะอยู่ประจำที่คลินิกตลอด โดยทางคุณหมอจะวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละคนและแนะนำวิธีการแก้ปัญหาให้ ซึ่งถือว่าเป็นความปลอดภัยในการรักษาเชิงการแพทย์ที่มีคุณหมอคอยควบคุมให้ มาชมขั้นตอนการปรึกษาคุณหมอของทรายและขั้นตอนในการฉีด BOTOX และ LIPO เพื่อลดไขมันบริเวณแก้มกันด้านล่างเลยค่ะ
ของทรายนั้นคุณหมอได้วิเคราะห์ในส่วนของผิวหน้าว่ามีปัญหาของกระ ซึ่งของทรายเป็นกระที่เกิดจากกรรมพันธุ์โดยเป็นกระลึก การทำเลเซอร์จะต้องทำต่อเนื่องจึงจะช่วยให้กระลึกของทรายนั้นแลดูจางลง ซึ่งเลเซอร์ที่คุณหมอแนะนำคือ Medlite C6 Laser ซึ่งเป็นนวัตกรรมเลเซอร์จากอเมริกาที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดรอยแผลหลังการรักษาซึ่งต้องเว้นจากการฉีด BOTOX ไปประมาณ 3 สัปดาห์ซึ่งทรายจะมารีวิวให้ชมภายหลังค่ะ ส่วนในเรื่องของการปรับโครงหน้าคุณหมอวิเคราะห์ให้ว่าทรายเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อในการเคี้ยวมาก แอบอายกันเลยทีเดียวเพราะถ้าใครติดตาม Facebook จะเห็นว่าทรายเป็นนักกินคนนึงเลยทีเดียว 555 ปัญหาโครงหน้าที่เกิดจากขนาดของกล้ามเนื้อจึงสามารถแก้ไขได้โดยการฉีด BOTOX และในส่วนของไขมันบริเวณแก้มนั้นทรายมีไม่เยอะมาก จึงทำการฉีด LIPO เพื่อลดไขมันในปริมาณที่คุณหมอจะคำนวณให้ค่ะ ในการแก้ไขโครงหน้าโดยการฉีดยาเข้าไปนั้นต้องได้รับการปรึกษาจากคุณหมอ ไม่ควรไปรับการบริการตามสถานประกอบการต่างๆโดยพลการนะคะ เพราะคุณหมอที่เชี่ยวชาญจะรู้ตำแหน่งการฉีดที่ถูกต้อง การเลือกใช้ยา การคำนวณปริมาณยาที่ต้องใช้ ซึ่งจะมีผลข้างเคียงตามมาได้ถ้าไม่ได้รับการบริการอย่างมีมาตรฐาน ส่วนในเรื่องของราคานั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณของยาที่ใช้ตามรูปหน้าของแต่ละคนค่ะ
ความรู้สึกในระหว่างทำและหลังทำ BOTOX : ก่อนจะฉีดจะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่ทำการประคบเย็นบริเวณที่จะฉีดให้รู้สึกชาเพื่อลดความเจ็บในขั้นตอนการฉีด เมื่อรู้สึกชาแล้วคุณหมอจะเป็นผู้ฉีดให้เราเอง เข็มที่ใช้อันเล็กนิดเดียวจ้า ถ้าไม่ใช่คนกลัวเข็มมากทรายว่ามันไม่เจ็บเลย อาจจะเพราะทรายไม่กลัวเข็มเป็นคนที่เคยบริจาคเลือดอยู่แล้ว ใครเคยเห็นเข็มบริจาคเลือดมันใหญ่น่ากลัวมาก อันนี้เลยจิ๊บๆ ตอนแทงเข็มเข้าเจ็บนิดๆเหมือนมดกัด ของทรายฉีดบริเวณกรามสองด้าน ใช้ยาหนึ่งเข็มแบ่งฉีดไปตามจุดที่คุณหมอเป็นคนวิเคราะห์ไว้ ส่วนการฉีด LIPO ลดไขมันบริเวณแก้มนั้นของทรายมีไขมันทีแก้มไม่เยอะใช้ยาในบริมาณไม่มาก ตรงบริเวณแก้มนั้นความเจ็บตอนฉีดเท่ากับ BOTOX แต่จะรู้สึกหน่วงๆตอนเดินยา การฉีดตัวนี้เมื่อยาเข้าไปจะทำให้หน้าบวมยาแต่คืนเดียวก็ยุบหายหมดแล้วค่ะ ฉีดเสร็จจะรู้สึกตึงๆหน่วงที่แก้มสองด้าน แต่บริเวณที่ BOTOX นั้นเฉยๆค่ะ ของทรายคืนเดียวหน้าที่บวมจากการฉีด LIPO ก็กลับมาเป็นปกติแล้วค่ะ ผลลัพธ์ของ BOTOX นั้นจะเห็นผลในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์แต่ก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อยาของแต่ละคน และจะให้ผลต่อเนื่องไปประมาณ 4-6 เดือนโดยจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของแต่ละคน เช่น ถ้าเราไม่คุมอาหาร ทานอาหารเคี้ยวอาหารเหนียวๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยๆ ผลของ BOTOX ก็จะคืนตัวเร็วทำให้รูปหน้ากลับมาเหมือนเดิมค่ะ แต่ถ้ากรณีที่ฉีดซ้ำไปเรื่อยๆทุกประมาณ 6 เดือนก็จะทำให้การคืนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณกรามคืนตัวได้ช้าลงค่ะ ดังนั้นท้ายที่สุดแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของเราหลังทำการรักษาไปแล้วเป็นอย่างมากเลยจ้า --------------------------------------------------------------------------------------- ภาพเปรียบเทียบ Before & After ของทรายหลังการทำ BOTOX และ LIPO ไปเป็นเวลา 13 วันจ้า
หน้าด้านตรง : สำหรับทรายรู้สึกว่าโครงหน้าชัดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณคาง โดยส่วนตัวแล้วทรายเริ่มเห็นผลตั้งแต่สัปดาห์แรกซึ่งคนทักหลายคนเรื่องใบหน้าซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะเป็นแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไปคนจึงทักเพราะโครงหน้าดูชัดขึ้นแต่ก็ดูไม่ออกว่าเราไปทำอะไรมา แสดงว่าทรายตอบสนองต่อยาค่อนข้างไวมากค่ะ (ภาพแรกคือหน้าวันที่ฉีดมีอาการบวมจากยาที่ใช้สลายไขมันที่แก้มนะค๊า ^^)
หน้าด้านซ้าย : ชัดเจนมากในบริเวณกรามจ้า
หน้าด้านขวา : บริเวณกรามลดลงชัดเจนเห็นโครงหน้าชัดขึ้นเหมือนด้านซ้ายจ้า สรุปผลสำหรับทรายประมาณสองอาทิตย์หลังการทำให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเนื่องจากโครงหน้าทรายนั้นเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามที่เกิดจากการทานอาหารทำให้ยาแสดงประสิทธิภาพได้ชัดเจน รูปหน้าดูชัดเจนขึ้นแต่ไม่ได้เล็กลงจนดูแปลกไป ดูค่อยๆเรียวขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ช่วงหลังไปงานคนทักหลายคนมากว่าดูดีขึ้นไปทำอะไรมา ซึ่งทรายก็ตอบไปตามตรงจ้า ผลข้างเคียงหลังการทำนั้นคือเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณกรามเราเล็กลงถ้าเรากินอาหารที่ต้องใช้การเคี้ยวมากก็จะเกิดอาการเมื่อยกรามซึ่งแอบเป็นข้อดีที่ทำให้เราทานได้น้อยลงแต่น้อยลงในอาหารที่เคี้ยวยากจ้า ^^ สำหรับทรายถ้าเป็นอาหารปกติก็กินเหมือนเดิมการปฏิบัติตัวแบบทรายคงจะทำให้ผลของ BOTOX อยู่ได้ไม่นานตามที่ควรเป็นแน่เลย แหะๆ กำลังพยายามทานให้น้อยลงอยู่จ้า ในกรณีที่ทรายทดลองทำการปรับรูปหน้าในครั้งนี้เกิดจากความสงสัยและต้องการทดลองของทรายล้วนๆ ไม่ได้เป็นการชี้นำหรือยั่วยุว่าควรทำหรือไม่ ดังที่คุณหมอได้กล่าวไว้ในวิดีโอว่าเป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่อยากจะแนะนำน้องๆที่ยังเด็กอยู่รูปหน้าจะยังคงมีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่แนะนำให้ไปทำนะคะโดยเฉพาะที่ต้องรบกวนเงินคุณพ่อคุณแม่ไม่แนะนำเป็นอย่างมากจ้า ทั้งหมดนี้ขอให้สาวๆใช้วิจารณญาณในการรับชม ถ้าเรามีความต้องการที่จะทำหรือมีความสงสัยในจุดใดสามารถเข้าไปปรึกษากับทางคุณหมอได้ก่อนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์ปัญหาและแนะนำวิธีที่เหมาะสมกับเราได้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกทำอะไรลงไปจ้า ท้ายที่สุดนี้ทรายต้องขอขอบคุณพี่แบงค์และทาง Immagini Clinic ที่ได้เชิญให้ทรายไปทดลองรับบริการดีๆครั้งนี้เพื่อนำประสบการณ์ของทรายมาแบ่งปัญเป็นข้อมูลให้สาวๆได้รับชมกันมากๆค่า สำหรับรีวิวการกำจัดขน และการทำ Laser ทรายจะทยอยนำมาแบ่งปันให้ชมกันนะค๊า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ //www.immaginiclinic.com หรือทาง Facebook <<< Click ได้เลยจ้า ขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยจ้า ขอบคุณค่า ^^
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2556 0:48:21 น. |
|
8 comments
|
Counter : 7230 Pageviews. |
|
|