อีกด้านของความมืด
 
"คนที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักกัน" นิสัยคนเกาหลี

บทความของรองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ ฐานดี ผู้อำนวยการศูนย์เกาหลีศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง

บทความนี้ส่วนใหญ่จะชื่นชมเกาหลีใต้ แต่มีบางตอนที่อาจารย์ ท่านกล้าเอาบทความของฝรั่งและของท่านเองที่วิจารณ์คนเกาหลีใต้ตรงๆมาลง ดิฉันขออนุญาตนำบางตอนมารับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพดังต่อไปนี้ค่ะ

“คนที่ไม่รู้จักกันจะไม่ทักกัน และจะไม่ใช้รอยยิ้มในการทักทายคนที่ไม่รู้จัก เพราะถือกันว่า ผู้ใดเปิดยิ้มให้ก่อนจะทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคนชอบเปิดตัว ต้องการรู้จักคนอื่นเพื่อการหวังผลจากอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น จึงจะเห็นว่าในขณะที่รอคอยรถเมล์ รถไฟใต้ดิน หรือแม้แต่การให้บริการ เช่น พนักงานขายของ แคชเชียร์ และคนเสิร์ฟอาหาร จะไม่ค่อยมีรอยยิ้มเลย คนจะยิ้มให้กันก็เฉพาะคนที่รู้จักมักคุ้นกันแล้วเท่านั้น”

“ชีวิตการอยู่ร่วมกันในครอบครัวของคนเกาหลีในอดีตนั้น บ้านจะมีเพียง 2-3 ห้อง และมีคนหลายคนของครอบครัวขยายอาศัยอยู่ ทุกห้องจึงไม่มีความเป็นส่วนตัวสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะจะมีการใช้ห้องเป็นทั้งที่นอน ห้องนั่งเล่น และห้องอ่านหนังสือสลับกันไป ทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวในบ้าน ดังนั้น วิถีทางดำรงชีวิตจะเป็นเสมือนหนึ่งการอยู่ร่วมกันและใช้ของทุกสิ่งร่วมกัน น้องชายและพี่ชายจะสวมใส่เสื้อผ้าของกันและกันเสมอ เพื่อนจะยืมเสื้อและของใช้จากเพื่อนเป็นระยะเวลานานๆก่อนที่จะส่งคืน ความเป็นเจ้าของในทัศนะของชาวตะวันตกจะไม่ค่อยปรากฏในสังคมเกาหลี เพราะจะถูกมองไปว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ด้วยเหตุนี้การแบ่งปันจึงเป็นวิถีของครอบครัว เกาหลีและกลายเป็นความสัมพันธ์ทางสังคมอีกด้วย”

“ในสังคมเกาหลี มีการใช้คำว่า 'ของเรา' บ่อยกว่าคำว่า 'ของฉัน' ซึ่งหมายรวมไปถึงบ้านของเรา พ่อของเรา บริษัทของเรา โบสถ์ของเรา ฯลฯ”

“.....หากคุณกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์บนรถไฟ คนที่นั่งข้างๆ จะยื่นหน้ามาร่วมอ่านด้วยโดยไม่ขออนุญาต เจ้าของหนังสือพิมพ์ก็ดูจะไม่สนใจว่าใครจะอ่านด้วย ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ดังนั้น กระดาษที่วางบนโต๊ะทำงาน เครื่องใช้สำนักงาน พิมพ์ดีด หรือทีวี มักจะมีคนหยิบฉวยโดยไม่ขออนุญาต ทางที่ดีจึงควรเก็บของใช้ส่วนตัวไว้ในที่มิดชิด อย่าให้ใครเห็นจะเป็นการดีที่สุด”

“.....แต่การคบค้าสมาคมและคุ้นเคยกับคนเกาหลีเป็นเวลานานๆ จะพบว่าคนเกาหลีเป็นคนใจร้อน ไม่มีความเกรงใจ ไม่สำรวม เช่น ตะโกนข้ามหัวกันอย่างไม่ยำเกรง อีกทั้งไม่มีความละอายดังเช่นพฤติกรรมที่คนทั่วโลกยอมรับว่าดีและปฏิบัติตาม แต่คนเกาหลีดึงดันทำตามสิ่งที่ตนต้องการทำ โดยไม่แยแสว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เช่น แย่งที่นั่งบนรถไฟหรือแซงคิว ก็จะทำตัวไม่รู้ร้อน ไม่รู้สึกว่าตนกระทำผิด หรืออาจคิดว่าคนในสังคมของเขาก็ทำกันเช่นนั้น และจะไม่เอ่ยปากขอโทษเลย คนไทยที่อาศัยอยู่ในเกาหลีต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้”

“ข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเกาหลีที่มีต่อคนไทยก็คือ คนไทยเป็นคนขี้เกียจ ตัดสินใจช้า มัวแต่โอ้เอ้ ชอบความสบาย รักความสนุกสนาน ไม่มีความมุ่งมั่นทำสิ่งใดอย่างจริงจัง ไม่มีเป้าหมายในการทำงาน และเป็นสังคมที่ขาดระเบียบวินัย อีกทั้งจะยังเตือนคนเกาหลีด้วยกันเองว่า คนไทยเป็นคนไม่น่าคบ ควรจะแสวงหาประโยชน์จากคนไทยและเมืองไทยให้มากๆ”

ทุกประเทศในโลกนี้มี 2 ด้านครับ ไม่ว่าไทยหรือเกาหลีก็มี 2 ด้าน ทั้งด้านดี และด้านลบ ก่อนจะคบค้าสมาคมหรือลงทุนร่วมหุ้นค้าขายกับประเทศใด ท่านควรศึกษาผู้คนชนชาตินั้นอย่างละเอียดลึกซึ้งทั้งสองด้านเถิด.

เครดิท : น ส พ. ไทยรัฐ



Create Date : 01 เมษายน 2553
Last Update : 1 เมษายน 2553 19:52:25 น. 3 comments
Counter : 385 Pageviews.

 


โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:21:00:35 น.  

 
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆมีประโยชน์มาแบ่งปันค่ะ


โดย: XODA วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:21:01:30 น.  

 
ไม่เหมือนในซีรีย์เกาหลีเลยเนอะ











โดย: puy_naka63 วันที่: 3 เมษายน 2553 เวลา:14:22:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

pimpichana
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add pimpichana's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com