http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
Afterschool : ความรุนแรงแบบไวรัล

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง



หากพูดถึงหนังที่ว่าด้วยเหตุการณ์รุนแรงในโรงเรียนแล้ว หนังเรื่อง Elephant (2003) ของ กัส แวง แซงต์ คงผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ ถึงแม้ว่าตัวงานเองจะไม่ได้มีความเป็นออริจินอลอย่างแท้จริง เพราะใช้ไอเดียของหนังชื่อเดียวกัน* ปี 1989 ของ อลัน คาร์ก มาอีกต่อหนึ่ง อย่างไรก็ดี การที่ Afterschool เป็นหนังสัญชาติอเมริกันแท้ๆ จึงทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับหนังเรื่องดังกล่าวอย่างช่วยไม่ได้

ที่จริงแล้ว Afterschool ไม่ได้เกี่ยวกับการยิงกันในโรงเรียน แต่จุดที่มันคล้ายกับ Elephant คือการเล่าเรื่องความรุนแรงผ่านกิจวัตรประจำวันของเหล่าเด็กนักเรียน นอกจากนั้นหนังยังปรับตัวเองให้ทันสมัยขึ้นด้วยการแทรกประเด็นเรื่องอินเตอร์เน็ตเข้าไป จนชวนให้เรานึกถึง All About Lily Chou-Chou อยู่กลายๆ

เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ว่าด้วย โรเบิร์ต เด็กวัยมัธยมปลายที่พ่อแม่ส่งมาอยู่โรงเรียนประจำ ตามสไตล์ของหนังประเภทนี้ที่พระเอกจะต้องเป็นเด็กแปลกแยกไม่ค่อยมีเพื่อน แต่โรเบิร์ตมีสิ่งที่ต่างออกไปคือเขาชอบดูคลิปแรงๆ ตามอินเตอร์เน็ต ในวันหนึ่งขณะที่โรเบิร์ตกำลังถ่ายวิดีโอเล่นในโรงเรียน เขาก็บันทึกภาพนักเรียนสาวสองคนที่ตายจากการเสพยาเกินขนาดได้โดยบังเอิญ

Afterschool เป็นหนังยาวเรื่องแรกของ อันโตนิโอ แคมโปส เขาเป็นชาวนิวยอร์คโดยกำเนิด บ้าดูหนังมาตั้งแต่เด็ก เรียนจบทางด้านภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และมีผลงานหนังสั้นที่กวาดคำชมมามากมาย แคมโปสทำ Afterschool ตอนอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น โดยหนังได้เข้าประกวดในสาย Un Certain Regard ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2008



ผู้กำกับหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าคนทำหนังที่มีอิทธิพลต่อเขาอย่างสูงคือ ไมเคิล ฮานาเก้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หนังเรื่องนี้จะมีบรรยากาศเย็นชาแบบฮานาเก้เกือบตลอดทั้งเรื่อง หนังดำเนินไปอย่างเรียบนิ่ง ไม่มีการใช้เพลงประกอบแต่อย่างใด เปรียบประหนึ่งผิวน้ำที่ดูสงบนิ่ง แต่ผู้ชมก็รู้อยู่แก่ใจว่ามีบางอย่างกำลังรอการปะทุปะทังขึ้นมา

คนทำหนังอีกคนที่แคมโปสชื่นชอบคือ เฟรดเดอริก ไวส์แมน ผู้กำกับสารคดีชาวอเมริกันที่เน้นการสังเกตซับเจ็คอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น Afterschool จึงมีกลิ่นอายของสารคดีอยู่บ้างในแง่การลอบสังเกตความเป็นไปของเด็กๆ ในโรงเรียน หลายฉากหลายตอนของหนังถูกถ่ายทำด้วยวิธีแบบลองเทค เช่น ฉากบนโต๊ะอาหาร หรือการพูดคุยระหว่างพระเอกกับอาจารย์ที่ปรึกษา แต่การใช้ที่ทรงพลังที่สุดอยู่ในฉากการตายของสองนักเรียนสาว มันทั้งน่าอึดอัดและสะเทือนขวัญอย่างสมจริง

นอกจากนั้นแคมโปสยังกำหนดภาษาภาพยนตร์เฉพาะตัวให้กับหนังของตัวเองอีกด้วย เขาเลือกถ่ายภาพแบบจอกว้างในอัตราส่วน 2.35 : 1 (ซึ่งปกติจะใช้กับหนังที่เน้นภูมิทัศน์ในแนวกว้าง เช่น ฉากสู้รบใน The Lord of the Rings) หลายครั้งที่เขาจัดให้ตัวละครไปกองรวมอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของเฟรมอย่างจงใจ, ภาพถ่ายให้ใบหน้าหรือศีรษะของตัวละครหลุดจากเฟรม รวมไปถึงการโฟกัสภาพแบบชัดตื้นในหลายฉาก**

เทคนิคภาพยนตร์ทั้งหมดที่กล่าวมาสื่อถึงภาวะไม่สมดุลของตัวละครในเรื่อง ทั้งบรรดานักเรียนที่ตื่นตระหนกกับการตายของเพื่อน, อาจารย์ที่ต้องลุกขึ้นมาตรวจตราอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย, พ่อแม่ของสองสาวที่ยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของลูก แต่ที่หนักหน่วงอย่างที่สุดก็คือ โรเบิร์ต ที่เป็นพยานหนึ่งเดียวของโศกนาฏกรรมครั้งนี้

นอกจากภาษาหนังที่แพรวพราวแล้ว ประเด็นของ Afterschool ก็น่าสนใจเช่นกัน อย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดหนังกำลังพูดเรื่องวัฒนธรรมสมัยใหม่ของ YouTube และไวรัลวิดีโอ (วิดีโอที่ต่อส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นของฮิตขึ้นมา) หนังเปิดฉากด้วยภาพน่ารักๆ ของแมวที่กำลังเล่นเปียโน ก่อนจะตามด้วยภาพนักเรียนตบกันในโรงเรียน, ซัดดัม ฮุสเซน ถูกแขวนคอ ตามด้วยหนังโป๊ที่หญิงสาวถูกฝ่ายชายบีบคอบังคับให้พูดต่อหน้ากล้องว่า “แม่คะ หนูยอมถูกเอาเพื่อเงินค่ะ”



สิ่งที่น่าขบคิดประการแรกคือเรื่องของความจริงในคลิปเหล่านี้ อย่างคลิปหนังโป๊ในตอนเปิดเรื่องเราไม่อาจแน่ใจได้เลยว่ามันคือเรื่องจริงหรือการแสดงปลอมๆ กันแน่ แต่ที่แน่นอนคือ โรเบิร์ตรู้สึกมีอารมณ์ตื่นเต้นไปกับมัน ดังนั้นในฉากโรเบิร์ตไปพบสองสาวกำลังกระอักเลือดเจียนตาย และเดินเข้าไปหาพวกเธออย่างช้าๆ เราก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกันว่าเขาช็อคกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า หรือกำลังตื่นเต้นดีอยู่ในใจลึกๆ หรือเป็นความรู้สึกทั้งสองอย่างปะปนระคนกัน

เรื่องของความจริงถูกเสียดสีอย่างเจ็บแสบ เมื่อโรเบิร์ตถูกมอบหมายให้รับผิดชอบวิดีโอไว้อาลัยสองนักเรียนที่เสียชีวิตไป เขาตัดต่อคลิปด้วยภาพของนักเรียนที่สารภาพว่าไม่รู้จักทั้งสองคนนัก, เด็กหนุ่มที่ดีใจที่ทั้งคู่ยอมให้ออกเดทด้วย, อาจารย์ใหญ่ที่ขอเทคใหม่เพราะพูดไม่ดีพอ และตบท้ายด้วยภาพบันไดซึ่งเป็นสถานที่ที่พบศพของผู้ตาย หลังจากฉายคลิปให้อาจารย์ดู โรเบิร์ตก็ถูกด่าอย่างไม่เหลือชิ้นดี

คลิปไว้อาลัยถูกทำใหม่ด้วยฝีมือของคนอื่น มันเต็มไปด้วยถ้อยคำสรรเสริญจากเหล่าเพื่อนฝูง (ซึ่งผ่านการตัดต่อมาแล้ว) และเพลงประกอบแสนซาบซึ้ง มองในแง่หนึ่งวิดีโอของโรเบิร์ตอาจดูเพี้ยนพิลึก แต่นั่นก็เป็นความรู้สึกที่แท้จริงของเขาต่อการตายของเพื่อน แต่ที่สุดแล้วมันก็ต้องถูกจำกัดจากอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้กุมอำนาจในนามของความดีงาม*** อำนาจที่เพียงพอต่อการบิดเบือนความเป็นจริง

วิดีโอไวรัลยังถูกนำมาขยายเรื่องความรุนแรงในสถานศึกษาด้วยเช่นกัน โดยถึงแม้แคมโปสจะไม่ได้เรียนในโรงเรียนประจำเหมือนตัวละครในเรื่อง แต่เขาให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองสามารถสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในโรงเรียนของเหล่าชนชั้นกลาง และเขาก็รู้สึกรับไม่ได้กับซีรี่ส์อย่าง Gossip Girl หรือ NYC Prep ที่เน้นแต่ชีวิตอันเลิศหรูของนักเรียนในเรื่อง



คลิปเด็กตบกันในโรงเรียนไม่ได้มีแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แม้แต่ในอเมริกาหรือนิวยอร์คก็มีเรื่องประเภทนี้เช่นกัน หลายฉากที่เราเห็นโรเบิร์ตกับเพื่อนๆ นั่งดูคลิปเหล่านี้ประหนึ่งว่ามันเป็นเรื่องปกติ แถมยังกดดูซ้ำๆ อีกด้วย และในที่สุดเมื่อโรเบิร์ตเกิดเรื่องชกต่อยกับเพื่อน เหตุการณ์ในวันนั้นก็ถูกอัพขึ้นบนอินเตอร์เน็ตจนได้

เชื่อว่าในไม่ช้าคลิปของโรเบิร์ตก็จะถูกส่งต่อให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนแห่งนี้ดูกันถ้วนหน้า ไม่ว่าอาจารย์จะตามลบสักเท่าไร คลิปนี้ก็อาจจะถูกโพสต์ขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน รวมถึงการแพร่กระจายด้วยกระแสปากต่อปาก, การส่งต่อในรูปของฟอร์เวิร์ดเมล และการแชร์ต่อๆ กันไปบนหน้าของเฟสบุ๊ค สิ่งนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่าเราเองสามารถเป็นส่วนหนึ่งกระบวนการส่งต่อความรุนแรงได้อย่างง่ายดาย ด้วยการคลิกเม้าส์เพียงไม่กี่ที

และไม่ว่าจะคลิปไหนๆ ก็ดูเหมือนจะลักษณะร่วมกันคือ มีใครสักคนมือไวหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ยืนมุงกันแน่นิ่ง และไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้าม สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของหนังคือตอนที่โรเบิร์ตค้นพบว่ามีคนอัพคลิปตอนที่สองสาวกำลังจะตาย โดยการถ่ายจากอีกมุมหนึ่ง นั่นแปลว่ามีคนเห็นเหตุการณ์เช่นเดียวกับโรเบิร์ต แต่เขาคนนั้นก็ไม่ได้คิดเข้ามาช่วยแต่ประการใด

ดังนั้นหัวใจของหนังไม่ได้อยู่ที่ว่าหญิงสาวสองคนนั้นตายเพราะอะไร หรือใครที่อยู่เบื้องหลังการตายของพวกเธอ แต่สิ่งที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงมากกว่าคือ การที่ใครสักคนเพิกเฉยต่อการตายของมนุษย์ด้วยกัน และนั่นอาจนับเป็นความรุนแรงขั้นสูงสุดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้



หมายเหตุ

* สามารดูหนังเรื่อง Elephant ของ อลัน คาร์ก ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=0cwvGeYjLjI

** การโฟกัสภาพแบบชัดตื้น (Shallow focus) คือการถ่ายภาพให้วัตถุที่อยู่เบื้องหน้า (Foreground) และเบื้องหลัง (Background) มีความคมชัดไม่เท่ากัน

*** อาจจะนอกเรื่องไปหน่อย แต่สำหรับประเด็น ‘ผู้กุมอำนาจในนามของความดีงาม’ ล่าสุดที่ผมเพิ่งเจอคือจากละครเรื่อง ‘จงกลกลิ่นเทียน’ ในช่วงท้ายที่เจ้าย่า (ทาริกา ธิดาทิตย์) ไม่ยอมให้ เจ้าบัวคำแก้ว (เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ) กลับเข้าร่างของตัวเอง แต่ให้ เทียนกันยา (อิศริยา สายสนั่น) อยู่ในร่างของเจ้าบัวคำแก้วต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่าฝ่ายหลังเป็นคนดี ในขณะที่ฝ่ายแรกเป็นคนเห็นแก่ตัวเอง แม้เจ้าย่าจะเป็นผู้คงคุณธรรมสูงส่ง แต่ก็ควรบันทึกไว้ด้วยว่านี่คือการใช้อำนาจอย่างเผด็จการ






Polytechnique

สำหรับท่านที่สนใจหนังที่ว่าด้วยความรุนแรงในโรงเรียน อีกเรื่องหนี่งที่ไม่ควรพลาดคือ หนังแคนาดาเรื่อง Polytechnique (2009, Denis Villeneuve) โดยหนังเรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์ฆาตรกรรมหมู่ในปี 1989 ที่มอนทรีอัล เมื่อชายคนหนึ่งบุกเข้าไปยิงนักศึกษาหญิงจนเสียชีวิต 14 คน

หนังโดดเด่นด้วยบรรยากาศแบบนิ่งเนิบและภาพขาวดำ และเนื่องจากฆาตกรตัวจริงอ้างว่าตัวเองทำไปเพราะต่อต้านพวกเฟมินิสต์ (เขาจึงเลือกยิงแต่ผู้หญิง) หนังจึงแทรกประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำระหว่างสองเพศเข้าไปด้วย แต่ดูเหมือนจะทำอย่างจงใจเกินไปสักนิด อย่างไรก็ดี อีกประเด็นที่น่าสนใจมากของหนังคือชีวิตหลังจากเหตุการณ์นั้นของผู้รอดชีวิตบางคน





Create Date : 20 เมษายน 2553
Last Update : 20 เมษายน 2553 22:25:59 น. 25 comments
Counter : 7699 Pageviews.

 
หนังไทยท่าลองทำเชิงซีเรียส เรื่องแบบนี้มีให้เลือกทำมากมาย


โดย: I will see U in the Next Life. IP: 125.25.200.100 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:22:44:56 น.  

 
น่าดูมากเลยเธอ จะหาดูได้ที่ไหนบ้างล่ะเนี่ย


โดย: บลาสต์ IP: 183.89.173.222 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:22:49:56 น.  

 
Afterschool น่าดูมากเลย อ่านแล้วทำให้นึกถึงหนังออสเตรเลียเรื่อง 2:37 ซึ่งพูดถึงวัยรุ่นในโรงเรียนที่มีเทคนิคการถ่ายทำและเล่าเรื่องแบบ Elephant ของกัส แวน แซนต์เหมือนกัน แต่จะพูดเรื่องปัญหาหลากหลายที่วัยรุ่นพบเจอมากกว่าจะเน้นไปที่ความรุนแรงอย่างเดียว


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.188.18 วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:22:50:49 น.  

 

ตอบ บลาสต์

ทั้งหมดที่เขียนถึง (ยกเว้น จงกลกลิ่นเทียน) เราโหลดเอาจ้า ถ้าอยากทราบแหล่ง ก็หลังไมค์นะจ๊ะ


โดย: merveillesxx วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:1:27:51 น.  

 
ความรู้สึกว่าหนังน่าดูเพิ่มขึ้นมากจากประเด็นว่าไอ้เด็กนี่มันหล่อวุ้ย!

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ :D


โดย: RUBIS IP: 89.159.39.237 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:5:02:19 น.  

 

เด็กหล่อ (หรือเปล่า) คนนี้ชื่อว่า Ezra Miller จ้ะ โดย Afterschool เป็นหนังเรื่องแรกของเขา

สิ่งที่น่าสนใจมากคือ เขากำลังจะัรับบท Kevin ในหนังเรื่อง We Need to Talk About Kevin ของ Lynne Ramsay ซึ่งสร้างจากหนังสือชื่อดังของ Lionel Shriver

หนังเรื่องนี้ว่าด้วยเด็กหนุ่มชื่อเควินที่เอาปืนกราดยิงเพื่อนๆ ในโรงเรียนของเขา หนังเล่าผ่านคุณแม่ (รับบทโดย ทิลด้า สวินต้า) ผู้ตกอยู่ในคำถามว่าเธอควรรู้สึกผิดกับเหตุการณ์นี้แค่ไหน และเธอเคยรักลูกชายบ้างหรือเปล่า

ป.ล. ขอขอบคุณ คุณ RUBIS ที่ติดตามอ่านบล็อกนี้มาตลอดด้วยนะครับ :-)


โดย: merveillesxx วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:6:24:56 น.  

 
ง่า..หักมุมตรง จงกลกิ่งเทียนนี่แหละจ้ะ 555



โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:10:25:29 น.  

 
รีวิวจากน้องเมอร์มักจะทำให้อยากดูหนังเรื่องนั้นๆเสมอ (ยกเว้นจงกลกิ่งเทียนนะ) ชอบประเด็นวีดีโอไว้อาลัยมาก ชีวิตจริงก็เป็นอย่างนี้ เคยต้องเขียนคำกล่าวไว้อาลัยให้งานศพน้าครั้งหนึ่ง ปัญหาก็คือเราเองก็ไม่ได้รู้จักเค้าดีเท่าไหร่ แต่ต้องเขียนให้แขกที่มางานรู้สึกซาบซึ้งอาลัยรัก ยากว่ะ


โดย: แฟนผมฯ IP: 122.248.16.2 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:12:50:59 น.  

 
การเพิกเฉยต่อความตายของผู้อื่น ไม่ใช่แค่เรื่องคลิปในสมัยนี้หรอกเนาะ

พี่รู้สึกตั้งแต่เห็น "ภาพข่าว" ทั้งหลายแล้วว่า คนข่าว ช่างกล้องเหล่านั้น ทำใจได้อย่างไรที่จะเป็นเพียง "ผู้เฝ้าดู" รอถ่ายทอดเรื่องราว รอถ่ายรูป แต่ไม่เข้าไปช่วยเหลืออะไร พี่ไม่เข้าใจอารมณ์อย่างนั้น ความรู้สึกอย่างนั้น แม้เรียนสื่อมา และอาจารย์จะอธิบายว่า ในช่วงเวลาขณะนั้น มันเป็น "หน้าที่" ที่ต้องทำ แต่พี่ก็รู้สึกว่า เราทุกคนก็มีหน้าที่ในฐานะ "มนุษย์" ที่ไม่ควรเพิกเฉยต่อความตายของมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ ถ้าเราสามารถทำอะไรได้ ช่วยเหลือได้

เป็นเหตุผลหนึ่งที่พี่ไม่เลือกทำอาชีพนักข่าวหลังเรียนจบ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:13:56:42 น.  

 
high school เป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวจริงๆ สภาพแวดล้อมที่กดดันก็อาจทำให้เราทำเรื่องบ้าๆได้

มีหนังทีวีเรื่อง Bang Bang You're Dead (ที่ เบน ฟอสเตอร์ รับบทเป็นเด็กมีปัญหา) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก โคลัมบัส ไฮ คือเราดูแล้วก็เชื่อมถึงได้นะ


โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:14:22:55 น.  

 
เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับในเรื่อง มีนร.หญิงมาตบกันหน้าบ้าน มีคนมุงเพียบ แต่ไม่มีคนห้าม แถมยังเอามือถือมาถ่ายคลิปอีก ไล่แทบไม่ทัน ถ้าเจอคราวหน้าจะเอาน้ำสาดเหมือนเวลาหมากัดกันให้ดู


โดย: Ploffy วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:20:29:01 น.  

 
อ่านแล้วอยากดูมากครับ

หนังเบลเยี่ยมเกี่ยวกับความรุนแรงในโรงเรียนเรื่อง Ben X ก็มีคลิปวิดีโอเหมือนกัน แต่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเนื้อหา
(ฉากที่ตัวละครโดนรุมแกล้งแล้วถ่ายคลิป ผกก.เปรียบกับ "การล้อเลียนพระเยซู" ในไบเบิล!)


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:2:51:49 น.  

 
เห็นตัวอย่างมาซํกพักแล้ว และพอเห็นโปสเตอร์ก็ชอบมาก
เป็นหนึ่งในหนังประเภทความรุนแรงในโรงเรียน ไม่กี่เรื่องที่อยากดู
ไว้จะลองไปหา หากที่เมืองเหนือนั้นหาแผ่นได้ T.T


โดย: โย IP: 118.172.31.133 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:8:05:27 น.  

 

หนังที่ได้ดูช่วงนี้


1. Afterschool (2008, Antonio Campos, A++++)

It's ELEPHANT for the age of YouTube and viral video (even it has no gun shooting scene.) Suitable for those who love chillingly-thrilling school drama. The director has graduated from NYU film school and he was only 25 years old when made this movie. His favorite director was Michael Haneke. (Not surprised at all. 5555)





2. The Invisible Frame (2009, Cynthia Beatt, A+++)

Sometimes you can partly depict the history of mankind by riding a bicycle! (Warning: Only thing you will see in this one-hour film is Tilda Swinton riding her bicycle around the territory of Germany. That's all, but enough.)

“MAP IS A FAKE THING, BECAUSE IT TELLS YOU THAT TIME STOPS.” This is my favorite quote from this film. (Madame Mds has quoted this on her blog.)





3. Involuntary (2008, Ruben Östlund, A+)

It is like Roy Andersson film with less absurd plot but more humanistic theme. For those who think You, the Living is too light.

Note: Kalapapruek chose this moive as the best film of 2009.




โดย: merveillesxx วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:9:26:33 น.  

 
อ่านจบแล้วความน่าดูพุ่งมากๆ

แต่ก่อนอื่นเลยขอดู ELEPHANT ก่อน =='


โดย: Seam - C IP: 58.9.199.141 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:14:14:10 น.  

 
ตอนแรกนึกว่า "after school วิ่งสู่ฝัน" ตกใจ


โดย: penkor IP: 124.120.161.198 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:5:32:59 น.  

 
ก็เรายังบอกเลยว่า ใครก็ได้ช่วยส่งหนังเรื่องนี้ไปให้ทีมสร้าง วิ่งสู้ฝัน หน่อย


โดย: merveillesxx วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:6:08:18 น.  

 
ดีใจที่ชอบปกเล่มใหม่นะค้าบ ส่วนผมเองตอนเห็นครั้งแรกยังแซวบก.กลับไปเลยว่า เหมาะมากถ้าจะถือไปเป็น คู่มือบริจาคโลหิต (เห็นเป็น หยดเลือดอะ แวบแรก)


โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 4 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:16:12 น.  

 
ตามมาจาก facebook ฮ่าๆ

ความเห็นที่ว่า "การที่ใครสักคนเพิกเฉยต่อการตายของมนุษย์ด้วยกัน และนั่นอาจนับเป็นความรุนแรงขั้นสูงสุดที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้"

เห็นด้วยสุดๆ ต้องบอกว่าขยายออกมาในสังคมด้วย เหมือนประโยคที่เคยอ่านเจอ The most violent element in society is ignorance. ~ Emma Goldman

ไอ้ที่พูดๆมา ถ้าถามตัวเอง เอาเข้าจริงๆ ก็อาจจะไม่ได้ต่างไปจากคนอื่นๆ ที่พร้อมจะเพิกเฉย เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเช่นกัน

ปล หายหน้าจาก bloggang ไปนานมาก กลับมาตอบเนี่ย เพราะได้อ่านที่น้องเมอเขียนถึงหนังนี่แหละ ชอบๆ


โดย: cottonbook วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:8:01:08 น.  

 

ขอบคุณครับที่ยังติดตามกัน :)


โดย: merveillesxx วันที่: 15 สิงหาคม 2553 เวลา:1:38:31 น.  

 
อ่านดูแล้วหนังน่าสนใจดีคะ
อยากดูทุกเรื่องที่เล่ามา
ทำไงได้บ้างคะ


โดย: Pitchaporn IP: 180.183.171.149 วันที่: 28 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:20:12 น.  

 
โหลดครับผม 555


โดย: merveillesxx วันที่: 29 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:22:24 น.  

 
อยากดูหนังเรื่องนี้จะดูได้ที่ไหนค่ะ ช่วยบอกหน่อยค่ะ


โดย: ฉัตร IP: 183.88.92.170 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:0:08:16 น.  

 
ผมโหลดมาครับ แต่ร้านพี่แว่นตอนนี้มีขายแล้วครับ


โดย: merveillesxx วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:3:32:25 น.  

 
ร้านพี่แว่นไหนหรอค่ะ ช่วยบอกรายละเอียดหน่อยค่ะ หาซื้อได้ที่ไหน อยากดูจิงๆค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: ฉัตร IP: 183.88.92.170 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:5:07:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.