http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
ประกาศ งดฉาย "แสงศตวรรษ"



แถลงการณ์เรื่องงดฉายภาพยนตร์เรื่อง "แสงศตวรรษ" โดยนำมาจากบล็อกของหนังเรื่องนี้นะครับ (เน้นคำของผมเอง)

//a-century.exteen.com/20070410/entry






เรียน ท่านสื่อมวลชนและท่านผู้อ่านทุกท่าน
เรื่อง งดฉายหนัง ‘แสงศตวรรษ’


ตามกำหนดการเดิม วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายนนี้ จะเป็นวันแรกของการฉายภาพยนตร์เรื่อง แสงศตวรรษ โดยจะเป็นการฉายแบบจำกัดโรงเพียง 2 โรงเท่านั้น หนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ เจ้ย - อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับหนังแนวศิลปะที่ได้รับการจับตาในวงการหนังระดับโลก จากผลงานเรื่อง สุดเสน่หา และ สัตว์ประหลาด และยังเป็นศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร ปี 2549 สาขาภาพยนตร์ จากสำนักศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย

แสงศตวรรษ เป็นหนังเรื่องล่าสุดของ ‘เจ้ย’ ที่นอกจากจะได้แข่งขันในเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิซ และเดินทางไปฉายตามเทศกาลสำคัญต่างๆ มากกว่า 10 เทศกาลทั่วโลกแล้ว ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา แสงศตวรรษ เพิ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเอเชียโดวิลล์ ประเทศฝรั่งเศส และรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยม จาก Asian Film Awards ประเทศฮ่องกง

แต่แล้วกำหนดการฉายหนังก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ทีมงานคาดไว้ เมื่อแสงศตวรรษไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ โดยคณะกรรมการมีเงื่อนไขให้ฉายหนังเรื่องนี้ได้ก็ต่อเมื่อต้องตัดฉากสำคัญออกไป 4 ฉาก

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้กำกับ เจ้ย อภิชาติพงศ์ จึงตัดสินใจ ‘ไม่’ ตัดทอนหนังเรื่องนี้ ดังนั้นทางทีมงานจึงมีความจำเป็นต้องแจ้งให้ท่านสื่อมวลชนทราบว่า หนังเรื่อง แสงศตวรรษ จะไม่เข้าฉายในประเทศไทย

ในขณะนี้ผู้กำกับอภิชาติพงศ์กำลังเดินทางโปรโมตภาพยนตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา เขาแสดงความเสียใจผ่านทางอีเมล์ว่า “ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป”

แปลจาก "I, a filmmaker, treat my works as my own sons or my daughters. When I conceived them, they have their own lives to live. I don't mind if people are fond of them, or despise them, as long as I created them with my best intentions and efforts. If these offspring of mine cannot live in their own country for whatever reasons, let them be free. Since there are other places that warmly welcome them as who they are, there is no reason to mutilate them from the fear of the system, or from greed. Otherwise there is no reason for one to continue making art."

สำหรับความคืบหน้า หลังจากคุณอภิชาติพงศ์กลับมาถึงเมืองไทยแล้ว จะได้มีการจัดการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่างๆ รวมทั้งเสวนาถึงการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ในประเทศไทย โดย วัน เวลา และสถานที่จัดงานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

จึงเรียนให้ท่านสื่อมวลชนทราบและขอความกรุณาช่วยเผยแพร่ข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วย และหากท่านสื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องแสงศตวรรษ (ข้อมูลภาษาอังกฤษและไทย รวมทั้งรูปภาพ) สามารถเข้าไปดูได้ที่ในเว็บ
//www.kickthemachine.com/works/Syndromes.html

ขอให้เสรีภาพฉายแสงในจิตใจของท่าน

ด้วยมิตรภาพ






ส่วนต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ

ผมได้ข่าวนี้แล้วก็เศร้าใจ ได้แต่ตั้งคำถามว่า "เสรีภาพ" และ "บรรทัดฐาน(ในการเซนเซอร์)" ในวงการภาพยนตร์ (และทุกวงการ) มันอยู่ตรงไหน

ในฐานะที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ผมคิดว่าไม่มีฉากใดที่สมควรจะถูกตัดทอนออกทั้งสิ้น และตามความจริงแล้ว ทุกฉากทุกตอนในภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งก็ล้วนมีความสำคัญ การตัดทอนมันก็คือ "การทำลายศิลปะ" อย่างเลือดเย็น

"แสงศตวรรษ" คือภาพยนตร์ที่ได้เข้าฉายมาแล้วทั่วโลก แต่ในประเทศที่มันควรจะได้ฉายมากที่สุดอย่างประเทศไทย กลับไม่ได้ออกฉาย

น่าเศร้าเหลือเกินครับ

ความจริงผมมีอะไรอีกมากมายที่อยากจะแสดงความเห็นโดยเฉพาะเรื่องความอึดอัดในระบบเซ็นเซอร์ของประเทศไทยมาในช่วงตลอดหลายปีนี้ แต่ ณ ตอนนี้ ความเศร้าใจมันท่วมท้นในจิตใจอย่างบอกไม่ถูก

เศร้าใจกับวงการภาพยนตร์ไทย

เศร้าใจกับความล้าหลังของประเทศชาติตัวเอง

เศร้าใจกับพี่เจ้ยที่ประเทศบ้านเกิดเมืองนอนไม่ต้อนรับ

เศร้าใจกับสิ่งที่ทีมงาน Bioscope ลงทุนลงแรงไปร่วม 1 เดือน กลับต้องพังพินาศไปในพริบตา

เศร้าใจกับตัวเองที่แหกปากเป่าประกาศกับคนรอบข้างเหมือนไอ้บ้าว่า "เฮ้ย อย่าลืม แสงศตวรรษ 19 เมษา พารากอน เอสพลานาด"

สุดท้ายนี้ผมขอฝากท่านผู้อ่านไว้ว่า ถึงเวลาหรือยังครับที่เราจะเรียกร้อง "เสรีภาพ" ที่เราควรพึงมีพึงได้มาเสียที

ด้วยมิตรภาพ

คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง





ข่าว "แสงศตวรรษ มีปัญหาเซ็นเซอร์ รอการพิจารณาอีกครั้งวันที่ 18 เมษายน นี้"
//www.thaicinema.org/news&scoops50_08saeng.asp


ประกาศ : งดฉาย "แสงศตวรรษ"
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5309044/A5309044.html ***ช่วยโหวตกระทู้นี้กันด้วยนะครับ***







Create Date : 11 เมษายน 2550
Last Update : 11 เมษายน 2550 17:24:55 น. 46 comments
Counter : 20165 Pageviews.

 
ยิ่งกว่าเศร้าอีกพี่...
อยากให้ไอ้มือระเบิดกรุงเลิกระเบิดตู้โทรศัพท์แล้วหันมาระเบิดกองเซนเซอร์แทน

ไอ้พวกแก่กะโหลกกะลาพวกนี้มันถือสิทธิ์อะไรมาตัดแขนตัดขาลูกของคนอื่น?

ผมไม่เข้าใจว่าหมอกินเหล้ามันทำร้ายสังคมมากกว่าตุ๊ดสบถแต่ตัวกินไก่ทุกสองนาทีใน "หอแต๋วแตก" ยังไง?
และผมก็ยังไม่เข้าใจว่าพระเล่นกีตาร์มันทำร้ายสังคมมากกว่าพล็อตเรื่องประเภทพระเอกข่มขืนนางเอกแต่ตอนจบกลับอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตรงไหน?

น่าเศร้ายิ่งกว่า
นี่คือภาพยนตร์ของคนไทย
แสดงโดยคนไทย
ใช้ภาษาไทยดำเนินเรื่อง
แต่กลับถูกเบรกโดนกองเซนเซ่อของประเทศไทย
เพราะเรื่องแคร์ภาพลักษณ์แบบไทยๆ

หมอที่กระทำตนยิ่งกว่ากินเหล้าในเวลางานในประเทศไทย ไม่มีหรือ?
พระที่ประพฤติตนยิ่งกว่าดีดกีตาร์ในประเทศไทย ไม่มีหรือ?

คนทั่วไปเห็น
นายกแพทยสภากับกรมการศาสนาทำแบบนี้เพื่ออะไร?


โดย: nanoguy วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:3:38:19 น.  

 

ข้อความบางส่วนจากเวบบอร์ดไบโอสโคป

//www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=162.0


จากกรณี youtube จนมาถึงคดีกองเซ็นเซอร์ในหนังเรื่องนี้

ผมเศร้ากับประเทศไทยจริงๆครับ

เมื่อไหร่เราจะพัฒนาทางความคิดเสียที

จาก คุณ arty




ตอนนี้ผมรู้สึกโกรธจนนึกอะไรไม่ออก

แค่นึกอยากจะให้สิ่งต่างๆที่พลเมืองของประเทศนี้ต้องทนยอมรับจากการหยิบยื่นของพวกสมองอึทั้งหลายได้รับการประจานไปทั่วโลก

ผมคงจะไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์ถ้าประเทศนี้ รวมทั้งวัฒนธรรมแบบกบในกะลาของที่นี่ถูกลบหายไปจากแผนที่โลก

จาก คุณ pc




พูดไม่ออก ....

จาก คุณ aloneagain




ช่างน่าเศร้าที่เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดๆกันอีกครั้งหนึ่งว่าอำนาจอยู่ในมือของกลุ่มคนที่โง่เง่า ดักดาน ไร้ความฉลาดทางปัญญา, อารมณ์, วัฒนธรรมขนาดไหน

ขอไว้อาลัย และแสดงความเห็นด้วยกับพี่เจ้ยเต็มที่ที่ไม่ยอมตัด ไม่ยอมฉาย

ขอให้กำลังใจ Bioscope ในฐานะเป็นผู้จัดฉายหนังเรื่องนี้เองเป็นเรื่องแรกด้วยนะครับ อย่าเพิ่งท้อนะ

จาก คุณ Dr. Syntax




เดาว่านี่เป็นผลงานของกองเซ็นเซอร์ ยังไม่ต้องพูดถึงกระทรวงวัฒนธรรมที่จะทำการตรวจพิจารณาเวลาหนังเรื่องนี้ลงแผ่น ผมนึกภาพไม่ออกเลยจริงๆครับว่าถึงเวลานั้น หนังเรื่องนี้ที่ได้ไปสร้างชื่อในฐานะเป็นผลงานศิลปะจากมันสมอง (ไม่ใช่ผลผลิตของการใช้กำลัง อย่างพวกเหรีญกีฬาที่คนทั่วไปภาคภูมิใจกัน) จะต้องถูกละเลงจนเละเทะขนาดไหน

คนที่อยู่ต่างจังหวัดอย่างผมก็คงจะต้องทำใจไปตามระเบียบ แม้ว่าผมคงจะไม่ได้เข้ากรุงเทพเพื่อไปชมเวลาที่หนังเรื่องนี้เข้าโรง แต่ผมก็อดรู้สึกโกรธไม่ได้ เวลาโกรธนี่สมองผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆครับ ก็คงเป็นเพราะอย่างนี้แหละครับ คนในสังคมที่อยู่ใต้วัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยกรอบหยุมหยิมที่ทำให้รู้สึกโกรธและต้องอยู่ภายใต้ภาวะคับข้องใจได้แทบทุกวัน นานๆเข้า สมองมันก็จะไม่ทำงาน เพราะต้องหมดพลังงานไปกับความโกรธแทนที่จะได้คิดอะไรที่สร้างสรรค์

ผมยังสงสัยว่า ไอ้วัฒนธรรมที่เราพยายามจะรักษากันอยู่นี่ ที่คอยวางมาตรฐานทางศีลธรรมจนทำให้จิตใจต้องหมกมุ่นอยู่กับมลพิษทางจิต เพียงเพื่อให้ผู้ที่อยู่ภายใต้วัฒนธรรมแห่งความดีงามนี้ดูดีในสายตาคนอื่นเท่านั้น วัฒนธรรมอย่างนี้มันทำให้เรากลายเป็นคนที่ฉลาดขึ้นมาหรือเปล่า ผมว่าไม่ เพราะยังไงเราก็ยังต้องแบมือรับผลผลิตทางปัญญาของวัฒนธรรมอื่นที่มีเสรีภาพมากกว่าเราอยู่ดี ในขณะเดียวกันเราก็ประณามวัฒนธรรมอื่นๆเหล่านั้นว่าเป็นที่มาของความเสื่อม ช่างน่าสมเพช แต่การเป็นคนที่ทั้งน่าขันและก็น่าสมเพชได้ในเวลาเดียวกันนี่ จะมีคนชาติไหนทำได้ดีไปกว่าคนไทยอีกล่ะครับ

ผมว่ามันน่าจะมีการเอาเรื่องเอาราวพวกสมองอึพวกนี้กันอย่างจริงจังเสียที มีการฟ้องร้องทางกฎหมาย ทั้งต่อกองเซ็นเซอร์และกระทรวงวัฒนธรรม (พ่วงกระทรวงไอซีทีเข้าไปด้วยอีกกระทรวงหนึ่งก็ดี) หรืออย่างน้อยก็น่าจะมีการแสดงความไม่พอใจออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ให้มันเป็นการประจานประเทศนี้ต่อสายตาชาวโลกไปในตัวได้ก็ยิ่งดี ให้คนทั่วโลกได้ทราบว่าการรับรู้ของพลเมืองที่นี่ถูกควบคุมด้วยพวกมีปมด้อยทางปัญญา ทีชอบเอาความโง่ของตนไปเที่ยวยัดเยียดใส่คอหอยคนอื่น แต่คนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ยังทนยอมรับกันได้ เพราะภายใต้วัฒนธรรมอันดีนี้ เราต่างก็ทึ่มกันได้เท่าเทียมกัน ประจานให้พวกสมองฝ่อพวกนี้ได้หน้าชากันเสียบ้าง

ผมล่ะรู้สึกเสียดายเงินภาษีที่ต้องสูญเสียไปเพื่อเป็นเงินเดือนให้กับพวก Cultural Gestapo ที่ไม่มีแม้แต่เซลสมองพอที่จะตระหนักถึงความโง่ที่ตัวเองมี ถึงได้ชอบอวดโง่กันด้วยเอามาตรฐานในกะลาของพวกตนไปกะเกณฑ์บังคับใช้เอากับการใช้ชีวิตของคนอื่นๆ

จาก คุณ pc


โดย: merveillesxx วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:3:43:36 น.  

 
เหมือนที่ชอบพูดเสมอมา

"ที่นี่ประเทศไทย"


โดย: อ๋อง IP: 124.120.198.20 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:3:56:50 น.  

 
ผมเพิ่งเขียนต้นฉบับส่งไป
ใช้ชื่อว่า

Syndromes and ‘Censorship’
เมื่อความมืดมาเยือน‘แสงศตวรรษ’

ออกวันอาทิตย์นี้
(ถ้าไม่ถูกเซ็นเซอร์ก่อนนะ หุหุ)


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:5:30:37 น.  

 
^
^
ขอบคุณมากเลยครับ ผมคิดว่าถ้าเรามีการตอบโต้และเผยแพร่สู่สื่อสาธารณะ การเซ็นเซอร์ครั้งนี้คงเป็นบทเรียนที่นำไปสู่การพัฒนาบางอย่างได้บ้าง ตามความปรารถนาของพี่เจ้ย ...หวังว่านะครับ


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:5:52:45 น.  

 

นี่เป็นกลอนที่ประพันธ์โดย คุณวาสนา วีระชาติพลี (ป้าแต๋ว) แห่งรายการ Radio Active ครับ เธอแต่งกลอนบทนี้โดยได้แรงบันดาลใจจากเพลง Last of the Sun ของวง Cry Before Dawn

ผมคิดว่ากลอนบทนี้แทนความรู้สึกของผู้มีใจรักในภาพยนตร์ ต่อการที่หนังเรื่อง "แสงศตวรรษ" ถูกดับแสง ได้เป็นอย่างดี (รวมทั้งตัวผมด้วย)


ยามตะวันบ่ายคล้อยลอยใกล้ลับ
ทุกสิ่งสรรพเหมือนดับสูญอาดูรสิ้น
ตะวันลับดับเหมือนรักที่โบยบิน
แทบดาวดิ้นเมื่อสิ้นแสงแรงตะวัน

เพราะเธอไปหนนี้ไม่มีกลับ
ไปเลยลับดับเหมือนแสงแห่งสวรรค์
ตะวันร้างยังกลับเดือนเมื่อเลื่อนวัน
แต่เธอนั้นพลันจากลับดับมลาย

อยากหยุดโลกหยุดตะวันให้พลันนิ่ง
เพื่อทุกสิ่งหวนกลับไม่ลับหาย
สายเสียแล้วต้องแคล้วคลาดพลาดจนตาย
แสงสุดท้ายคล้ายจะซ้ำช้ำสุดทน


(ประพันธ์โดย วาสนา วีรชาติพลี)


สำหรับเนื้อเพลง Last of the Sun อ่านได้ที่นี่ครับ (ส่วนเพลงไม่รู้จะหาจากไหน youtube ก็ "ดับ" ไปเหมือนกันนิ)

//www.hotlyrics.net/lyrics/C/Cry_Before_Dawn/Last_Of_The_Sun.html



ผมหวังว่า "แสงศตวรรษ" จะกลับมาฉายแสงในเร็ววัน

แม้ความหวังนั้นจะเป็นเพียงแสงริบหรี่ก็ตาม


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:6:08:29 น.  

 
ขอให้ได้ฉายๆ

เป็นอีกคนที่รอดูอยู่


โดย: สุด IP: 58.8.44.232 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:6:57:24 น.  

 
อยากให้คนไทยได้รับแสงแห่งศตวรรษน่ะ
มันเป็นหนังที่สว่าง-กระจ่างมาก

เศร้ามาก พูดไม่ออก

แต่คิดว่าถ้าทำอะไรได้เพื่อให้หนังได้ฉายแบบไม่มีเซ็นเชอร์ ก็จะทำทันที


โดย: grappa IP: 58.9.187.40 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:7:51:07 น.  

 
เข้ามาไว้อาลัยครับ..
เสียใจและปลง


โดย: Untrue วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:8:05:01 น.  

 
เบื่อมากกับการทำแบบนี้ หนังที่ถูกยอมรับจากทั่วโลกกลับถูกบ้านเกิดเมืองนอนทำร้าย เสียใจจริงๆ


โดย: duldb วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:8:42:20 น.  

 
นี่ล่ะ ประเทศไทย

ปิดหู ปิดตา

หยวนน่า หยวนน่า


โดย: nekoichann IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:9:01:45 น.  

 
เฮ้ย...บ้าแล้ว

เดี๋ยวนะ ไอ้สี่ฉากที่โดนเซนเซอร์นี่มีฉากไหนบ้างน่ะ (ยังไม่ได้อ่านลิงค์ ขอเม้นท์ก่อน)

ฉากหมอกินเหล้า พระดีดกีตาร์ แล้วอะไรอีก (นี่เดาจากที่นาโนกายมาเม้นท์)


งงง่ะ

เรื่องจริงเหรอ? เฮ้ย..


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:9:19:16 น.  

 
ท่ามาฉายที่อังกฤษจะไปชมแน่นอน.....

(ชาติตู จมกองขี้)


โดย: Darknes-Heros IP: 213.1.255.145 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:10:50:07 น.  

 
ถึงพี่เต้ย
มีฉากหมออวัยวะเพศแข็งตัว "ใต้ร่มผ้า" ครับ
(ย้ำว่า "ใต้ร่มผ้า" - -*)
(ส่วนอีกฉาก ตอนนี้ผมยังไม่รู้ง่ะ ถามพี่ต่อดู)

การเซ็นเวรๆครั้งนี้มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอกครับ
นอกจากการพยายามรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ขาวสะอาดของสององค์กร
คือ แพทยสภา และ กรมการศาสนา

[[มันไม่เซ็นชิเอโกะใน Babel เพราะมันก็แค่นักเรียนญี่ปุ่นนี่!! (ไม่ได้จะบอกให้ตามไปเซ็น แม้ว่าออกดีวีดีของโรสมันต้องหายไปแหงๆฉากนี้)]]

เฮ่อ.....
ตกลงเค้ามีหน้าที่รักษาภาพลักษณ์ตัวเองเหมือนใน "หมอเจ็บ" ใช่มะ?

ก็รักษาไปดี้ แล้วมายุ่งอะไรกะหนังของพวกกรูฟะ!!!!!!


โดย: nanoguy IP: 125.24.152.69 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:11:19:59 น.  

 
โอ้ อนาถ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:11:49:07 น.  

 
อนาถใจ เมื่อไหร่ไอ้พวกกองเซนเซอร์ ปัญญาน้อยมันถึงจะได้มีความคิด เป็นผู้เป็นคน เป็นปัญญาชนขึ้นมากับเขาบ้างวะ น่าย้ายไปประจำที่สามจังหวัดภาคใต้ให้หมด


โดย: Joblovenuk IP: 202.57.132.197 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:12:20:21 น.  

 
มาเพิ่มเติม เพิ่งดูข่าวภาคเที่ยงมา...
(ไม่เกี่ยวกับ "แสงศตวรรษ" หรอก 555+)

มารี ฟรานซ์ (ที่เจ๊ทาทาเป็นพรีเซนเตอร์ให้นั่นแหละ)
จัดกิจกรรม "ลดน้ำหนักและสัดส่วนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา"

กำลังพยายามเข้าใจอยู่ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน


โดย: nanoguy วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:12:28:28 น.  

 
อนาจใจ กับภาพลักษณ์บ้าบอที่ทำเป็นแตะไม่ได้

เบื่อจัง.....แล้ว........จะมีโอกาสได้ดูบ้างมั๊ยเนี่ย


โดย: renton_renton วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:12:48:27 น.  

 
จะมีใครตายไหมถ้าจะเจียดเงินสักนิด แล้วให้กองเซ็นเซอร์บ้านเรามาดูงาน หรือศึกษาระบบการเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ของที่อื่นบ้าง ประเทศอะไรก็ได้ที่ดีกว่าบ้านเราอ่ะ หรือยืมมาตรการ กฎเชี่ยอะไรก็ได้ของเค้ามาซีร็อกซ์แล้วแจกกันอ่านอ่ะ

ตัดฉากล่อแหลมในภาพยนตร์ เด็กกลับบ้านแม่งหนังเอ็กซ์เต็มลิ้นชัก คงมีใครอยากจะช่วยตัวเองในโรงพาราก้อนหรอกนะ แอร์เย็นยังงั้นเจี๊ยวแม่งหดหมด

ขอโทษที่ลืมเซนเซอร์คำพูดตัวเอง ลืมว่ะแม่ง


โดย: zoxmok IP: 58.165.141.195 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:13:29:55 น.  

 
ผมว่าให้ประเทศอื่นมาดูงานกองเซ็นเซอร์บ้านเราดีกว่าครับ

เค้าคง "ฮา" ขี้แตกขี้แตน

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: DN IP: 203.153.175.108 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:14:04:55 น.  

 
ขอบคุณต่อที่เเมสเสจมาบอก

....โคตรเชี่ยเลยว่ะ


โดย: eawdead IP: 124.120.211.65 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:14:15:40 น.  

 
ไว้อาลัยครับ


โดย: Nighty IP: 58.8.38.245 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:15:38:16 น.  

 
.... ประเทศไทย


โดย: malancholia IP: 203.156.91.218 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:16:10:20 น.  

 
ถึงคุณ mer
สั้น ๆ นะครับ

คือผมเดินทางมากรุงเทพ
มาหางานเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำ
มานั่งเหงา ๆ แบบ ไม่มีเพื่อน ไม่มีฝูง
มาหัดนั่งรถเมล์


แรงบันดาลใจของผม ในการเดินทางมากรุงเทพ
คือ การได้ทราบว่า แสงศตวรรษ จะได้ฉายในเมืองแห่งนี้
และผมจะได้ดู หนังพี่เจ้ย ในโรงภาพยนต์ สักครั้ง

ขอบคุณ กองเซ็นเซอร์มากนะครับ
ที่ทำให้สิ่งที่ผมทำมา...........สูญเปล่า


โดย: DeAtH TrAcK IP: 124.120.178.252 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:17:22:44 น.  

 
พูดไม่ออก บอกไม่ถูกครับ
แต่ก็เอาเถอะครับ
เพราะนี่แหละ คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า
"นี่คือประเทศไทย"

ประเทศที่มีแต่เรื่อง absurdๆ
ทั้งบล็อก YouTube (แต่จริงๆ คนก็ยังเข้า YouTube ได้ โดยเข้าผ่านเว็บ unblockict.com, หรือใช้วิธี hide iP), คลั่งจตุคาม และท้ายสุดคือ "เซ็นเซ่อ" แสงศตวรรษ!!!!


โดย: it ซียู IP: 58.10.102.177 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:18:31:32 น.  

 
ขอเชิญร่วมลงนาม และแสดงความคิดเห็นต่อมาตรฐานระบบเซ็นเซอร์ไทย โดยมีภาพยตร์ไทยเรื่อง แสงศตวรรษ เป็นกรณีศึกษา
ที่

[url]//thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=3130[/url]


โดย: x6jo IP: 58.9.55.227 วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:21:36:12 น.  

 
วันนี้ฉันร้องไห้ไปมากมายเพราะข่าวนี้ค่ะ

พูดอะไรไม่ได้ มีแต่น้ำตาที่ไหลริน

เศร้า...


โดย: tiktokthailand วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:22:16:11 น.  

 
โครตแย่เลย


โดย: อู๋เจียนเต้า IP: 58.8.57.136 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:1:20:40 น.  

 

ข่าวจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เขียนโดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Thai director cancels film's local release

//thaiindie.com/showdetail.asp?boardid=69




ข่าวจากเวบผู้จัดการ

"เจ้ย" ไม่หั่น "แสงศตวรรษ" กองเซ็นเซอร์เล่นแง่ ไม่ตัดไม่คืนฟิล์ม

//manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9500000042073




สำหรับท่านที่อยากดู "แสงศตวรรษ" ในขั้นเบื้องต้นผมขอแนะนำให้ท่านไปดูที่สิงปโคร์ในปลายเดือนนี้ เพราะบางทีประเทศนี้อาจจะล้าหลังเกินไป สำหรับหนังอย่าง "แสงศตวรรษ"

รายละเอียด
//www.filmfest.org.sg/display.php?catid=301&page=2


--------------------------------


//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5312265/A5312265.html

**หากช่วยโหวตกระทู้นี้จักเป็นพระคุณยิ่ง**


ความคืบหน้าเพิ่มเติม กรณีฟิล์มภาพยนตร์เรื่อง "แสงศตวรรษ"

หลังจากทีมงานภาพยนตร์เรื่อง "แสงศตวรรษ" ได้ตัดสินใจยุติการเข้าฉายในประเทศไทยไปแล้ว เพื่อแสดงจุดยืนไม่ยินดีที่จะทำการตัดฉาก 4 ฉากในหนังออกตามมติของคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์นั้น (อนึ่ง เดิม หนังเรื่องนี้เข้ารับการพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 2 เมษายน 2550 ซึ่งกรรมการตัดสินให้ตัด 3 ฉาก ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน ได้มีตัวแทนจากแพทยสภาเข้าร่วมพิจารณาเพิ่มเติม และผลปรากฏว่าสรุปให้ตัดเพิ่มอีก 1 ฉาก จึงรวมเป็น 4 ฉาก)

ในวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ทีมงานจึงได้เข้าติดต่อเพื่อขอรับฟิล์มภาพยนตร์คืน "ในสภาพเดิม" โดยพร้อมกันนั้นได้ทำจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งแก่คณะกรรมการตรวจพิจารณาว่า จะยุติการยื่นขอฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ และยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นอุทธรณ์อีกเนื่องจากไม่ต้องการฉายในระบบอีกต่อไป

แต่การณ์ปรากฏว่า คณะกรรมการฯ ไม่ยินยอมคืนฟิล์มภาพยนตร์ให้แก่ทีมงานในสภาพเดิม โดยชี้แจงกลับมาว่า จะคืนให้ก็ต่อเมื่อคณะกรรมการฯ ได้นำฟิล์มไปทำการตัดฉากทั้ง 4 ฉากทิ้งออกเสียก่อน (โดยกรรมการฯ ตัดเอง มิใช่ส่งคืนให้ทีมงานเป็นผู้ตัด) ด้วยเหตุผลว่า "หากส่งฟิล์มในสภาพสมบูรณ์คืนแก่ทีมงาน ทางทีมงานอาจถือโอกาสนำกลับมาตัดเองแล้วส่งเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์อีกครั้ง อันจะทำให้คณะกรรมการตรวจพิจารณาฯ มีความผิดในการปฏิบัติงานทันที"

เมื่อได้รับคำฟังคำยืนกรานดังกล่าว ทีมงานได้ชี้แจงว่า เราไม่มีเจตนาจะทำการตัดหนังเรื่องนี้ไม่ว่าโดยตนเองหรือโดยผู้ใด และมิได้มีความตั้งใจใดๆ ทั้งสิ้นที่จะยื่นอุทธรณ์ในกรณีใดๆ อีก แต่คำชี้แจงดังกล่าวมิเป็นผล

คณะกรรมการฯ ท่านหนึ่งกล่าวแก่ทีมงานว่า "ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ หนังพันล้านยังไม่มีท่าทีแบบคุณเลย" ซึ่งทางทีมงานได้ชี้แจงกลับว่า "แสงศตวรรษ" มิได้อยู่ในสถานการณ์ลักษณะเดียวกับหนังทุนสูงต่างๆ ที่ท่านอ้างถึง เพราะหนังเรื่องนี้มิได้คาดหวังรายได้หรือกำไรเป็นกอบกำใดๆ จากการเข้าฉายโรงในประเทศอยู่แล้วในเบื้องต้น จึงมิได้ถือว่าตนเองจำเป็นต้องยอมตัดแก้สิ่งใดเพียงเพื่อแลกกับการได้เข้าฉายในระบบ แต่ทีมงานภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการรักษาคุณภาพของผลงานไว้ให้ตรงกับความตั้งใจในการสร้างมันขึ้นมา จึงได้เลือกวิธีถอนตัวออกจากระบบการฉายแทน เหตุผลเป็นดังนี้ซึ่งก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลาล่าสุด การติดต่อขอนำฟิล์ม "แสงศตวรรษ" ออกจากคณะกรรมการฯ ในสภาพสมบูรณ์ดังเดิม ยังคงไม่ประสบผลสำเร็จ สถานการณ์จะคลี่คลายลงเช่นไร ทีมงานจะแจ้งให้ทุกท่านทราบในวาระต่อไป

ขอเสรีภาพส่องแสงในจิตใจทุกท่าน

ด้วยมิตรภาพ


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:1:21:53 น.  

 
พูดไม่ออกจริงๆครับ ไม่เข้าใจว่ามาตรฐานของการเซนเซอร์อยู่ที่ตรงไหน ไม่เข้าใจว่าพวกเขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์ ไม่เข้าใจว่าการตัดหรือเบลอภาพเหล่านั้นแล้วมันจะทำให้สังคมดีขึ้นจริงหรือ เราอยู่ในสังคมที่พยายามป้องกันและปกปิด แต่ไม่เคยเปิดโอกาสให้มีการชี้แจงและแสดงออก ประเทศไทยทำตัวแบบปากว่าตาขยิบมานานเหลือเกินแล้วครับ
ผมเศร้าและอยากร้องไห้เหลือเกิน
ผมคิดถึงพี่เจ้ย คิดถึงตอนที่เค้าเคยบอกว่าหนังเรื่องนี้จะได้ฉายแบบจำกัดโรงที่เอสพลานาด ผมเห็นประกายตาของเขา มันดูมีความหวังนะครับ แต่ถึงแม้วันนั้นเค้าจะดูเศร้าๆ เบื่อๆ ที่หนังของเขาได้รับการยอมรับแต่เพียงแค่นั้น
แต่ข่าววันนี้ผมว่ามันได้ทำลายประกายความหวังในดวงตาของพี่เจ้ยไปแล้วล่ะครับ
ประเทศนี้ไม่เคยเห็นความสำคัญของคนที่กำลังสร้างผลงานอย่างเสรีเต็มที่ทางความคิด ประเทศนี้หวังดีเกินไป และความหวังดีนั้นมันควรที่จะจบลงแล้วในที่สุด
คนในประเทศนี้ไม่ได้ โง่ ทุกคนหรอกนะครับ
ผมเศร้าและสลดใจเหลือเกิน


โดย: julian IP: 58.8.168.52 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:1:30:28 น.  

 

ความเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น


หากคุณอภิชาติพงศ์เปรียบภาพยนตร์ "แสงศตวรรษ" เป็นดั่งลูกชายลูกสาวของตัวเอง

การกระทำของกองเซ็นเซอร์ก็เหมือนกับการลักพาตัวลูกชาวบ้าวเขาไปจับหักแขนหักขา


ผมขอประณามการกระทำของกองเซ็นเซอร์

เพราะคุณกำลังทำลายศิลปะภาพยนตร์อย่างเลือดเย็น (อีกครั้ง)


ด้วยความสัตย์จริง วันนี้ผมร้องไห้ออกมาถึงสองรอบ ด้วยความรู้สึกใจว่า

คนไทยด้วยกันทำร้ายหนังไทยได้ขนาดเชียวหรือ


อย่างไรก็ดี เราคงต้องแปลงความโกรธ ความเกลียดชัง ความเศร้าสลดทั้งปวง ให้เป็นพลังแห่งการต่อสู้ที่สร้างสรรค์

แม้เราจะมิอาจจุดแสงแห่งศตวรรษขึ้นมาได้

แต่อย่างน้อยแสงริบหรี่วูบนี้ คงเป็นบทเรียนให้แก่วงการภาพยนตร์ไทยบ้าง


สิ่งที่เราทำได้ในเบื้องต้นตอนนี้ก็คือ แพร่กระจายข่าวนี้ออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้คนรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงประจานถึงความโง่เง่าของกองเซ็นเซอร์

และร่วมลงนามกันในเวบไซต์แห่งนี้
//thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=3130

พอกันทีเถอะครับ กับ "การสมยอมแบบไทยๆ"


ด้วยมิตรภาพ

คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

--------------------------------------


ขอส่งท้ายด้วย "โองการแช่งกองเซ็นเซอร์" ประพันธ์โดย คุณแมดเดอลีน

ผิว่าผู้ใด ในกองเซ็นเซอร์
เป็นผู้เสนอ ให้ตัดทอนหนัง
แสดงความงั่ง จนเหลือกำลัง
ตายสักหมื่นครั้ง ยังมิหนำใจ

ข้าขอวิงวอน ต่อองค์ผีฟ้า
ได้โปรดจงมา คร่าพวกมันไป
ผีโขมดผีป่า ผีห่าผีไพร
รับวิญญาณมันไป กลับนรกอเวจี

ผีขนุนผีน้อยหน่า โปรดมาร่วมด้วย
ก่อนศิลป์จะม้วย มอดหมดเมืองไทย
กำจัดศัตรู แห่งความเปิดใจ
ระงับความบรรลัย วงการภาพยนตร์


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:1:38:00 น.  

 
//thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=3130
ร่วมลงชื่อที่นี่แล้วเช่นกัน


โดย: โณ IP: 125.25.189.205 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:1:55:57 น.  

 
อ่านมาถึงตอนไม่คืนฟิล์มนี่ของขึ้นเลยอ่ะ


โดย: ปืนกล IP: 202.41.187.247 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:2:11:53 น.  

 
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ


โดย: zoxmok IP: 58.165.141.195 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:6:20:22 น.  

 
ขอให้ได้ฟิล์มคืนในสภาพสมบูรณ์ด้วยนะ
เราก็ไม่เข้าใจกองเซนเซอร์เหมือนกันว่าใช้อะไรคิด ทำไมแต่ละอย่างมันถึงได้ออกมาเละตุ้มเป๊ะอย่างนี้
ผิดหวังกับคนใหญ่คนโตที่ทำหน้าที่ บอกว่าตัวเองมีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ มันเป็นงั้นจริงๆเหรอ

ปล. เธอๆ ฉันหาซื้อไบโอหน้าปกแสงศตวรรษไม่ได้เลยอ่ะ ทำไงดี เดี๋ยวจะไปต่างจังหวัดแล้วอ่ะ กลับมาหลังสงกรานต์มันยังจะมีอยู่ป่ะ


โดย: ปลาทองแก้มยุ้ย วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:11:17:34 น.  

 
^
^
ดอกหญ้าสยามนั่นไง ไซร้มีแน่นอน


โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.162 วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:21:08:14 น.  

 
เศร้าครับ


โดย: calcium_kid วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:21:30:45 น.  

 
เออเซ็งมาก
กองเซ็นเซอร์คงคิดว่าคนดูปัญญาอ่อน แต่กองเซ็นเซอร์ไม่เคยคิดกลับกันเลยยยยยย


โดย: อีฟ (ji-boon ) วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:21:48:26 น.  

 
ขอยืนไว้อาลัยให้กับแสงที่อาจต้องใช้เวลาอีกศตวรรษจึงจะสามารถฉายทาบนจอผ้าใบในเมืองไทย..........


ในฐานะของคนที่ยังไม่ได้ดูแสงศตวรรษ ผมคงไม่สามารถวิจารณ์ได้ว่าสมควรหรือไม่สมควรที่กองเซ็น(แอบ)เซ่อตัดหนังเรื่องนี้ แม้ว่าโดยลึกๆแล้วจะเชื่อในฝีมือของพี่เจ้ยว่าไม่ได้ทำอะไรไม่เหมาะสมลงในหนังซึ่งเปรียบเสมือนลูกของพี่เขาเอง พอๆกับที่เชื่อว่ากรรมการเซ็นเซ่อร์ก็พิจารณาไปด้วยความหวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง


เมื่อศิลปะกับหลักเกณฑ์เซ็นเซ่อร์ไม่สามารถลงรอยกัน นั่นหมายถึงอาจต้องมีการแยกทางกัน ดีกว่าปล่อยลูกพิกลพิการออกมาเผชิญโลก


แต่สุดท้ายแล้วผมก็ยังแอบหวังว่า.....ในที่สุดมันคงมีทางออกที่ดีที่ทำให้พวกเรานักดูหนังคนไทยได้ดูหนังเรื่องนี้นะครับ


โดย: Kino (das Kino ) วันที่: 12 เมษายน 2550 เวลา:23:33:20 น.  

 

สื่อต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจกับกรณี "แสงศตวรรษ" แล้วครับ ความดักดานของประเทศไทยกำลังถูกประจานสู่สายชาวโลกแล้ว

ซึ่งผมสนับสนุนการประจานครั้งนี้


GreenCine Daily

Syndromes and a Century.
//daily.greencine.com/archives/003539.html

------------------------------------

จาก Screen Daily

Apichatpong withdraws Syndromes from Thai cinemas after censors row

by Silvia Wong
12 Apr 2007 10:37


Acclaimed Thai director Apichatpong Weerasethakul is withdrawing his latest film Syndromes and a Century from theaters in response to local censors' demand for four cuts in the film.

The film, which premiered at Venice last year and recently won best editing at the inaugural Asian Film Awards in Hong Kong, was scheduled to open in Bangkok on April 19. The limited two-print release would mark Thai-language film magazine Bioscope's first foray into film distribution.

"The board of censors fails to recognize the idea of freedom of speech," says Apichatpong, who refuses to cut the film. The four scenes requested to be censored involve a monk playing a guitar, two monks playing with a battery-operated flying saucer, a doctor kissing his girlfriend in a hospital's locker room and a group of doctors drinking alcohol in a hospital basement.

Thailand has long been criticized for the absence of a film rating system. Apichatpong questions why many other Thai and foreign films which contain excessive violence, nudity, coarse language, crude jokes on other ethnic groups and monks doing stupid things, did not suffer the same fate.

"The current board needs to be evaluated. A rating system without censorship should be established a long time ago," he says.

The censors now refuse to return the print that Bioscope submitted for fear that the full version will be screened without permission although it has been made clear that the theatrical release has been pulled off, according to the magazine's editor Thida Plitpholkarnpim.

Meanwhile, Singapore has banned Zahari's 17 Years by Martyn See, which is deemed "against public interest." It is also an offence to possess the film, a local documentary consisting of interviews with former journalist Said Zahari, who was detained for 17 years.

Singapore's Ministry of Information, Communications and the Arts said in a statement that "the film gives a distorted and misleading portrayal" and is "an attempt to exculpate himself [Zahari] from his past involvement in communist united front activities against the interests of Singapore."

Last year, See received a ban on his documentary Singapore Rebel about Singapore's opposition party leader Chee Soon Juan.

---------------------------------------------

ตอนนี้ใน wikipedia มีเรื่องนี้อยู่ด้วยครับ

//en.wikipedia.org/wiki/Syndromes_and_a_Century

Censorship controversy

The film's Thai release -- originally slated for April 2007 -- was indefinitely delayed after Thai film censors demanded the removal of four scenes. Apichatpong has refused to recut the film and withdrawn the film from domestic circulation. "I, as a filmmaker, treat my works as I do my own sons or daughters," Apichatpong told the Bangkok Post. "I don't care if people are fond of them or despise them, as long as I created them with my best intentions and efforts. If these offspring of mine cannot live in their own country for whatever reason, let them be free. There is no reason to mutilate them in fear of the system. Otherwise there is no reason for one to continue making art." Two of the "sensitive" scenes involve doctors engaging in "inappropriate" conduct (kissing and drinking liquor) in a hospital; the others depict Buddhist monks playing a guitar and playing with a toy UFO.[8]


โดย: merveillesxx วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:2:52:26 น.  

 
ข่าวจากมติชน สัมภาษณ์หนึ่งในกรรมการ

//www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01ent02130450&day=2007/04/13§ionid=0105



"แสงศตวรรษ" งดฉายในประเทศไทย

ตามกำหนดการเดิม "แสงศตวรรษ" จะเข้าฉายในบ้านเรา 19 เมษายนนี้ แต่แล้วหนังกลับไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ โดยคณะกรรมการมีเงื่อนไขให้ฉายหนังเรื่องนี้ได้ก็ต่อเมื่อตัดฉากสำคัญออกไป 4 ฉาก คือ ฉากหมอยืนกอดจูบกับแฟน ตามด้วยภาพอวัยวะเพศแข็งตัว และฉากหมอกินเหล้า ซึ่งกรรมการพิเศษแพทยสภาไม่เห็นควร ดังที่ นายศุภวัฒน์ โพธิ์ทอง นิติกรประจำแพทยสภา หนึ่งในกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ครั้งนี้ ให้เหตุผลว่า

"อาจเป็นเรื่องปกติที่หมอจะดื่มเหล้าหรือกอดจูบกับคนรัก แต่ภาพที่เห็นในหนังเป็นภาพในโรงพยาบาล ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมเข้าใจว่านั่นคือชีวิตปกติของหมอ หรือหมอจะทำอะไรในโรงพยาบาลก็ได้ จึงเห็นว่าควรจะให้เกียรติสถานที่ด้วย"

นายศุภวัฒน์กล่าวอีกว่า ผู้แทนจากกระทรวงวัฒนธรรมก็เห็นด้วยกับกรณีนี้ โดยเฉพาะฉากแรกที่อาจจะกลายเป็นการยั่วยุทางเพศ รวมถึงทางกระทรวงยังเห็นควรให้ตัดอีก 2 ฉาก คือ พระเล่นกีตาร์กับโยม และฉากหลวงตานั่งเล่นเครื่องบังคับ พร้อมกับให้ขึ้นข้อความทำนองว่า "เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นจากจินตนาการ" อีกด้วย

ทว่าอภิชาติพงศ์ก็ตัดสินใจไม่ตัดทอนหนัง "แสงศตวรรษ" จึงจะไม่เข้าฉายในประเทศไทยด้วยประการฉะนี้ โดยเขาได้แสดงความเสียใจผ่านทางอี-เมล เนื่องจากกำลังเดินทางโปรโมตภาพยนตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า

"ในฐานะนักทำหนังคนหนึ่ง ผมปฏิบัติกับหนังของผมประดุจลูกชายและลูกสาว เมื่อผมให้กำเนิดเขา พวกเขาก็มีชีวิตเป็นของตนเอง ผมไม่ใส่ใจว่าผู้คนจะรักหรือเกลียดลูกของผม ตราบใดที่ผมสร้างเขาขึ้นมาด้วยความตั้งใจและความพยายามอย่างสูงสุด ถ้าลูกๆ ของผมไม่สามารถอาศัยอยู่ในประเทศของเขาเองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ก็ปล่อยเขาเป็นอิสระเถิด เพราะมันยังมีพื้นที่อื่นๆ ที่ต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นในแบบอย่างที่เขาเป็น มันไม่มีเหตุผลเลยที่ต้องทำให้พวกเขาพิกลพิการจากระบบแห่งความกลัวหรือความละโมบ มิฉะนั้นแล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่คนสักคนหนึ่งจะสร้างงานศิลปะต่อไป"

จึงเป็นที่แน่นอนว่าคนไทยจะไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ในจอใหญ่ ส่วนจะได้ชมทางจอเล็กผ่านทางวีซีดีหรือ ดีวีดี หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อไป


โดย: merveillesxx วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:2:54:00 น.  

 
ส่วนนี้เป็นประกาศจากทีมงาน Bioscope ครับ

ประกาศเพิ่มเติม
เป้าหมายในการเรียกร้องขั้นต่อไป


หลังจากได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมก้ันมาระยะหนึ่ง ตอนนี้ทั้งคุณอภิชาติพงศ์, ทีมงาน และพันธมิตรหลายๆ ท่านได้เห็นพ้องกันว่า เราจะไม่จำกัดขอบเขตการเรียกร้องและต่อสู้ครั้งนี้ไว้แค่ประเด็นของหนังเรื่อง "แสงศตวรรษ" เท่านั้น แต่ เป้าหมายที่แท้จริงของเรา คือการเรียกร้องให้สังคมร่วมกันตั้งคำถามและตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของระบบการเซ็นเซอร์หนังของไทยในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์และผลในระยะยาวอย่างแท้จริง

ขณะนี้ ทางทีมงานกำลังเรียนรู้กรณีศึกษาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านใดมีข้อเสนอแนะ, มีข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์ หรือรู้จักบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบกฎหมายเหล่านี้ โปรดช่วยกันระดมความคิดได้เลยนะคะ เราทุกคนจะรวมกำลังกันเพื่อผลักดันให้การต่อสู้นี้ดำเนินไปอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ และเกิดผลในทางรูปธรรมให้ได้มากที่สุด


ท่านสามารถเสนอแนะความเห็นได้ที่นี่
//thaifilm.com/forumDetail.asp?topicID=3130


------------------------------------

และขอประชาสัมพันธ์ข่าวนี้ด้วยครับ

BIOSCOPE คุยเรื่องหนังนอกกระแสและหนังอภิชาติพงษ์ออกทีวีจ้ะ

วันที่ 16 และ 17 เมษายนนี้ เพื่อนๆที่ไม่ได้ไปสาดน้ำสงกรานต์ที่ไหน อย่าลืมเปิดรายการ "หนังนอกตลาด" ทางช่อง 11 เวลาประมาณบ่ายโมงตรง (หลังข่าวเที่ยง) นะ

โดย วันจันทร์ที่ 16 เป็นตอน "แนะนำหนังนอกตลาด"
และ วันอังคารที่ 17 ตอน "อภิชาติพงษ์ วีระเศรษฐกุล กับหนังของเขา"

ดูแล้วเป็นยังไง กรุณาช่วยติชมกันด้วยนะจ๊ะ รายการนี้ผลิตกันอย่างเร่งด่วนสุดขีด และทำกันแบบบ้านๆ เลยจ้ะ



โดย: merveillesxx วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:3:01:19 น.  

 

เมื่อกี้ผมเพิ่งส่งบทความ เมื่อกองเซ็นเซอร์ดับ “แสงศตวรรษ” ไปที่เวบโอเพ่นออนไลน์นะครับ วันนี้คงได้อ่านกัน

//www.onopen.com

ตอนนี้ขอตัวไปนอน...


โดย: merveillesxx วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:6:14:16 น.  

 
ขอบคุณกองเซ็น"เซ่อ"
ที่ทำให้เรารู้ว่า เผด็จการยังไม่ตาย
ขอบคุณกองเซ็น"เซ่อ"
ที่ทำให้เรารู้ว่าหนังไทยของเราจะตกต่ำ เพราะใคร
ขอบคุณกองเซ็น"เซ่อ"
ที่ทำให้สวนปลูกหญ้าของฉัน ขายดิบขายดี(เพาราะตัวโง่กว่าควาย ยังไม่สูญพันธุ์)

ขอบคุณกองเซ็นเซ่อ
.
.
.
.ฉันจะได้จ่ายยาระงับประสาท ยาบำรุงสมองด้วย



ปล.ระหว่างนั้น ไปดูPan's Labyrinthกันเถอะ ข้ายอมเป็นหน้าม้า


โดย: initial A IP: 125.24.243.186 วันที่: 13 เมษายน 2550 เวลา:16:06:43 น.  

 
เป็นคนไม่ค่อยได้ดูหนังโรง แต่ใจลึกๆ ผมอยากเชียร์หนังไทยที่ตั้งใจผลิตดีๆ ให้มีกำไรมากๆ

จะได้มีกำลังใจผลิตแต่หนังดีๆ ไม่ต้องตามใจตลาดแบบละครทีวี เผื่อคนดูจะได้สิ่งดีงามและเห็นศิลปจากในหนัง

เสียดายครับ ที่หนังเรื่องนี้ถูกกองเซ็นเซอร์เข้มงวดให้ตัดบางซีน

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้กำกับครับ อย่างเพิ่งท้อ คุณทำดีแล้ว ความดีที่คุณทำถูกจารึก ลงบนแผ่นฟิล์มแล้ว

ในวันหน้า ความดีจะปรากฏให้โลกรับทราบครับ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ


โดย: yyswim วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:12:31:00 น.  

 
เพิ่งทราบข่าว ว่า "แสงศตวรรษ" ไม่สามารถเข้าฉายในโรงได้อีกต่อไป
ทราบว่ามีหนังเรื่องนี้จากนิตยสารอะเดย์ ทำให้อยากดู แค่การทำโปสเตอร์หนัง ยังมีรายละเอียดที่จะสื่อถึงตัวตนของหนังเรื่องนี้
แม้ไม่ได้อยู่ในวงการหนัง ติดตามข่าวสารบ้างบางครั้ง
แต่เรื่องที่เกิดขึ้น สะเทือนใจไม่น้อย
อ่านเรื่องย่อแล้ว จินตนาการการวาบเข้ามาในมโนภาพทันที แล้วยิ่งถ้าภาพจริงจากจินตนาการของคนทำหนังจะเป็นอย่างไรนะ

ยืนหยัด ยืนยัน ศิลปะก็มีเส้นทางเป็นของตัวเอง


โดย: N_TTTTaLent IP: 124.120.101.204 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:18:34:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.