สรุปประเด็น : สัมมนาทางวิชาการประจำปี 2549 คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
เรียบเรียงโดย merveillesxx
บล็อกนี้จะเป็นการสรุปประเด็นจากการสัมมนาทางวิชาการประจำปี 2549 ของ คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (จัดขึ้นเมื่อ 6 ก.ค. 2549 ณ หอประชุมเล็ก มธ.ท่าพระจันทร์) ในหัวข้อ เศรษฐกิจไทยในกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมเศรษฐกิจโลก
หัวข้อนี้มีผู้บรรยาย 4 ท่าน ได้แก่ ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์, คุณประมนต์ สุธีวงศ์, ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ และ ศ.ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ และมี ศ.รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ เป็นผู้ดำเนินการระดมความคิดและสรุปเนื้อหาในตอนท้าย
เนื่องจากเป็นการสรุปจากบทบันทึกการบรรยาย จึงเป็นเนื้อหาเพียงคร่าวๆ และหากมีข้อผิดพลาดประการ ก็ขออภัยผู้บรรยายมา ณ ที่นี้
ดร.ฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
Policy Menu 4 ประการ
1. นโยบายประชานิยม : มีต้นทุนที่ต้องเสีย ผู้เป็นรัฐบาลต้องมีความกล้าหาญพอที่จะไม่ใช้
2. ความร่วมมือทางการเงินในส่วนภูมิภาค : ควรกระชับความสัมพันธ์ทางการเงินระหว่างประเทศ เพื่อความมีเสถียรภาพ
3. การรวมกลุ่มทางการค้า : ต้องเข้าใจถึงยุทธศาสตร์การค้า ด้านฐานการผลิต
4. การขยายเครือข่ายเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้าน
โดยสรุปจากทั้ง 4 ข้อ ก็คือ ประเทศไทยต้องมีการ Repositioning ระบบเศรษฐกิจ
คุณประมวล สุธีวงศ์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดียและจีน
- อินเดีย : เน้นขายสมอง, ความรู้ เน้นพวก software
- จีน : กลายเป็นโรงงานของโลก (แรงงานเยอะ), สินค้าราคาถูก, เราสู้ด้านต้นทุนไม่ได้
- จากทั้ง 2 ข้อข้างต้น ทำให้ไทยเราอยู่ในสภาวะที่ ถูกบีบจากทั้งข้างบนและข้างล่าง
- อินเดียและจีนในตอนนี้ถือเป็น มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ คาดการณ์ได้ว่าอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้าทั้งสองจะเป็น มหาอำนาจทางการเมือง
เรื่องเร่งด่วน-ภายนอก
- การวางตัวของประเทศไทย : การเป็นพันธมิตร, ไม่แข่งในสิ่งที่เราสู้ไม่ได้
- ต้องดึง 2 ประเทศนี้เข้ามา เพื่อภูมิคุ้มกันของเราในอนาคต
- ผู้ลงทุนใหญ่ 3 กลุ่มคือ ญี่ปุ่น, อเมริกา และยุโรป
เรื่องเร่งด่วน-ภายใน
- ภาคเอกชนควรปรับนโยบายอย่างไร : การเจรจาการค้าทวิภาคีและพหุภาคี
- ควรรับฟังเสียงของประชาชนให้มากขึ้น
- เราต้องรู้จัก จุดยืน ที่พอดีของตัวเอง
- เศรษฐกิจพอเพียงไม่ควรแค่พูด แต่ต้องทำด้วย
ศ.ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ไทยเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเสรี แต่ความจริงล้วนเป็นการใช้ กลไกนอกตลาดทั้งสิ้น (เช่น Non-Tariff Measures)
- ลักษณะการขัดในหลักการจองตัวเองในเศรษฐกิจไทย
1. เศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ : เมืองไทยเข้าสู่ระบบทุนนิยมครึ่งใบ (ตลาดเสรี + เสรีที่ไร้การควบคุม) เราหลงเชื่ออุดมการณ์เสรีนิยม โดยไม่ป้องกันตัวเองเลย
2. การไม่ปกป้องตัวเอง : แล้วยังสร้าง สิ่งบิดเบือน ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทำให้ประโยชน์ตกกับคนบางส่วน เช่น เรื่อง premium ข้าว
- นโยบายที่หวังดีไม่เพียงพอ แต่ต้องเข้าใจ โครงสร้าง ด้วย
- การไม่เข้าใจในโครงสร้าง นำมาซึ่ง Unintended Consequence เช่น การยิ่งออกโฉนดแต่ที่ดินยิ่งหลุดจากมือชาวนา, การผลักสังคมไทยเข้าสู่ตลาดเสรี เช่น การแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
- ควรคำนึงว่าระบบเศรษฐกิจต้องทำงานเป็น package
- ปัญหาการครอบงำทางอุดมการณ์ : มาจากลัทธิ บริโภคนิยม
- การครอบงำตลาดทางความคิด : การสร้างวาทกรรมแบบให้หลงเชื่อ เช่น กรณี Microsoft
- อุตสาหกรรมวัฒนธรรม ทำรายได้มหาศาล เช่น ฟุตบอลโลก
- เราหลงเชื่อวัฒนธรรมกระแสเดียว : เรามองอะไรในมิติเดียว ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ เช่น ปัญหาภาคใต้
- เรามองความแตกต่างเป็นความขัดแย้ง และมองความขัดแย้งเป็นลบ (ต้องลองมองความขัดแย้งในแง่บวก)
- ภายใต้เศรษฐกิจไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เรากำลังทำร้ายตัวเอง : ของเก่าที่บิดเบือน + เรายังจะออกสู่เวทีโลก
- เราต้องเข้าใจว่าเศรษฐกิจทำงานอย่างมีเงื่อนไข : เงื่อนไขที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ได้แก่ การเมือง และวัฒนธรรม
ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เรื่องที่น่าเป็นห่วงของประเทศไทย 10 ประการ
ด้านเศรษฐกิจ
1. การพึ่งพิงน้ำมันและนโยบายพลังงานที่ถูกต้อง
- เราขายข้าวทั้งปี = จ่ายค่าน้ำมันได้แค่เดือนเดียว
- การอุดหนุนน้ำมัน : เราหลงผิดว่ามันถูกต้อง
- น้ำมัน = แม่น้ำ / การอุดหนุน = สะพานที่ไม่มีวันถึงฝั่ง
2. ปัญหาความยากจน, ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เหมาะสมของเงินออม
- แต่ก่อนประชาชนไม่มีเงินในกระเป๋า ตอนนี้มีเงินแต่เป็นหนี้
- ภาวะการออมทรุดลงเรื่อยๆ
3. รีบปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวม
- เน้นโครงสร้างพื้นฐาน + เชื่อมโยงเครือข่ายในเอเชีย
- เศรษฐกิจไทยตอนนี้เข้าสู่ยุคที่ 4 : ยุคแรก-ขายข้าว, ยุคที่สอง-ขายสินแร่, ยุคที่สาม-ขายแรงงาน และยุคที่สี่-ยุคไม่รู้จะขายอะไรกิน
- ดังนั้นเราจึงต้องเน้นด้าน ชัยภูมิ : การเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค เป็นประตูสู่ทั้งระบบ supply chain
4. ปฏิรูปการค้าระหว่างประเทศ
- เราเน้น FTA ลูกเดียวไม่ไหว เพราะเราคนไม่พอ, ประชาชนไม่มีส่วนร่วม
- FTA ของอเมริกา ประชาชนจะมีส่วนร่วม
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
5. ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : ปัญหาแบบครบวงจร
6. ทรัพยากรน้ำขาดแคลน : การจัดสรรเรื่องน้ำ เราผิดพลาดมาตลอด
7. ผลักดันการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- ต้องเน้นด้านนี้ ไม่ใช่ด้านแรงงาน หรือทรัพยากร
- เราใช้ของคนอื่นเป็นส่วนใหญ่ + นำเข้าเป็นจำนวนมาก ควรหันมาผลิตเทคโนโลยีและส่งออก
- สามประเทศที่พัฒนาเด่นด้านนี้ : ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และจีน
- ไทยปลูกข้าวมานานมาก แต่ตอนนี้เรากลับต้องซื้อเทคโนโลยีข้าวจากเวียดนาม
ด้านสังคมและการศึกษา
8. ปฏิรูประบบการศึกษา : ต้องเข้าใจด้านการเมืองด้วย
9. สร้างจิตสำนึก, คุณธรรม, จริยธรรม ทั้งด้านการศึกษา, การเมือง, ธุรกิจ
10. ประชาชนต้องมีส่วนร่วม : เพื่อความเข้มแข็งของระบบ
- ประชาชนต้องรับรู้ ต้องรับผิดชอบต่อประเทศชาติ
- ตัวอย่าง: คนจีนขยันมาก จากการปลูกฝังแนวความคิด
- ความมีเกียรติ 3 ประการของคนจีน คือ 1.ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง 2.ทำงานเพื่อประชาชน 3.ขยันหมั่นเพียร พัฒนาตัวเอง
Create Date : 10 กรกฎาคม 2549 |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2549 15:44:10 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1095 Pageviews. |
|
|
|