http://twitter.com/merveillesxx และ http://www.facebook.com/merpage
Group Blog
 
All Blogs
 
The Raspberry Reich + The Doom Generation : ตายเสียเถิด ความสัมพันธ์แบบชายหญิง!

โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง



“มันจะผิดอะไรมั้ย ถ้าเราจะชอบผู้ชายสักคน เพราะว่าเขาเป็นคนดี และเป็นคนที่เข้าใจเรา”

นี่เป็นประโยคที่ผมพูดกับเพื่อนเมื่อตอนคุยกันถึงหนังเรื่อง ‘รักแห่งสยาม’ จริงอยู่ว่าหนังอาจได้รับตำแหน่งตลกๆ อย่าง ‘หนัง Come Out’ (หมายถึงหนังทำให้หลายคนยอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์) แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นหนัง Thinking Out มากกว่า ประโยคเชิงสมมติในข้างต้น คือหนึ่งในคำถามที่ผมเฝ้าครุ่นคิดเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบลง

หลังจากนั่งนึกอยู่หลายวัน ผมจึงได้คำตอบว่า เราถูกปลูกฝังความคิด (หรือ ‘ทำให้เชื่อ’) ว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กๆ (พร้อมๆ กับชุดความคิดที่ว่าต้องเคารพธงชาติตอน 8.00 และ 18.00 นาฬิกา) และอะไรที่นอกเหนือจากความสัมพันธ์กรอบนี้จะถูกกีดกันออกเป็นสิ่งที่แปลกแยกทันที (ดูได้จากคำประเภท เพศที่สาม, ความเบี่ยงเบนทางเพศ เป็นต้น)

หนังเรื่อง The Raspberry Reich (2004) ของบรูซ ลาบรูซ ผู้กำกับหนังเกย์ชาวแคนาดา ตั้งคำถามตีเสกหน้าถึงประเด็นนี้อย่างรุนแรง หนังเล่าถึง กุดรุน หญิงสาวหัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายที่สืบทอดความคิดซ้ายจัดมาจากกลุ่ม Red Army Faction (RAF) เธอมีความเชื่ออันแนวแน่ว่า “ไม่มีการปฏิวัติใด จะปราศจากการปฏิวัติทางเพศ” (No revolution without sexual revolution) ว่าแล้วเธอจึงสั่งให้ลูกน้องจับตัวไอ้หนุ่มลูกคนรวยมาตุ๋ย จากนั้นก็ส่งวิดีโอไปให้พ่อของเขาดู! (แต่ที่ตลกก็คือ ก่อนจะถูกลักพาตัว หมอนี่เพิ่งสารภาพกับพ่อว่าตัวเองเป็นเกย์)

กุดรุนไม่หยุดเพียงเท่านั้น เธอยังสั่ง (และไซโค) ให้เหล่าลูกน้องชายมีเซ็กส์กัน และไม่เว้นกระทั่งแฟนหนุ่มของเธอเอง หนังยังมีฉากตัวละครชายช่วยตัวเองต่อหน้าภาพโปสเตอร์ของ เช เกวารา (ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพวก Homophobia) แต่ฉากที่แรงที่สุดของหนังคือ ตอนที่กุดรุนพูดสุนทรพจน์ยาวหลายกระดาษถึงการปฏิวัติของกลุ่ม และเธอก็พูดใส่หน้าคนดูว่า “ความสัมพันธ์แบบชายหญิงคือฝิ่นมอมเมามวลชน!” (Heterosexuality is the opiate of the masses)

ประโยคของกุดรุนเป็นสิ่งที่ชวนคิดย้อนไปถึงกระบวนการให้ความสำคัญแบบชายหญิง ซึ่งอาจจะเริ่มตั้งแต่ในระดับโรงเรียนประถม ในวิชาขับร้อง เพลงคู่ล้วนเป็นการโต้ตอบระหว่างชายกับหญิง, ในงานแสดงของโรงเรียน เราก็ถูกครูอาจารย์จับคู่ให้กับเพศตรงข้ามโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ (ซึ่งที่จริงสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่แค่ในระบบการศึกษา แต่ฝังอยู่ในรากวัฒนธรรมของเรา) แต่เมื่อมีการเสนอในสอนถึงการดำรงอยู่ของเกย์หรือเลสเบี้ยนในวิชาเพศศึกษา ความคิดนั้นก็ถูกกล่าวประณามทันที (เป็นข่าวดังเมื่อ 2-3 ปีก่อน) ราวกับพกวเขาต้องการให้เด็กสำนึกว่าโลกนี้ต้องมีเพียงหญิงและชายเท่านั้น

แต่อันที่จริงแล้ว ความสัมพันธ์แบบชายหญิงก็ถูกกรอบของธรรมชาติกำหนดมาอีกต่อหนึ่ง เพราะจนถึงปัจจุบัน การสืบพันธ์ที่ให้ผลผลิต (นั่นคือ ลูก) ยังคงต้องเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างชาย-หญิง และประเด็นเกี่ยวกับเด็กที่โตมาในความดูแลของคู่เกย์/เลสเบี้ยนก็ยังเป็นที่ถกเถียงไม่จบสิ้น (ซึ่งประเด็นนี้ผมต้องขอสารภาพว่าอยู่นอกขอบเขตความรู้ที่จะแสดงความคิดเห็น)

The Raspberry Reich เป็นหนังที่ดีในแง่ที่ว่ามันไม่ได้ป่าวประกาศอุดมการณ์ออกมาอย่างลอยๆ แต่ยังพูดถึงความลักลั่นย้อนแย้งในตัวมันเองด้วย อย่างเช่นในฉากหนึ่ง เราเห็นพวกของกุดรุน (ที่ประกาศตัวว่าเป็นซ้าย) เข้าไปนั่งกินอาหารในร้านฟาสต์ฟู้ด (ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันดับต้นๆ ของความคิดแบบขวา) อย่างหน้าตาเฉย และในช่วงท้ายของหนังกุดรุนก็เลือกที่จะมีสามี โดยอ้างว่าเพื่อผลิตลูกเพื่อจะเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของเธอต่อไป (!?) เราจึงเห็นได้ว่าแม้แต่กุดรุนเองก็ไม่อาจหนีพ้นจากวิถีแห่งชายหญิงไปได้ ซึ่งอาจถือว่าเป็นการเสียดเย้ยแบบตลกร้าย แต่ก็ช่างน่าเจ็บปวด

เรื่องที่น่าคิดต่อก็คือ ลักษณะของคนอย่างกุดรุนที่มีอุดมการณ์อันแรงกล้า แต่ก็ทำลายแนวคิดของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย โดยที่ยังยืนยันว่าตนยังคงดำรงในอุดมการณ์นั้นต่อไป (ทั้งที่มันเสื่อมสลายไปแล้ว) เป็นลักษณะที่เราพบได้บ่อยๆ ในผู้นำปฏิวัติทั้งหลาย ความขัดแย้งภายในแบบนี้เองที่ทำให้การปฏิวัติล้มเหลว สิ่งที่น่ากลัวก็คือ มีคนประเภทนี้อยู่มากในสังคมไทย จึงไม่แปลกใจเลยว่า การปฏิวัติใดๆ ในบ้านเราจึงเป็นเพียงแค่กระแสชั่ววูบเท่านั้น



ย้อนไป 10 กว่าปีก่อนหน้า The Doom Generation (1995) ของเกร็ก อารากิ (ตัวแม่ของกลุ่ม New Queer Cinema) ก็เคยสำรวจถึงเรื่องของความสัมพันธ์ต่างเพศเช่นกัน เป็นเรื่องตลกมากที่หนังถึงต้องกับปะหัวไว้ว่า “ภาพยนตร์ความสัมพันธ์ชายหญิง โดย เกร็ก อารากิ” (a heterosexual movie by Gregg Araki) ด้วยความที่ว่าก่อนหน้านี้อารากิทำหนังเกย์แรงๆ มาตลอด เช่น The Living End (1992) และ Totally Fucked Up (1993)

หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ป่วงๆ ของเอมี่ (โรส แม็กโกแวน - แจ้งเกิดจากเรื่องนี้) กับจอร์แดน ทั้งคู่เป็นแฟนกัน แต่ไม่กล้ามีเซ็กส์เพราะกลัวติดโรคเอดส์ (ทั้งที่ยังบริสุทธิ์กันทั้งคู่) จากนั้นชายหนุ่มลึกลับที่ชื่อ ‘เอ็กซ์’ ก็มาขอติดรถไปกับทั้งสอง ระหว่างทางเอ็กซ์เผลอฆ่าเจ้าของร้านมินิมาร์ทตาย (แต่เขาก็ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใจแม้แต่นิด) ทั้งสามคนก็เลยต้องไปซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมโทรมๆ แห่งหนึ่ง

ในคืนนั้นเอง เอมี่กับจอร์แดนก็ตัดสินใจมีเซ็กส์กัน แต่เรื่องราวมั่วหนักเข้าไปอีก เพราะเอมี่กับเอ็กซ์ก็ดันมีเซ็กส์กันด้วย (ทั้งที่เอมี่ไม่ค่อยชอบหน้าอีกฝ่ายนัก) จอร์แดนดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร เพราะจอร์แดนกับเอ็กซ์ก็เริ่มจะตกหลุมรักกัน (เอาเข้าไป) ซึ่งหนังก็บอกใบ้เราตั้งแต่ฉากก่อนหน้าที่เอ็กซ์ขอร้องให้เอมี่สอดนิ้วเข้าไปในทวารหนักของเขา ซึ่งเป็นลักษณะการร่วมเพศแบบชาย-ชาย

อย่างไรก็ดี สองหนุ่มหนึ่งสาวกลุ่มนี้ก็ยังไปด้วยกันได้ดี พวกเขาขับรถข้ามเมืองไปเรื่อยๆ จนไปหยุดพักที่ฟาร์มร้างแห่งหนึ่ง และพกวเขาก็มีเซ็กส์หมู่กัน เรื่องราวทั้งหมดดูจะลงเอยด้วยดี เพราะตัวละครทุกตัวในเรื่องต่างพอใจในความสัมพันธ์แบบนี้ ...แต่แล้วคนดูต้องช็อคกับฉากสุดท้ายของหนังที่รุนแรงและโหดร้ายอย่างสุดขั้ว (โดยทั้งนี้ผมจะไม่เขียนถึง เพราะอาจเป็นการสปอยล์ แต่ขอเตือนว่ามันไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อนและคนปกติ)

หนังเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นมุกตลกร้ายของอารากิ เพราะเมื่อเขาทำหนังแบบความสัมพันธ์ชายหญิงเป็นครั้งแรก เขาก็ผลักตัวละครไปยังจุดที่เลวร้ายที่สุด เหมือนกับยิ้มเยาะในใจแล้วพูดกับคนดูว่า “นี่ไงล่ะ ฉันทำหนังแบบชายหญิงแล้ว และนี่คือสิ่งที่พวกมันได้รับ!” อารากิยังย้ำด้วยว่าไม่มีทางที่ความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันและแบบต่างเพศจะดำรงอยู่ด้วยกันได้ โลกทางเพศในอุดมคติของตัวละครทั้งสามเลยต้องถูกขยี้ไม่เหลือชิ้นดีในตอนจบ

สิ่งที่น่าสนใจมากคือ หนังสรุปให้เราเห็นว่า เอ็กซ์ คือ ตัวละครที่อยู่รอดได้ในเรื่อง (ในฉากสุดท้าย ขณะที่เอมี่จ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่า เอ็กซ์กลับนั่งกินขนมกรุบๆ อย่างสบายใจเฉิบ!) อารากิให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขาเลือกให้ตัวละครนี้ชื่อเอ็กซ์ก็เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนความลึกลับ ซึ่งก็จริงอย่างยิ่ง เพราะเราไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน มีพื้นเพอย่างไร บางทีเขาอาจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ได้ ใครจะรู้?

แต่สิ่งน่าสนใจก็คือ เพศสภาพอันครุมเครือของเอ็กซ์ กระทั่งดูหนังจบแล้วเราก็ยังไม่อาจระบุได้ว่าเขามีเพศสภาพแบบไหน เราอาจเรียกอย่างกว้างๆ ว่าเอ็กซ์เป็นไบเซ็กช่วล แต่ตลอดเรื่องเขาไม่เคยประกาศออกมาถึงความชอบของตัวเอง เราไม่แน่ใจว่าเขาชอบเอมี่หรือจอร์แดน เขาอาจชอบทั้งสองคน หรืออาจจะไม่ได้ชอบทั้งคู่เลยก็ได้ ราวกับอารากิจะบอกกับเราว่าหนทางแห่งการอยู่รอดในโลกใบนี้คือ สภาวะที่ไร้เพศสภาพ (แบบตัวละครอย่างเอ็กซ์) เพราะถ้าหากผู้ใดออกนอกลู่ทางจากเพศสภาพที่ตนเองได้เลือกไว้ เขาจะถูกลงทัณฑ์อย่างหนักเหมือนจอร์แดน

กลับที่หนังต้นขั้วอย่าง ‘รักแห่งสยาม’ (2007, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) แม้หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้สมบูรณ์อย่างไร้ที่ติ (อย่างที่มีนักวิจารณ์บางคนบอกว่า “ทำไมไม่เอาไข่อุ่นในไมโครเวฟ”) แต่สิ่งที่น่าชื่นชมของหนังเรื่องนี้คือ การกล้าที่พูดถึงความสับสนของเพศสภาพ ซึ่งเป็นประเด็นที่ร่วมสมัยและแพร่หลาย (แต่ไม่มีหนังไทยเรื่องไหนกล้าพูด หรือพูดอย่างมีสติ) อย่างที่เราทราบกันดีว่าหนังเล่าถึง โต้ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) เด็กหนุ่มที่กำลังสับสนในตัวเองอย่างหนัก เขามีแฟนสาวที่ชื่อโดนัท แต่ก็มีความรู้สึกดีๆ กับเพื่อนสมัยเด็ก (ซึ่งเป็นผู้ชาย) ที่ชื่อมิว

หลังจากได้เห็นโต้งกับมิวจูบกัน สุนีย์ (แม่ของโต้ง รับบทโดย สินจัย เปล่งพานิช) ขับรถไปหามิวเพื่อบอกให้เลิกคบกับโต้ง ในท่อนหนึ่งสุนีย์พูดว่า “ต่อไปเมื่อโต้งเรียนจบ เขาจะได้ทำงานดีๆ มีครอบครัวที่อบอุ่น” เป็นประโยคที่สะท้อนถึงทัศนคติแบบชนชั้นกลางได้เป็นอย่างดี (เพราะพวกเขาเชื่อว่านี่คือ ‘แบบแผนชีวิต’ ที่ดี) และประโยคที่ดูซ้ำซากแบบนี้แหละที่ทำให้เราเห็นว่าสุนีย์ไม่ใช่ตัวร้ายใจยักษ์ แต่เธอเป็นเหยื่อของกรอบสังคมในอีกรูปแบบหนึ่ง

ถึงแม้ในฉากต้นคริสต์มาส โต้งจะได้ประกาศเพศสภาพของตนเอง (โต้งเลือกตุ๊กตา ‘ผู้ชาย’) กับแม่ของเขาแล้ว แต่ด้วยความรักในตัวแม่ โต้งจึงยอมเลิกคบกับมิว แต่นั่นไม่ได้ความหมายเพศสภาพของโต้งจะกลับมาเป็นดังเดิม (อย่างที่แม่หรือสังคมอยากให้เขาเป็น หรืออย่างที่เขาเข้าใจว่าตัวเองเคยเป็น) หากลองคิดเล่นๆ ดูว่าชีวิตของโต้งจะเป็นอย่างไร เขาอาจจะกลับไปคบกับมิวอีกครั้ง เขาอาจจะกลับไปมีแฟนเป็นผู้หญิง เขาอาจจะมีแฟนใหม่เป็นผู้ชาย หรือเขาอาจจะต้องเก๊กแมนไปตลอดชีวิต ...เราไม่อาจรู้ได้เลย แต่เราคงพอเดาได้ว่าเขาคงไม่มีความสุขในชีวิตเพศของตัวเองนัก

เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้ฟังเรื่องเล่ามาว่า ในการประชุมเกี่ยวกับ พรบ.ภาพยนตร์ คุณผู้หญิงท่านหนึ่ง (ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นตัวแทนจากองค์กรไหน) ได้แสดงว่าความชื่นชมว่า ‘รักแห่งสยาม’ เป็นหนังที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วตัวละครเอกก็กลับใจไม่เป็นเกย์!? (เธออาจจะไม่ได้พูดแบบนี้ แต่เธอสื่อความประมาณนี้แน่ๆ) ผมฟังแล้วทั้งตลก แปลกใจ และโกรธ แต่ความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดคือ หดหู่ เพราะนี่มันไม่ใช่แค่การตีความแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่มันคือการตีความแบบเข้าข้างตัวเอง หรือตามสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าดีงามและถูกต้อง

แม้จะเป็นความคิดเห็นจากคนคนเดียว แต่จากประสบการณ์หลายๆ อย่าง ผมเชื่อว่าคงมีผู้ใหญ่อีกหลายคนเห็นคล้อยตามกับผู้หญิงท่านนี้แน่นอน เพราะเรารู้กันดีว่าความคิดของพวกเขาตรงข้ามเป็นมุมกลับอย่างสิ้นเชิงกับชื่อบทความนี้

“ตายเสียเถิด ความสัมพันธ์แบบชายชาย!” นั่นแหละ สิ่งที่พวกเขาต้องการ



หมายเหตุ

ประเด็นเรื่องเพศสภาพ ดูเพิ่มเติมได้ในหนังเรื่อง Hedwig and the Angry Inch (2001) และ ตัวละคร "โอชิมะ" ใน Kafka on the Shore (2002) นิยายของ ฮารูกิ มูราคามิ



Create Date : 09 เมษายน 2551
Last Update : 9 เมษายน 2551 8:44:01 น. 34 comments
Counter : 7806 Pageviews.

 





BIOSCOPE : SEX ISSUE

ตอน เล่นจริง เจ็บจริง!


(น้องเมอร์เขียน 10 หนัง เล่นจริง เจ็บจริง จ้ะ)



โดย: merveillesxx วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:8:45:53 น.  

 
ไบโอเล่มใหม่ฉบับ sex issue

รอบที่สามแล้วนะเนี่ย เหอะๆ อยากให้มีแบบ japanese issue บ้างง่ะ


โดย: Nighty IP: 58.8.38.10 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:9:06:06 น.  

 
นั่นสิ ทำไมไบโอ ทำฉบับ sex issue บ่อยจัง

ต้องอ่านบทความนี้แนมกับไบโอ เล่มนี้หรือเปล่า

ตอนนี้เรื่องเพศสภาพอันหลากหลาย ปรากฎอยูในหนังเยอะมาก (เราไม่นับหนังไทยที่ยังอยู่ในกรอบวิธีคิดแบบชาย-หญิงนะ)

เพศสภาพอันหลากหลายนั้น กำลังทำให้ความเป็นหญิงถูกผลักไปอยู่ชายขอบแล้ว ไม่ยอมเฟ้ย


โดย: grappa IP: 58.9.188.183 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:9:36:50 น.  

 
วางแผงวันไหน ครับ เมื่อตอนเที่ยงแถวสีลม ไหนมีเลยครับ


โดย: kc IP: 199.67.131.151 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:13:40:05 น.  

 
ตอนเด็กมากๆ เคยรู้สึกว่าการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องผิดปกติอยู่เหมือนกัน

จนได้รู้ว่า มันมีมาแต่สมัยจูเลียส ซีซาร์

ได้รู้ว่า วัวก็มีที่ตัวผู้จะขึ้นตัวผู้ด้วยกันเท่านั้น (ความรู้จากฟาร์มโชคชัย)

ก็เลยเข้าใจสัจธรรมที่แท้จริงแล้วน่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:14:31:54 น.  

 
(เมื่อกี้พิมพ์ซะยาว โพสไม่ติดซะงั้น)

ผมว่าโต้งเป็นตัวละครไร้เพศน่ะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่โคตรน่าสงสารเลย ที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนั้นด้วยอายุแค่นั้น

ส่วนประเด็นอุดมการณ์แตกสลายนั้น พวกที่เรียกตัวเองว่าซ้ายแต่กินฟาสต์ฟู้ดหรือเดินห้างไฮโซ เมืองไทยมีเยอะแยะจนแทบไม่เรียกเป็นเรื่องแปลกแล้ว 5555 แต่ก็อย่างว่าแหละ พวก traditional หรือ original extreme Marxist มันคงอยู่ไม่ได้แบบ 100% ในโลกที่ทุนนิยมเป็นตัวขับเคลื่อนแบบนี้

อยากดูหนัง เกร๊ก อารากิ


โดย: nanoguy IP: 125.24.231.11 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:14:49:20 น.  

 
แล้วจะไปหา The Doom Generation มาดูให้ได้ครับ ^^

( พอหาที่ไหนได้บ้าง ช่วยบอกที ? )


โดย: SoundSynDrome IP: 124.120.129.67 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:19:36:37 น.  

 
ดีใจที่น้องต่อเขียนอะไรแบบนี้ให้อ่านอีกนะครับ เวลาที่น้องต่อเขียนอะไรแบบวิเคราะห์เจาะลึกแบบนี้มันมักจะมากับความเฉียบคมทางความคิดเสมอ อ่านแล้วถึงจะไม่เห็นด้วย 100% แต่ก็เถียงอะไรไม่ออกไปเหมือนกัน

เอ่อ... ว่าแต่ภาพแรกมันแรงดีเนอะ เห็นทีแรกนึกว่าตาฝาดเผลอนั่งจ้องอยู่ตั้งนานแน่ะ

แล้วจะรออ่าน 10 หนัง เล่นจริง เจ็บจริง นะครับ เชื่อว่าต้องออกมาดีแน่นอน (แต่ก่อนจะเขียนต้องดูก่อนใช่มั๊ย น่าสงสารเนอะ ต้องดูหนังแบบนี้ตั้ง 10 เรื่องแน่ะ อิๆๆ) ท่าทางไบโอเล่มนี้จะขายดีแฮะ


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:23:03:50 น.  

 
คุณพี่เมอร์ นะ มีอะไรให้เซอร์ไพร์อยู่เรื่อยเลย


โดย: mcspancer IP: 125.27.22.119 วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:23:45:44 น.  

 
โอ้ น้องเมอร์ช่างคิดได้ลึกซึ้ง

ว่าแต่ ปกไบโอเล่มใหม่นี่ เหมือนจะสวย แต่ติดอะไรบางอย่างอยู่แฮะ


โดย: เสจัง IP: 124.121.165.59 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:0:10:18 น.  

 

ตอบ Nighty

รอบที่ 4 แล้วจ้ะ พี่ก็หวังว่าคงจะเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน



ตอบ grappa

>เพศสภาพอันหลากหลายนั้น กำลังทำให้ความเป็นหญิงถูกผลักไปอยู่ชายขอบแล้ว

อืม อันนี้พูดอีกก็ถูกอีก



ตอบ kc

คงใช้เวลาสักพัก ถึงจะวางทั่วอ่ะจ้ะ



ตอบ สาวไกด์ใจซื่อ

ต้องให้เด็กๆ ดูหนังเรื่อง Alexander 55555



ตอบ nanoguy

พี่เองก็เคยดูหนังของอารากิ ไปไม่กี่เรื่อง เพราะว่าบางเรื่องมันไม่มีซับอิงค์อ่ะ เลยไม่กล้าซื้อมาดู (พูดแสลงกันไฟแล่บ)



ตอบ SoundSynDrome

ร้านพี่คนนั้นมีจ้ะ



ตอบ แฟนผมตัวดำ

ใช่แล้ว เขียนบทความในไบโอเล่มนี้ เล่นเอา sex เสื่อมไปเลย (แต่คิดว่าเค้าเลือกให้เราเขียน เพราะเรายังไม่มีเคยมี sex เลยน่าจะยังมีจินตนาการหลงเหลืออยู่ 555)

รูปแรกนี่ตอนแรกก็กลัวว่าแรงเกิน แต่เมื่อคืนนั่งคิด ก็แบบว่าเราถูกโปรเจคต์มาในหัวนี่หว่าว่าจู๋เป็นสิ่งต้องห้าม (ขอเรียกว่า มายาคติแห่งจู๋ แล้วกัน) เลยช่างแม่ง โพสต์โลด



ตอบ mcspancer

เซอร์ไพรส์นี่ยังไงเหรอ (ไม่ใช่ว่านี่กลายเป็น blog come out นะ 5555555)



ตอบ เสจัง

อืม ปกนี้ไม่ค่อยโดนเหมือนกัน (เบย์อย่าโกรธเราน้า 55)


โดย: merveillesxx วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:2:12:00 น.  

 
อืม มายาคติแห่งจู๋ น่าสนใจ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:10:59:21 น.  

 
หนังอารากิ ถึงมีซับ Eng ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
เลยแอบงอนว่าทำไมไม่ทำซับไทยบ้าง เชอะๆ


โดย: บิ๊ง IP: 118.174.33.248 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:13:10:00 น.  

 
ถ้ามองทุกเพศเป็นมนุษย์ ก็ไม่มีอะไรแปลกและตื่นใจอีกต่อไป

หนังบางเรื่อง พล็อตเหมือนหนังรักชาย-หญิง แต่มันหวือหวาขึ้นเป็นเพราะเปลี่ยนเป็นชายชายแค่นั้นเอง

เราไปสำรวจโลกของแมลงกันดีกว่า
5555


โดย: visuallyyours IP: 58.8.229.115 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:14:10:06 น.  

 
ปกเก๋มาก ยังไม่ได้เลยดูเลยทั้ง2เรื่อง อยากดูมากกกก จะแวะไปตามเก็บแถวสีลม


โดย: ennisdelmar IP: 125.24.245.226 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:21:10:58 น.  

 
"THE REVOLUTION IS MY BOYFRIEND"


โดย: black forest IP: 125.24.219.85 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:39:28 น.  

 
วันนี้เดินสวนกับ mer ตอนข้ามถนนในสยามแสควร์ด้วยครับ
จะเรียกทักก็กระไรอยู่ ไม่เคยคุยกันมาก่อน เดี๋ยวจะเอ๋อกันทั้งคู่
เอาเป็นว่าตัวจริงเหมือนในรูปเปี๊ยบ 666

(เดี๋ยว ไปสยามจริงๆใช่มั๊ยเนี่ย คงไม่ใช่ว่าจำผิดคน 666)


โดย: KjkGs IP: 58.136.95.126 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:0:43:22 น.  

 
^
^
ใช่แล้วแล วันนี้ไปสยามมา

ดีแล้วที่ไม่ทัก ร้อนมาก กำลังคลั่ง 555


โดย: merveillesxx วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:1:47:22 น.  

 
หนังน่าสนใจดีอ่ะ แต่หลังๆนี้พี่ต่อเริ่มเหมือนนักต่อสู้เพื่อสิทธิของพวกรักร่วมเพศเข้าไปทุกวัน (สาวที่สนใจพี่ไม่กล้าจีบเลย ไม่รุเพศสภาพที่แน่ชัดของพี่)

สงกรานต์นี้ไปสาดน้ำให้หนุกน้า


โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.41.190 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:2:43:44 น.  

 
เป็น Sub ไทยรึเปล่าอ่ะครับ ?


โดย: SoundSynDrome IP: 124.120.141.148 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:4:28:33 น.  

 
คุณผู้หญิงท่านหนึ่ง (ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นตัวแทนจากองค์กรไหน)

อยากรู้ไหม อยากรู้ไหม

อุอุ


โดย: พรเก้าประการ วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:12:32:12 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: จูริง วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:10:40:00 น.  

 
โปสเตอร์เรื่องแรกดูโหดดุ จัง
ธรรมชาติสร้าง ชาย+หญิง แต่ไฉนเลยจะเปลี่ยนไปได้ไง
เราอาจจะฝืนธรรมชาติไม่ได้ แต่เราห้ามใจตัวเองไม่ได้เช่นกัน


โดย: haro_haro วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:10:49:19 น.  

 
น้องต่อเขียนดีจังบทความนี้ เยี่ยม!

เพศสภาพอันหลากหลายนั้น กำลังทำให้ความเป็นหญิงถูกผลักไปอยู่ชายขอบแล้ว ไม่ยอมเฟ้ย <---- พี่ grappa
55555555


โดย: เอกเช้า IP: 124.120.188.233 วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:12:16:29 น.  

 
อ่านที่ท่านเขียนแล้ว....โห....


โดย: alienboon IP: 124.120.160.187 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:00:48 น.  

 
เข้ามาสวัสดีวันสงกรานต์ครับ


โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:11:27:21 น.  

 
ดู shara ได้สิบกว่านาทีแล้วจะหลับเอาน่ะ
สงสัยจะไม่ชอบลูกรักของคานส์

แต่ชอบ sakuran แฮะ น้องเมอร์ควรไปหามาดูแล้วเขียนถึงนะ

ความที่เพลงมันเปรี้ยวมาก ทำให้คิดถึงมรี อังตัวแนตต์หน่อยๆ

ภาพจากหนังเรื่องนี้ก็สวยดีนะ ไม่สวยวีนๆ สวยแบบมุมกล้องสวยๆ เลยน่ะ

ป.ล.สงสัยวันนี้ต้องไปวิ่งว่ะ อิ่มจัดจากเมื่อวาน
ตกลงวันนี้ต้องไปกินเอ็ม เค วันคอรบครัวหรือเปล่า
โชคดีเน้อ


โดย: grappa IP: 58.9.190.27 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:12:54:43 น.  

 
อ่อๆ ลืมบอกไปว่า หนัง sakuran มันต่างจากที่พี่คิดไปนิด
นึกว่าหนังมันจะเปรี้ยวๆ วีนๆ
ที่ไหนได้ มัน"พาฝัน" นี่หว่า

ไม่ค่อยชอบตอนจบเท่าไรนัก ค่าที่มันดูพาฝันไปหน่อย
แต่โดยรวมทั้งหมดก็โออยู่นะ

เหนือชั้นกว่า เมมมัว ออฟ อะ เกอิชามากมาย
อันนั้นมันลิเกฝรั่งชัดๆ


โดย: grappa IP: 58.9.190.27 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:13:04:37 น.  

 
^
^
อ้าว ซะงั้น 5555

Shara มันก็ค่อนข้างนิ่งๆ อ่ะพี่

แต่แค่ฉากแรกต่อก็ตื่นเต้นแล้วนะ มันเคลื่อนกล้องกันสวิงสวายสุดๆ (นึกว่าหนัง thriller ซะอีก)

สรุปไปกิน MK มาจิงๆด้วย นับจากนี้ไป จะกินแต่ข้าวต้มแล้ว เฮ้อ


โดย: merveillesxx วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:22:49:05 น.  

 
นอกจากเพศสภาพแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่คนเราถูกผูกมัดไว้กับกรอบสังคม
และคนที่ไม่ทำตามกรอบนั้น ก็จะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดหรือคนที่ควรถูกนำไปลงโทษ

คดีที่มีคนถูกฟ้องร้องโทษฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเนื่องจากไม่ยืนเวลาเพลงสรรเสริญดังในโรงหนัง น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี

ปล.เคยดูหนังคุณเกรกแค่ Mysterious Skin เรื่องเดียว
หนังพี่แกได้ใจมากๆ ครับ


โดย: ฟ้าดิน วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:3:59:58 น.  

 
^
^
555555555555

คุณได้พูดสิ่งที่ผมอยากพูดออกมาแล้ว อิอิอิ


โดย: merveillesxx วันที่: 17 เมษายน 2551 เวลา:11:55:15 น.  

 

comment from PANTIP.COM


ความคิดเห็นที่ 2

ว้าว น้องเมอผู้โด่งดัง มาปลุก Gay Power วันสงกรานต์เลยนะ

เอ่อ... แต่ถึงพี่จะเป็นเกย์ พี่ก็ยังฝันจะเกิดใหม่มาเป็นคนท่มีความสัมพันธ์แบบ ชาย- หญิง ธรรมดา

สงสัยโดนครอบงำ และถูกมอมเมาจากสื่อมาตลอด อิ อิ



เพราะความรักของเกย์มันดูมีความหวังอยู่น้อยนิด

พยายามจะเป็นเกย์คิดบวก.... แต่ความเป็นจริง คือ ต้องอยู่เดียวดาย



พยาย้าม พยายามดูหนังเกย์หลายๆเรื่อง แต่หนังเกย์ส่วนใหญ่มักเน้นเรื่องเพศ (แบบไม่นุ่นนวล ค่อนไปทางน่ากลัว)

โชคดีที่มีหนังแบบ รักแห่งสยาม มาเบรค ไว้

แต่ไหง กับรู้สึกเฉยๆ กับหนังเรื่องรักแห่งสยาม ไม่รู้? ไม่โดนเท่าไหร่

ดูเรื่อง Get Real ยังอินกว่า

เฮ้อ!!!

ปล. ผู้ชายที่ยังเผื่อใจกับ คำถามที่ว่า จะรักผู้ชายด้วยกันได้มั้ย

คิดว่าน่าจะมีความเป็นเกย์แฝงอยู่นะ

เพราะเคยตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่าจะรักผู้หญิงได้มั้ย

คำตอบ คือ.... ไม่มีทาง อาจจะรักแบบเพื่อน แต่ยังไงก็โหยหาผู้ชายมา "เติมเต็ม"อยู่ดี



..... ไม่อยากให้เกย์หลายคนต้องหลอกตัวเอง และทำตาม กรอบของสังคม โดยการแต่งงานกับผู้หญิง มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย เป็นการลากคนอื่นมาเจ็บปวดกับเราด้วย


เอ๊ะ อินจัดจริงๆเรา

แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 51 03:21:31

แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 51 03:16:33

แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 51 03:07:30

แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 51 03:06:48

จากคุณ : ThisLonelyMe - [ วันเนา (14) 03:03:36 ]







ความคิดเห็นที่ 3

กระผมชอบนะขอรับ กับการเรียนรู้จากหลายๆ มุมมอง


ขอบคุณสำหรับภาพยนตร์ที่แนะนำขอรับ









จากคุณ : ladydunce - [ วันเนา (14) 09:14:20 ]






ความคิดเห็นที่ 4

ผู้หญิงก็ต้องตกงานสิคะเนี่ย

เครียดดดดดด - -''

จากคุณ : nuni (Just blue day) - [ วันเนา (14) 11:18:28 ]






ความคิดเห็นที่ 5

ผมชอบบทความของคุณครับ คุณ merveillesxx
อยากดูหนังเรื่องแรกมาสักพักแล้ว สงสัยคงได้ดูจริงๆก็คราวนี้

จากคุณ : smile_man (DerKampfer) - [ วันเนา (14) 13:05:16 ]






ความคิดเห็นที่ 6

ขอบคุณสำหรับ บทความ

ปล.ผู้หญิงไม่ตกงาน หรอกครับ ถ้าเลือกให้ดี

จากคุณ : arm702 - [ วันเนา (14) 14:47:31 ]






ความคิดเห็นที่ 7

ตามไปหามาดูให้หมด

จากคุณ : Koraja - [ วันเนา (14) 15:05:23 ]






ความคิดเห็นที่ 8

ว้าย ไม่ได้จะปลุกกระแส Gay Power นะ 55555

จากคุณ : merveillesxx - [ วันเนา (14) 22:26:39 ]






ความคิดเห็นที่ 9

โอ่ เขียนได้เยี่ยม

จากคุณ : blueboyhub - [ 17 เม.ย. 51 14:35:26 ]


โดย: merveillesxx วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:1:08:46 น.  

 
+ ฮุๆ อ่านใน ไบโอฯ แล้วเช่นกันครับ น้องต่อเขียนได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย
+ ใช่ครับ ... พี่ก็มีความรู้สึกว่า เส้นแบ่งอันเคร่งครัดทางเพศสภาพมันควรจะเลือนหายไปซะที ... อ้ายคำพูดประเภท "อันนี้ผู้ชายเค้าไม่ทำกัน, ไม่เห็นผู้ชายจะชอบแบบนี้เลย" เทือกๆ เนี้ยะ โคตรจะเซ็งเลยอ่า

+ รูปแรกของหน้านี้ แรงได้ใจม๊าก มาก ... ชักอยากหา Raspberry กับ Doom gen. มาดูซะแล้นแฮะ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:19:30:40 น.  

 
สุดยอดนะอันเนี่ย
ลึกและล้ำดี


โดย: ewter IP: 125.24.154.239 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:17:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

merveillesxx
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




สำส่อนทางการดูหนัง ฟังเพลงและเสพวรรณกรรม
New Comments
Friends' blogs
[Add merveillesxx's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.