ทัวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.2 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ --------------------------------------------------------------------- เปิดตัวด้วยรูป สวนใกล้ๆๆสำนักชีหลิน ทริปคราวๆๆที่วางไว้ก่อนไปเที่ยวค่ะ พอไปแล้วไม่ได้ตรงตามทริป มีเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยค่ะ ติดตามดูที่รูปได้นะ วันเสาร์ที่ 12 เมษายน 2551 6.oo น. : ตื่นและทำธุระส่วนตัว 7.00 น.–7.3o น. : ออกจากที่พัก แวะหาอาหารเช้ารับประทาน 9.00 น. : เดินทางสุ่ สำนักชีหลิน เปิดให้ชมฟรี (ปิดวันพุธ) เวลาทำการ 9.00-16.30น. การเดินทางไปสำนักชีหลิน : ลง MRT Diamond Hill ประตูC1 เดิน5นาที (เดินอ้อมชมสวน ได้ถ่ายรูปสวยเพิ่ม) 10.30 น. : เดินทางไป วัดหวังตาเซียน เปิดเวลา 7.00-17.30 น.ตรงนี้มีห้างสรรพสินค้า ที่ชั้น1 มีร้านอาหารให้เราไว้ฝากท้องก่อนชมวัดด้วย การเดินทางไปวัดหวังตาเซียน : MTR Wong Tai Sin ทางออกประตู B3 ถึงทางเข้าวัดเลย เดินเลี้ยวขวา 11.30 น. : เดินทางไปวัดเจ้าแม่กวนอิม การเดินทางสู่วัดเจ้าแม่กวนอิม (Tin Hau Temple) : สถานีCentralทางออกA  ขึ้นรถเมล์ใต้ตึกExchange Square(ค่ารถประมาณ7.8HKD) รถเมล์สาย 6, 6A, 6x, 66, 260 (หรือสายที่จะไปStanley)  ลงป้าย Repulse Bay ลงบันไดทางลงหาด เลี้ยวซ้ายเดินชมวิวทะเลเลาะริมหาด ประมาณ200-300เมตร แนะนำ : ให้นั่งชั้น2 หน้าสุดจะได้เห็นวิวสวยๆๆ (ป้ายที่ลงสังเกตตึกที่มีรูตรงกลาง) 13.00 น. : เข้าสู่วัดเจ้าแม่กวนอิม นมัสการกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิม และ เจ้าแม่ทับทิม ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เคล็ดลับ ให้ใช้มือลูบตั้งแต่เคราถึงถุงใส่เงินแล้วกำมาใส่กระเป๋าตัวเอง รับรองรวยเละ แล้วข้ามสะพานต่ออายุ อย่าลืมเดินเป็นวงกลมเพื่ออนำสิ่งไม่ดีออกจากตัว แล้วจึงเดินข้ามสะพาน เชื่อกันว่าข้าม1ครั้งอายุยาวขึ้น3ปี (ห้ามข้ามถอยหลังเด็ดขาด อายุจะสั้นลง3ปี) ให้เดินกลับอ้อมมาอีกด้าน ไปโยนเหรียญเข้าปากปลาขอพรแล้วจะสมหวัง หมายเหตุ : ถ้าหิวข้าว ใกล้ๆๆกันมีห้างแวะกินข้าวได้ หรือ จะนั่งรถเมล์สายเดิมไป Stanlay Market เพื่อเดินช๊อปปิ้งของพื้นเมืองและแวะทานข้าวได้ 15.00 – 15.30 น. : ไปขึ้น The Peak & Peak Tram หมายเหตุ : ค่าโดยสารขึ้นThe Peak Tram ไป-กลับ 33 HKD การเดินทางไป The Peak : นั่งรถเมล์กลับทางเดิม มา MRT Central ต่อด้วยทางเลือก 2 ทาง คือ 1. นั่งรถเมล์สาย 15C เปิดประทุนไปลงสถานี Peak Tram Lower Terminus 2. เดินจากตึก Bank of china ไปตามถนน Garden Road ประมาณ 10 นาที 17.00 ลงจาก The Peak โดยกลับทางเดิม ไปนั่งเรือที่ท่า Star Ferry ข้ามไปฝั่งจิมซาจุ๋ย เพื่อชมการแสดงแสงสีเสียง Symphony of light ที่อ่าว Victoria ฝั่งเกาลูน เริ่มแสดง2ทุ่ม ใช้เวลา15นาที หากมีเวลา ไปถึงก่อนให้เดินเล่นแถว Avenue of star ตามหารอยฝ่ามือดาราที่โปรดปราน แถวนี้มีร้านกิ๊ปช๊อป ของที่ระลึก ของทานเล่นด้วย ตามทางจะมีสถานที่แวะถ่ายรูป เช่น Clock Tower ,HK Cultural Centre ,HK Museum of Art , HK Space Museum หมายเหตุ : จุดที่เหมาะสมสำหรับชมการแสดงอยู่ที่ช่วงระหว่างท้องฟ้าจำลอง กับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เพราะตรงนี้เห็นตึกที่สำคัญแทบทุกตึกและฟังคำบรรยายได้ชัดเจนสุด 20.30 น. รับประทานอาหารเย็นย่านถนน Ashley เดินช๊อปปิ้งย่านถนน Canton มีห้างLippo Sun Plazza ,Silvercord Centre ,Harbour City Gate way ,Harbour City Ocean Center , หรือช๊อปปิ้งย่านถนน Nathan และถนน Granville กลับที่พัก -------------------------------------------------------------------------- ออกเดินทางไปหาโจ๊กกินที่แถว YAU MA TEI ไม่รู้จักชื่อร้านค่ะ เป็นภาษาจีน ง่า.. วิธีไปก็ง่ายๆค่ะ ขึ้น MTR ลงที่สถานี YAU MA TEI ทางออกC อยู่ริมถนน NATHAN ก่อนถึง WATERLOO ร้านอาหารที่ฮ่องกงส่วนใหญ่จะมีแต่น้ำร้อนให้กินค่ะ ไม่มีน้ำแข็งเหมือนบ้านเราเลย แต่ที่แปลกคือ คนแก่เค้าจะเอา ตะเกียบกับช้อนส้อม จุ่มลงไปในน้ำเพื่อทำความสะอาด แล้วยังเอาน้ำแก้วนั้นมากินค่ะ จะสะอาดมั้ย หรือแค่อยากให้ช้อมส้อมตะเกียบร้อน เริ่มด้วย น้ำเต้าหู้ กับ ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ร้อนมากค่ะ ที่โน้นกินแต่ของร้อนๆๆ จะลวกปากง่ะ อร่อยมากเลย ชอบกลิ่นน้ำเต้าหู้ที่โน้นจะไม่เหมือนเมืองไทยเลย มันกินแล้วรู้สึกชุ่มชื่นดีค่ะ ส่วนปาท่องโก๋ที่โน้นทอดแบบค้าง จนหายร้อน เลยเฉยๆๆ แต่ว่าตัวนึงมันจะใหญ่มากค่ะ สั่งมา1อัน เค้าก็ตัดแบ่งเป็นอันเล็กๆๆให้ค่ะ อันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอด อร่อยค่ะ อร่อยสุดที่ได้กินที่ฮ่องกง ลองร้านอื่นแล้วมันเฉยๆๆ แต่แป้งที่นี้เค้าทำได้อร่อยจิงๆๆค่ะ ส่วนผักที่โน้น อร่อยมากค่ะ ไม่ว่าจะกินร้านไหน ผักสดมากๆๆๆ ไม่ขมด้วยค่ะ เยี่ยมๆๆ สุดยอด (ยกนิ้วให้ผัดผักด้วยทุกร้านอร่อยหมดเลย) ขนาดไม่ค่อยชอบกินผักนะค่ะเนี่ย โจ๊กหมูค่ะ แล้วก็มีสั่งโจ๊กเนื้อปลาสไลด์กับลูกชิ้นหมู โจ๊กที่โน้นชามใหญ่มาก คนกินน้อยก็สามารถแบ่งกันกินได้2คนค่ะ (อาหารอย่างอื่นเค้าก็ชามใหญ่ค่ะ) ก็อร่อยดีค่ะ แต่ค่อนข้างธรรมดา แต่ว่ามอยู่ร้านนึงเด็ดมาก จะมาลงให้ดู ติดตามต่อไปนะค่ะ แล้วนั่งMTR ไปสำนักชีหลิน เปิดให้ชมฟรี (ปิดวันพุธ) เวลาทำการ 9.00-16.30น. การเดินทางไปสำนักชีหลิน : ลง MRT Diamond Hill ประตูC1 เดิน5นาที ขึ้นจากรถไฟใต้ดินแล้วก็เดินตามป้ายบอกทางเลยค่ะ ไม่ไกลเลย เดินอ้อมชมสวนสักหน่อย สวนที่นี่สวยมากเลย ห้องน้ำสะอาดมากด้วย มีเปิดเพลงให้ฟังด้วย เดินเพลินเลยค่ะ ถ่ายรูปสวยๆๆมาเพียบเลย แนะนำให้แวะเข้าไปค่ะ สวนที่นี่ก็จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบจีน และ เป็นสวนหิน มีจำลองน้ำตกไว้ด้วย ชอบที่นี่มากค่ะ อยากอยู่นานๆๆ ทางออกวัดจะมีทางเชื่อมกับสวนนี้เลย พอออกจากสวนแล้วเค้าห้ามเดินย้อนกลับไปค่ะ จะมียามกั้นประตูอยู่ วันที่ไปมีเด็กกับผู้ปกครองมาทัศนศึกษาด้วยค่ะ เด็กๆๆน่ารักเยอะแยะไปหมดเลย อาหมวย อาตี๋ เห็นแล้วอยากหยิกแก้ม หมั่นเขี้ยว 555 สวยมั้ยค่ะ อยากไปฮ่องกงแล้วรึเปล่า ถ่ายจากแผนที่มาอีกทีค่ะ ถึงสำนักชีแล้วค่ะ เป็นไม้ทั้งหลังเลยค่ะ สร้างได้สวยงามมากจิงๆๆเลย ไม่ค่อยมีคนไปด้วยค่ะ เงียบสงบดี วิวก็สวยด้วย มีเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ๆๆ หลายองค์ข้างในค่ะ ส่วนข้างในเค้าห้ามถ่ายรูปค่ะ เลยไม่ได้ถ่ายมา ขออภัยด้วย จุดหมายต่อไปเราไปวัดหวังตาเซียนค่ะ การเดินทางไปวัดโดย MTR Wong Tai Sin ทางออกประตู B3 ถึงทางเข้าวัดเลย เดินเลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆๆ ให้สังเกตุทางเข้าที่มีขายโคมไฟสีแดงซอยเล็กๆๆค่ะ โคมแดงนี้ ขายกันพรึบเลย ทั้งแถบเลย ยิ่งกว่าเยาวราชอีกค่ะ น้ำพุดอกบัวค่ะ เค้าเดินวนขวา3รอบ แล้วอธิฐานขอพร โยนเหรียญให้เข้าในดอกบัวค่ะ แต่ว่าโยนไม่ถึง 555 ในนั้นมีที่เสี่ยงเซียมซี คนเขย่ากันใหญ่เลยค่ะ แต่ต้องเสียเงินค่ะ เดี๊ยวออกจากที่นี่ ไป วัดเจ้าแม่กวนอิม (Tin Hau Temple) กันค่ะ ตามมาเลยค่ะ นั่งMTR ไปลงสถานีCentralทางออกA แล้วขึ้นบันไดเลื่อนข้ามไปฝั่งห้าง Exchange Square ข้ามไปเสร็จ มีบันไดเลื่อนทางลงไปใต้ตึก ขึ้นรถเมล์ ค่ารถประมาณ7.8HK นั่งรถเมล์สาย 6, 6A, 6x, 66, 260 (หรือสายที่จะไปStanley) เก็บวิวสองข้างทางมาฝากค่ะ เห็นตึกสูงระรานตาไปหมด โครงสร้างตึกที่นี่ต้องแข็งแรงมาก โดยเฉพาะตึกสูงๆๆทั้งหลาย เพราะต้องรองรับแรงสั้นสะเทือนแผ่นดินไหวด้วย คนขับรถขับได้สะบั้นมากเลยค่ะ หัวใจแทบวาย เฉียดฉิวมาก แล้วรถที่นั่งเป็นรถ2ชั้น คนอยากชมวิวให้นั่งชั้นบน แต่คนกัวความสูงแนะนำให้นั่งล่างค่ะ เพราะระหว่างทางที่ไปมันขึ้นเขาลงห้วย555+ น่ากลัวมาก โดยเฉพาะฝีเท้าเฮียโชว์เฟอร์เค้าสุดยอดไปเลย ให้สังเกตุตึกนี้ไว้ค่ะ พอเห็นแล้วมายืนรอหน้าประตูเลย เดี๊ยวไม่ทันป้ายค่ะ เค้าเรียกว่าป้าย Repulse Bay จะมีลงบันได ทางลงหาด เลี้ยวซ้ายเดินชมวิวทะเลเลาะริมหาด ประมาณ200-300เมตร ก็ถึงวัดค่ะ ขอโดดโชว์บ้าง เห็นคนอื่นเค้าโดดกันมาเยอะแร้ว..วว สุดๆๆไปเลย เย้ๆๆ ฝึกกระโดดก่อนไปโดดที่ดีสนีย์แลนด์ ขอสักรูป 1 2 3 แฉ๊ะ!! ข้างทางที่เดินไปมีสนามเด็กเล่นค่ะ ใครพาเด็กไปก็ใช้เวลาที่ได้เลยค่ะ เห็นเด็กที่เล่นหน้าตามีความสุขม๊ากมาก ขอแวะถ่ายรูปซะหน่อย ถึงทางเข้าวัดแล้วค่ะ สวยดีค่ะ สำหรับคนไปครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจดีค่ะ มีเทพเจ้าองค์ใหญ่มากๆๆ เทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ คนไปกราบไหว้กันเยอะมากค่ะ องค์สูงใหญ่มาก ตัวคนเหลือเล็กจิดเลยค่ะ ไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย เคล็ดลับ ให้ใช้มือลูบตั้งแต่เคราถึงถุงใส่เงินแล้วกำมาใส่กระเป๋าตัวเอง รับรองรวยเละ กลับมาขายที่บ้านขายดีเลยค่ะ (จิงเป่าไม่รู้) สะพานต่ออายุ อย่าลืมเดินเป็นวงกลมเพื่ออนำสิ่งไม่ดีออกจากตัว แล้วจึงเดินข้ามสะพาน เชื่อกันว่าข้าม1ครั้งอายุยาวขึ้น3ปี (ห้ามข้ามถอยหลังเด็ดขาด อายุจะสั้นลง3ปี) ให้เดินกลับอ้อมมาอีกด้าน ข้ามไปแล้ว จะเห็นปลาตัวโต ให้ไปโยนเหรียญเข้าปากปลาขอพรแล้วจะสมหวัง เดินย้อนกลับมานั่งรถเมล์ที่ป้ายเดิมไป Stanlay Market เพื่อเดินช๊อปปิ้งของพื้นเมือง(ไม่มีแบรด์) ขายรองเท้า กระเป๋า อื่นๆๆ แวะทานข้าวที่นี่ค่ะ หิวมากมาย ใช้พลังตั้งแต่เช้าแล้ว 555 ร้านอาหารแถวนี้แพงจังเลยค่ะ จานละร้อย180KH upทั้งนั้นเลย เดินตั้งหลายร้านไม่กล้าเข้าค่ะ มีพวกจูงสุนัขแพงๆๆมาเดินกันด้วยค่ะ (แถวนี้เป็นถิ่นคนรวย บ้านแถบนี้มีแต่คนรวยพักกันค่ะ ที่นั่งรถผ่านมามีแต่บ้านสวยๆๆแล้วเป็นพวกบ้านเดี่ยวด้วยซิค่ะ รถที่ขับเป็นแบบพวกเปิดประทุนกันเงี้ย สุดยอด คนรวยเค้าเป็นแบบนี้ นี่เอง) เห็นร้านแม็คอยู่ลิบๆๆ เลยว่าจะเข้าไปกิน ราคากันเอง สบายกระเป๋ามากกว่า อ้าว เดินเข้าไปไม่ช่ายร้านแมคโดนัลหนิน่า คนขายเป็นอาเจ๊ก อาซิ้ม ขายก๋วยเตี๋ยวแทน ดูดู๊ดู ดูเธอทำ ทำไม่ถึงทำกับฉันด้าย..ยย หลอกให้เดินมาซะสุดทาง แต่ป้ายร้านเป็นแม็คซะเบิ่อเริ้ม เอาว่ะ ราคาไม่แพงลองดูก็แล้วกัน เอาชีวิตมาเสี่ยงไปมั้ย แต่ว่าก๋วยเตี๋ยวก็ดูน่ากินดี มีคนท้องถิ่นหน้าจีนกินกัน2โต๊ะ อันนี้เป็นคอหมูย่างค่ะ (ออเดริฟ์) อร่อยดี เหมือนคอหมูย่างบ้านเราเลยค่ะ นึกถึงบ้านเก่า บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง น้ำซุปอร่อยมากเลยค่ะ หวานละมุนเคล้ากลิ่นกระดูกหมู ที่เคี่ยวจนได้ที่ ส่วนเส้นก็อร่อย ลวกได้กำลังดี ไม่แฉะ ไม่แข็งเกิน เคี้ยวหนุบ เกี๊ยวกุ้งเต็มคำ ไม่น่าเชื่อเลย ว่าร้านเล็กๆๆอย่างนี้จะอร่อยขนาดนี้ ใครไปแนะนำให้ไปกินด้วยนะค่ะ ไม่ได้ค่าโฆษณา จากอาเจ๊กเค้านะค่ะ (ขอบอก) บะหมี่หมูแดง อร่อยค่ะ หมูนุ่มปานกลาง เหมาแก่การเคี้ยวกำลังดี ส่วนน้ำซุปกับเส้นก็อย่างที่บอกไปค่ะ สุดยอดค่ะ ตอนแรกที่สั่งก็ดูเมนูไม่รู้เรื่องค่ะ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ให้คนขายเค้าแนะนำ เค้าชี้ที่รูปแล้วบอก WANTON NOODLE (บะหมี่เกี๊ยว) อร่อย ก็เลยสั่งมาค่ะ อันนี้เป็น บะหมี่เกี๊ยวเนื้อวัวผสมผัก คนกินบอกว่าเกี๊ยวเค้าอร่อยมากค่ะ ขอย้ำ อร่อยๆๆๆ แต่มันมีแบบใส่เนื้อวัวกับผักด้วย ระวังอย่าสั่งผิดนะค่ะ จากนั้นก็นั่งรถเมล์กลับทางเดิม มา MRT Central ต่อด้วยทางเลือก 2 ทาง คือ 1. นั่งรถเมล์สาย 15C เปิดประทุนไปลงสถานี Peak Tram Lower Terminus 2. เดินจากตึก Bank of china ไปตามถนน Garden Road ประมาณ 10 นาที พอดนั่งรถเมล์ผ่านตึกBank of china มันไม่มีป้ายลงเมล์ตรงนั้น ก็เลยลงรถเมลป้ายต่อไป ที่หน้าห้าง...(ชื่อรัยจำไม่ได้ค่ะ) แล้วเดินย้อนกลับมาทาง Bank of china มีป้ายบอกตลอดทางไปเลยค่ะ เดินไปเรื่อยๆๆ จะผ่านโบสถ์ มีคนกำลังแต่งงานกันด้วยค่ะ พอเห็นตึกนี้เดินมาอีกไม่ไกลก็ถึงค่ะ ถ้าไปแนะนำให้ไปก่อน5โมงเย็นค่ะ เพราะคนเลิกงานจะมาต่อคิวยาวมากๆๆ แต่ถ้าต้องการชมวิวค่ำคืนก็ไปดึกๆๆก็ได้ค่ะ ถึงแล้วค่ะ คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่เลย คิวไม่ยาวมากค่ะ ค่าโดยสารขึ้นThe Peak Tram ไป-กลับ 33 HKD ตอนเดินเข้าไปก็จะจัดดิสเพลย์เป็นประวัติความเป็นมาของรถรางขึ้นเขาอันนี้ค่ะ อีกซักรูปค่ะ เป็นรถรางรูปแบบต่างๆๆ ที่เคยใช้ น่ารักดีค่ะ รถมาแล้วค่ะ ตื่นเต้นจังเลย รถมาแล้วแต่เค้าให้คนที่ลงมาได้ลงอีกฝั่งให้หมดก่อน แล้วค่อยปล่อยให้คนขึ้นไปค่ะ ตอนขาขึ้นThe Peak ได้นั่งค่ะ แต่นี่เป็นรูปตอนขาลง ให้เห็นวิวรอบข้างฮับ ตอนนั่งไม่รู้สึกหวาดเสียวเท่าไหร่ ตื่นเต้นดีค่ะ ตอนขากลับต้องยืนแล้วมันลาดเท หน้าทิ่มลงไป หน้ากลัว+หวาดเสียวค่ะ เหมือนเล่นเครื่องเล่นซักอย่างในสวนสนุกเลย ขึ้นไปข้างบนนั้นเหมือนห้าง มีขายของกระจุกกระจิก มีร้านนาฬิกา ร้านอาหาร อื่นๆๆ มีพิพิธภัณฑ์ มาดามทูสโซ่ด์ (Madame Tussauds) ไม่ได้เข้าไปต้องเสียค่าเข้าแพง ราคาเป็นเงินไทยแล้วเป็นพันบาทต่อคนเลยค่ะ ขอแค่ถ่ายรูปข้างหน้าก็พอ อิอิ มีรูปคุณบูสลี อีกคนด้วยค่ะ หลังจากจับมือดารามาแล้ว ก็ขึ้นไปข้างบนชมวิวของเมืองฮ่องกงกันค่ะ เอารูปร้านขายน้ำปั่นมาให้ดู เป็นการจัดร้านแบบกิ๊บเก๋ ให้สังเกตุบนเพดาน จะมีรางรถไฟวิ่งวนไปมา บนรถไฟมีผลไม้ประดับอยู่ เห็นแล้วน่ารักดีเลยเอามาฝากค่ะ ขึ้นมาแล้วอากาศข้างบนค่อนข้างเย็นค่ะ พกเสื้อคลุมไปก็ดีนค่ะสำหรับคนขี้หนาว อากาศข้างบนดีมากๆๆ แต่จมีจุดชมวิวที่สูงขึ้นไปอีก แต่ต้องเสียค่าเข้าไปด้วยค่ะ เสียเงินเราไม่ดู นิยมของฟรีอีกแล้วค่ะ 555 จะมีจุดชมวิวอีกทีค่ะ เป็นศาลาต้องเดินไปนิดหน่อยค่ะ ข้างทางที่เดินไป มีอาแปะรับจ้างรถเข็นด้วยค่ะ ใช้บริการได้นะค่ะ รึจะไปถ่ายรูปก็ได้ แต่ก็เสียเงินอีกแล้วค่ะ ระหว่างทางจะมีขายรูปภาพวิวของฮ่องกง ซึ่งราคาแพงมาก ตรงนี้เป็นจุดชมวิวคับ มองไม่เห็นวิวเลย หมอกเยอะมากค่ะ ถ้าไม่มีหมอกคงจะดี จะได้เก็บรูปสวยๆๆมากฝาก เฮ้อเสียดายจัง แล้วนั่งรถเมล์ สาย15C ไปท่าเรือ STAR FERRY ต่อเพื่อข้ามเรือไปฝั่งจิมซาจุ๋ย มันใกล้กันมากกว่าเดินไปรถไฟใต้ดินค่ะ เป็นอีกบรรยากาศในการเดินทาง รถเมล์เค้าดีกว่าที่ไทยเยอะเลยค่ะ แอร์เย็น เบาะนั่งสบาย บ้านเราน่ามีบ้าง สะดวกสบาย ลืมบอกไปค่ะ ขึ้นรถเมล์ข้างหน้าทางขึ้นเดอะพีคค่ะ ถึงท่าเรือแล้วค่ะ ตื่นเต้นๆๆ ได้นั่งเรือชมวิวข้ามฝั่งด้วยค่ะ คนเยอะมากเลยตอนรอคิวขึ้นเรือที่ท่า มันเป็นช่วงเย็นด้วย คนเลิกงานค่ะ ข้ามฝั่งมาแถวClock Tower แวะซื้อไอติมที่เค้าบอกว่าอร่อย พอกินแล้วรู้สึกเฉยๆๆ เหมือนไอติมแมคโดนัล แบบ7 บาทอ่ะค่ะ ราคาโคนละ 7 HKD ช่วงที่ไปมีจัดโชว์ตัวมาสคอสของโอลิมปิกที่จัดที่จีนค่ะ น่ารักมากเลยง่ะ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟสีสรรสวยงาม แจ่มๆๆ แถวนี้จะมีจุดถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ เช่น Clock Tower ,HK Cultural Centre ,HK Museum of Art , HK Space Museum ,Avenue of star ถ้าใครมีเวลาแวะเข้าไปได้นะค่ะ จัดโชว์ศิลปะต่างๆๆๆ พอดีไม่มีเวลาเลยขอแค่ถ่ายรูปข้างหน้าค่ะ ถ่ายกันเข้าไปค่ะ รูปปั้นจำลอง มาถึงนี้แล้วเดี๊ยวเค้าหาว่ามาไม่ถึง สู้ๆๆ ตามล่าหาฝ่ามือดาราที่ชอบ ไม่ค่อยรู้จักดาราเลย วัดๆๆไปงั้นแหละ แต่คนที่เราต้องตามหาคือ เฉินหลงนี่แหละค่ะ คนวัดมือจนปูนรอยนิ้วสึกลงไปเลย ง่าๆๆ จริงๆๆแล้ววันนี้จะรอดูการแสงสีเสียง Symphony of light ที่อ่าว Victoria ฝั่งเกาลูน เริ่มแสดง2ทุ่ม ใช้เวลา15นาที วันเสาร์วันนี้มีจุดพลุด้วย แต่ว่าเดินไปรับ สมาชิกอีก4คนที่กลับไปนอน พักที่โรงแรม แล้วเดินกลับมาดูไม่ทัน ก็เลยเลื่อนไปดูวันพรุ่งนี้แทนค่ะ แถว Avenue of star มีห้างสรรพสินค้า ก็เลยแวะไปห้าง NEW WORLD CENTER เข้าห้องน้ำ และแวะซื้อแป้งพับของ Clinic กับครีมรองพื้นของ shu uemura ราคาถูกกว่าไทยนิดหน่อยค่ะ แต่ซื้อเครื่องสำอางค์ต่างประเทศ ส่วนใหญ่เค้าจะแถมของทดลองให้ เคาท์เตอร์ที่เมืองไทยพนักงานส่วนใหญ่ชอบเก็บไปขาย(บางคนนะค่ะ)ขออภัยที่พูดความจิง จากนั้นเดินทะลุห้างมาถนน PEKING ROAD มาที่ถนน CANTON แหล่งช๊อปปิ้งมีรายล้อม2ข้างทางเลยทีเดียว เย็นแล้ว หิวๆๆข้าวจัง แวะมากินข้าวกันที่ร้าน SWEET DYNASTY บนถนน CANTON เชิญเลยค่ะ มานั่งกินกัน เป็นร้านที่คนในเวปบอร์ดดังลงรีวิวแนะนำค่ะ ไปกินกับแฟน2คนค่ะ ก่อนเวลาเจอสมาชิกอีก4คน เปิดตัวเมนูด้วยบะหมี่เกี๊ยวกุ้ง ก็อร่อยดีค่ะ เกี๊ยวกุ้งอร่อยดี แต่ถ้าเทียบกับร้านตรงไป Stanlay Market ตรงตลาด Stanlay อร่อยกว่าค่ะ ผัดผักอะไรไม่รู้ค่ะ ในเมนูบอกว่าเป็นBALL ซักอย่าง ก็เลยสั่งดู คงเป็นพวกผักฟักแม้ว ลูกกลมๆๆ มั่งค่ะ อันนี้ อร่อยมากค่ะ ยกนิ้วให้เลย ก๋วยเตี๋ยวหลอด อันนี้ก็ใช้ได้ โอเคในระดับนึง แต่สู้ตรงร้านโจ๊กไม่ได้ฮับ แฟนชอบกินไช้เถ้า ก็เลยลองสั่งมาดู อันนี้แฟนบอกว่าเฉยๆๆค่ะ อิ่มมากเลยค่ะ อาหารที่โน้นจานใหญ่ ไม่เหมือนที่ไทย แต่ว่าราคาอาหารที่ไทยถูกกว่า ก็เหมาะสมดีฮับ หม่ำเสร็จแล้ว ก็เดินย่อยต่อฮับ ไปซื้อไก่หวานเป็นแผ่นๆๆ เหมือนหมูแผ่นหวาน อร่อยดีค่ะ เป็นเหมือนกลิ่นรมควันหน่อยๆๆ ซื้อกลับบ้านไม่ฝากแม่ ครึ่งโล ราคา170HKD อยู่ที่ HAIPHONG ROAD ถ้าไม่เข้าตู้เย็นอยู่ได้5วัน ถ้าเข้าตู้เย็นจะอยู่ได้ครึ่งเดือน (15วัน) ออกจากตู้เย็น ถ้าอยากกินร้อนๆๆ ก็เข้าเวปแล้วครอบฝาด้วย ไม่งั้นก็เอาไปนึงในหม้อหุงข้าวตอนข้าวใกล้จะสุก กินกับข้าวต้มรึข้าวสวยร้อนๆๆ พอเจอสมาชิกจนครบแล้ว ก็ไปกินบะหมี่เป็ดกับข้าวหมูแดง อีกร้านที่หมึกแดงไปชิม อร่อยค่ะ แต่ไม่ถ่ายรูปมาให้ดู แต่ว่าหมูแดง กับ เป็ด อร่อยมากๆๆค่ะ ร้านนี้เมนูเป็นภาษาไทยด้วย ได้DVD คอนเสริต หลิวเตอหัว มาด้วยค่ะ แพ็คเกจสวยน่าซื้อสะสม ตกเงินไทยแล้วแปดร้อยกว่าบาท จากนั้นก็กลับไปเดินแถวย่านที่พัก ไปเดินเลดี้มาเก็ตได้กระโปรงยีนส์มา1ตัว ราคา150HKD กับรองเท้าผ้าใบจำชื่อแบรนด์ไม่ได้ แต่เป็นรุ่น CJ7 หนังที่โจชิงฉือเล่นค่ะ ชื่อเรื่อง คนเล็กของเล่นใหญ่ น่ารักดีค่ะ เมืองไทยไม่ขาย เอากลับมามีแต่คนชมว่าสวยค่ะ อิอิ ขออภัยลงรูปเยอะแล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปด้วย วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกันค่ะ ขอตัวไปนอนก่อน เหนื่อยมาทั้งวันแล้วค่ะ ตามวันที่3ของการเที่ยวแบบหมีหมีนี้กันหน่อยนะค่ะ อร่อยดีค่ะ แอบแบ่งมาให้แฟนชิม แฟนบ่นเสียดายว่า น่าจะซื้อกลับมากินเองบ้าง   Create Date : 16 สิงหาคม 2553     Last Update : 16 สิงหาคม 2553 21:55:48 น. Counter : 4213 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ทัวร์เที่ยว กิน ช๊อป ที่เกาะฮ่องกง NO.1 แปะไว้เวปอื่น เพิ่งมานั่งจัดบล็อคใหม่เลยเอามาแปะในบล็อคตัวเองคะ ------------------------------------------------------------------------- วันหยุดสงกรานต์ได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกง เที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ไปกันเองกับที่บ้านแฟนค่ะ ไปตั้งแต่วันที่11-16 เมษายน 2008 ก็จะเริ่มต้นด้วยภาพสุวรรณภูมิ ความภูมิใจของคนไทย (รึเป่า?) ทัวร์นี้จะเน้น ทัวร์เที่ยว กิน ช๊อป ยังไงก็ติดตามรีวิวกระทู้นี้และกระทู้ต่อไปด้วยนะค่ะ ถึงสนามบินแล้วเช็คอิน หาบะหมี่เกี๊ยวกินรองท้องก่อน แล้วเข้าไปช๊อปปิ้งในดิวตี้ฟรี ได้น้ำหอมมา2ขวดค่ะ แล้วก็ไปกินเบอร์เกอร์คิงกับเค้กอีกรอบ อิอิ รูปมุมเพดานด้านในสนามบินตอนลงไปที่เกท หลายคงคงได้รูปมุมนี้กันมากมาย ดูเก๋ไก๋ดี เราก็ไม่พลาดที่จะเก็บมาค่ะ เป็นการดีไซส์ให้ลงตัวทั้งภายใน ภายนอก รองรับโครงสร้างของผนัง โดยการที่ไม่เปลืองกระจกแผ่นใหญ่ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลง แต่ก็สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวช่วยในการประหยัดไฟฮับ มองเห็นเครื่องบินที่จะนำเราไปสู่สนามบินแช็คแล๊ปก๊อก(สนามบินที่ติดอันดับ1ใน5ของโลก) เครื่องบินของสายการบินที่นั่งไป-กลับใช้บริการของสายการบินคาเธ่ย์แปซิคฟิค ราคาตั๋วไปกลับช่วงสงกรานต์สูงถึง13450 บาท แล่นหาลู่ กำลังจะออกบินแล้ว เครื่องบินไฟท์ CX712 กำลังทะยานสู่ท้องฟ้า จุดหมายปลายทางอยู่ที่เกาะฮ่องกง นั่งอยู่ช่วงปีกเครื่องบินซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดภัยที่สุดในเครื่องค่ะ (อีกที่ที่ปลอดภัยคือส่วยท้ายของเครื่องบินค่ะ) (เป็นความรู้ที่จำมา แต่ไม่รู้ว่าจะจำผิดรึเปล่านะ อิอิ ) แต่ว่าจะได้วิวที่ไม่ค่อยแจ่มเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอีกมุมนึงของการถ่ายรูป มองเห็นปีกที่กำลังโผล่บิน ทั้งพื้นแผ่นดินไทย ของที่ให้ยืม (จะเรียกงั้นรึเปล่า) บนเครื่องค่ะ มีหูฟังที่ใช้กับทีวีบนเครื่อง แล้วก็เป็นแมกกาซีนขายของค่ะ พอเครื่องลงแล้วเค้าเอาถุงมาเก็บหูฟังคืนด้วยค่ะ ไม่ได้แจกฟรี พอเครื่องเตือนให้ปลดเข็มขัด พนักงานก็เริ่มเสริฟ์อาหารค่ะ มีไก่ กับ เนื้อวัวให้เลือกค่ะ หมีเลือกไก่(กินเนื้อไม่ได้) ส่วนแฟนเลือกเนื้อวัวค่ะ เรามาดูหน้าตาอาหารบนเครื่องกันค่ะ ชุดไก่ค่ะ เป็นไก่อบ มีข้าวผัดไข่มาด้วย แล้วก็มีผักต้มแก้เลี่ยนมาด้วย ถือว่าอร่อยใช้ได้เลยค่ะ ขนมหวานที่ให้มาเป็นวุ้นใส่มะพร้าวอร่อยดีไม่หวานเกิน ขนมปังทาเนยก็ธรรมดาแต่มีเนยแล้วทำให้หอมอร่อยขึ้นค่ะ แล้วก็มีผลไม้ กับ น้ำมีให้เลือก เป็นน้ำอัดลม(เป๊ปซี่ กับ สไปร์) กับน้ำผลไม้ (ส้ม กับ แอปเปิ้ล) หมีเลือกน้ำแอปเปิ้ลค่ะ อร่อยดี ชอบค่ะ ส่วนน้ำส้มมันเป็นน้ำส้มกล่องแบบ100% แต่ละกล่องหวานไม่เหมือนกันนะค่ะ คือว่ากล่องแรกที่แม่กินหวานอร่อย แต่พอหมีกินเสร็จขอเต็มมันเป็นคนละกล่อง มันก็เลยขมค่ะ ใครชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามสบายเลย อันนี้เป็นชุดเนื้อค่ะ รสชาติแฟนบอกว่าไก่อร่อยกว่า ส่วนข้าวที่ได้เป็นข้าวสวยธรรมดาค่ะ กินเสร็จ หมีน้อยก็เริ่มเข้าญาณค่ะ ต่างคนต่างหากิจกรรมของตัวเอง ดูหนังบ้าง ดูวิวบ้าง อ่านหนังสือไปตามเรื่องตามราว ใช้เวลาเดินทางเกือบ2ชั่วโมงค่ะ หน้าจอทีวี โชว์แผนที่ที่เราเดินทางมาเส้นสีแดงตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่สุวรรณภูมิ ไล่มาเรื่อยๆๆจนตอนที่เครื่องกำลังบินอยู่ค่ะ ถ้าเปลี่ยนหน้าจอเป็นช่องอื่นก็จะมีให้เห็น ใต้เครื่องใกล้ๆๆล้อค่ะ ตอนเครื่องขึ้นก็เห็นล้อค่อยๆๆลอยด้วยแบบว่าถ่ายทอดสดค่ะ ตอนที่เครื่องบินอยู่ก็บอกอุณหภูมิ ระยะทางที่เหลือ กับ เวลาที่เหลือค่ะ ใกล้ถึงฮ่องกงแล้ว อากาศจหนาวมากรึเปล่า รึว่าร้อนเหมือนบ้านเรา ตื่นเต้นจัง ถึงสนามบินแช็คแลปก๊อกแล้วค่ะ ตื่นเต้นจังเลย นี่เป็นโฉมหน้าสมาชิกทั้งหมดของแก๊งนี้ หน้าตาดูมีความสุขกันทั้งนั้นเลย อิอิ ผ่านด่าน ต.ม. คิวยาวมากมาย เสร็จแล้วรอรับกระเป๋าสัมภาระ พอออกมาจากทางออก จะเจอINFORMATION แนะนำเราว่าจะเข้าในเมืองแบบไหนสะดวก ตรงซุ้มเหลืองเป็นการนั่งรถบัสเข้าเมือง ส่วนตรงซุ้มสีฟ้าเป็นที่ซื้อตั๋วAIRPORT EXPRESS (นั่งรถไฟส่วยด่วนเข้าไปในตัวเมือง เป็นวิธีที่เร็วที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายแพงกว่า) ตารางค่าตั๋วรถไฟแบบต่างๆๆ ตอกแรกว่าจะซื้อตั๋วแบบไปกลับ พนักงานแนะนำให้ซื้อเป็นแพ็คเกจตั๋วเที่ยวเดียว แบบกรุ๊ป2คน(160HKs) กับ กรุ๊ป4คน(250HKs) จะประหยัดกว่า ราคานี้ไป-กลับจะราคา 820HKs (ปรกติตั๋วแบบไป-กลับราคา 180x6 = 1080 HKs) ถ้าเราซื้อแบบที่เค้าแนะนำก็จะถูกว่า260HKs ราคาที่แลกไป 4.06 บาท = 1HKs แล้วก็ซื้อตั๋ว OCTOPUS CART เป็นตั๋วสำหรับการเดินทางเลยก็ว่าได้ ใช้ได้กับ รถไฟใต้ดิน รถไฟฟ้า รถเมล์ รถราง ค่าเรือ ร้านสะดวกซื้อ เป็นบัตรวิเศษเลยค่ะ ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา 555+ หน้าตาตั๋วแบบกรุ๊ปค่ะ สีเหลืองเป็นแบบ2คน สีฟ้าเป็นแบบสี่คน ในรถไฟ AIRPORT EXPRESS นั่งสบายมากเลยค่ะ มีที่สำหรับวางสัมภาระด้วยค่ะ ใช้เวลาเดินทาง10-15นาที ก็ถึงสถานีใต้ดินHONGKOK ถ้าเดินทางโดยรถบัสจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยค่ะ แต่ก็จะได้ชมวิวข้างทางไปด้วย จากสถานีHONGKOK เดินไปต่อรถไฟใต้ดินMRTที่สถานีเซ็นทรัล (มันเป็นทางเชื่อมเดินไปถึงค่ะ แต่ว่าเดินยาวนิดนุง แถมแบกกระเป๋าหนั9กิโลเอง) โรงแรมที่จองผ่านเน็ตไว้อยู่แถวมงก๊กค่ะ เป็นย่านช๊อปปิ้งเลยหล่ะ ชอบๆๆๆ จากMRT เดินมาที่พักไม่ไกลมากเท่าไหร่ ดูร้านสองข้างทางจนเพลินตาเลย ตื่นตาตื่นใจมาก ผู้คนเดินกันขวักไขว่ แต่งตัวเก๋ไก๋ อากาศเย็นๆๆกำลังดี (ระหว่างที่ไปอุณหภูมิอยู่ที่ 25-27 องศาค่ะ ใครขี้หนาวก็พกเสื้อแขนยาวบางๆๆไว้ได้) นี่เป็นหน้าโรงแรมSTANDFORD อยู่ที่ถนน SOY STREET ที่อยู่ : 118 SOY STREET MONGKOK เป็นโรงแรม3ดาวค่ะ จองผ่าน //www.asiatravel.com/hongkong.html ราคาห้องพัก2คน -1210HKs (ราคาปกติ 690HKs) เพิ่มเตียงเสริม - 339HKs พอดีไปกัน6คน เลยแยกนอนห้องละ3คนฮับ ที่พักที่นี่กะเดินเลดี้มาเก็ตทุกคืนเลยค่ะ แล้วมีผู้ใหญ่ไปด้วยเลยต้องนอนโรงแรม ไม่งั้นก็คงไปพักกันแค่Hostelค่ะ(ราคาเหลือคืนละพันกว่าบาทเองค่ะต่างกันโดยสิ้นเชิง) ห้องพักเล็กมากเลยค่ะ ขนาด3ดาวนะเนี้ย ทุกตารางนิ้วบนเกาฮ่องกงมีคุณค่ามากค่ะเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น เด็กส่วนใหญ่พอเลิกเรียนแล้ว จะไม่เห็นใส่ชุดนักเรียนมาเดินเที่ยวเหมือนบ้านเราเลย สงสัยว่าไปเปลี่ยนชุดแล้วค่อยออกมาเดินกันป่าวไม่รู้ แต่ที่นี้มีคนมานั่งเล่นสวนสาธารณะกันเยอะเลยค่ะ ร้านเกมส์ที่โน้นมอมเมามาก เปิด10โมงเช้า ปิด6โมงเช้า วางกระเป๋าแล้ว ก็ออกมาเดินเล่น หาของพื้นเมืองกินเล่นซะหน่อย ร้านนี้ตอนเดินผ่านไปโรงแรมคนเมุงยอะมาก เลยลองมาชิมดู มีขายของทอด ของย่าง แล้วก็มีลูกชิ้นปลาต้มซอสแกงกะหรี่ ร้านแบบนี้มีทุกเกือบหัวมุมถนนเลย ขายกันเยอะมากค่ะ กลิ่นนี้แบบสุดยอด ...เหม็นสำหรับเราค่ะ แต่สำหรับที่โน้นคงหอม ที่ซื้อมาชิมมีปลาหมึกย่าง อร่อยเหนียวนุ่มสุดดีค่ะ อกเป็ดอบ อร่อยมากค่ะ รสชาติถูกปากเลย ลูกชิ้นปลาในซอสแกงกะหรี่ ลูกชิ้นเป็นสีเหลืองเลยค่ะ อร่อยเหมือนกันค่ะ มีราดซอสบาร์บิคิว กับ ซอสหวาน แต่อันนี้ราดซอสบาร์บิคิว คนที่ไปต้องลองชิมค่ะ มีน่ากินหลายอย่างเลย กลิ่นอาจชวนขนลุก แต่ว่าอร่อยดีค่ะ เสร็จแล้วก็ไปเดินหาซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ราคา55HKs โทรได้60HKs ซื้อมา3อันค่ะ เผื่อว่าเวลาเดินแล้วหลงกันค่ะ บางทีจะเดินแยกเป็นคู่ๆ (ซื้อที่เซเว่น) ใครเป็นแฟนเถ้าแก่น้อย ที่นั่นก็บุกไปตีตลาดเหมือนกันค่ะ (ร้านขายของชำที่ตลาดแถวโซโห มีขายโก๋แก่ด้วยค่ะ) ดีใจได้เห็นของคนไทยไปไกลต่างแดน ร้านน้ำปั่นที่แวะชิมดู (ฮ่องกงมีร้านน้ำปั่นเยอะมากค่ะ แต่ลร้านคนเยอะด้วยค่ะ ฮิตกันจิง) เลือกกินน้ำะมะม่วงปั่นใส่เยลลี่ อร่อยดีค่ะ กินแล้วถ้ามีใส่ข้าวเหนียวหน่อย นึกถึงรสชาติข้าวเหนียวมม่วงบ้านเราเลยค่ะ แต่ว่ารสชาติมะม่วงอร่อยมากค่ะ หอม หวาน แต่ถ้าคนไม่ชอบหวานก็น่ากินอันอื่นมากกว่า ร้านนี้เป็นเฟรนชายส์ มีหลายที่เหมือนกันค่ะ ตามริมถนนทั่วไป อันนี้เป็นร้านทาโกยากิ อยู่แถวSAI YEUNG CHOI (ด้านถนน SHANUNG STREE) เข้าไปลองชิมดูค่ะ อันนี้เป็นเมนูหน้าร้านค่ะ อยากกินชาเขียวปั่น แต่ว่ากินน้ำมะม่วงไปแล้ว กินต่อไม่ไหว 4 ลูก 18HKs กินแล้วรู้สึกเฉยๆๆ อ่าค่ะ ตัวปลาหมึกใช้ปลาหมึกยักษ์ทาโกะจิงๆๆ กรอบนอกนุ่มใน ลูกใหญ่ รสชาติแบบนี้หากินแถวสุขุมวิทก็ได้ค่ะ ไม่ค่อยคุ้มค่าราเท่าไหร่ ที่ร้านZEN เมืองไทยอร่อยกว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ลงแนะนำหลังสือคู่มือร้านดังฮ่องกง ที่ตอนนี้มีแจกในพันทิพย์ค่ะ ไปหาโหลดมาก่อนไปเที่ยว เป็นคู่มือในเรื่องอาหารการกินของการเที่ยวครั้งนี้ค่ะ ชื่อร้าน LOK YUEN ลูกชิ้นเนื้อขึ้นชื่อค่ะ มีเม็ดหนึบๆๆอะไรไม่รู้ในลูกชิ้น ทำให้รสสัมผัสอร่อยมากค่ะ จากผู้ร่วมทริปที่กินบอกมา (ข้าพเจ้าไม่กินเนื้อวัว) ลูกชิ้นเนื้อระเบิด ร้านนี้ได้รับแรงบัลดาใจมาจาก เรื่อง คนเล็ก กุ๊กเทวดา หน้าตาก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อระเบิดค่ะ แบบปรุงรสแล้ว สีสรรฉุดฉาดน่ากินมั้ยค่ะ ที่อยู่ 11 FA YUEN STREET - MONGKOK เปิดเช้า 9.00 - ตี 3.00 น. การเดินทาง จาก MTR MONGKOK ทางออก E2 เดินไปตามถนนNELSON จนถึง FA YUEN STREET จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วเดินต่อไปก็จะเจอร้านค่ะ อันนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาค่ะ ลูกชิ้นใช้ได้ (แบบธรรมดาบางเจ้าที่บ้านเราอร่อยกว่า) ส่วนน้ำซุปเค็มค่ะ ที่โน้นก๋วยเตี๋ยวไม่มีน้ำตาลให้ปรุง ต้องขอเค้าต่างหาก (ภาษาจีนเรียกว่า ถ่อง) ส่วนทริปนี้พก พริกป่นบ้านเราไปด้วย เพราะ พ่อกินเผ็ดค่ะโรยพรกป่นแทบทุกมื้อ อิอิ อันนี้เป็นเนื้อปลาชุบเกร็ดขนมปังทอดกรอบ อร่อยมากค่ะ ขอบอก ที่ฮ่องกงอาหารส่วยใหญ่เน้นเนื้อกุ้ง กับ ปลาเป็นหลัก เพราะใกล้ทะเล มันสดมากค่ะ ปล.คนที่ชอบกินเนื้อวัวได้ห้ามพลาดค่ะ ลูกชิ้นเด็ดมาก ร้านขนมหวาน เห็นวัยรุ่นนั่งกินกันเยอะมาก เลยลองแวะไปชิมดูค่ะ ร้านนี้ไปชิมกับแฟน2คน คนอื่นกลับไปที่พักกันแล้ว กระจกหน้าร้านติดกระดาษโชว์ที่เคยลงหนังสือไว้เต็มเลย เป็นใบรับประกันแน่ๆ ว่าฮิตจิง ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนน SOY STREET สังเกตเห็นได้ง่ายค่ะ ร้านขนมหวาน เห็นวัยรุ่นนั่งกินกันเยอะมาก เลยลองแวะไปชิมดูค่ะ ร้านนี้ไปชิมกับแฟน2คน คนอื่นกลับไปที่พักกันแล้ว หน้าตาเมนูค่ะ เป็นพวกมัน เผือก แห้ว อื่นๆๆ น่ารักมากค่ะ ทำให้ดูน่ากินยิ่งขึ้น อันนี้เป็นแบบรวม ผสมหลายอย่างมากค่ะ เด็กเสริฟ์แนะนำว่าอันนี้อร่อย แต่ก็รสชาติหลากหลาย แปลกดีค่ะ มีรสของมะพร้าว มะม่วง เม็ดเม็ดๆๆเจลลี่บีทกรุบๆๆ แต่มันหลายอย่างเกินไปนิดส์... มีช๊อคโกแลตน่ากินแต่ไม่ได้กิน อิ่มแบบไม่ไหวแล้ว แต่เห็นเค้าสั่งกันหลายโต๊ะเลยค่ะ ใครแวะไปแล้วได้กินมาบอกกันด้วยนะค่ะ เป็นงัยกันบ้างค่ะ กับวันแรกของการทัวร์ รูปจะเยอะหน่อยนะค่ะ วันต่อไปรูปอาจน้อยลงเพราะบางที่ไม่ได้ถ่าย กินเพลิน 555 แล้วก็เหนื่อยกันด้วยเลยไม่ได้ถ่ายค่ะ ต้องขอภัยล่วงหน้า คืนนี้ก็ดึกมากแล้วเกือบตี1 กลับบ้านไปอ้วนแน่เลย ง่า..าา แต่มาทั้งทีต้องให้มันคุ้มไปแล้น...นนน นอนก่อนน้าค่ะ แล้วจะเอามาลงวันที่2 ในกระทู้ต่อไปติดตามด้วยคร่า....าาา --------------------------------------------------------------- ทริปคราวๆๆที่เขียนก่อนไปค่ะ วันศุกร์ที่ 11 เมษายน 2551 13.00 น. : เช็คอินที่สุวรรณภูมิ กรุงเทพ (เผื่อเวลาเดินช๊อปที่ DUTY FREE) 16.oo น. : มุ่งหน้าสู่เกาะฮ่องกง โดยสายการบิน คาเธ่ย์แปซิฟิค (Cathay Pacific Airline : CX) 19.55 น. : ถึงสนามบินเช็คแล๊ปก๊อก เดินทางเข้าสู่ที่พัก โดย Airport Express (AEL) ออกทุก12นาที เปิดเวลา ตี5 ถึง ตี1 มองหาป้าย Train to city ซื้อบัตรที่เคาท์เตอร์ Information (เผื่อมีบัตรลด,โปรโมชั่นอื่นๆ) การเดินทางจากสนามบินไปที่พัก : จากสถานี Airport --> Hongkok --> เดินไปขึ้น MRT ต่อที่สถานี Central ทางออก E2 สถานีมงก๊ก 22.00 น. : ถึงสถานีมงก๊ก(Mongkok) เข้าสู่ที่พักโรงแรมสแตมฟอร์ด(Stamford Hotel) ที่ถนน Soy Street พักผ่อนตามอัธยาศัย หากต้องการเดินท่องเที่ยว ช๊อปปิ้งยาม ราตรี เชิญที่ถนน Fa Yuen เป็นถนนการค้าเสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องกีฬา หรือ ถนน Ladies’ Market ตลาดผู้หญิงที่ช๊อปได้ทุกเพศทุกวัย นอกจากเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ผู้หญิงแล้วยังมีขายของฝากของที่ระลึก   Create Date : 16 สิงหาคม 2553     Last Update : 16 สิงหาคม 2553 20:39:53 น. Counter : 6310 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ENGLISH VERSION BY GOOGLE

JAPANESE VERSION BY GOOGLE

CHAINESE VERSION BY GOOGLE

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• SALE ขายหลายสิ่ง

• กระต่ายลอยคอ
• alekay
• A Princess
• giftza54
• chadalaem
• KiRaRi
• หนีแม่มาอาร์ซีเอ
• mhunoiii
• งูเขียวค่ะ
• jejeejajar
• Groof&Jeab
• PopMizi
• bemynails
• orangery
• chictuary
• kj2428
• CinnamonGal
• Hachisu
• wannee2w
• ouise
• RosesAreRed
• Webmaster - BlogGang

• chictopia
• lookbook
• dictionary
• โต๊ะเครื่องแป้ง
• streetpeeper
• tokyo street
• PIC
• เวปบอกส่วนผสมเครื่องสำอางค์
• styleinsider
• ring
• ssense
• fashionsnap
• style-arena
• fashion style
• millionlooks
• japanese hair style 1
• japanese hair style 2
• japanese magazine1
• japanese magazine2
• japanese magazine3
• dresses
• BlogGang.com