Secret of a happy life. Eat as if you are a horse. Drink as if you are a whale.

Tables Grill @Grand Hyatt Erawan Bangkok

ชื่อร้าน : Tables Grill
รายการอาหาร : wine dinner
ที่ตั้งร้าน : Grand Hyatt Erawan Bangkok, กรุงเทพมหานคร ปทุมวัน Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 38.36" N 100° 32' 26.41" E




ห้อง Tables Grill ของโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok  เป็นห้องอาหาร European Cuisine (เน้นไปทางอาหารฝรั่งเศส) ที่มาพร้อมแนวคิด chef table คือกลางห้องอาหารจะมี cooking station ให้chef มาปรุงอาหารที่เราสั่งเป็น entertainment ให้ชมระหว่างรออาหาร





วันพุธที่ 18 มี.ค. 2015ที่ผ่านมา Tables Grill ในโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok  ได้จัด wine dinner มื้อพิเศษ โดยคัดสรรไวน์โลกใหม่ทั้งหมด 6 ตัวจาก Robert Mondavi ซึ่งเป็น Winery ชื่อดังจาก Napa Valley ใน California และมีเชฟ  Jeff Mosher ผู้เป็น resident chef ของ winery Robert Mondavi มาปรุงอาหารมื้อพิเศษที่ pairing คู่กับ wine เหล่านี้ให้เราชมกันสดๆต่อหน้าต่อตาตาม concept  ของห้อง Tables Grill ด้วยสนนราคา 1,900B++ ต่อคน





อาหาร 6 อย่างกับไวน์ 6 ชนิดจะเสิร์ฟคู่กันไปทีละคู่ เป็นอาหาร portion เล็กๆแบบ canape กับไวน์ 1 แก้ว โดยไล่เรียงลำดับรสชาติจากอ่อนไปหาเข้ม ช่วยให้ลิ้นเราได้ปรับตัวไปทีละน้อย ตั้งแต่ seafood หรือเนื้อไก่จับคู่กับไวน์ขาว แล้วค่อยเสิร์ฟอาหารจานเนื้อกับไวน์แดงทีหลัง โดยทั้งอาหารทุกจานและไวน์ทุกตัวสามารถเติมได้ตลอดครับ




จานแรก Crab Cake with blood orange vinaigrette and fennel salad เป็นเนื้อปูก้อนผสมมันฝรั่งบด นาบกระทะจนผิวนอกกรอบ ทานคู่กับซอสส้มและผักชีล้อม(fennel)กรอบๆรสสดชื่น



Crab Cake  จับคู่กับไวน์ขาว Sauvignon Blanc : 2012 Robert Mondavi Private Selection Sauvignon Blanc ค่อนข้างใสมีกลิ่นของผลไม้แนว citrus อย่าง lemon zest หรือ lime ชัดเจน รสเปรี้ยวหวานสดชื่นเข้ากับรสชาติของ Crab Cake  ได้ดี





จานที่สองเป็น Curried Chiken, Apple, and Almond Spring Roll
หรือเนื้อไก่ปรุงรสด้วยผงเครื่องเทศแกงกะหรี่แล้วห่อเป็นเปาะเปี๊ยะสด ออกแนวสดชื่นเช่นกัน ไส้เปาะเปี๊ยะเหมือนจะใส่
appleฝานมาด้วยแต่ไม่ค่อยได้รสappleเท่าไร ซึ่งกลับเป็นข้อดีตอนทานคู่กับไวน์ เพราะไวน์ที่จับคู่มากลิ่นและรสค่อนข้างหอมหวานแบบผลไม้อยู่แล้ว




จานที่2นี้จับคู่กับไวน์ขาว Chardonnay : 2011 Robert Mondavi Winery Napa valley Chardonnay ค่อนข้างใสและมีกลิ่นหอมแบบ stone fruit อย่าง nectarine หรือ peach ตามมาด้วยกลิ่นหอมหวานของ vanilla และ brown sugar รสหวานติดลิ้นค่อนข้างนาน โดยส่วนตัวระหว่าง 2 ตัวแรกนี้ผมชอบตัวหลังนี้มากกว่า




จานที่ 3 เป็น Slow Cooked Pork Belly with Eggplant, Rice Noodles Ginger Scallion Sauce เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นแบนทำจากข้าวเจ้า (คล้ายเส้นจันทร์ของผัดไทย)เหนียวนุ่มปรุงรสด้วยเนื้อหมูสามชั้นที่ต้มเคี่ยวจนเปี่อยนุ่มพร้อมกับผักหลายๆชนิดออกเค็มหวานและมีรสเผ็ดจากขิงช่วยกระชับรสชาติ




Cooked Pork Belly เสิร์ฟพร้อม 2013 Robert Mondavi Private Selection Zinfandel ไวน์แดงตัวแรกของค่ำคืนนี้ body ค่อนข้างใส มีกลิ่นหอมปลอดโปร่งของ cherry ผสมกับกลิ่นเผ็ดฉุนเล็กน้อยคล้ายพริกไทย รสหวานเปรี้ยวฝาดสมดุลพอดีกันไม่โดดไปทางใดทางหนึ่ง




จานที่ 4 มาถึงอาหารจานเนื้อที่ผมรอคอย Grilled Beef Short Rib sandwich Black Garlic Aoili, Tart and Tangy Slaw เป็นแฮมเบอร์เกอร์ไส้เนื้อซี่โครงย่างแบบสุก medium rare คือยังดิบนิดๆให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ มี texture ของเนื้อให้ได้เคี้ยว ปรุงรสด้วยซอสกระเทียมและสลัด Slaw เป็นจานที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้เลย




Beef Short Rib sandwich จับคู่กับไวน์ Cabernet Sauvignon : 2011 Robert Mondavi Winery Napa Valley Oakville Cabernet Sauvignon ไวน์แดงตัวนี้ยังคงเหลวใสไม่ค่อย body มีกลิ่น spice แบบ mint และ sage ค่อนข้างฉุนชัดเจน มีรสฝาดติดลิ้นนาน ช่วยล้างลิ้นเราหลังจากทานอาหารสเข้มข้นอย่าง Beef Short Rib




จานที่ 5 เป็น Seared Spice Crusted Tuna with Black Rice, Shitakes Red Wine Vinaigrette เนื้อปลาทูน่านาบกระทะสุกเฉพาะแค่ผิวนอก ปรุงรสด้วยน้ำส้มไวน์แดงและมีข้าวเหนียวดำ 2 แบบคือเป็น rice cracker กรอบๆโรยหน้าและ  Black Rice paste รองอยู่ใต้ชิ้นปลา




จาน Seared Tuna มาพร้อม Cabernet Sauvignon อีกตัวหนึ่ง : 2010 Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon Reserve ซึ่งเป็นไวน์แดงที่ผมชอบที่สุดในมื้อนี้ มี body ข้นปานกลาง รสหวานหอมแบบ black cherry ที่มาพร้อมกลิ่น spice แบบ cloves ที่มีโทน warm กว่าไวน์ตัวก่อน ตามมาด้วยรสขมนิดๆคล้ายกาแฟที่ช่วยเสริมความกลมกล่อม




มาถึงจานสุดท้าย Wild Mushroom and Bacon Bruschetta Mondavi Mustard Vinaigrette, Chives เป็นขนมปังหน้าเห็ดผัดกับเบคอนรสออกเค็มหวานเปรี้ยวแบบสมดุลกัน  อาหารและไวน์ทั้ง 6 อย่าง เป็นแบบบุฟเฟ่ต์หมดเลยครับ เลยทานไปเยอะ มาถึงตอนนี้เริ่มจะอิ่มแล้ว มาเจออาหารจานสุดท้ายเป็น Bruschetta ค่อยยังชั่วหน่อย




ไวน์ตัวสุดท้ายของวันนี้และเป็น Cabernet Sauvignon ตัวที่3ของมื้อ :  2012 Robert Mondavi Winery Napa Valley Cabernet Sauvignon ตัวไวน์มี body ข้นปานกลาง รสออกฝาดแบบ blackberries ติดลิ้นนาน มีกลิ่นหอมเข้มข้นแบบ dark chocolate ปิดท้าย



สรุปว่าเป็น wine dinner มื้อพิเศษที่ช่วยเปิดหูเปิดตาเรื่องของไวน์ได้เป็นอย่างดี และดึงเอา concept ของห้องอาหารออกมาได้อย่างเหมาะสมด้วยด้วยครับ อาหารแต่ละจานจะถูกนำมาปรุงต่อหน้าเราพร้อมอธิบายแนวคิดไปด้วย นอกจากจะได้ความรู้แล้วทำให้อาหารคงความสดใหม่ เพราะทำทีละน้อยไปเรื่อยๆไม่ได้ทำทิ้งไว้ ถ้ามีโอกาสจะไปทาน dinner มื้อปกติบ้างแล้วจะเอา review มาฝากกันอีกนะครับ




TABLES GRILL
@Grand Hyatt Erawan Bangkok

Lunch: Monday to Saturday 12:00-14:30
Brunch: Sunday 11:00-15:00
Dinner: Monday to Sunday 18:30-22:00

For reservations : 02-254-6250




Create Date : 23 มีนาคม 2558
Last Update : 23 มีนาคม 2558 2:38:24 น. 1 comments
Counter : 3576 Pageviews.  

 
ถ้ามีโอากสจะไปลองค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 13 สิงหาคม 2563 เวลา:11:34:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

amenochikara
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




[Add amenochikara's blog to your web]

MY VIP Friend