Secret of a happy life. Eat as if you are a horse. Drink as if you are a whale.

The Passion of Macaron by Betagro @The Dhara Dhevi Chiang Mai

อาทิตย์ที่แล้วมีโอกาสได้ไปเข้าร่วม work shop สอนวิธีการทำ macaron กับ Betagroมาครับ โดย work shop นี้จัดในโรงแรมดาราเทวี เจ้าของแบรนด์ macaron ยอดนิยมที่มีขายตามห้างใหญ่ๆและสนามบินนั่นเอง ทั้งนี้เพราะโรงแรมดาราเทวีเลือกใช้ไข่ไก่คุณภาพดีของ Betagro ครับ

พวกผมมาถึงโรงแรมตอนบ่ายทำเรื่อง check in  แล้วทานบุฟเฟ่ต์ขนมยามบ่ายที่ห้อง Kasalong ด้านหน้าของโรงแรม



ด้านหน้าร้าน


ตัวร้านแต่งด้วยสีขาวดูโปร่งและสบายตา

ไลน์ขนมใหญ่มาก ขนมสารพัดชนิดสีสวยละลานตาไปหมด



หนึ่งใน high light ก็ไม่พ้น macaron ของดังของโรงแรมนี้แหละครับ



Choux ลูกเล็กๆมีแผ่นwhite chocสีชมพูนี่เป็นรสลิ้นจี่ครับ




อีกมุม



และอีกมุม



ยังไม่หมด เพราะของเค้าหลากหลายมากจริงๆ



ลูกค้าค่อนข้างแน่น คนตักเยอะ แต่ของเติมตลอดเลยครับ



หยิบมาทานที่โต๊ะ ครัวซองค์อัลมอนด์ที่นี่มีไส้ครีมคัสตาร์ดด้วย scone ก็อร่อยหอมเนย


ขนมที่เป็น base mousse จะทำชิ้นเล็กๆทานง่าย ได้ชิมหลากหลาย

มีเครื่องดื่มหลายอย่างให้เลือก ผมเลือกเป็นชาเขียวของทางร้านใช้ชื่อว่า ดาราเทวีครับ


หยิบของคาวมาตัดรสสักหน่อย กุ้งพันหมี่ทอด กับ quiche อร่อยดีครับ

จำไม่ได้ว่าทาน macaron ไปกี่ชิ้น อร่อยและมีหลากหลายรสจริงๆ


เค้ก opera รสชอกดกแลต และรสชาเขียวถั่วแดง อร่อยแบบเลือกไม่ถูกเลยว่าอะไรอร่อยกว่า



อันนี้เป็นกาแฟร้อนของคนอื่น น่ารักดีเลยขอมาถ่ายรูป 55


ตกบ่ายแก่ๆก็เดินทางเข้าห้องพัก ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย เลยเดินเล่นถ่ายรูปห้องพักกับรอบๆโรงแรม


shot default ที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายรูป คือ ทางเข้าลอบบีด้านหน้าโรงแรม



พวกเราพักกันที่ Colonial suite ครับ ตึกสีขาวรูปร่าง retro ที่รายรอบบึงน้ำและสนามหญ้าเขียวขจี


ห้องพักจะแบ่งออกเป็นห้องรับแขก ห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งแต่ละห้องนี่แทบจะกว้างเท่าๆกันเลย เลยรู้สึกว่าห้องน้ำมันช่างใหญ่โตอลังการเป็นพิเศษ

ห้องรับแขก สีสันสดใสด้วยพื้นกระเบื้องย้อนยุคและโซฟา

ห้องน้ำที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างมาก มีอ่าง Jacuzzi ด้วยครับ

อันนี้เป็นห้องนอน

ระเบียงนอกหน้าต่างเชื่องถึงกันทั้งห้องนอนและห้องรับแขก มีเก้าอี้ให้นั่งชิลล์



วิวจากห้องพัก ผ่อนคลายและ healing มากๆ

ตกเย็นเริ่มโพลเพล้ เรามาทานอาหารเย็นกันที่ห้องอาหารไทย Le Grand Lanna


อาหารเสิร์ฟเป็นคอร์สครับ อันนี้เป็นจานแรก มีหลายอย่างและปริมาณก็ไม่น้อยเลย ทั้งออร์เดิร์ฟเมืองแบบรวม / ลาบคั่วหมูกับผักสด /  แหนมทอดใบมะกรูด  ลาบคั่วที่นี่ผสมเครื่องในหมูด้วย รสจัดจ้านและอร่อยมาก

ซุปใสไก่ยำ พอทานหลังจากลาบคั่วเลยรู้สึกว่าจืดๆไปเลย แต่ผมสาดพริกมะนาวที่ให้มาด้วยจนหมดถ้วยเลยครับ

เนื้อไก่นิ่มดี น่าจะใช้สะโพกไก่

กับข้าวอาหารจานหลักมาเสิร์ฟพร้อมกันหลายเมนูอีกแล้ว มี ห่อหมกปลา / แกงฮังเลหมู / อบไก่เมือง / ผัดซาโยเต้เห็ดหอม เลือกทานได้ทั้งกับข้าวสวยและข้าวเหนียว




ชื่อเมนูห่อหมกปลาแต่ข้างในเป็นเนื้อปลาชิ้นๆคลุกเครื่องเทศ ไม่ใช่เนื้อปลาบดหรือโขลก เนื้อปลาหวานนิ่มและอร่อยมาก



ข้าวเหนียวเสิร์ฟในภาชนะสวยงาม


ขนมหวานเป็นข้าวเหนียวมะม่วงครับ สารภาพตามตรงว่าตอนบ่ายทานขนมไปเยอะเลยไม่อยากของหวานเลย จานนี้ทานแต่มะม่วง



ข่าวดีสำหรับหนุ่มๆ ... เอ้ย สำหรับผู้สนใจวัฒนธรรมไทย มีการแสดงให้ดูระหว่างทานอาหารด้วยนะครับ นักแสดงแต่ละท่านงามหมดจดจริงๆครับ



เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมา กิจกรรมแรกที่ทำก็ ... กินอีกแล้ว 555 อาหารเช้าที่นี่อลังการและใช้ของคุณภาพดีมาก

มะเขือเทศที่นี่ใช้ของโครงการหลวง สดและหวานหอมอร่อยมาก ผมเติมไปหลายรอบเลย



ครัวซองค์คราวนี้เป็นไส้แยมราสเบอร์รี ขนมปังกลมๆที่มีจุกข้างบนนี่คือ brioche หรือขนมปังหวานที่มีเนยชุ่มฉ่ำ อร่อยมากกกก(ก.ไก่ล้านตัว)



นมต้นอ่อนข้าวสาลีแบบไม่เติมน้ำตาลหอมอร่อยมาก อันนี้ก็เติมหลายแก้ว ส่วนน้ำผลไม้ด้านหลังเป็นแบบคั้นแยกกากนะครับ ไม่เติมน้ำตาล มีน้ำผลไม้แบบนี้ให้ทานตอนเช้านี่ dream comes true สำหรับผมเลย


ไข่ omelette สุกแบบข้างในยังเยิ้มๆหน่อยแบบที่ชอบเลย



แพนเค้กและสารพัดไส้หรอก



แก้เลี่ยนด้วยข้าวต้มใส่ไข่เยี่ยวม้า กิมจิและผักดอง



พอเสร็จจากอาหารเช้า เราก็ย้ายกันมาที่ห้องสอนทำ macaron อยู่ใกล้ๆ กับห้อง Kasalong ที่เรามาทานบุฟเฟ่ต์กันวันเมื่อวานนั่นแหละครับ



ดำเนินการสอนโดย Chef Fabrice Leblus ผู้เป็น Executive Pastry Chef ประจำโรงแรมดาราเทวี โดยmacaron ที่เราจะหัดทำกันในวันนี้คือรส Thai Tea



ขั้นตอนการทำ macaron โดยมากจะใช้เวลาและความเอาใจใส่ไปกับการทำ shell ซะเยอะ ซึ่งเชฟสอนวิชาให้แบบไม่หวงความรู้เลยครับ 



เริ่มโดยการตีไข่ขาว ให้ตั้งยอดอ่อนและใส่น้ำเชื่อมร้อนๆลงไป เพื่อให้ไข่ขาวสุกเล็กน้อยและอมอากาศไว้ได้ดี ทำให้โพรงในเปลือกของ macaon มี texture ที่เหมาะสม พอประกบกับไส้ในแล้วจะได้ความหนึบที่กำลังพอดี 



เชฟเอา plastic wrapping  มาคลุมเครื่องปั่นด้วยครับ บอกว่าเพื่อไม่ให้อุณหภูมิลดลงเร็วเกินไป เค้าอยากให้เครื่องทำงานต่อไปโดยที่ส่วนผสมยังอุ่นอยู่



จากนั้นจึงผสมสีและอัลมอนด์บดลงไปในส่วนผสม




จากนั้นเอาส่วนผสมของเปลือก macaron มาหยอดใส่ถุงบีบ



หนึ่งในขั้นตอนที่ยากมาก คือการบีบให้เปลือกแต่ละชิ้นชขนาดเท่าๆกัน และรูปร่างกลมสวย เชฟทำเร็วและกลมสวยมาก ขนาดเท่ากัน กระทั่งช่องไฟระหว่างแต่ละชิ้นยังเสมอกันเลย 



สารภาพว่าผมทำแล้วเละไม่เป็นท่าเลยครับ เลยทำไปแค่ครึ่งถาดแล้วให้คนอื่นมาทำต่อ



อันนี้แอบถ่ายรูปสมาชิกที่ไปด้วยกัน คุณบุ๊งจาก blog close to heaven บีบเปลือก macaron ได้ไวและสม่ำเสมอสมศักศรีดิ์คนทำขนมมืออาชีพมาๆเลยครับ



หลังจากบีบเสร็จแล้ว ต้องเคาะๆถาดให้เนื้อขนมมันแบนราบลงไปหน่อยนึง



จากนั้นก็พักไว้สักครู่ก่อนนำไปอบ




อันนี้เป็นระหว่างอบ เนื้อขนมจะค่อยๆฟูขึ้นมา



อบไปสักพักจะเริ่มมีกระโปรงตรงฐานครับ แสดงว่าโครงสร้างข้างในก่อตัวได้ตามแบบที่ต้องการ



จากนั้นก็มาวางเรียงกันเตรียมบีบไส้



ไส้ในทำมาจาก white chocolate ganache ผสมชาไทย



บีบไส้บนเปลือกชิ้นหนึ่งแล้วประกบด้วยอีกชิ้นหนึ่ง



หลังจากประกอบร่างแล้วต้องพักขนมไว้ก่อนถึงจะเสิร์ฟได้ เพราะต้องรอให้เปลือกที่กรอบสนิทได้ดูดความชิ้นจากไส้ขนมจนเริ่มนิ่มและหนึบกำลังดีเสียก่อน



และแล้วก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์ macaron รสชาไทย




และนี่ก็เป็นอับจบ work shop การสอนทำ macaron ในครั้งนี้ครับ




macaron อร่อยๆของโรงแรมดาราเทวี ใช้ไข่ไก่คุณภาพดีจาก Betagro นี่เองครับ




ก่อนจะกลับบ้านแวะทาน Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร Akaligo ของโรงแรมดาราเทวี อาหารหลากหลายและคนเยอะมาก จนถ่ายไลน์บุฟเฟ่ต์ไม่ถนัด



Risotto Lobster sauce หนึ่งในเมนูยอดนิยมที่คนต่อคิวยาวมาก อร่อยคุ้มค่ารอคอย



จานนี้เป็นเนื้อย่าง/แกะย่างจาก grill station ด้านนอก หมักมาเข้าเนื้อดี




หนึ่งในของเด็ดประจำมื้อนี้ ฟัวกราส์นาบกระทะกรอบๆรสเข้มข้น สั่งได้แบบไม่อั้น ชิ้นใหย่และปรุงได้อร่อยกว่าหลายๆร้านในกทม.อย่างเห็นได้ชัด


อาหารจาน  high light ได้แก่  lobster ที่เสิร์ฟแบบจำกัดแค่ 1 จาน ต่อ 1 คน เนื้อแน่นแต่กรอบเด้ง หวานฉ่ำอร่อยมาก นี่ถ้าเติมได้ คงจะจัดสัก 10 จานแบบไม่เกรงใจคอเลสเตอรอลตัวเอง



ฟัวกราส์อีกสักจาน ขุยๆสีขาวที่เห็นเป็นมูสตับห่านที่เอาไปแช่แข็งมาใช้เป็น garnish 



pasta ซอสมะเขือเทสอร่อยๆอีกสักจาน



อาหารญี่ปุ่นก็มีพอสมควร ชอบผักย่างของที่นี่มาก ประทับใจตั้งแต่ตอนมาทานร้าน Ren ครั้งก่อน ยังคุมคุณภาพดีไม่เสื่อมคลาย



ขนมหวานจะคล้ายของ Kasalong ที่ทานวันก่อน เนื่องจากวันแรกที่ไปจัดเต็มไปเยอะมากแล้ว เลยไม่ค่อยได้เข้าไปตักของหวานมาทานเท่าไร



ปิดท้ายด้วย finale หวานอร่อยจานนี้ เป็นอันจบมื้ออย่างมีความสุขกันถ้วนหน้า




อำลาโรงแรมบินกลับกรุงเทพฯ ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ ถ้าได้ไปเที่ยวไหนจะเอาภาพมาฝากอีก 

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ Betagro สำหรับกิจกรรมดีๆแบบนี้ด้วยครับ ประทับใจมากๆ 




Create Date : 03 ธันวาคม 2558
Last Update : 3 ธันวาคม 2558 22:22:26 น. 0 comments
Counter : 1867 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

amenochikara
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




[Add amenochikara's blog to your web]

MY VIP Friend