ไปดู Transformer2 มา
และแล้วเมื่อเสาร์ที่ 11-07-2009 ก็ได้ฤกษ์งามยามดี ว่างไปดูหนังซะที... ตอนแรกลังเลอยู่ระหว่างเรื่องนี้กับ Ice Age 3 ... เผอิญว่าไอ้เอี่ยวที่จะไปดูเป็นเพื่อนมันออกตัวว่ายังไม่ได้ดูภาค ไอซ์เอจ2 เลย ...ด้วยความเกรงใจบวกเห็นใจ ก็เลยเป็นเหตุให้เราเลือกดูหนังหุ่นยนต์แปลงร่างอลังการณ์ภาค 2 Transformer Revenge of the Fallen "อภิมหาสงครามแค้น"... หรือภาค 2 ของหนังเรื่องนี้ ได้เปิดตัวสมกับเป็นหนังแอ๊คชั่น-ไซไฟฟอร์มยักษ์แห่งปีที่หลายๆคนรอคอย ด้วยความอลังการของคอมพิวเตอร์กราฟฟิคที่ใส่รายละเอียดทำให้ฉากการแปลงร่างน่าตื่นตา ฉากต่อสู้ของเหล่าจักรกลที่แสนดุดันมันส์เดือด พร้อมด้วยตัวละครหน้าใหม่ทั้งสองฝ่ายที่ยกโขยงมาให้เราได้ดูกันอีกมากมาย เรียกว่าดึงดูดความสนใจคอหนังหลายๆคนได้เป็นอย่างดี ผู้ชมได้อรรถรสถึงความสนุก ความสะใจ ความอลังการณ์และความตระการตาต่างๆนาๆ สิ่งแปลกใหม่จากไอเดียแสนบรรเจิด หากแต่ถามถึงความประทับใจในหนังเรื่องนี้สำหรับผมมันยังไม่ประทับใจเท่าไร... เพื่อนๆหลายคนมักจะถามด้วยประโยคที่แสนจะชินปากว่า "สนุกมั๊ย...เป็นไงมั่ง ?" หลังจากที่ได้ยินคำตอบจากปากผมว่า "ก็สนุกดี ...แต่รวมๆแล้วเฉยๆอ่ะ " ...คำถามต่อไปก็จะตามมา "...ทำไมล่ะ?" นั่นสิ...ทำไมนะ ผมก็เลยต้องคิดหาเหตุและผลมาสนับสนุนความคิด ตามความรู้สึกในสิ่งที่เห็น ซึ่งมันก็ออกมาเป็นร่ายยาวตามประสาคนที่พยายามอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ.....เรียบเรียงดีๆมันก็กลายเป็นการวิจารณ์ซะงั้นอ่ะที่เหตุผลต่างๆนาๆมันก็มีตามนี้... 1. CG ต้องขอบอกว่า สุโค่ย! เอฟเฟกตระการตาสมการรอคอยจริงๆ ความอลังการในตอนนี้ที่ติดตาผมก็คงเป็นการสู้แล้วก็การแปลงร่างของพวกหุ่นทั้งหลายแหล่ แต่มีส่วนที่น่าตินิดนึงคือ ฉากแปลงร่างมันเร็วแล้วดูซับซ้อนจนผมรู้สึก...งง...ว่าอะไรไปตรงไหนมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดูเท่ดูซับซ้อนดี ทว่ามันจะซับซ้อนไปป่าวอะ... อย่างตอนที่ออติมัส ไพรม์รวมร่างกับเจ็ทไฟร์ ผมก็สงสัยว่า...แล้วพอมันกลับไปเป็นรถแล้ว...เอ่อ จะกลายเป็นรถอะไรอะทีนี้ ปีกจะไว้ไหน? ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกเนอะ ปล่อยๆไปเหอะ 2. จำนวนตัวละคร(หุ่นยนต์) ฝั่งออโต้บอทก้มีออบติมัส ไพรม์, บี(Bumble bee), Ironhide แล้วก็คู่แฝดตัวแสบนั่นถูกใจอย่างแรงแต่ไม่ทันได้ยินชื่อเลยอะ ที่เน้นๆเลยก็ตอนที่คันสีแดงมันโดนสูบแล้วคันเขียวมันเรียกชื่อว่า มัดแฟล็ป(Mudflap ปะ)...แล้วทั้งเรื่องก็มีแต่คนเรียกว่า แฝด มาเปิดเนทหาถึงรู้ว่าไอ้สีเขียวชื่อ Skids......เออพี่ไซด์ไวพ์ก็เท่มาก แต่เห็นแวบๆเองงะ(รถสีบรอนซ์) ...แล้วมอไซด์ที่เป็นผุ้หญิงอะเธอคือใคร.... ..มาดูทางฝั่งดิเซปติคอนบ้าง ฟอลเลนที่ดูเหมือนจะเก่งและโดดเด่นออกมาไม่นานแล้วก็ตายเลย ไม่รู้จะรอคอยอะไรตั้งนาน สตาร์สครีมที่คุยกะเมกาทรอน โดยส่วนตัวผมชอบตัวที่เป็นเสือตาเดียวปล่อยลูกบอลกลมๆตัวเล็กๆได้ เท่ชะมัด...แต่ตอนหลังโดนจับทำอะไหล่ให้เมกาทรอนซะงั้น, ดีเซปฯที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิงก็เท่ดี ลิ้นสยองโลก ดูเผินๆให้อารมณืเหมือนเรื่องสปีชีส์ + คนเหล็กเลยอะ ...ดอกเตอร์ ไอ้วีลี่ที่นางเอกจับไว้ อืม...ใครอีกอะ... มีตัวเครื่องบินหลายๆตัวที่จำชื่อไม่ค่อยได้อะ ตัวที่ไปเกาะดาวเทียมดักฟังส่งข่าว แล้วตัวที่ออกมารวมร่างกันอะ คือมันดูดได้อย่างเดียวเหรอ รวมมาแต่ไม่ได้เก่งเลยอะ ที่เป็นหุ่นตัวใหม่ๆมันมากันเยอะเกินไปปะ แบบว่ายกโขยงกันมาจนไม่รูว่าตัวไหนจะเด่นกันแน่ทั้งเก่าใหม่ ไม่ต้องถึงกับเด่นก็ได้แค่เรียกชื่อให้ได้ยินซัก 2-3 รอบบ้างก็ปลื้มแระ 3. เรื่อง/บท แบบว่าเนื้อเรื่องหลักๆไม่มีอะไรน่าสนใจเลยอะ เหมือนแค่พี่อยากจะบอกเล่า...แล้วก็เล่าให้ฟัง แค่นั้น การผูกแก้ปมเรื่องยังแหม่งๆอยุ่...หลายอย่างในเรื่องดูเหมือนจะมีความบังเอิญเยอะจนรู้สึกเบื่อความบังเอิญ ผมรู้สึกไปเองรึป่าวว่า เนื้อเรื่องออกจะคล้ายภาคแรกด้วยซ้ำเพียงแต่ดัดแปลงแต่งเสริมนิดหน่อย ดูจบแล้วที่ยังสงสัยก็ยังไม่เคลียร์เยอะมาก บทของ Fallen ไม่น่าเกรงขามเท่าไรเลย ออกมาแปปเดียวแล้วก็ม่องเท่ง, แล้วตอนที่พระเอกตาย มีจิตวิญญาณของหุ่นยนต์มาด้วย ตกใจเลยอ่ะ มาไงฟะ - อีกอันนึงที่ขัดๆก็ ตอนที่ทหารคนสู้กับพวกหุ่น...ตรงนี้เหมือนจะหยุดอารมณ์มันส์ของผมเอาซะดื้อๆ ...ตัวที่รวมร่างกันแล้วดูดทรายด้วย ไหงมันไม่ทำอย่างอื่นเลยอะดูด-ปั่น แค่นี้เองเหรอ 5. อารมณ์/นักแสดง ....คือดูแล้วเฉยๆมาก...อารมณ์จากตัวละครที่มาถึงเราได้มีแค่ฉากตลกๆฮาๆแล้วก็ความมันส์เท่านั้นเอง ส่วนฉากที่พยายามดึงพลังใจสื่อถึงศรัทธา ความเชื่อมั่นของพระเอก ซึ้ง เศร้าเสียใจ กลัว โรแมนติก คนดูไม่ค่อยจะรุ้สึกเท่าไร(บิ้วไม่ขึ้นอะ) อาจจะเป็นเพราะว่าฉากเหล่านี้มันดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็วก็เลยทำให้มันส่งถ่ายอารมณ์มาหาคนดูไม่ถึง ส่วนตัวผมชอบตอนที่ข้อมูลมันไหลเข้ามาในหัวแซมนะ ไชอาแสดงบทบาทได้อารมณ์ผีเข้ามากๆ...แบบว่าถ้าใครมาเห็นคนแบบนี้ต้องมีกลัวๆหวั่นกันบ้างแหละ ตาเหลือก จิ้มเค้ก อ่านหนังสือสายฟ้าแลบ ว่าทฤษฏีแปลกๆ กระตุกหงึกๆ ดูเล่นยากดีบทนี้ 4. ฉาก/มุมกล้อง... ฉากส่วนใหญ่ที่เป็นเนื้อเรื่องสำคัญๆอะน้อยมาก จะไปใช้เวลามากก็ตรงฉากต่อสู้แสนเมามันและมึนงง จนรู้สึกว่าเรื่องมันดำเนินไปไม่สม่ำเสมออ่ะ แบบว่ามันเป็นช็อตๆไม่ต่อเนื่องสักเท่าไร - ฉากต่อสุ้แสนระทึกจะสนุกมากกว่านี้ถ้ามันช้ากว่านี้อีกซักนิด(เข้าใจว่าคงอยากบอกว่าเวลาหุ่นสู้กันมันเร็วมาก) พอดูนานๆแล้วตามันลาย เวียนๆวิ้งๆหัวยังไงชอบกลอ่ะ อีกตอนที่นางเอกกะพระเอกกอดกันแล้วกล้องมันหมุนไปรอบๆ....คือ ทำไมมันไม่โรแมนติกเท่าไรเลยน้อ ออกจะลายตาซะมากกว่าอะ อืม...นึกไม่ออกแล้วอะ ก็คงจะมีแค่นี้ละมั้ง บวกลบข้อเด่นข้อดี ข้อน่าติข้อเสียแล้วมันก็ออกมาอยู่ที่ระดับ ดีปานกลาง คือเราก็ต้องเข้าใจด้วยว่าหนังสไตล์นี้มันเป็นหนังกราฟฟิค ซึ่งในทางกราฟฟิคเมื่อดูแล้วมันพัฒนาขึ้นมากจนน่าตกใจเลยทีเดียว เพียงแต่ว่าในการทำหนังออกมา CG มันไม่ใช่ทุกอย่าง ด้านอื่นๆมันก็สำคัญเหมือนกันต้องพัฒนาควบคู่กันด้วย ไม่อยากให้มองว่าหนังว่าหนังมันห่วยขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าข้อด้อยมันจะมีน้อยซะเมื่อไร (เค้าอาจจะสร้างกระแส เพื่อธุรกิจด้านอื่นด้วยละมั้ง ทำนองว่าคอลเลคชั่นหุ่นทรานฟอเมอร์ ตัวละครก็เลยเยอะไง ... ผมไม่แน่ใจว่าอาจจจะมีแฟนคลับอยู่เพราะเพื่อนบอกว่ามันเป็นการ์ตูนมาก่อน) ยังไงก็ตาม ผมคิดว่ามันก็เป็นหนังที่น่าใช้เป็นกรณีศึกษาอย่างยิ่งยวด ด้วยข้อดีข้อเด่นที่โฉบเฉี่ยวและข้อด้อยที่ชัดเจน มันก็เลยเป็นหนังที่น่าดูเรื่องนึงเลยล่ะ... ดูแล้วไม่เสียดายเงินหรอกคับ อย่างน้อยถ้าดูจบแล้วมีคนถามเราว่าเป็นไงมั่ง แล้วเราตอบด้วยความรู้สึกจากใจ จากนั้นก็ใช้สมองคิดหาเหตุผลสนับสนุนคำตอบ แค่นี้ก็คุ้มสุดๆแล้วละคับ ^^ แล้วเจอะกันใหม่ในภาค 3 นะคับ หวังว่ามันคงจะดีขึ้น แหะๆ อย่างน้อยก็ได้ความมันละ ผมเชียร์ให้ดูคับ อยากให้ไปสัมผัสดู.... เราจะมาวิจารณ์ว่าอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้หรอกถ้าเรายังไม่ได้สัมผัสมันอย่างสมบูรณ์(ดูให้จบอ่ะ บางคนดูยังไม่จบออกไปแล้ว... แล้วจะมาบอกได้เต็มปากได้ไงว่าดีหรือไม่ดี) .....เอาละ ! ใครยังไม่ได้ดู หาดูให้ได้นะคับ...
By Medih C.Rozenkroy @ Spore Origin club
Free TextEditor
Create Date : 20 กรกฎาคม 2552 | | |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2553 19:34:10 น. |
Counter : 404 Pageviews. |
| |
|
|
|