ครั้งแรกที่เจอหนังสือ เซ็งเป็ด
....19 มิ.ย 52 แรกเจอ ชีวิตดำเนินไปอย่างปกติสุข(มั้ง) ...ด้วยความเบื่อบวกกับเหนื่อยจากกิจกรรมรับน้องที่ต้องเตรียมนู่นนี่ ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ไหนจะต้องคอยดูแลน้องที่มีปัญหา ต้องตอบคำถามให้เหตุผลกับผู้ปกครองของน้องๆที่ไม่เข้าใจจุดประสงค์ว่าไอ้รับน้องเนี่ย มันทำอะไร เพื่ออะไร เราเองก็เคยได้รับน้องมา...ได้รับแรงกดดัน ความลำบากทั้งกายใจ ความท้อแท้จนเกิดความเห็นแก่ตัวขึ้นมาลึกๆในใจ ทว่าสิ่งที่คิดจะรักเฉพาะตัวเองมันหายไปเพราะมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยได้รุ้จักกันมาก่อน ต่างคนต่างเป็นกำลังใจให้กัน ช่วยกันแม้ว่าเขาจะลำบากแค่ไหนก่อเกิดความปิติ ภูมิใจและได้รับรู้ว่า ตัวเราก็ผ่านช่วงที่โหดร้ายในชีวิตมาได้(แม้มันจะเป็นแค่เหตุการณ์จำลอง)... เราทุกคนก้าวไปด้วยกัน รอกัน ให้กำลังใจกัน.....สิ่งเหล่านั้นทำให้เราเข้มแข็งและพร้อมจะเผชิญโลกกว้างในสังคม... ไม่ใช่ว่าเราต้องการจะทำสิ่งเหล่านี้เพื่อความสนุก... เราทุกคนไม่ได้มีความแค้นอะไรกับน้อง จะไปทำน้องทำไมในเมื่อเราเองก็ไม่ชอบแบบนั้น ปัจจุบันนี้ด้วยโครงสร้างทางสังคมทำให้หลายๆคนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการรับน้อง พวกเราที่อยากจะคงไว้ซึ่งสิ่งดีๆที่เคยมี ก็ท้อแท้ไปตามๆกัน... แต่ก็ยังตั้งใจทำการรับน้องให้ดีที่สุด เย็นวันนั้นไปร้านพี่กุง(ร้านเช่าหนังสือ Hippo หน้า ม.เกษตร) พี่กุงเจ้าของร้านกำลังเม้าท์กระจายกับพี่สาว 2 คนที่มาเช่าหนังสือ... รอนาน....รอ....รอ.... เอ้อ~ เมื่อไรจะคุยกันเสร็จวะ จะเข้าไปแทรกระหว่างเค้าคุยก็จะทำให้บทสนทนาที่กำลังออกรสชะงัก กลายเป็นว่าตูจะรู้สึกผิดเอง... ก็เลยรอไป...เดินหาหนังสืออ่าน การ์ตูนย์อ่านมาจนไม่รู้จะอ่านอะไรดีแล้ว ไม่ใช่ว่าอ่านหลายเรื่องหรอก แต่เรื่องที่สนใจมันไม่ค่อยมีแล้วไง... เรื่องใหม่ๆเพิ่งมี 5-6 เล่มก็ไม่อยากอ่าน จะรอให้ออกซัก 10 กว่าเล่มแล้วค่อยอ่านทีเดียวรวดเลย... ไอ้เอี่ยว ~ เพื่อนผมเองแหละ มันก็รุ้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยกับการรอให้ 2 สาวขาเม้าท์กลับซะที .... มันเลยหยิบหนังสือเล่มนึงขึ้นมาชี้ชื่อเรื่องให้ดู.... "เซ็งเป็ด" มันไม่ได้แนะนำหนังสือหรอก ... มันแค่อยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด(เด๋วโดนบาทาสาววัย....ทำงาน) เห็นก็พยักหน้าบอกมันว่า "กรูก็เหมือนกันแหละ"...ไม่ได้คิดอะไร กระทั่ง 2 คนนั้นเค้าไปแล้ว พี่กุงก็กลับมาทำงานแบบปกติ จู่ๆคิดบ้าอะไรก็ไม่รุ้ หยิบหนังสือเล่มนี้ไปด้วย เอาไปอ่านฆ่าเวลา ถึงจะออกแนวไม่ได้สาระเท่าไร..... เอาเหอะ ชีวิตกรูก็ไม่มีสาระอะไรอยุ่แล้ว หาอะไรอ่านเพลินๆดีกว่า ออกจากร้านมา ก็มาเล่นเกม...ตัดเพลงไว้เต้นวันรับน้อง...ทำไปทำมาเช้าซะงั้น จะได้นอนมั๊ยเนี่ยเพื่อนนัดเข้าสโมฯ 10 โมง... ...20 มิ.ย เปิดใจ ก่อนจะกลับห้อง โทรบอกโบว่าเพิ่งจะกลับมานอน ปลุกด้วยหากตูไม่ปรากฏตัว... กลับมาถึงหอก็ 7 โมงแล้ว อาบน้ำ(ตื่นจะได้ไปเลยทีเดียว)แล้วก็หัวฟาดหมอนสลบสิ้นพระชนม์ทันที ตื่นมา .... หยิบโทรศัพท์ดูเวลา 8 โมงกว่า โอย~จะนอนยาวๆหน่อยไม่ได้รึไง จะรีบตื่นมาทำไมเนี่ย จากนั้นก็ตายบนเตียงต่อ ตื่นอีกที ดูโทรศัพท์ 9 misscall เฮ้ย !! ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย พอดูเวลาก็ 10โมงครึ่ง....อืม "ชิหัยแร้วกรู .... " โดนด่ากระจายแน่ สายเป็นนิจจริงเล้ยชีวิตกรุเนี่ย วิ่งผ่านน้ำอย่างเร็ว(แล้วมานึกได้ว่า 2 ชม.ที่แล้วกูก็อาบแล้วนี่ฝ่า)รีบโทรหาโบ โชคดีที่มันบอกยังไม่ค่อยมีใครมา เลยขอหาไรแด๊กก่อนที่จะเข้าสโมฯ ซึ่งมันก็ไม่ได้ว่าไร มาถึงสโมฯ อืม มันยังไม่มีใครจริงด้วย.... สโมฯรกจนไม่อยากจะเดินเข้าไป คนที่อยุ่ไม่คิดจะเก็บ แต่พวกกรูมาเก็บแทบจะไม่เคยอยุ่เลยสโมฯ กลิ่นเหม็นสาปฉี่-อึหนูฉุนสุด ไหนจะขยะ สุรา ขี้บุหรี่ อืม...แต่ก็ทำๆไปเหอะ ไหนๆก็อยากมาช่วยแล้ว ไม่นานสโมก็เอี่ยมอ่อง จากที่ไม่กล้าเดินเข้าไป ตอนนี้ นอนกลิ้งได้เลยตรงไหนเลือกเอา แน่นอนว่าพวกคนที่ทำนอนกลิ้งไปเรียบร้อยแล้วด้วยความเหนื่อย น้องๆเพื่อนทยอยมาจนสโมฯดูคึกคัก แต่ละคนช่วยกันทำความสะอาดรอบๆสโมฯ พวกเราก็ลุกมาทำนิดหน่อย แล้วก็นอนดูคนอื่นทำซะส่วนใหญ่...ก็ทำแล้วนินา เมื่อเช้ามีอยุ่ไม่กี่ชีวิตยังทำได้พวกแกมาเป็นฝูงปลาเค้าท์ก็ช่วยๆกันเดะ .... ซึ่งไม่มีใครเถียงได้ถ้ามาเห็นสภาพอันน่าอยุ่ของภายในสโมสรนิสิตคณะเรา "น่านอนกลิ้งเนอะ" ซํนนี่ตัวเล็กพูดขึ้น ทั้งๆที่เมื่อเช้ามันก็ช่วยเราเก็บ ตกเย็นซ้อมเต้นกะเพื่อนๆที่สมัครใจเต้น... ไปส่งเพื่อนๆชะนีทั้งหลายเสร็จก็กลับถึงห้อง(พี่ห้องตกใจทำไมวันนี้มันกลับห้องเร็ว) หมดแรง เหนื่อยมากมาย อาบน้ำแล้วก็นั่งเล่นซักพัก ง่วงแล้ว แต่....นอนไม่หลับ ตี 1 ครึ่งแล้วในใจยังมันเป็นอะไรว๊า~ มัน...บอกไม่ถูก เซ็งๆนอนพลิกไปพลิกมาอยุ่นาน เลยลุกขึ้นมาค้นกระเป๋า เอาเซ็งเป็ดมาอ่านเผื่อจะหลับง่ายขึ้น ฮ่าๆ พออ่านปกหน้า-หลัง แล้ว... นิมันนิยายเกย์ใช่มะเนี่ย เซ็งเป็ดสมชื่อจริงๆ แต่เอาเหอะไหนๆก็ไหนๆแล้ว...อ่านซะหน่อย อ่านคำนำแล้วก็ตกใจนิดนึง...เรื่องจริงเหรอ? สายตาเริ่มไล่ตามอักษรบรรทัดแล้วบรรทัดเล่า เพื่อนห้องที่จะนอนอยากปิดไฟถึงกับยกโคมไฟมาตั้งให้ถึงเตียง (ในห้องไม่มีใครนอนเปิดไฟได้ นอกจากกรูคนเดียว ซึ่งทุกครั้งกลับมาถึงห้องตี1 ตี2ก็หลับกันหมดแระ) เรื่องราวเริ่มต้นด้วยความฮาบ้าง กวนบ้าง ตลกนิดๆ แม้ภาษาจะไม่สละสลวยเท่าไร พิมพ์ผิดบ้างบางหน้าแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอยากจะวางหนังสือ สายตามันยังไม่เลิกไล่ตามตัวอักษรที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนนี้และเพื่อนอีกคนของเขา... อ่านไปจนถึงจุดนึงของเรื่องถึงกับชะงักเล็กน้อย... อะไรโดนใจกรูฟะเนี่ย... ไม่นานก็อ่านต่อไป... ความรู้สึกจุกที่อก ประทับใจ สงสาร อึดอัด ....และอีกหลายๆอย่างที่บอกไม่ถูก จนน้ำใสๆซึมออกมาจากตาที่กำลังติดตามเรื่องราวความเป็นไปในแต่ละวรรค ...ผู้ชายคนนึงนั่งบนเตียง แสงจากโคมไฟสาดให้เห็นว่าเขายิ้มทั้งน้ำตาให้กับหนังสือในขณะที่ความมืดและความเงียบของราตรีรายล้อมอยู่ ณ เวลานั้น... จบเรื่อง ปิดหนังสือ ปาดน้ำตา ยืดอกหายใจเข้าลึกๆ 2-3 ทีก่อนจะออกไปกดน้ำกิน... สมองและหัวใจตอนนี้กำลังทำงานอย่างหยุดไม่ได้... ผมสั่งให้มันหยุดไม่ได้ หลับสิวะ ง่วงไม่ใช่เหรอ ! จุดเริ่มต้นของความคิดทั้งหลายแหล่ที่ไหลเข้าสมองมาเรื่อยๆ มาจากหนังสือเล่มนั้น... ทำไมวะ?
Free TextEditor
Create Date : 26 มิถุนายน 2552 | | |
Last Update : 27 มิถุนายน 2552 0:55:53 น. |
Counter : 997 Pageviews. |
| |
|
|
|