ข้อความที่เขียนในblog นี้เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณ
Group Blog
 
All blogs
 
A Lot Like Love - หนังเก่าเล่าใหม่ ไม่เป็นไรมั๊ง


A lot like Love


ปี 2005


แสดงนำ Ashton Kutcher, Amanda Peet


 **** คะแนนที่ให้ (ความเห็นส่วนตัวเจ้าของ blog ล้วนๆ กรุณาใช้วิจารณญาณ) ******


นักแสดงนำชาย (7/10) หนังสไตล์นี้คงไม่ต้องไปคาดหวังอะไรจากนักแสดงนำ แต่แอชตัน ก็แสดงได้น่ารักดี (แถมหล่อลากดินเลย อิจฉาป้าเดมี่จริงๆ) ตัด 3 คะแนนจาก 3 ฉากที่ไม่ค่อยชอบคือ


1.      ฉากปีแรก ดูแล้วเล่นเกร็งขัดๆ ไงไม่รู้ (หรืออาจจะเป็นเพราะทรงผม)


2.     ฉากที่หลุมศพ (ไม่รู้จะโทษพระเอกหรือว่าจะโทษบทดี)


3.     ฉากรอคอยคำตอบจากแหล่งเงินทุน เล่นไม่เหมือนอะ


นักแสดงนำหญิง (9/10) Amanda Peet แสดงได้น่ารักดี จากที่ไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน รู้สึกว่าเธอน่าติดตาม หัก 1 แต้มจากฉาก ตอนที่เลิกกับแฟน


พลอตเรื่อง (9/10) เป็นหนังรักหวานที่มีพลอตเรื่องที่แปลกดี ไม่ค่อยมีใครทำแบบนี้ ดูแล้วรู้สึกประทับใจ


บทภาพยนต์ (7/10) ให้แค่นี้ หักจากสองฉากนี้ [ฉากหลุมศพ,ฉากจบ]เด๋วค่อยเล่าให้ฟังว่าทำไมไม่ชอบ


 ความเห็นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้


 ครั้งแรกที่ดูหนังเรื่องนี้ จำได้ว่าเช่า VCD มาดูที่บ้าน ตอนที่ดูจบนึกในใจ เออ หนังฝรั่งก็น้ำเน่าเป็นเหมือนกันเนาะ แล้วก็เอาหนังไปคืน แต่หลังจากที่เอาหนังไปคืนแล้ว มักจะนึกถึงฉากโน้น ฉากนี้ ในหนังเรื่องนี้อยู่ตลอด แล้วก็นึกถึงพลอตเรื่องแล้วก็นั่งยิ้ม กลายเป็นว่าต้องกลับไปซื้อ DVD มาเก็บไว้เลยทีเดียว และค่อนข้างแน่ใจว่า จนถึงเวลานี้ดูหนังเรื่องนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง


 สิ่งที่ชอบ


1.          พลอตเรื่อง ชีวิตของหนุ่มสาวคู่นึงซึ่งมี Sex กันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เพราะความคนองของวัยรุ่น แต่ไม่เคยเป็นแฟนหรือคนรักกัน กว่าจะผ่านเวลามารักกันได้ ต้องใช้เวลาเกือบ 7 ปี โดยที่ต่างไปคนต่างไปมีชีวิตเป็นของตัวเองคนละที่ แต่ยังคงสร้างแรงบัลดาลใจให้กันและกันโดยไม่รู้ตัว(พระเอกทำกิจการเพราะคำสบประมาทของนางเอก นางเอกเป็นช่างภาพเพราะกล้องของพระเอก) และทั้งคู่คงไม่มีทางมาลงเอยกันได้หากทั้งคู่ไม่ได้อยู่ห่างกันและต่างผ่านสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิต


2.        ฉากงานปีใหม่ ชอบตอนที่พระเอกวิ่งมาจากไหนไม่รู้มาสวัสดีปีใหม่นางเอก จี๊ดหัวใจมาก


3.        ฉากตอนพระเอกอกหัก และขับรถไปนอกเมืองกับนางเอก “Hay you with me”


4.        ฉากพระเอกเล่นกีตาร์ “I’ll be there for you” John Bon Jovi เป็นฉากที่น้ำเน่าได้ใจเลยทีเดียว แต่มีประโยคเด็ดจากฉากนี้ประมาณว่า "จากนี้ไปจนแก่เฒ่า จะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรถ้าได้อย่างนี้" ชอบ...


5.        เพลงประกอบ วางจังหวะ ได้พอดีลงตัวเปี๊ยบ อย่าง “ If you leave me now” หรือที่พูดไปแล้ว คือ “I’ll be there for you” จนต้องซื้อ อัลบั้ม OST. หนังเรื่องนี้ และตั้งแต่เพลง if you leave me now เป็นต้นไป คอ soft rock ไม่ควรพลาด เพราะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Brighter Than Sunshine, Hands Of Time, Look What You've Done, Breathe เสียดายอยู่หน่อยเดียวตรงที่ ไม่มีเพลง “I’ll be there for you” บรรจุอยู่ใน อัลบั้มนี้ด้วย


 สิ่งไม่ที่ชอบ


1.      ฉากหลุมศพ ไม่รู้ว่ามีฉากนี้มาทำไม ไม่เข้าใจจริงไม่รู้ว่าพยายามจะสื่ออะไร พยายามตีความแล้วแต่ไม่เข้าใจ


2.     ฉากที่พระเอกเสนองาน มันน่าจะสนุกกว่านี้ ทำอะไรให้ตื่นเต้นกว่านี้ตั้งเยอะ แต่นี่ตื้อและเหมือนหายไปเฉยๆ


3.     ฉากจบ นี่แหละเป็นฉากที่ทำให้คิดว่าหนังฝรั่งก้อน้ำเน่าได้ จริงมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ตั้งเยอะ น่าจะคิดสักหน่อย


 


สรุปว่าเป็นหนังที่ชอบมากเรื่องนึง คับผม ให้คะแนนไปเลยเต็มๆ กับ พลอตเรื่องและ เพลงประกอบพอเหมาะพอเจาะพอทีจะทำให้คนคนนึงดูมันได้ไม่ต่ำก่า 10 รอบ ดูทีไรมีความสุขทุกที







Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 14:40:56 น. 0 comments
Counter : 2363 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ปลาตะป๋อน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ปลาตะป๋อน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.