6:30 น. ตื่น 7:30 น. กินข้าว 8:30 น. ล้อหมุน
อาหารเช้าที่โรงแรมซานติก้าร์ มีให้เลือกเยอะพอควร
ผลไม้ แตงแคนตาลูป ที่นี่ หวานมาก แตงโม สับปะรด ค่อนข้างจืด
โปรแกรมเที่ยวของวันนี้
ที่แรก ไปวัดถ้ำช้าง
หน้าถ้ำมีสระอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์
ไว้รองรับสายน้ำที่พุ่งไหลออกมาจากท้องของเหล่ารูปปั้นขนาดใหญ่
ชาวบาหลีเชื่อว่าน้ำให้ชีวิต จึงมักจะพบสระศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ในวัดหลายๆแห่งในบาหลี
วัดถ้ำช้าง ถูกค้นพบ ปี 2466
แต่เชื่อว่าเก่าแก่ไปถึงศตวรรษ ที่ 11
ปากถ้ำเป็นรูปแกะสลักเหมือนยักษ์อ้าปาก
มีรูปแกะทั้งคนและสัตว์วิ่งหนียักษ์ด้วยความกลัว
ภายในถ้ำตื้นๆแห่งนี้มีทางเดินยาว 13 เมตร
นำไปสู่ทางแยกรูปตัวทีกว้าง 15 เมตร
สถานชั้นในนี้มืด อับชื้น
ตรงกลางมีรูปปั้นเทพ ซ้ายมือ จะเป็นพระพิฆเนศ ขวามือ เป็น ศิวลึงค์
ส่วนของวัด วันที่ไปมีการไหว้พระจันทร์เดือนสิบ ของชาวบาหลี
ทำให้มีการตกแต่งสถานที่ ของวัด
มีการนำของมาเซ่นไหว้
ทำให้ดู ขลัง และทึ่งในความศรัทรา ของชาวบาหลี
เยือนวัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์Pura Tirta Umple
เมือง ทัมปักสิริง(Tampaksiring) เมืองเล็กๆอันเป็นที่ตั้งของวัด
วัดนี้ มี คนบาหลีเดินทางมาทำบุญเยอะ
ผู้หญิง ผู้ชาย แต่งตัวด้วยพื้นเมือง สวยมาก
ผู้หญิงหลายคน เอาของไว้บนหัว เดินอย่างคล่องแคล่ว
ก่อนเข้าสู่ตัวน้ำพุศักดิ์สิทธิ์
บริเวณโดยรอบประกอบไปด้วยศาลาสำหรับสักการะ ศาลสำหรับเทพเจ้าสิงสถิตย์
และวิหารศักดิ์สิทธิ์เป็นชั้นๆที่ไล่ตามความสำคัญจากภายนอกเข้าสู่ภายใน
ด้วยชาวบาหลีมีความเชื่อเคร่งครัดในเรื่องของเทพเจ้าและวิญญาณ
ดังนั้นอาณาบริเวณของเทพเจ้าจึงเป็นเขตแดนที่ศักดิ์สิทธิ์และต้องอยู่ลึกที่สุดของวิหารอารามทั้งหมด
สถานที่อาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้าของวัดแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10
เชื่อกันว่าน้ำที่ไหลผ่านท่อมากมายนี้ มีพลังวิเศษบำบัดโรคได้
จึงเป็นเหตุให้มีผู้คนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ
ดั้นด้นมาถวายเครื่องบูชาแด่เทพประจำสระ
แล้วลงอาบชำระตนให้บริสุทธิ์
คืนวันที่พระจันทร์เต็มดวงของเดือนสี่ตามจันทรคติ (เดือนตุลาคม)
ชาวบ้านจากหมู่บ้านมานูกายา ไม่ห่างจากวัดนี้มากนัก
จะนำหินศักดิ์สิทธิ์จากวัด ปูรา ซากนัน มาทำความสะอาดที่นี่
ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เราไป
วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มีผู้คนมาทำบุญกันมากมาย
ไกด์ท้องถิ่นที่พามา ก็ เน้นเรื่ิ่องความศักดิ์สิทธิ์ ของน้ำ อยากให้ดื่มน้ำ
แต่เราก็แค่ เอาน้ำ มาลูบหน้า และ ลูบหัว
วัดแห่งนี้ ทำให้เรารู้สึก ทึ่ง ในแรงศรัทราของชาวบ้าน ที่มีต่อสถานที่แห่งนี้
โซนขายของ มีที่วัดทุกแห่ง ที่เราไปเที่ยวในบาหลี
มักจะอยู่ ใกล้ลานจอดรถ หรือ ทางออกวัดต่างๆ
ของที่ขายเป็นผ้าถุง ราคาผืนละ 120-150 บาท แล้วแต่ลาย
และความสามารถในการต่อรองราคา
บางแห่งรับเงินบาท
นอกจากผ้าถุงก็มี ของที่ระลึก ของแต่งบ้าน
แวะชิมกาแฟ บาหลี
กาแฟ หรือ ที่ชาวอินโดนีเซีย เรียก Kopi (โกปี้)
ที่อินโดนีเซีย กาแฟขี้ชะมด Kopi Luwak มีชื่อมาก ถือว่าเป็นต้นฉบับ
เราได้สั่งกาแฟขี้ชะมดมาลองชิม
แต่ร้านกาแฟ ที่ ไกด์บาหลี พามาชิมที่นี่ กลับไม่อร่อย อย่างที่คาดหวัง
มาพักกินมื้อเที่ยงที่คินตามณี พร้อมชมวิวภูเขาไฟบาตูร์
อาหารเที่ยงเป็นบุพเฟต์ อาหารก็มีเยอะ รับนักท่องเที่ยว
แต่เติมอาหารไม่ทัน ตอนที่ไป อาหาร แทบไม่มีให้เลือกเท่าไหร่
ในร้านอาหาร มีแมลงวันหัวเขียวเยอะมาก
วิวภูเขาไฟสวยมาก และลมแรง ลมเย็นมาก
วัดเบซากิห์ (BesakihComplex)
เป็นวัดใหญ่ เรียกกันว่าเป็น MotherTemple หรือวัดหลวงของเกาะบาหลี
ชาวบ้านจากทุกถิ่นที่นี่จะมาทำบุญกันเป็นประจำ
ที่นี่มีหลายวัดอยู่รวมกันเป็นอาณาบริเวณกว้าง นับรวมกันได้ถึง 23 วัด
โดยวัดที่ใหญ่ที่สุด คือวัดเปนาทารัน อากุง (Pura Penataran Agung)ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง
โดยด้านหลังของวัดนั้นเป็นภูเขาไฟกุนุงอากุง(Mount Agung) ภูเขาไฟที่สูงที่สุดของเกาะบาหลี
อาหาร มื้อเย็น
ร้านตกแต่งได้น่ารัก หลังร้าน เป็นทุ่งนา
อาหารเป็นเป็ดร่อน เป็นอาหารชุด พร้อมซุป น้ำปั่น ไอศกรีม และ ขนม
รอชม part#3-4 ต่อ นะคะ
ภูเขาไฟสวยดีค่ะ อากาศคงจะดีเลยนะคะ ลมแรงทำไมมีแมลงวันเยอะเนาะ
รูปปั้น รูปสลักเค้าดูน่าดุ น่ากลัวเหมือนกันนะคะ