• MaysitO~เที่ยวเมืองนอก โหว..ไฮโซ (ตรงไหน)~
• MaysitO~เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปจะรู้เรอะ~

เที่ยวอัมพวากับ ขสมก. กันค่ะ 2006 อารามยามอยากเที่ยว มะมีรถ ม่ะมีใครคบ ก้อยังอยากไป งานนี้เลยพยายามหาที่เที่ยวว่าไปไหนดี มีคนคบอยุ่แค่คนเด่วอ่ะ..นั่นแน่ ขากินเลยอยากตะลุยอัมพวา เอ๊..ไปไงดีหว่า รถก้อไม่มี นี่ๆๆ มีคนบอก ขสมก เค้าพาเที่ยวได้ ไปดูโปรแกรมที่ //www.bmta.co.th/thaiversion/thai_index.htm และแล้วทริปของเราก้ออย่างที่เห็นนี่หล่ะค่ะ สถานที่ : อู่แสมดำ - นั่งเรือดูหิ่งห้อยตลาดน้ำอัมพวา ผู้ร่วมทริป : ป้าคนสวย และ MaysitO อีกแล้วครับท่าน ขึ้นชื่อว่าไปกับ ขสมก. ก้อต้องไปขึ้นรถที่อู่ตามโปรแกรม ซึ่งครั้งนี้เราจะไปอู่แสมดำกันค่ะ ก้อนั่งรถ ปอ.140 ปอ.76 ปอ.141 ไปก้อได้ สุดสายเลยทริปนี้จะเริ่มช้ากว่าปกติหน่อยค่ะ คือ รถจะออกจากอู่เวลา 12.00 แต่ก้อกลับดึกกว่าทริปอื่นคือ 21.00 ค่ะ โดยปกติแล้ว ขสมก. ก้อจะใช้รถสีส้มยูโรทูในการเดินทาง แต่เนื่องด้วยวันนี้ผู้ร่วมทริปมีแค่ 12 คน เค้าจึงมีแผนสำรอง โดยการนำรถตู้ ขสมก. พาเราไปเที่ยวแทน รถยังใหม่เอี่ยมอ่องเลย ขึ้นรถไปกันเลยค่ะ รถตู้ ขสมก. นี้ก้อจะเป็นรถที่ใช้ก๊าซ NGV ค่ะ ก้อต้องมาอัดแก๊สกันให้เต็มก่อนเที่ยวกัน ซึ่งการเดินทางโดยรถตู้นี้ก้อจะสะดวกและรวดเร็วกว่าด้วยค่ะ (รูปนี้มีแอบถ่ายด้วย อิอิ) พาเที่ยววัดก่อน จะได้ได้บุญกันวัดแรก ก้อคือ วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา ด้วยความอยากรุ้อยากเห็น ก้อเลยเข้าไปถามพี่ไกด์ MaySitO : พี่ค่ะวัดนี้ดังเรื่องไรอ่ะค่ะ พี่ไกด์ : ก็หลวงพ่อคง ท่านดังเรื่องอยู่ยงคงกะพันไง MaySitO : อ่อ แล้วท่านอยุ่จนถึงอายุเท่าไหร่หละค่ะ พี่ไกด์ : งงเต๊ก ... มะช่ายงั้นน้อง อยู่ยงคงกะพัน หมายถึง ตี ฟัน แทง มะเข้าไง อิอิ MaySitO แอบโง่คร้าบท่าน ก้อหนูมะได้เซียนพระนิ ไปดูรอยพระพุทธบาทก้อได้ แล้วก้อไปวัดที่ 2 กันเลยค่ะวัดบางแคน้อย วัดนี้มีดีที่ไหน ไปดูที่ได้ในโบสถ์นี้ค่ะ โบสถ์วัดนี้เค้าแกะสลักทั้งโบสถ์เลยค่ะ ไม้สักทองซะด้วย หลายล้านนะเนียะ สวยๆๆ ยกพลไปวัดที่ 3 กันเลย วัดบางกุ้ง จริงๆ แล้ว ไฮไลต์ของวัดนี้ไม่ได้อยู่ในวัดค่ะ แต่อยู่บริเวณของวัด เค้าเรียกกันว่า "ค่ายบางกุ้ง" นี่เลย เห็นอะไรไหมค่ะ เค้าเรียกกันว่า "โบสถ์ปรกโพธิ์" สังเกตุว่าจะมีต้นไทรใหญ่โต มาเลื้อยพันธ์คลุมโบสถ์อยุ่ค่ะ ภายในจะมีหลวงพ่อนิลมณี ประดิษฐานอยู่ บริเวณค่ายบางกุ้งก็จะกว้างขวางใหญ่โต และจะมีรูปปั้นท่ามวยไทยอยู่ค่ะ แวะไปแอบถ่ายซะหน่อย มาถึงสมุทรสงครามกันทั้งที ไม่มาวัดนี้เหมือนมาไม่ถึง "วัดเพชรสมุทรวรวิหาร" ได้ยินชื่อไม่คุ้นก้อต้องเอ่ยถึง หลวงพ่อวัดบ้านแหลม คุ้นแล้วใช่มะค่ะ ตามไปไหว้กันค่ะ คนหนาแน่นตามที่ได้ยินคำร่ำลือมา ได้เวลาไปเดินตลาดน้ำยามเย็นกันแล้วค่ะ ระหว่างขาไปก็ได้แวะดูการทำน้ำตาลจากมะพร้าวกันนิดหน่อย ห้อมม หอมค่ะ ในที่สุดก้อมาถึงตลาดน้ำยามเย็นของเรากัน "ตลาดน้ำอัมพวา" เห็นชื่อถนนนี้ก้อน่าจะรุ้แล้วเนอะ เทสตัวเองหน่อยค่ะว่าลามกอ่ะป่าว ถนนนี้อ่านว่าอะไรค่ะ?? ขสมก. ปล่อยให้เที่ยวที่นี่ตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง หากินกันตามใจชอบ 18.45 ขอนัดรวมตัวอีกที งานนี้ตัวใครตัวมันค่ะ บรรยากาศโดยรวมเป็นอย่างนี้ค่ะ กินอะไรดีค่ะ เลือกตามใจชอบเลยค่ะ ยังไม่หมดค่ะ อย่าเพ่งอิ่ม มองไปฝั่งตรงข้าม ก้อคงอร่อยพอกันค่ะ กินอิ่มแหละ ไปเดินย่อยกันค่ะ ของโชว์ โมบาย ตลาดน้ำอัมพวามีมากมาย เหนื่อยนักก้อพักได้ ร้านกาแฟเยอะแยะ ห้อมม หอมแต่ข้าพเจ้าไม่ไหวแร้ว อิ่มมั่กมาก เดินย่อยต่อดีกว่า ของฝากเยอะแยะเลยค่ะ เสื้อก้อสวย แต่ว่า อิอิ ไม่มีตังค์ค่า พอเกือบ 1 ทุ่มตามเวลานัด ก้อมาพร้อมกันค่ะ ไปดูหิ่งห้อยกันภาพหลังจากนี้ไม่อาจจะเอามาให้ดูได้ ต้องไปดูด้วยตัวเองค่ะ สวยมากๆๆเลยค่ะ เค้าบอกกันว่าหน้าหนาวจะมากกว่านี้ จะลองกลับไปดูอีกทีค่ะ วันนี้ลากันแค่นี้หล่ะค่ะ ป.ล. ค่าใช้จ่ายต่อทริปก้อ 249 บาทค่ะ ค่ากินไม่เก่ว กินมากกินน้อย แล้วแต่ตังค์ค่ะ อิอิกล้บมาถึงอู่แสมดำก้อประมาน 3 ทุ่มพอดีเลยค่ะ   Create Date : 28 กรกฎาคม 2551     Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 14:57:19 น. Counter : 2300 Pageviews.   5 comment Share Tweet

หนีพ่อเที่ยววันพ่อปี 2005 หลังจากขุดรูปกันไปรอบนึง ก้อเกิดอาการคึกไปขุดมาได้อีกอัน ซึ่งนั่นคือทริปอัปยศอดสู รันทด สุดฤทธิ์ ใครม่ะเชื่อเวงกำ มาดูทริปนี้ของเรากันค่ะ คือว่า พวกเราไม่ยอมอยุ่กะพ่อกัน หนีไปเที่ยวสบายใจเฉิบ ก้อเจออาถรรพ์เต็มเลยค่ะ ตามไปดูกันดีกว่า มา... *คำเตือน* ทริปนี้เจอแต่พวกบ้ากล้อง วิวสวยๆงามๆ จะน้อยไปหน่อย แต่หน้าตาหลอกหลอนของพวกเราจะยังคงติดตราตรึงใจเสมอไป สถานที่ : วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา - ทุ่งทานตะวัน จ.สระบุรี ผู้ร่วมทริป : นุ้ย เมย์ บุ๋ม ตูน และ MaySitO เองคร่า ความซวยเริ่มมาเยือน เมื่อนัดแล้วไม่เป็นนัด เพราะเจ้าของรถทำธุระเสร็จช้า อิอิเนื่องด้วยนัดจะไปรับเพื่อนที่สระบุรี แล้วเที่ยวไล่ไปโคราช แต่ดันผิดแผน เลยต้องเปลี่ยนให้ไปเจอที่โคราชแล้วไล่เที่ยวไปทางสระบุรี พอเพื่อนมาถึงก้อยังมารับมันช้าอีก ไอ้เพื่อนเราเรยได้แต่นั่งรอ ร้อ รอฮาโหลๆๆ รอแปป เด๋วไปรับ กำลังรีบออกเนียะ อย่าทำหน้าบึ้งซิว่ะ เนียะๆๆ มาถึงแล้ว ไปๆๆ เด๋วเลี้ยงข้าวขอโทด อิ่มแระจะได้ไปวังน้ำเขียวกานเรย ยังไม่ทันพ้นสี่แยก บขส. โคราช รถก้อจอดสนิท ทายซิเกิดไรขึ้น พี่ Nissan ผ่านมาพอดีเลยแวะมาดูรถให้ แล้วประชดประชันสุดฤทธิ์ว่าขับรถไงกัน น้ำมันหมดไม่ดู เหอะๆๆ ก้อม่ะช่ายรถหนู ยืมเค้ามา ม่ายรู้นิ รีบมารับเพื่อนด้วยงั้นน้องก้อไปซื้อน้ำมันมา แล้วก้อปั๊มๆๆ ให้มันขึ้นงี้นะ พี่ไปล่ะ ... ค่ะๆๆ ระหว่างนั่งรอ อย่าหงุดหงิด ถ่ายรุปมันกลางสี่แยกนี่หล่ะว้า ขับไปเรื่อยๆ ไม่เคยไปวังน้ำเขียว ...เห็นรุปที่นี่มา อยากไปๆๆ ในเนตเขียนว่าเข้าไปแค่ 10 กว่าโลเอง แงๆๆๆ หนูโดนหลอก ขับไปเกือบจะ 40 โล กว่าจะถึง แต่ก็สวยดีนะ กว่าจะถึงก้อเย็น สำรวจๆๆ ที่กิน ที่นอน กันก่อนดีกว่าพื้นที่กว้างขวาง ขอสักรุปเหอะ พกที่นอน หมอน มุ้ง มาด้วย เผื่อจำเป็น แระก้อต้องใช้จริงๆด้วย มากางเต็นท์กัน ตื่นเช้ามาก้อไปเดินเล่นที่ท่าน้ำกัน ถ่ายรูปกะวิวทางซ้าย ถ่ายรุปกะวิวทางขวา กลางน้ำมีศาลาพักใจอยุ่ (มีพวกบ้าพลัง ว่ายข้ามไปด้วยค่ะ) เด็กๆ แถวนั้นก้อมา สายแระ รีบออกไปดีกว่า ไกลจะตายกว่าจะถึงถนนใหญ่ออกมาก้อดูๆๆ ป้ายท่องเที่ยวไป ขับรถไปเรื่อย แวะนี่ดีกว่า ท่าทางคนเยอะวุ้ย Village Farm ค่ะ คนเยอะจิงๆด้วย เยอะจนแบบไม่อยากกินไรแล้ว ออกมาถ่ายรุปดีกว่า ข้างหลังเปนเพิงขายของที่แทบจะไม่มีที่ยืนเลยค่ะ Village Farm เค้าดังเรื่องไวน์องุ่นค่ะ นี่..ไร่องุ่นของเค้า สวยเชียว ดังเรื่องรีสอร์ทด้วยค่ะ แต่แพงชะมัด ไม่ไหวๆๆ กาเป๋าฉีก (เวลาลง blog แร้วรูปมันจะมืดกว่าปกติจัง เพื่อนหนูเลยดำกำลังสองเลยอ่าคร่า อิอิ) บ่ายและ ไปหาที่นอนแถวเขาใหญ่กันดีกว่า ขับๆๆ รถไป ผ่าน Pensuk Great Western ไม่เที่ยวได้ไง คนละ 50 บาท ก้อเข้าไปได้เลย นำเที่ยวโดย รถไฟขบวนนี้ค่ะ รีสอร์ทที่นี่จะทำสไตล อินเดียแดง ค่ะ ถ่ายบรรยากาศรอบๆ มาไม่ชัดเท่าไหร่เลย ดูหน้าพวกเราไปด้วยแหละกานค่า ประทานโทด ที่ทำให้ดูน่ากัว ข้างในก้อมีกิจกรรมให้ทำค่ะ ลองเล่นซะหน่อยกันดีกว่า ยิงธนู 10 ดอก 150 บาท ม้างค่ะ จำไม่ค่อยได้ แต่ไม่แพงมาก ก้อเลยลองกัน ขาโหดมาแระ ไปยิงปืนต่อคนละ 2 นัด 3 นัด ราคา 300 บาทมั้งค่ะ เดินเที่ยวต่อสไตล์บ้านพักของที่นี่ค่ะ เป็นกระโจมบ้าง เป็นบ้านติดๆกันแบบเมืองคาวบอย และก้อห้องพักในรถไฟค่ะ ออกจาก Pensuk ก้อเย็นแล้ว ว่าจะไปหาที่พักแถวเขาใหญ่นอนกัน แต่ว่า .. โห ช่วงวันหยุดยาวงี้ ที่พักโก่งราคากันสุดๆไม่ไหว ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ก้อบึ่งรถไปเลยค่ะ ได้พักที่วังเทพพรหมภิมานรีสอร์ท อ.วังม่วง จ.สระบุรี ไกลหน่อยแต่สวยดีค่ะ ค่าห้อง 800 บาท นอนได้ 4 คน เอาที่นอนมาแยกเป็น 4 เตียงค่ะ เราไป 5 คน เค้าคิด 900 บาทค่ะ ทีวี ตู้เย็น ห้องแอร์ น้ำอุ่นค่ะ ถูกมั่กมาก ตื่นเช้ามาก้อเริ่มเที่ยวเลย เด๋วม่ะทันอีก ไปเขื่อนป่าสักก่อนค่ะ ใกล้สุดแต่ไม่ไหวค่ะ คนเยอะมากก รถติดมาก ร้อนด้วย ขับรถไปจุดมุ่งหมายหลักดีกว่าค่ะ "ทุ่งทานตะวัน" แวะตามไร่ที่เค้าเปิดให้ชมกันเสีย 5 บาทบ้าง 10 บาทบ้าง แต่มันไม่ค่อยสวยอ่ะค่ะ ก้อขับไปเรื่อยๆ จนเข้าเขตจ.ลพบุรี กรี๊ดๆๆ จอดๆๆอยู่ดีๆ ไอ้เพื่อนตัวดีก้อกรี๊ดออกมา เบรคแทบไม่ทัน ... เจอแล้ว ทุ่งทานตะวันในฝัน ไร่ใครไม่รุ้ ขอสักวันเหอะ สวยมากค่ะ ไม่ต้องเสียตังค์ด้วย อิอิ แต่ถ่ายๆ ไปก้อกัวเจ้าของเค้าจะมาไล่อ่ะค่ะ ได้เวลากลับบ้านและ ขับไปเรื่อย เจอไร่ของปภัสรา แวะเที่ยวซะหน่อยดีกว่า คนเยอะอีกแระ ทำใจๆๆ ถ่ายๆๆ รุปไร่องุ่นกับฟาร์มนกกระจอกเทศเค้า แร้วกลับบ้านเราดีกว่า รูปสุดท้ายปิดทริปนี้ กับอุโมงค์ต้นไม้ คนยังเยอะเหมือนเดิม   Create Date : 14 กรกฎาคม 2549     Last Update : 23 กรกฎาคม 2549 9:13:18 น. Counter : 1025 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เที่ยวกาญจนบุรีกับสังขละบุรีปี 2005 เบื่อๆ เซ็งๆ ไม่รุ้จาทำไรดี ... อ่ะนั่น เห็นเค้าฮิตๆ ทำ blog การมาตั้งนานแระ เกิดอาการอยากฮิตตาม ..แต่เอ๊..แววม่ะรุ่งทำไมมานตามมาติดๆ เหอะๆๆ แต่ไม่เปนไร เราจาพยายาม ยังไงก้อฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค่ะ ด้วยความเห่ออยากทำสุดฤทธิ์ แต่..แต่..แต่..มานไม่มีรูปใหม่ๆเร้ยยย ไปขุดๆ ก้อได้นี่มา แต่น..แต๊นทริปตั้งกะปีที่แล้ว เหอะๆๆ ดูๆปายก่อนแร้วกาน เผื่อเกิดอาการอยากกลับไปซ้ำรอยเดิมก้อได้ คริๆๆ สถานที่ : เที่ยวน้ำตก ล่องรถไฟ สะพานแม่น้ำแควจ.กาญจนบุรี ผู้ร่วมทริป : บุ๋ม นุ้ย วัลย์ วี และ MaySitO เอง ออกจาก กทม ประมาณ 7 โมง แต่ขอแวะรับเพื่อนที่นครปฐมแปปนึงนะ เย้ๆๆๆ นั่นเห็นแล้ว ถึงแล้ว แหมๆๆ มาทั้งที ไม่ถ่ายได้ไง...เนอะ นครปฐมอีกรูป แล้วก็ตรงดิ่งมาเที่ยวนี่ก่อน เห็นแค่เนียะจำได้ม่ะค่ะที่ไหน อ่ะๆๆ ดูกันให้ชัดอีกทีว่าแถวไหน อ่อ...แถวนี้นี่เอง แล้วรีบๆๆ ตาลีตาเหลือกไปนี่ก่อน เด๋วกัวไม่ทันรถไฟ อ่านเองเลยแล้วกันว่าที่ไหน แล้วนี่ก้อนางเอกของเรื่อง ไปยืนๆ แตะๆ ถ่ายรูป ก้อชื่นใจแล้ว แล้วก้อไปต่อที่นี่กันเลย เตรียมตัวเดินทาง และแล้วเราก้อขึ้นขบวนกานเลย ตีตั๋วไม่กี่บาท แต่นั่งเป็นชั่วโมงเลย คุ้มจริงๆ นั่งรถไฟไปไหน มาดูกันทางรถไฟสายมรณะ นั่นเอง ...ถ่ายรูปยากมากค่ะ เพราะจะเห็นแต่หัวคน ข้าพเจ้าก้อมีปัญญาแค่นี้เอง ช่วงสะพานมรณะก้อจะมีรีสอร์ทน่าเที่ยวอยุ่ น่าสนใจส่องไว้ก่อน เด๋วตามมาเก็บ และแล้วก้อนั่งรถไฟไทยไปเรื่อยๆ จอดรอบ้าง เสียบ้าง กว่าจะถึงอ.เมือง ก้อเล่นเอาเหนื่อย เพื่อนๆ ส่วนมากมีธุระวันรุ่งขึ้นก้อกลับกัน แต่ข้าพเจ้าขอไปต่อ หลังจากตะลุยน้ำตก ล่องรถไฟ ข้ามสะพานแล้ว เพื่อนๆ ก้อหนีกันกลับหมด ทิ้งเราสองคนให้ไปเที่ยวสังขละบุรีกันโดยเป็นห่วงกันมากว่าเราสองคนจะไปทำร้ายผุ้คนแถวๆนั้น บร้า...เค้าม่ะช่ายบร้ากามนะ ไปเที่ยวกับเรากานเรยดีกว่าค่ะ สัญญาว่าจะไม่ทำร้ายครายย(แต่ถ้าหน้ามืด อย่าว่าเค้านะ)คริๆๆ สถานที่ : อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ผู้ร่วมทริป : ไม่อาจเปิดเผยตัวได้ อิอิ ก้อมานเหลือกานแค่เนียะ ทายให้ถูกจิ เนื่องด้วยมันดึกแล้วจะไปถึงสังขละเลยคงไม่ไหว แวะพักกันที่นี่ก่อนแล้วกันค่ะ ตื่นเช้าขึ้นมาก้อที่นี่เลย นั่งรถเมล์ท้องถิ่นไปเที่ยวแถวๆ นั้นกันเลย ค่ารถ 20 บาท ก้อมาถึงนี่...น้ำพุร้อนหินดาด แช่ๆๆ ได้สักชั่วโมงก้อกลับดีกว่า ชื่นใจแระ แล้วก้อไปสังขละกันเลยดีกว่า อ่ะ..เห็นพระองค์โตๆ แสดงว่ามาถึงสังขละแล้วหล่ะ ก่อนอื่น หาที่ซุกหัวนอนก่อน เด๋วได้นอนข้างถนน ซวยเรยดูมาแล้วค่ะว่าจะไปขี่ช้าง ล่องแพ กับ P.Guesthouse แต่ว่าพอดีไม่ค่อยสบายก้อเลยไป cancel ทริปดีกว่า นอนอย่างเดียว สบายดี ก้อได้ห้องริมสุด ล่างสุด วิวดีสุดเริ่มกันที่วิวหน้าห้องค่ะ เปิดห้องไปหรูหราฟู่ฟ่า เตียงนอนกับวิวทางขวา ค่าห้องก้อ 750 บาทต่อคืน มีแต่แอร์อย่างเดียวค่ะ (เหงาๆๆ ทีวีก้อไม่มี) แต่วิวกับห้องดีมากค่ะ วิวข้างหน้า เมื่อมองลอดหน้าต่างออกไป เค้าเรียกกันว่า "สามประสบ" คือที่ที่แม่น้ำ 3 สามสายมาเจอกันค่ะ (แม่น้ำรันตี ซองกาเลีย และบีคี่) มุมหน้าห้องน้ำ ชอบมาก แสงไฟสลัวๆ อ่ะ..มุมโปรด ขาดไม่ได้ห้องน้ำทำสวยค่ะ กว้างด้วย ชอบมากๆ แต่..เจ๊บใจ เก็บรูปมาเบลอหมดเยย บริเวณ P Guesthouse มองจากห้องพัก ต้องปีนบันไดขึ้นไปเวลาหิวข้าวหรือออกไปข้างนอกค่ะ บริเวณหน้าห้องพัก มองไปไกลๆๆลิบๆๆจะเห็นสะพานมอญค่ะ วันรุ่งขึ้นก้อเช่ามอร์ไซด์ที่ P Guesthouse วันละ 250 บาท จะได้เที่ยวให้ทั่ว ขับไปฝนตกปรอยๆไป เช้าตรู่ก้อขับข้ามไปเที่ยวเจดีย์ที่ฝั่งวัดวังก์วิเวการามก่อน และก้อแวะปายถ่ายรูปสะพานมอญ จากจุดชมวิวกันค่ะ แล้วก้อบิดๆๆ มอไซด์ไปด่านเจย์ดีสามองค์กันค่ะ ฝนตกตลอดเลย มีทหารตรวจตราเปนระยะ แต่เราม่ะกัว..เราร้องเพลงชาติได้ แบร่และแล้วก้อมาถึง ด่านข้ามไปพม่าค่ะ ในพม่าต้องขับรถทางขวานะค่ะ เพราะพม่าจะพวงมาลัยคนละด้านกับเรา ก้อขับไปโดนพม่าไล่และด่าไปอ่ะค่ะ แบบว่าขับผิดทางตลอด กินลมชมวิวไปเรื่อย จนมาถึงที่เที่ยวของเราแล้ว วัดเสาร้อยต้นค่ะ เห็นเจดีย์ไหมค่ะ แงแงแง อยากไปอยากไป แต่มันม่ะมีเวลาค่ะ แบบว่าฝนตกมากมาย ต้องคอยหลบฝนตลอดเลยค่อนข้างเสียเวลาอ่ะค่ะ คราวหน้าไม่พลาดแน่ บิดมอไซด์กลับก่อนดีกว่า รีบกลับไปหาที่ซุกหัวนอนคืนนี้ดีกว่า มองไว้แล้วเหมือนกันค่ะ "สามประสบรีสอร์ท"ใกล้สะพานมอญที่สุด ที่สามประสบห้องพักวิวดีๆ จะมี 3 เตียงค่ะ (งานนี้ไปกัน 2 คน) ก้อกลิ้งเกลือกกันตามสบายเลย ห้องพักราคา 900 บาท (จริงๆ นอนได้ 3 คน) มีข้าวต้มกะโอวัลตินตอนเช้าให้ด้วย แอร์ ทีวี ตู้เย็น พร้อมเลยค่ะ (แต่ห้องเล็กกว่าและตกแต่งน้อยกว่า P Guesthouse ค่ะ) มุมโปรดห้องน้ำสีสวยดี แต่ไม่ใหญ่มาก วิวสวยค่ะ มองจากบ้านพักนั่นเอง รุ้แร้วชะม่ายหล่ะว่าทำไมยอมลงทุน หมดตูดเยยย ไปเดินเล่นสะพานมอญกันดีกว่าค่ะ เย็นแล้ว ฝนหยุดแล้วด้วย เริ่มที่สะพานเก่า เพื่อข้ามไปฝั่งมอญก่อน เดินไปได้สักนิดมองกลับมาก้อจะเห็นที่พักเราค่ะ แล้วนี่ก้อสะพานใหม่ที่สร้างเชื่อมกันค่ะ มองไปข้างหลังก็จะเห็นสะพานเก่าด้วย รุ่งเช้าก้อตื่นมา ไปเดินเล่น แล้วก้อไปกินข้าวต้มที่เค้าจัดไว้ให้และรูปสุดท้ายก้อเป็นวิวที่มองจากร้านอาหารของสามประสบรีสอร์ทค่ะ สวยเรยทีเดียว(คนหรือวิว??? คิดเอาเองค่ะ) ทริปนี้พอแค่นี้แระกันเนอะ โพสต์เยอะแล้ว วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ   Create Date : 07 กรกฎาคม 2549     Last Update : 21 กรกฎาคม 2549 17:32:52 น. Counter : 968 Pageviews.   3 comment Share Tweet

• BlogGang.com