......บันทึกการเดินทางของชีวิต แบบเรื่อยเปื่อยตามแรงอารมณ์......


แม่เจ้าเมฯ
Location :
Great Yarmouth United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





แม่ของลูก 3 เมฯ
เมธัส เมฑิรา เมษวีร์
...รวบรวมบันทึกรูปภาพและเรื่องราว
ของวันดีๆในช่วงชีวิตที่ประทับใจ...
ชีวิตครอบครัว...มิตรภาพ-เพื่อนฝูง...
อาหารการกิน...เรื่องราวท่องเที่ยว...
สิ่งแปลกใหม่ในสถานที่แปลกตา
และสิ่งจรรโลงใจทั้งหลายทั้งมวล...
...ไม่มาก-ไม่น้อย แต่ไม่พอดี???
...ไม่ขาด-แต่ไม่เกิน ไม่เต็ม-แต่ไม่ล้น...

Enjoy your life while you can.




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าเมฯ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
DIY Kitchen (Fix your meal)


การที่ต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไกลถิ่นแบบนี้
ก็มีเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องหลักที่ทำให้เราคิดถึงบ้านอยู่
เสมอคือเรื่อง"อาหาร"นี่แหละ
เพราะเมืองไทยมีวัฒนธรรมเรื่องการกินที่ไม่เหมือนใคร...
ชาวต่างชาติที่ได้ไปเยือนเมืองไทยมักแปลกใจกันเสมอว่า

ทำไมคนไทยกินกันเก่งจังหว๋า!!!
คำทักทายแบบที่คนอื่นๆเขาถามกันว่า "สบายดีไหม?"
แต่พี่ไทยเจอกันมักจะถามก่อนเลย "กินข้าวหรือยังจ๊ะ?"
หรือเพิ่งกินข้าวแกงมาตะกี้เนี๊ย...
แล้วดั๊นเดินมาเจอเพื่อนชวนไปกินก่วยเตี๋ยวต่อ...
เธอก็สามารถไปกินตามคำชวนของเพื่อนได้อีกแน่ะ...เอ้อ...
ความสามารถพิเศษชนิดนี้มีเฉพาะในคนไทยเท่านั้น...
เพราะฉะนั้นเรื่องกินดูเหมือนจะเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ของ
คนต่างแดนอย่างเราๆ...
และด้วยความที่บ้านเมืองไทยเราหาของกินได้ง่ายดาย
และสะดวกอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะดึกดื่นค่อนคืน เกิดนึกอยาก
กินอะไร? เวลาไหน?ก็ไม่ใช่เรื่องยาก...
เลยเป็นการปลูกฝังในทางอ้อมให้เราขี้เกียจที่จะ
เรียนรู้วิธีการทำอาหารไปซะงั้นแหละ...
(อันนี้เป็นความคิดส่วนตัีว ส่วนตัวนะคะ ไม่ได้เหมารวม
ว่าคนอื่นจะเป็นไปด้วยกะเรานะคะ...)
ก็เลยไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ติดตัวมาเลยและก็ไม่นึกว่า
โชคชะตาจะเล่นตลก ส่งเรามาไกลขนาดนี้...ฮ่วย......

ตอนที่มาอยู่ที่อังกฤษใหม่ๆ รู้สึกเคว้งคว้างมาก
เพราะก่อนมาไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้มาก่อนเล๊ย
พอมาถึงแล้วนั่นแหละถึงมานึกขึ้นได้ว่า
ตายล่ะวา!!!!!
แล้วตูจะกินอะไรฟะเนี่ย?????
ไปเห็นพริกขี้หนูแดงๆ 4-5 เม็ด ใน Asda ก็อยากกินจัง
ทำไงดี? แต่แหมพริกขี้หนูนั่งเครื่องบินนี่มันแพงจังเลยวู๊ย....
ไปเห็นน้ำปลาตราปลาหมึกขวดแรกในร้านอินเดียเข้าก็แทบ
จะก้มลงไปสวัสดีจ้ากะขวดน้ำปลาเลยทีเดียว.....
เพราะสมัยนั้นยังหาอาหารไทยหรือวัตถุดิบในการปรุง
อาหารไทยได้ไม่สะดวกเหมือนเดี๋ยวนี้...
และอันตัวเรานี้ก็แสนจะเก่งกาจเสียนี่กระไร?
...ขนาดทอดไข่เจียวธรรมดาก็ยังไหม้ได้เลยอ่ะ....
...คิดดูละกั๊น...

.........ต่อมาเลยคิดได้ว่าเอาล่ะฟะ...ลองดูซักตั้งน่า
มาฝึกเรียนรู้เอาตอนนี้ก็ยังไม่สายล่ะมั๊ง????
(แต่ที่จริงน่ะเลยบ่าย 3 ไปแล้วล่ะ เหอเหอ...)
เลยเริ่มต้นสอบถามเกร็ดความรู้ในเรื่องครัวกับ
เพื่อนคนไทยที่สนิทๆกัน ถามๆไป-ถามมาจน
เพื่อนเบื่อขี้หน้า หนีหายไปก็หลายคน
บางคนยังดีมีน้ำใจสุดๆ
ทำอะไรกินทีเขาก็แบ่งเหลือเผื่อมาถึงเราด้วย...
ต่อมาเห็นใครๆเขาก็มีคอมพิวเตอร์กัน ก็เอามั่งดิ่...
มันใช้ยังไง? จะเอาไว้ทำอะไรได้ก็ยังไม่รู้เลย?
แต่เอาเหอะก็ไปถอยมาก่อนล่ะ...
เสร็จแล้วก็มาปล้ำๆกับมันจนเจอเวปไซท์คนไทย
ทำอาหารเข้าหลากหลายเวปเลยค่ะ
....สนุกกันล่ะทีนี้....
โอ๊ว...พระเจ้าจอร์จ มันช่างยอดม๊ากค่ะ....
ทีนี้ก็ไม่ต้องตามง้อถามเพื่อนกันอีกแล้ว...
อยากกินอะไรก็เปิดตำราหากันเอาจากคอมฯเลย...
ง่ายดีชะมัดเลย...
หุหุ...
แต่ตามที่กล่าวมาแล้วว่า บางครั้งวัตถุดิบยังเป็น
ปัญหาใหญ่ก็เลยต้องมีการประยุกต์หรือดัดแปลง
กันไปบ้างตามสถานการณ์และตามประสา
คนช่างกินของเรา...

...อย่างวันนี้นึกอยากกินส้มตำขึ้นมา ก็เตรียมเครื่องเสร็จสรรพ...
แต่มานึกขึ้นได้ว่าดันขาดปัจจัยสำคัญคือปูเค็มและปลาร้าซะนี่...
...จิ๊...ยัยบ๊องส์เอ๊ย...

...แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม...เราจะต้องกินส้มตำให้ได้...ฮึ่...
เอ้า...ลองรื้อตู้เย็นดูจิ๊... มีอะไรมาแก้ขัดบ้างหว่า??????...
อ๊าาาาา...สวรรค์ยังไม่โหดร้ายกะเรานักหรอกฟะ.......
อุตส่าห์มีน้ำปู๋จากเชียงใหม่เหลืออยู่ครึ่งกระปุก
เอามาแทนปูเค็มได้แร่ะ......
เอ้า...เจอไข่ปลาคาเวียร์อีกหนึ่งกระปุก ...เอาล่ะเหวยๆ
นึกซะว่ามันก็ปลาเหมือนกันน่ะแหละน่า แค่มันยังไม่เป็นตัวเท่านั้นเอง...
หยวนๆน่ะ.... เอามาแทนปลาร้าไปก่อนเหอะ...




นี่ล่ะค่ะหน้าตาของไข่ปลาคาเวียร์ สีส้มๆเม็ดเล็กๆ สวยเชียว...
อร่อยซะด้วยนา เคี้ยวกรุบๆกับผักกรอบๆ เด็ดมาก...




เครื่องครบแล้วก็บรรเลงกันเลยค่ะ...นาทีนั้นนึกหาของแกล้มไม่ถูกจริงๆ...
เพราะมันหิวจนหน้ามืดไปหมดแล้ว แทบจะต้องจุดเทียนต้มส้มตำกันเลยเชียวล่ะ...
อ่ะ วินาทีสุดท้ายนึกขึ้นได้...เลยโยนขาน้องไก่ลงหม้อทอดไปรอไว้ 1 ขา...




เสร็จแล้วค่ะ หน้าตาส้มตำ(บังเอิญ)ไฮโซ โดยฝีมือไฮซ้อก็สำเร็จลงด้วยดี
ถึงจะมีเพียงแค่กลิ่นปูและวิณญานปลา แต่ก็อร่อยกันตายไปได้อีกมื้อล่ะค๊า...








Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:32:21 น. 5 comments
Counter : 841 Pageviews.

 
ส้มตำไฮโซ อิ

น่าตาดี อยากกินมั่ง มีมะละกอดิบด้วยแฮะ ดิฉันต้องใช้มะม่วงหรือแครอทแทน



โดย: Farm Girl in High Sierra วันที่: 30 มิถุนายน 2550 เวลา:2:48:35 น.  

 
พี่ญ่าจ๋านู๋กินด้วยคนค่า หิวๆๆ เดี๋ยวเอาหนมจีนมาแลกนะ


โดย: Just a life วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:47:42 น.  

 
คุณฝนลองใช้ผลไม้อย่างอื่นที่มีเนื้อค่อนข้างกรอบแทนก็ได้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าแถวๆบ้านคุณฝนจะมีอะไรบ้างน่ะ เลยแนะนำไม่ถูกอ่ะ...
น้องก้อยถ้ามีโอกาสผ่านมาแถวนี้ก็แวะมาจกส้มตำด้วยกันเน้อ....


โดย: แม่เจ้าเมฯ IP: 172.141.222.126 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:13:44 น.  

 


โดย: pim IP: 161.200.255.162 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:11:42:16 น.  

 
คุณแม่เจ้าเมฯ เล่าเรื่องได้สนุกมากเลยค่ะ
นึกภาพออกเลยว่าเมื่อได้เห็นน้ำปลาตราปลาหมึก
ขวดแรกในต่างแดนแล้ว จะรู้สึกดีใจสักเพียงไหน ..

ส้มตำไทยประยุกต์จานนี้หน้าตาดูดีและ
น่าทานมากๆ เลยค่ะ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 11 ตุลาคม 2550 เวลา:21:23:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.