นิยายแปล..........แปลแหลก แปลกนักแล Present to you by Maxmaya

"ATTITUDE" The pleasure you get from your life is equal to the "ATTITUDE" you put into it
Group Blog
 
All blogs
 
สามีดีแตก บทที่ 21 - 25




Twenty-one

หนึ่งสัปดาห์หลังจากผมกลับจากลอนดอน ผมกับซูซานนัดเจอกันในที่แฮนฟอร์ดเพื่อความเป็นกลางทั้งสองฝ่ายเหมือนกับการเจรจาตกลงระหว่างสองผู้นำสงครามงั้นแหละ แฮนฟอร์ดเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยการซุบซิบ นินทา เราได้ทำให้ผู้คนที่นี่ได้เริงร่ากันอีกครั้งกับเรื่องราวของเรา บางสิ่งที่จำเป็นต้องพูดกันในผับ เพื่อภรรยาจะได้ไม่ต้องเจอกับกลุ่มสมาคมหนังสือ
ซู อยู่ในอารมณ์ที่รวดร้าวและร้อนแรง พยายามควบคุมความกดดันที่แสนทรมาร เธอบอกกับผมว่ามันจบลงได้แล้วในขณะที่บอกกับเพื่อน ๆ ของเธอว่าผมเลวแค่ไหน แต่เธอก็ยังต้องการผม ผมไม่ได้ใช้ความพยายามมากนักที่จะอธิบายถึงตัวเอง แต่ผมก็ไม่สามารถอธิบายได้ ผมไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมรู้สึกเหมือนผมสมควรได้รับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ความละอายแก่ใจได้เข้าถึงผมจนแทบจะเป็นอัมพาฒไปเลย
เรานั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสระว่ายน้ำของเทศบาล ข้างนอกเริ่มหนาวขึ้น ความหดหู่ได้แทรกซึมเข้าถึงกระดูกข้างใน เหมือนน้ำหมึกซึมเข้าแท่งชอล์ค ซูดูซีดขาว ใบหน้ามึนตึงเหมือนหน้ากาก กาแฟลาเต้ของเธอเย็นชืดลง และเธอก็ไม่ได้ดื่มมันเลยสักนิด
เธอแต่งตัวธรรมดากว่าที่เคย เหมือนปกติที่เธอชอบแต่ง เสื้อสีดำ กางเกงสีดำหลวม ๆ ที่ใช้สายผูก ไม่แต่งหน้า เธอเหมือนจิ้งจกตรงที่พยายามทำตัวให้กลมกลืนกับพื้นผนัง และปกปิดร้อยยิ้มที่ปวดร้าวได้แนบเนียน
จิตใจของผมล่องลอยกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ที่สระว่ายน้ำแห่งเดียวกันนี้ เดวิดยังเล็กอยู่มาก แค่สี่ขวบ กำลังน่าชังและแก่แดดเกินวัย เราเล่นเป็นจระเข้กัน ผมนอนในแอ่งน้ำสำหรับเด็ก โผล่แค่ตาขึ้นมาเหนือน้ำ เอามือเท้าสะเอวไว้เหมือนเป็นจรเข้ ผมสาดน้ำใส่เดวิด เขาร้องลั่นด้วยความสนุกสนานพยายามที่จะวิ่งหนี ผมยืนขึ้นแล้วมองไปที่ซูซึ่งกำลังนั่งอ่านนิยายอยู่ที่มุมกาแฟ
- ทำไมคุณไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาเล่นน้ำด้วยกันล่ะ
เธอยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
เดวิดสาดน้ำใส่ผมแล้ววิ่งหนีไปหัวเราะกิ๊กก๊ากอย่างเริงร่าที่ได้ทำอย่างนั้น ซูหันกลับไปสนใจหนังสือของเธอตามเดิม
เกือบสิบปีผ่านไป มีแต่ความสุภาพอ่อนโยนที่ดำเนินไปเรื่อย ๆ

- เราจะทำอย่างไรกันดีล่ะ มาร์ค
- ทำอะไรหรือ ผมคิดว่ามันจบไปแล้ว
- มาร์ค ค๊ะ ความจริงก็คือ คุณแค่อยากจะกินขนมหวาน แล้วคุณก็ได้กินแล้วไง
- นั้นไม่ใช่ความเป็นจริงหรอก ซู มันคือความคิดเห็นของคุณเอง
ผมหวังว่าผมไม่ได้ทำน้ำให้มันขุ่นขึ้นมาอีกเพราะไปมีความสัมพันธ์ใหม่นะ แต่ไม่รู้ซิ ตั้งแต่ผมได้พบกับแอนนา ผมหวังว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างสำหรับผม บางสิ่งที่ดีกว่า และผมก็คิดว่าที่ผ่านมาอาจจะถูกของซูซานที่ว่ามันเป็นไปอย่างที่มันกำลังเป็นอยู่
ผมกำลังคิดถึงว่าเราได้อยู่ด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว แล้วเราจะทิ้งมันไปง่าย ๆ งั้นหรือ
คุณจะประเมินค่าของความสัมพันธ์ในหลายปีที่ผ่านมาได้หรือ ผมยังสงสัยอยู่ ไม่ต้องคำนึงถึงคุณภาพก็ได้ ลองมองย้อนกลับไปดูซิว่าเราได้ร่วมเดินทางกันมาไกลแค่ไหนแล้ว ความรักคืออะไรกัน แล้วความสัมพันธ์ล่ะ หรือมันเป็นเหมือนเกราะป้องกัน หรือเป็นนิสัยความเคยชิน หรือสิ่งที่คุณได้ยินยอมตกลงกับมันแล้วต้องทนอยู่กับมันตลอดไปไม่ว่าจะเป็นอย่างไร หรือเป็นเพียงแค่นโยบายการประกันความโดดเดี่ยวเดียวดาย
ผมอยากรู้จังว่าจะมีอีกกี่คู่นะที่จะต้องทนอยู่กันไปอย่างเสียมิได้
- ทุกคู่ชีวิตมันก็ต้องมีขึ้นมีลงกันทั้งนั้นแหละ ค่ะ ซู พูด
ผมนึกภาพสีหน้าของเดวิด ถ้าหากผมบอกกับเขาว่า พ่อ กับ แม่ กำลังจะหย่าจากกัน ผมคิดถึงการขายบ้าน การแบ่งข้าวของว่าใครจะได้อะไร ใครจะไปที่ไหน และ ซูจะทำอะไรต่อไป ผมคิดถึงวันหยุด และช่วงเวลาที่ลำบากที่ผมเริ่มออกเที่ยว คิดถึงเพื่อนที่จะไม่เข้าใจ คิดว่าสิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ยังกับว่าจะมีเหตุผลที่ดีที่จะอยู่ด้วยกันต่อไป
- นี่มันอะไรกัน มาร์ค หรือเป็นเพราะว่าคุณต้องการคนที่สาวกว่า ใช่มั๊ย
- ผมรู้เลยว่าคุณต้องพูดอย่างนี้
- เธอสอนกลเม็ดเด็ดพรายใหม่ ๆ ให้คุณหรือยังล่ะ
ผมหมดอารมณ์ที่จะดื่มกาแฟอีกต่อไป มองออกไปนอกหน้าต่างคิดว่าผมจะพูดกับเธออย่างไรดี เธอต้องการผมกลับไป แต่ผมไม่ต้องการ และผมก็ไม่สามารถที่จะทนดูเธอเจ็บปวดแบบนี้ได้เสียด้วยซิ
- อย่าทำกันอย่างนี้เลย เธอพูด ใบหน้าแสดงถึงการไม่ยอมรับ ราวกับกระสุนในรางปืนที่พร้อมยิง
ผมพยายามนึกภาพว่าจะเป็นอย่างไรหากว่าเราจะกลับมามีความสุขกันอีกครั้ง อยู่ในภวังค์รักอย่างดูดดื่ม พันธนาการรักที่หนักแน่นกว่าแต่ก่อน เพื่อที่จะรักที่จะอยู่บ้านมากกว่าที่อื่นใด
- ผมขอโทษที่มันออกมาเป็นเช่นนี้ ซู
เธอปฏิเสธผม
- เกิดอะไรขึ้นที่ลอนดอนหรือค๊ะ มาร์ค
- ผมจะไม่บอกคุณหรอกนะ ผมตอบออกไป ผมนึกเห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแอนนาเป็นสิ่งที่น่าเทอดทูนในตอนนี้ ผมจะไม่สาธยายให้เธอฟังหรอก เพราะยังไงเธอก็ไม่เห็นด้วย
- คุณยังติดต่อกับเธออยู่หรือเปล่าค๊ะ
ผมไม่ตอบ เธอจ้องมองผมอย่างตะลึง
- ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ
เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก พ่อ แม่ของผมสอนว่าการโกหกเป็นสิ่งผิด แต่พวกผู้ใหญ่ก็ทำกันอยู่ตลอดเวลา มันเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวอยู่กันอย่างเป็นสุขได้ อะไรที่เธอไม่รู้ เธอก็ไม่เจ็บ แม่ของผมเคยพูดอย่างนั้น การที่เราจะเป็นคนดีได้นั้น เราจะต้องคอยระวังไม่ให้คนที่เรารักได้รับความจริงที่เจ็บปวด ราวกับว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งหรูหราฟุ่มเฟือยที่เราจะต้องใช้มันอย่างมัธยัท เหมือนหอยนางรม หรือ ไข่ปลาคาเวียร์
แม้ซูจะพูดว่าชีวิตคู่ของเราจบลงแล้ว แต่ผมก็รู้ได้ว่าเธอยังคงเจ็บปวดอยู่ มันเป็นสถานะภาพที่ยากที่จะรับได้
เมื่อคุณได้โกหกแล้วครั้งนึง คุณจะไม่สามารถหยุดมันได้ เพื่อที่จะให้ซูไม่เจ็บปวด ผมจำต้องกลายเป็นคนที่ผมไม่อยากเป็นเลยสักนิด ซูได้คิดไปว่าความสัมพันธ์ของผมกับแอนนาได้จบไปแล้ว และผมก็ปล่อยให้เธอคิดไปเช่นนั้น ผมรู้สึกละอายเกินกว่าที่จะทิ้งชีวิตคู่ของผมไป แต่ผมยังอยากเจอแอนนาอีกสักสองสามวัน ผมกำลังอยู่ในสภาวะระหว่างทางสองแพร่ง
ผมรู้สึกถูกกดดันจากความขัดแย้งในตัวเอง ผมคิดว่าซูจะไม่มีทางให้อภัยผมได้เลย หากเธอรู้ว่าผมยังมีความสัมพันธ์กันแอนนาอยู่อีก แต่เธอก็ให้ ผมประหลาดใจมาก ผมก็เลยเหมือนได้เปิดประตูทิ้งไว้ทุกบาน รอเวลาตัดสินใจว่าผมจะเดินเข้าประตูไหน แต่ก็ดูเหมือนเวลาเป็นสิ่งที่ผมไม่มีเหลือเลย
- แอนนากำลังบินมาที่นี่เพื่อทำธุระ และผมก็คงจะไปพบเธอด้วย
- ชั้นคิดว่าระหว่างคุณกับเธอมันจบลงไปแล้ว
- คือ มันยังไม่
ซูลุกขึ้นแล้วเดินจากไป


Twenty two

ผมเช่าบ้านอยู่ห่างจากแฮนฟอร์ดประมาณสิบนาทีโดยรถยนต์ไปทางเข้าเมือง มันมีกลิ่นฝุ่นคลุ้ง เพราะมันว่างมาเดือนนึงแล้ว มันเยือกเย็นและก็มีเชื้อราขึ้นอยู่บ้าง ผมไม่ได้สำรวจทุกห้อง เหมือนหัวใจผมนั้นแหละ มีแมลงมุมอยู่ที่มุมมืดของห้อง มันเคลื่อนตัวอย่างระแวงเพราะแสงไฟฉายที่ส่องไปที่มัน
ผมเดินสำรวจบ้านเสียงดังออดแอดเหมือนมีผีตอนกลางวัน ตอนกลางคืนผมก็นอนอยู่บนโซฟาและเลื่อนหาช่องทีวีไปเรื่อย ๆ เพราะผมนอนไม่หลับ
หลังจากนั้นอีกสองวัน ในตอนเช้า รถของซูก็เลี้ยวปร๊าดเข้ามา
- ชีวิตคู่ของเรามันได้จบลงแล้ว ซูร้องบอก
ผมคิดว่าสำหรับเธอแล้วมันคงจะจบไปนานแล้ว
- ชั้นจะบอกกับเดวิดคืนนี้ เธอตะโกนบอก และชั้นก็ต้องการให้คุณอยู่ที่นั่นด้วย
ผมยังไม่พร้อมสำหรับขั้นตอนนี้ หัวของผมหมุนติ้ว ผมอยากจะเจอแอนนาอีกสักครั้ง มันจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วหลังจากนั้น ผมพร้อมที่จะยอมรับกับชีวิตที่ผ่านมาที่ผมไม่อยากจะรับรู้ หากว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ๆ
- แล้วถ้าหากว่าผมไม่เข้าร่วมวันตัดสินชะตาชีวิตของครอบครัวเราในครั้งนี้ล่ะ
- ชั้นก็จะบอกเดวิดในส่วนของชั้นที่ชั้นต้องบอกให้เค้ารู้ ในส่วนของคุณ มันก็เรื่องของคุณ
ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าผมคงจะไม่ไป มันเป็นปฏิวัติการก่อจราจลของผม เพราะผมยังไม่รู้ว่าในส่วนของผมที่พูดนั้นมันคืออะไร ทำส่วนของคุณไปก็แล้วกัน ส่วนผมขอน้อมรับทุกประการ
- เรื่องของเรื่องก็คือคุณมีความสัมพันธ์ใหม่ ค่ะ มาร์ค
- ผมรู้ว่าพูดไปคุณก็ไม่เชื่อ ว่าแอนนาไม่ได้ต้องการผมในฐานะสามีของเธอหรอก
- ให้ตายเถอะมาร์ค วันนี้คือปัจจุบัน วันเสาร์นี้ก็จะเป็นอนาคต และคุณก็จะใช้เวลาอยู่กับเธอนั่นคือความจริง ชั้นว่าชั้นควรจะได้ใครที่ดีกว่านี้นะ บางคนที่มีความซื่อสัตย์ และคุณธรรมมากกว่าคุณ
ผมเห็นด้วย แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็จะยิ่งทำให้เธอโกรธมากกว่านี้
- ความจริงก็คือ มาร์ค ชีวิตคู่ของเรามีแต่ชั้นที่เป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความสัมพันธ์
อะไรต่อมิอะไรสำหรับซูแล้วมันคือความซื่อสัตย์และคุณธรรม งั้นผมก็ใช้ชีวิตทั้งหมดที่ผ่านมาแสร้งทำเป็นมีความซื่อสัตย์และคุณธรรมงั้นหรือ แต่นับตั้งแต่ผมไม่เคยซื่อสัตย์ต่อตัวเองแล้ว คุณอาจจะเรียกมันว่าเป็นขอบเขตของความบริสุทธ์ก็ได้
ผมยังคงรักซูอยู่ อาจจะไม่เหมือนแบบที่เคย นี่เป็นสิ่งที่สับสนมากจริง ๆ
- ให้เวลาผมคิดบ้างซิ ผมตะโกนบอก แต่เธอกลับเดินขึ้นรถแล้วขับออกไป
ขณะเลี้ยวรถ ประตูด้านหนึ่งเปิดอ้าออกมา เพราะความแรงและเร็วที่เธอเลี้ยว ประตูรถโดนไหล่ผมเข้าอย่างจัง และแรงของมันทำให้ผมหงายหลังตึงไปเลย ประตูที่ยังเปิดอยู่เกือบจะกวาดเอาผมไปด้วย กระนั้นเธอก็ยังประชดผมจนได้
คำสุดท้ายของเธอที่เธอพูดตะโกนมันออกมาจากหน้าต่างด้านคนขับก็คือ ไปตายซะเถอะ ไอ้คนแหลาะแหละ ขี้ขลาด ตอแหล ไม่ซื่อ ไอ้ตูดหมึก
ก็ยุติธรรมดี
ผมลุกขึ้นอย่างช้า เอามือนวดไหล่ที่ฟกช้ำของผม เพื่อนบ้านใหม่ของผมกำลังตัดแต่งต้นกุหลาบอยู่ ผมยิ้มให้และขอให้เธอมีเช้าที่ดี เธอตอบรับและขอให้ผมมีเช้าที่ดีด้วยเช่นกันแล้วเธอก็ตัดแต่งกิ่งกุหลาบต่อไป รับรองได้ไม่เกินบ่ายนี้ คนจะรู้เรื่องนี้กันทั้งเมือง


Twenty three

แอนนามีข้ออ้างเพื่อที่จะมาทางตอนเหนือได้ เธอบอกกับพอลว่าเธอต้องเดินทางไปร่วมงานเทศกาลหนังที่เอเดนบรา ผมนัดพบกับเธอที่นอกเมืองโอลด์แฮม ที่โรงแรมสำหรับนักเดินทางซึ่งมองดูยังกับคฤหาสน์ ซึ่งใช้เวลาขับรถออกไปประมาณหนึ่งชัวโมง
เราเหมือนกับจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของกันและกันออกเป็นชิ้น ๆ ในทันทีทันใดที่เราได้อยู่กันสองต่อสอง
หลังจากเสร็จสม เธอมองดูผมอาบน้ำจากกระจกที่สะท้อนจากห้องน้ำ มันทำให้ผมฉงนสนเท่ห์นัก เธอยืนด้วยปลายเท้าขณะที่กำลังแต่งหน้า ผมพิศดูร่องแผ่นหลังที่สวยงามของเธอ ชุดชั้นในเป็นเส้นสายสีดำ ความอยากรู้อยากเห็นที่มีมานาน เหมือนบางสิ่งที่เป็นปมอยู่ในหัวของผมได้คลี่คลายออกมาล้อแดดจ้า เหมือนกับเพิ่งได้หลุดออกมาจากการจำศีลอันยาวนาน เราร่วมรักกันตลอดตอนเช้า แล้วยังมีแรงปราถนาเหลือเฟือพอที่ผมจะเลียไล้ผิวนุ่มที่มีไรผมอ่อน ๆ ที่ต้นคอของเธอ ผมสูดดมกลิ่นกรุ่นของเธออย่างลุ่มหลง
ซูซานมักจะปิดประตูห้องน้ำเสมอ
ผมชอบเวลาที่แอนนาสวมเสื้อผ้า ไม่ใช่การที่เธอแต่งตัวยวนยั่วผม หรือพอล แต่เป็นเสน่ห์แห่งความรู้สึกในตัวของเธอเองที่ผมชอบ
ผู้หญิงยังคงเป็นสิ่งเล้นลับสำหรับผมมาตลอด น้ำหอมของพวกเธอ ชุดชั้นใน เสื้อซับใน กระปุกเล็ก ๆ แหนบ หรือแม้แต่มีดโกนสีชมพู
ซูซานไม่เคยชอบที่จะให้ผมเห็นเธอเปลือยแล้วมองมาทางผม นอกจากเวลาที่เราร่วมรักกันเท่านั้น เราไม่เคยพูดถึงเรื่องเซ็กซ์อย่างเปิดเผย ไม่เคยถามกันและกันเลยว่าชอบแบบไหนอย่างไร และรู้สึกอย่างไรในเรื่องบนเตียงของเรา
บางครั้งผมจะวางมือไว้บนหน้าขาของซูในระหว่างที่เราร่วมรักกัน แล้วผมจะไล้ขึ้นไปเบา ๆ ระหว่างขาของเธอ ความรู้สึกของเธอเป็นเหมือนมายา มันตื่นเต้น ก่อนที่เธอจะผลักมือผมออกไปให้พ้น ผมได้แค่สอดใส่เธอเท่านั้นเธอไม่ชอบให้ผมลูบไล้เธอเลย ชีวิตคู่ของเรากลายเป็นเหมือนการอุปมา
- ชั้นเคยมีคนรักแค่สามคนเท่านั้นเองค่ะ แอนนากระซิบบอก
เธอเห็นใบหน้าที่บอกว่าไม่เชื่อจากผมว่าผู้หญิงที่สวยขนาดนี้นะหรือที่เคยมีคนรักมาแค่สามคน
- ชั้นอยู่กับพอลมาตลอดชีวิต เคยมีสัมพันธ์กับคนหนึ่งเมื่อครั้งที่พอลทิ้งชั้นไป
- แล้วก่อนหน้าพอลล่ะครับ
- พวกผู้ชายน่ะไม่เคยสนใจชั้นหรอกค่ะ ชั้นเคยไปเที่ยวตามผับ พวกเค้าก็ไม่เคยคุยกับชั้นเลย มีครั้งนึงชั้นยังจำได้เลย มีผู้ชายคนหนึ่งเรียกชั้นว่า ราชินีแห่งความเย็นชา
ความเจ็บปวดที่อาจจะฉายออกมาได้ทางใบหน้าของเธอได้ถูกปกปิดไว้อย่างแนบเนียน ก็เหมือนกับราชินีแห่งความเย็นชาทั่วไปที่มีหัวใจเป็นแก้วบางใส
- แล้วก็มีเด็กหนุ่มคนนึง เค้าเป็นอเมริกัน พาชั้นไปที่ห้องพักของเขาในโรงแรม ชั้นปฏิเสธที่จะนอนกับเค้า เค้าก็เลยใช้ปากกับชั้นค่ะ หลังจากนั้นเค้าก็เปิดแชมเปญให้ชั้นจากมินิบาร์ เราคุยกันหลายชั่วโมงทีเดียว ชั้นแทบที่จะไม่ได้แตะต้องเค้าเลยด้วยซ้ำไป
- แล้วคุณเจอกับเค้าอีกหรือเปล่าครับ
- เค้าก็เคยเขียนจดหมายถึงชั้นแค่ครั้งนึงเท่านั้นล่ะ มันส่งมาจากนิวยอร์ค
นิวยอร์ค มันช่างเป็นระยะทางที่ปลอดภัยดีแท้ ราชินีแห่งความเย็นชา เร่าร้อนขึ้นภายใน ซึ่งไม่มีใครเห็นได้ ราวกับว่าเธอได้ปกป้องความเล้นลับแห่งแรงปราถนาของเธอเอาไว้ไม่ให้สูญหายไปโดยความผิดหวัง ควานหา อย่างไร้ร่อยรอย
- ชั้นเคยคิดว่าชั้นมีความสุขในเซ็กซ์ด้วยตัวเองมากกว่า จนกระทั่งมาพบคุณเข้าถึงได้รู้สิ่งที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยค่ะ
- ผมว่าคุณคงจะพูดอย่างนี้กับผู้ชายทุกคนหรือเปล่าครับ ผมพูด พยายามบ่ายเบนเกมให้เบาลง
นัยตาของเธอมีประกายที่เร่าร้อนอย่างเป็นธรรมชาติของมันเอง
- ไม่ค่ะ เธอพูดเบา ๆ คุณทำให้ชั้นได้เห็นความรักเป็นสีสรรขึ้นมาได้
ไม่เคยมีใครพูดอย่างนี้กับผมมาก่อนเลย และผมก็ไม่เคยคิดไปว่าผู้หญิงจะเป็นคนพูด ผมพร้อมจะยอมตายเสียก็ได้เพื่อผู้หญิงที่พูดเช่นนั้น
แต่เธอกำลังจะผลักไสผมออกไป
ผมเหมือนคนหลงทางเสียแล้ว


Twenty four

ผมเดินวนไปมา พูดโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียงหน้าห้องของโรงแรม หัวกวางสตาร์ฟเก่า ๆ ที่ผาผนังมันจ้องขมังมาที่ผม มีกลิ่นเชื้อราอับโชยมาจากพรม ไม่มีใครโทรหาผมที่บ้านที่ผมเช่าอยู่ แต่ตอนนี้ผมมาที่นี่กับแอนนา ผมไม่ได้รับสายจากพี่ชายและเพื่อน ๆ ที่โทรหาผมด้วยความเป็นห่วง เพราะทุกคนได้ทราบข่าวจากซูซานว่าผมหายตัวไป
ต่อมาที่สปาในห้องพักของเรา แอนนาหลับตาพริ้ม ริมฝีปากของเธอเปียกฉ่ำไปด้วยน้ำ เธอใช้เท้าเล่นอยู่กับเจ้าหนูของผมในน้ำ
- คุณจะเลิกกับพอลแล้วมาอยู่กับผมได้ใหม
มันเหมือนกับว่าผมได้ระเบิดเอาความขุ่นเคืองที่มีมานานออกมา เธอคว้าแก้วเครื่องดื่มของเธอมาดื่มพร้อมมองผมผ่านขอบแก้วด้วยสายตาขุ่น ๆ
- เรามาอยู่กับปัจจุบันกันดีกว่าค่ะ
- งั้นเราจะมีปัจจุบันนี้กันต่อไปอีกสักปีจะได้ไหมล่ะครับ
- ก็ชั้นบอกคุณแล้วไงค๊ะ ชั้นไม่อยากพูดถึงอนาคต ในตอนนี้ชั้นคิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นล่ะค่ะ
ในคืนนี้แอนนานอนสะดุ้งในขณะที่เธอหลับ หลายครั้ง ผมเดาเอาว่ามีมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราที่กวนใจเธออยู่ มันมีมุมมืดอยู่ภายในใจเธอที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้
ในตอนเช้ารุ่งขึ้น แอนนากระซิบบอกผมระหว่างอาหารเช้าที่มุมหลืบของห้องอาหารซึ่งตกแต่งด้วยผ้าทอยกดอกมันเลื่อม และเครื่องปั้นลวดลายดอกกุหลาบ ว่า
- คุณพักอยู่กับชั้นที่อพาร์ทเม้นท์ในลอนดอนนะค๊ะ พอลเค้าไปเยี่ยมพ่อแม่ของเค้าที่สก็อตแลนด์ แล้วคุณก็ต้องการคนเคียงข้างเพื่อผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วย ชั้นว่านะ
- ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องกลับไปสะสางเรื่องที่บ้าน แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหากว่าพอลกลับมาล่ะครับ
แอนนาสลดลงไป ดูเหมือนเธออยู่กับปัจจุบันจริง ๆ เมื่อพอลกลับมา แล้วเธอจะอยู่กับปัจจุบันของเธอกับพอลด้วยหรือเปล่าหนอ
คืนต่อมา ผมไปส่งเธอที่สนามบินกลับลอนดอน เรานั่งกันอยู่ในรถผมที่บนชั้นลานจอด มันเป็นสถานที่บอกลาที่แสนจะหดหู่เสียจริง มีเสียงกระหึ่มของเครื่องบินที่กำลังจะขึ้นจากลานบิน ไฟกระพริบจากหางเครื่องกระพริบให้สัญญาน ขณะทยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอันมืดมิด
- ผมหวังว่าคุณเป็นภรรยาของผมตั้งแต่แรก ผมกระซิบบอกเธอ
- ชั้นก็หวังเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
ผมได้แต่หวังว่าผมได้ขึ้นเที่ยวบินนี้ไปกับเธอด้วย ติดตามหัวใจของผมไปตลอดทางสู่ลอนดอน อยู่กับเธอที่นั่น แต่แอนนายังคงเป็นภรรยาตามกฏหมายของพอล เราก็เลยเห็นว่ามันง่ายกว่าที่จะลืมเรื่องที่ผมไปอยู่กับเธอที่ลอนดอน


Twenty five

ผมขับรถกลับในเช้าวันรุ่งขึ้น กลิ่นกายเธอยังติดตัวผมอยู่เลย ไฟหน้ารถส่องไปยังกิ่งก้านระย้าของต้นไม้ข้างหน้า ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ เธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับพอล หรือครอบครัว หรือ อนาคตเลย ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปหาครอบครัวของผมเพื่อเห็นแก่เดวิดและความสงบสุขของซูซาน เมื่อผมกลับถึงบ้าน ปรากฏว่าซูได้เปลี่ยนล็อคประตูบ้านไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้น เมื่อเธอเห็นว่ามีรถจอดอยู่ที่ลานจอดเธอรีบวิ่งเข้าบ้านไป พร้อมกับล็อคประตูทันที ผมตะโกนเรียกเธอเพื่อให้ผมได้เข้าไปข้างใน แต่เธอกลับไปหลบอยู่ที่ห้องด้านหลัง
ข้าวของต่าง ๆ ของผมจากห้องทำงานถูกขนเอามากองไว้ที่จอดรถข้างนอก สคริปท์เก่า ๆ ของผมถูกเธอฉีกทิ้งไม่มีชิ้นดี ม้วนวีดีโอแตกกระจัดกระจายเพราะเธอเอามันโยนทิ้งบนพื้นคอนกรีต นี่หรือ คือจุดจบของความรัก
ผมขับรถออกจากเมืองแล้วจอดไกล้ ๆคอกม้าเก่า ๆ แห่งหนึ่ง ผมออกจากรถเดินไปอย่างไร้จุดหมายท่ามกลางสายฝน เปียกโชกไปทั้งตัว จิตใจว้าวุ่น จนผมหยุดเดิน ผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนกัน ผมเห็นแต่ม้าตัวเมียแก่ ๆ ตัวหนึ่งหลบฝนอย่างหนาวสั่นอยู่ที่ใต้ต้นบีช มันช่างเป็นภาพที่น่าเศร้าเกินบรรยายจริง ๆ ผมกำหมัดขึ้นแล้วชกลงไปที่ประตูรั้ว ผมมองเลือดไหลออกมาจากข้อนิ้วที่แตกช้ำหยดลงไปปนกับน้ำดินโคลนอย่างสนเท่ห์
ผมมโนภาพว่าเมืองเล็ก ๆ ของผมกำลังกระดิกนิ้วมาทางผม ผมกำลังสูญเสียไม่เพียงแค่ภรรยาของผมเท่านั้น แต่ผมกำลังจะสูญเสียชีวิตของผมไปด้วย
ถ้างั้น ก็ช่างหัวมันประไร มันก็ชีวิตของผม ผมสร้างมันขึ้นมาเอง ทำไมผมจะทำลายมันไม่ได้





Create Date : 04 สิงหาคม 2553
Last Update : 9 ตุลาคม 2553 14:39:03 น. 0 comments
Counter : 292 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maxmaya
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แม๊กซ์ ครับ อยากเขียนนิยายแต่ไม่เก่ง ก็เลยอาศัยการแปลจากที่คนอื่นเขียนไว้แล้วไปก่อน รวมทั้งงานเขียนอื่น ๆ แล้วแต่อยากจะเขียน ลองติดตามกันดูนะครับ

เปลือย...ใจ ใส่บันทึก เป็นเรื่องราวของ

ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว แต่โชคชะตาพาเธอ

ให้ไปพบกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งชักนำชีวิต

ของเธอ ให้ต้องเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย

ที่พูดไม่ได้ห้ามใจไม่อยู่ เลยต้องเปลือยใจใส่

ไว้ในบันทึก.....อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร

หลายคน แตกต่างกันไปในรายละเอียด และ

จุดจบ.......

สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจผลิตภันณ์จาก Dream Cosmetique จาก Link เวชสำอาง ข้างล่างนี้ ท่านจะได้รับส่วนลด 10% ทันที เพียงท่านแจ้งการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ว่าได้ข้อมูลจาก Maxmaya http://www.dreamcosmetique.com/

New Comments
Friends' blogs
[Add Maxmaya's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.