...
Group Blog
 
All blogs
 

สถาปนิก ณ..โสคะปิง : หะหลากหลายเชื้อชาติ

ย้อนความจากตอนที่แล้วนิดดดดนึง

หลังจากที่ผมได้รับเมล์คอนเฟิร์มสัมภาษณ์จากออฟฟิศในโสคะปิงแล้ว

พ่อแม่ผมก็ตีตั๋วเครื่องบินให้ผมในบันดล

ซึ่งตัวผมเองนั้น ไม่รู้ ห่าน..อะไรเกี่ยวกับ โสคะปิงมาก่อน

จนกระทั่งสองเท้าของผมเหยียบประเทศโสคะปิงแล้วเนี่ย! ผมยังไม่รู้เลยฮับ ว่าแอร์พอร์ตหะนี้มันชื่อแอร์พอร์ตอะไร!

หลังจากย่างก้าวไปในประเทศแปลกหน้าสักระยะ ผมก็รู้สึกถึงความแตกต่างบางอย่าง

ประชากรที่นี้หลักๆจะมี แจกกะเข๊ก...ครับ ผมไม่เข้าใจว่า แขก กะเจ๊กเนี่ย มาอยู่ร่วมกันได้อย่างไร

ผมค่อนข้างรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง สองเชื้อชาตินี้อย่างชัดเจน

คุณๆคนอ่านนึกภาพออกมั้ยครับ ภาพที่ แขกและเจ๊ก อยู่ร่วมกัน

บางทีสองเชื้อชาตินี้อินเลิฟกัน แต่งงานกันก็มี ลูกออกมาก็ตัวขาว หน้าคม น่ารักไปอีกแบบ

จริงๆแล้วนอกจากภาพลักษณ์ของทั้งสองนี้ ที่แตกต่างแล้ว อีกอย่างที่แม่งโคตรจะต่างก็คือภาษาครับ

เนื่องจากแขกเขาจะมีภาษาของเขา เจ๊กก็จะมีภาษาของเขา เลยต้องใช้ อิงลิช เป็นตัวสื่อสารกัน

นั่นคือเหตุผลที่คนที่นี้ต้อง สปีค อิงลิชได้

ทีนี้เมื่อผมมาที่นี่ใหม่ๆเนี่ย ภาษาแม่งคือตัวปัญหาเลยครับ (จริงๆตอนนี้ผมก็ยังมีปัญหาอยู่นะ)

คือสำเนียงแขกเนี่ย เอิ่มมม จะอธิบายก็คงไม่เข้าใจ ลองจิ้มไปฟังตัวอย่างครับ

https://www.youtube.com/watch?v=eWVIObGHxzs

ส่วนของคุณพี่จีนๆทั้งหลายเนี่ย ก็

https://www.youtube.com/watch?v=1O85GLeAqeo&feature=fvwrel ประมาณนี้

มันช่าง!! เป็นความแตกต่าง ที่โหดร้าย สำหรับคนที่สปีคอิงลิชได้กระจอกง่อกง่อยเช่นผม

แถมพี่จีนเนี่ย แกจะชอบแอบเติมคำลงท้ายประโยคเพิ่มครับ คล้ายๆกับของไทยคง นะ อะ ประมาณนี้

พวกเหล่าคนจีนทั้งหลายเนี่ย จะเติมคำว่า la le wat ตามท้าย

เพื่อเพิ่มความสับสนและยุ่งยากกับชีวิตให้มากขึ้น ลำพังจะฟังสำเนียงพี่ๆเขาออก จะต้องมาแปลเปนไทยในหัว แล้วยังต้องมาคัดกรองไอคำไม่มีความหมายทิ้งอีก!!

มันช่างปวดร้ายหัวใจยิ่งนัก T-T

ซึ่งนอกจาก แขกกะเจ๊กที่เปนประชากรส่วนมากแล้ว ที่นี่ก็ยังมีพวก อังมอ อีกด้วย คำว่าอังมอเนี่ย ในประเทศโสคะปิง ก็เปรียบเทียบกะ ฝรั่ง ในบ้านเรานั่นละครับ

ผลไม้ที่ลุงๆป้าๆชอบเข็นรถมาขายอะครับ

ซึ่งผมพบว่าการได้นั่งรถเมล์ หรือยืนบนรถไฟฟ้า ใกล้ๆพวกอังมอ เนี่ย ค่อนข้างสบายใจกว่าพวกแขกหรือจีน

เพราะพวกอังมอไม่ชอบทำอะไรประหลาดๆ หรือสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างเท่าไหร่

มีหลายๆครั้งแก้งคนจีนและแขก ทำให้ผม วัวเหียน บ่อยๆ

นอกจากนี้ที่โสคะปิงนี้ ยังมีย่านคนไทยด้วยนะฮับ ชื่อว่า กายเด้นโมลล

สถานที่นี้บ่งบอกความเป็นไทยได้ชัดเจนมากครับ เนื่องจากโสคะปิงเป็นดินแดนที่สะอาดมากกกกกก

เราคนไทยจึงทำให้กายเด้นโมล เป็นสถานที่ ที่โดดเด่น และมีตัวตนที่ชัดเจนมาก ในเรื่องของ..

ความสกปรก!!

ผมยังจำครั้งแรกที่ไปเยือนสถานที่แห่งนี้ได้ สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้ก่อนสิ่งอื่นก็คือ

กลิ่นเยี่ยว!! โอ้ว มาย ก๊อด ขาผมยังไม่ทันย่างก้าวขึ้นบันได กายเด้นโมลเลย เยี่ยวมาเตะเสยจมูกผมก่อนซะแล้ว

แต่ถึงจะบ่นกระนั้น ผมก็ยังไปกายเด้นโมลเป็นบางคราวครับ เพราะว่าอาหารไทยที่นี้ คืออาหารไทยจริงๆ

อีกชนชาตินึงที่ผมอยากพูดถึงคือ ชาวปินอยครับ หรือพวกฟิลิปินโน่ นั่นเอง

ชาวปินอยนี้ พบได้มากในออฟฟิศที่ทำงานผม เยอะขริงๆ ครับ

แถมที่นั่งผมก็โดนล้อมรอบไปด้วย ชาวปินอย

เรื่องที่ผมอยากจะพูดก็เกี่ยวกับพวกฟิลิิปินโน่คือเรื่อง ภาษา ครับ

ภาษาของพวกแกโดดเด่นมากกกกกกกกกกกก มีหลายๆครั้งที่ชาวปินอยจะคุยข้ามหัวของผมไปมา

ผมจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "ฟิลิปิน แอทแทค" เพราะว่าภาษาของพวกเขานั่นช่างฆ่าสมาธิผมตายได้อย่างสยดสยอง

เอาเป็นว่า ถ้า ฟิลิปินแอทแทค เกิดมาแล้วเนี่ย ผมต้องรีบหยิบหูฟังเปิดเพลงทันใด

สำเนียงภาษาของเขานั้น ค่อนข้างใช้เสียงสูง และไล่ระดับเสียงจนขึ้นสูง

แถรรรมม ทรุกกก ปรรรรระโยรคคคค ยรรรรัง มะรียยย รรรรรรร เรืออออออ มรรรรากกก มรรรายยย

ฟังแล้วผมเสียงสมาธิมากๆเลยฮับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขอบคุณชาวปินอยจากใจจริง

เพราะหากไร้ปินอยแล้วไซร้ ผมก็จะอดกินอาหารปินอย อร่อยๆครับ

อาหารเขารสชาติ ถูกปากชาวไทยอย่างผมเป็นอันมาก

มีเรื่องเล่าของชาวปินอยอีกอย่างนึง คือเมื่อก่อน มีสถานที่นึง ที่เป็นสวนสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันเป็นห้างไปแล้ว

เพื่อนผมเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนทุกวันอาทิตย์ ชาวปินอยจะไปรวมตัวกัน แล้วนั่งปิคนิคกินข้าวกันที่นั่น

ผมว่าเป็นกิจกรรมที่น่ารักดีนะครับ รวมตัวเป็นแก้งไปกินข้าวกัน ชิวๆในสวน..ผมจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า ฟิลิปิน แอทเทค ได้อีกรึเปล่าเนี่ย :D

แถมการ์ตูนสั้นๆ กากๆครับ





 

Create Date : 05 มีนาคม 2554    
Last Update : 6 มีนาคม 2554 2:55:14 น.
Counter : 861 Pageviews.  

สถาปนิก ณ..โสคะปิง : จบซะที ห้าปี สถาปัตย์...



ห้าปีเนี่ย แม่งเป็นเวลาที่ผ่านไปเร็วมากเลยครับ...สำหรับชีวิตในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

หลังจากที่ผ่านช่วงเวลารับน้อง ช่วงตัดโมเดล ช่วงกินเหล้า ช่วงทำละคร ช่วงรักน้อง ช่วงรักเพื่อน...

ในที่สุด ผมก็ได้ยืนอยู่​ หน้าคณะกรรมการ พร้อมกับโมเดลงานที่ ผองน้องรหัสและน้องรักมาช่วยลงมือทำ อีกทั้งยัง โมเดล เซอราวดิ้งขนาดยักษ์ถ้าหล่นทับตีนใครไปแล้วเนี่ย อาจจะได้นอนนิ่งๆปวดนิ้วตีนไปเป็นอาทิตย์ทีเดียว นอกจากนี้ก็มีเพลทสุดรัก และพ้อย พรีเซนเตชั่น

สภาพในวันนั้นก็คือ อดหลับนอน ผมว่าแม่งเป็นสภาพปกติ ที่ไม่ควรจะปกตินะ สำหรับเด็กถาปัด แม่งมาทำงานกันวันท้ายๆตลอด ซึ่งก็บอกได้เต็มปากเลยว่า ตอนยืนหน้ากรรมการหะนั้นแล้ว...คือไม่สนห่าอะไรแล้วอะ

ก็พล่ามๆ โม้ๆ ไอ้ที่คิดไว้แม่งก็ลืมไปมั่ง อะไรมั่ง เสร็จแล้วกรรมการก็คอมเมนต์ว่างานเรานั้น มันกากยังไง ห่วยแตกแค่ไหน ทำมาได้ยังไง

หลังจากที่เดินออกจากเวทีพรีเซนต์ สิ่งๆเดียวที่ขึ้นมาในหัวก็คือ "สัสส..จบแล้วโว้ยยยยย"

...แต่!! หลังจากนั้นนะสิ ...จบแล้ว กูจะทำอะไร??

หลังจากที่ลั่นล้า ใช้ชีวิตแบบสุขีปรีดาเปรมปรีสุขสันต์เพลินจิต อยู่ สาม เดือน!!!

นอนสว่าง ตื่นมาแม่กลับบ้านกินข้าว ดูทีวี เล่นเกม ..นัดเพื่อนกินเหล้า ใช้ชีวิตไร้สาระ แต่ "มีความสุข"

ซึ่งระหว่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าผมไม่สมัครงานห่าไรเลยนะ แม่งไม่มีใครเขารับผมครับ! แม่งคิดแล้วก็แค้น

กูไม่ได้ตรงไหน ? จะว่าไปมันก็ใช่ว่าจะมีแต่ผมนะ เพื่อนอีกคนนึงที่ผมว่าแม่งเก่งกว่าผมเยอะ แม่งก็ยื่นที่ไหนก็ไม่ได้เหมือนกัน

ส่งไปไอ้ บ ที่ว่าหะเมพ ก็แล้ว บ ที่ไม่ตรงกะสายอาชีพแต่เสือกอยากทำก็แล้ว

บ ที่ ใกล้บ้าน งานขายวิญญาณ ก็แล้ว!!!! ไอเหี้ยแม่งก็ยังไม่ได้สักที ไม่รู้ว่าไปทำกรรมอะไรไว้

สุดท้ายก็วนลูบจัญไร ไปนั่นละครับ จนวันนึง มีวาสนา ได้คุยเอมกะเพื่อนที่ไปหาญาติที่ ประเทศโสคะปิง

ผมก็ถามเพื่อนว่า เอ๊ยยยย ทำไมจะไปทำที่นั่นเล๊าาาาา มันดีหรออออออ?????

เพื่อนผมก็ส่งคำตอบมา ว่าเงินเดือนที่โน่นนะ มัน XXXXX!!! เลยทีเดียวเชียว!!

คือแม่งเยอะมากอะครับ จากที่ไม่เค๊ย ไม่เคยจะคิดส่งพอร์ตออกนอกประเทศ ก็เลยถาม บ เพื่อนว่ามันมี บ ไหนเด็ดๆ บ้างจะได้ส่งไป

บวกกับวาสนาที่ ตอนทำพอร์ต ทำเป็นภาษาอังกฤษ พอดี แม่งก็เลยส่งได้คืนนั้นเลย ทีเดียวเชียว!

และคืนนั้นก็ผ่านไป​....

ตื่นเช้ามา เมล์ผมก็ได้ตอบกลับมาจาก สาม บ ณ เมืองโสคะปิง หุว๊าววววว นี่ผมยังนอนฝันอยู่รึเปล่านี่!?

ไอเมล์ที่ว่า ก็ถามว่าจะสะดวก สัมภาษณ์วันไหน เรียกเงินเท่าไหร่ บลา บลา บลา

พ่อแม่ผมก็ตื่นเต้ล กันใหญ่เลยครับทีนี้ กลายเป็นว่าตื่นเต้นกว่าผมไปซะแล้ว

ส่วนตัวผมนี่แม่งโคตรจะงง ส่งในไทย แม๊งไม่มีใครสนใจกูเลย .. ส่งไป ต่างประเทศแม่งเสือกมีคนสนใจซะงั้น!

ก็ตอบเมล์ไปมา สุดท้ายก็ได้เรียกสัมภาษณ์ สองที่ พ่อเลยตีตั๋วให้ คือถ้าไม่ได้ ก็ไปเที่ยวเอาละกันว๊ะ ยังไงก็ไม่เสียเที่ยว

สุดท้ายไปสัมภาษณ์ ปรากฏว่า ไม่มีใครเอาครับ ตีตั๋วกลับไทย ขายขี้หน้าพ่อแม่

เศร้าทำใจไม่ได้ไปเลยทีเดียว...

...แล้วบลอคนี้แม่งจะเกิดขึ้นมาได้ยังไงเล่า!! ต้องได้สิวะครับ

นั่นละครับ สุดท้ายแม่งก็เสือกได้งานที่ต่างประเทศ

ซึ่งผมก็ค้นพบว่า ประเทศโสคะปิงเนี่ย มันเป็นประเทศที่มีหลายๆอย่างแปลก และน่าสนใจพอสมควรนะ

เดวจะมาสาธยายในตอน ต่อๆไป

คือถ้าพอจะสังเกตภายในรูปที่เหมือนมีคนใช้เท้าวาดละเนี่ย มันก็จะมีเรื่องต่างๆที่ผมจะเล่าต่อๆไปละครับ

เรื่อง มอนไลเอ้อ ในโสคะปิง ที่ชอบอาบน้ำบ่อยเหลือเกิน

เรื่อง แขกกะเจ๊ก ที่เซอไพรซ์ผมในวินาทีแรก

เรื่อง แมวข้างถนนได้ขับไล่หมาข้างถนนแล้วยึดเป็นเจ้าของอาณาจักร

เรื่อง สถาปัตยกรรม.. ก็ต้องเล่ามั่งสิเนาะ จั่วหัวมาเป็น สถาปนิก ใน โสคะปิงแล้วทั้งที คริคริ

เอาเป็นว่า เดวผมจะมา แชร์ประสบการณ์ ในบลอคต่อไปละกันนะคร้าบบ




 

Create Date : 03 มีนาคม 2554    
Last Update : 6 มีนาคม 2554 2:44:44 น.
Counter : 1042 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

มำแดว
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add มำแดว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.