Group Blog
 
All Blogs
 
เรียนรู้ผ่าน “ข่าว”

ทุกเช้า หากไม่มีภารกิจเร่งด่วน ผมมักจิบกาแฟดำขมเข้ม พลางพลิกหนังสือพิมพ์อ่านอย่างสบายอารมณ์ แต่เช้าวันนั้นผมถูกขัดจังหวะโดยลูกชายคนโต วัย 5 ขวบเศษ เมื่อเจ้าหนูพยายามยื่นหน้า ยื่นตาร่วมดูหนังสือพิมพ์ที่ผมอ่าน

“ป๊าครับ วันนี้มีข่าวอะไรบ้าง...รูปนี้มันหมายถึงอะไรครับ...แล้วรูปนี้ละ...ฯลฯ ” เด็กน้อยเจ้าปัญหาเริ่มซักไซ้ถึงเรื่องราว ภาพข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์

ผมตอบคำถามลูกไปเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนจะเป็นการถามตอบแบบไม่รู้จบ เพราะหมดจากภาพข่าวนี้เขาก็ชี้ไปอีกข่าวหนึ่ง ไล่ไปเรื่อยๆ ผมเลยถามว่า

“ลูกกำลังหาอะไรในหนังสือพิมพ์หรือเปล่า”

“สายน้ำต้องตัดข่าวไปเล่าให้เพื่อนๆฟังครับ” ลิงน้อยประจำบ้านตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ

แรกได้ยิน ผมถึงกับอึ้ง ต้องหันไปหาตัวช่วย...ให้แม่ของเขาอธิบายถึงที่มาที่ไป จึงทราบความว่าคุณครูสั่งการบ้านให้เด็กร่วมกับผู้ปกครองช่วยกันเลือกสรรข่าวหรือภาพข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ จากนั้นให้ตัดแปะใส่กระดาษขาว เขียนสรุปเนื้อหาข่าวเพื่อให้เด็กนำไปเล่าให้เพื่อนๆฟังหน้าชั้นเรียน

ด้วยเหตุนี้...เช้าวันสุดสัปดาห์ ผมกับลูกจึงมีกิจกรรมพูดคุยเรื่องข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์กัน

โชคดีครับว่า ผมไม่ได้บอกรับเป็นสมาชิกหนังสือพิมพ์แนวประชานิยม...ประเภทขายศพ ภาพอุจาด นำเสนอเรื่องสยดสยอง หรือภาพโป๊เปลือยขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ มิเช่นนั้นผมคงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย หากลูกถามว่า “...ป๊าครับ ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมใส่เสื้อผ้าให้ดีๆ เขาโดนปล้นหรือครับ...”

ถึงแม้ว่าหนังสือพิมพ์ในมือวันนั้นจะเป็นหนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพ แต่ผมไม่ได้วางใจนัก เพราะหลายๆครั้งที่เห็นภาพข่าว หรือเนื้อหาข่าวประเภทขายความรุนแรง ขายความลามก อนาจาร ปรากฏในสื่อคุณภาพเหล่านี้

หลังจากกวาดสายตาดูข่าวจนมั่นใจว่า ไม่มีเรื่องหรือรูปอันไม่พึงประสงค์ให้เด็กเล็กได้รับรู้แล้ว ผมจึงชักชวนลูกชายวัยอนุบาล 3 มาเลือกดูข่าว พร้อมทั้งอ่านสรุปเนื้อหาข่าวให้เขาฟัง

เด็กน้อยสนุกกับการเรียนรู้เรื่องราวในภาพข่าวแปลกๆใหม่ๆ หลายเรื่องที่เขาตั้งประเด็นถาม ผมเองก็ยังไม่รู้คำตอบ

อย่างเช่น เขาชี้ภาพข่าวเกี่ยวกับหลุมดำในอวกาศแล้วขอให้ผมอธิบายว่า หลุมดำคืออะไร ทำไมถึงต้องมีหลุมดำ แล้วมีหลุมขาวหรือเปล่า ?

อืม...เมื่อไม่รู้ ผมก็ตอบลูกตามตรงนะครับว่า เรื่องนี้พ่อไม่ทราบ ต้องขอไปค้นข้อมูลแล้วมาบอกอีกที

จากนั้นผมถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบค้นหาคำตอบมาเล่าให้ลูกฟัง เพราะไม่อยากมั่วให้ข้อมูลผิดๆแก่ลูก

โชคดีครับว่า ยุคนี้เรามีอินเตอร์เนท ไม่รู้อะไร สามารถค้นหาความรู้หรือคำตอบได้ในโลกออนไลน์ หลังจากได้คำตอบมา ผมพยายามอธิบายให้ลูกฟังด้วยภาษาเข้าใจง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหรือเป็นวิชาการ

ในที่สุดเจ้าทโมนน้อยสามารถเลือกข่าวไปเล่าให้เพื่อนๆฟังหน้าชั้นได้ เขาเลือกข่าวโครงการโรงแรมในยานอวกาศ

หลังจากพูดคุยและช่วยกันสรุปเรื่องให้เหลือ 3 บรรทัด หน้าที่ต่อไปของเจ้าหนูคือคัดลอกสรุปข่าวลงในกระดาษ แล้วลองเล่าให้พ่อแม่ฟังใหม่ว่า ข่าวนั้นมีเนื้อหา เรื่องราวอย่างไร

ตอนแรก หญิงสาวข้างกายผมค่อนข้างจริงจังอยากให้ลูกจำเรื่องราวรายละเอียดของข่าวให้ได้มากที่สุด ไม่ให้เล่าผิดเพี้ยนทั้งชื่อยานอวกาศ ชื่อโครงการ ฯลฯ ด้วยเกรงว่าเดี๋ยวลูกจะไปเล่าเรื่องราวหน้าชั้นแบบตกๆหล่นๆ

แต่ผมมองว่า เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปลีกย่อย น่าจะปล่อยให้ลูกมีจินตนาการในการเล่าเรื่อง ผิดบ้าง ถูกบ้างไม่ใช่สาระสำคัญของกิจกรรมนี้

เมื่อวันเล่าข่าวหน้าชั้นเรียนมาถึง ดูเหมือนผู้เป็นแม่จะตื่นเต้นมากกว่าลูกเสียอีก เพราะเพียรถามทบทวนความจำของเจ้าแสบน้อยถึงเรื่องราว เนื้อหาในข่าวซ้ำแล้วซ้ำอีก

ตอนเย็นผมกลับจากที่ทำงาน ยังไม่ทันถอดรองเท้า เจ้าหนูวิ่งหน้าแป้นมาเล่าอวดผมว่า

“...วันนี้ สายน้ำเล่าเรื่องโรงแรมในยานอวกาศให้เพื่อนๆฟ้งหน้าห้อง สนุกมากเลยครับ เพื่อนๆยกมือถามกันใหญ่เลยครับ มีคนถามว่ายานอวกาศขึ้นไปบนฟ้าได้ไงด้วยครับ..ฯลฯ”

“แล้วลูกตอบเพื่อนว่าอย่างไรละ”

“เออ...ยานอวกาศมันมีเครื่องยนต์ใหญ่ๆ มีไอพ่น มีไฟพุ่งออกมาตรงก้น แล้วมันก็วิ่งขึ้นไปบนฟ้าเลย...”

แน่นอนครับว่า ลูกชายผมคงโม้ตอบเพื่อนไปตามจิตนาการของเขา ถูกบ้างผิดบ้าง ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกครับ

ผมคิดว่า การฝึกให้เด็กตัวน้อยๆออกไปยืนพูด แสดงความคิดเห็น หรือเล่าเรื่องหน้าห้อง หรือในที่ชุมชนสาธารณะ เป็นสิ่งน่าสนับสนุนอย่างยิ่ง

เนื่องเพราะทำให้เด็กกล้าแสดงออก ทำให้เขาสามารถรวบรวมความคิด ถ่ายทอด สื่อสารออกมาให้คนอื่นรับทราบ

ขณะเดียวกันยังฝึกให้เจ้าหนูรู้จักแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้า โดยเฉพาะการตอบคำถามเพื่อนๆ

หลังจากกิจกรรมเล่าข่าวในวันนั้น ทุกครั้งที่ผมหยิบหนังสือพิมพ์อ่านในตอนเช้า จะมีเด็กตัวน้อยๆคอยยื่นหน้ามารบเร้าให้อ่านข่าวให้ฟังเป็นประจำ

กลายเป็นว่า ลูกชายผมชอบให้พ่อแม่อ่านข่าวให้ฟังในตอนเช้า อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน

เอ...หรือว่า ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ มันก็เหมือนนิทานกล่อมเด็กก่อนนอน ?

.......................................................................................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 62 เดือน กุมภาพันธ์ 2553




Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2553 22:37:08 น. 5 comments
Counter : 669 Pageviews.

 
I like this column it make me be happy and remind me think about my niece and nephew,they looklike your child
thanks you so much to share it on your network;facebook.com


โดย: dpiranusid IP: 192.168.50.191, 124.157.137.191 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:55:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อก แล้วก็ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันนะคะ

ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ทุนด้วยค่ะ

ทุนเรียนฟรี 1 ปี พร้อมที่พักระหว่างเรียน IELTS-EFL / PreMaster @Cambridge, UK รวม 30 ทุน

ถ้าผู้ได้ทุนเป็นนักเรียน โรงเรียนจะได้รับเงินบริจาค จากวิทยาลัย 10000 บาท ต่อนักเรียน 1 คนด้วยค่ะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Mrs Rachinya Wilson,
International Director & Scholarship Coordinator
Cambridge Seminars Tutorial College
143-147 Newmarket Roead,
Cambridge, CB5 8HA
UK

Tel 00 44 1223 313 464
00 44 1223 300 123
00 44 7940 589 077

E mail camsem@hotmail.co.uk
rachinya@camsem.co.uk
rachinya.wilson@cambridgesemainars.co.uk

Websites: //www.cambridgeSTcollege.com
//www.camsem.co.uk
//www.cambridgeseminars.co.uk

หรือ ติดตามเอกสารประชาสัมพันธ์ทุนนี้ได้ที่สถานศึกษา หน่วยงานราชการทุกแห่งที่สังกัด กรมสามัญการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชน กรมอาชีวศึกษา สกอ และ กพ

หรือ ติดตามได้ในบล๊อกนะคะ

กรุณาช่วยบอกต่อทุกคนที่รู้จักเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ




โดย: mookyja วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:03:16 น.  

 
ครอบครัวนี้น่ารักจัง อบอุ่นดีนะคะ น่าเอาเป็นแบบอย่าง


โดย: Tukta21 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:06:03 น.  

 
ผมเห็นพรุ่งนี้ ของน้องแล้วยิ้มครับ


โดย: 1ในกลุ่มน้อยห้องเรียนสืบสวน (krich_krub_pom ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:21:34 น.  

 
This is a warm story which makes me smile and feel proud on behalf of you...


โดย: Splendid sky IP: 62.252.9.141 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:3:24:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายน้ำกับสายเมฆ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Locations of visitors to this page

Tracked by Histats.com
Friends' blogs
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.