Group Blog
 
All Blogs
 
เจ้าแสบน้อย

“สายน้ำครับ ตื่นเช้ามา สวัสดีพ่อ...แม่หรือยังครับ”

“ไม่สวัสดี” เจ้าตัวเล็กรีบเอามือน้อยๆซ่อนไว้ด้านหลังของเขาอย่างรวดเร็ว

“สายน้ำครับ ไม่ปาของเล่นนะลูก”

“จะปา” พอพูดจบ วายร้ายตัวน้อยปาของเล่นลงพื้นทันที

“สายน้ำครับ ไม่ดื้อสิลูก”

“จะดื้อ” ฯลฯ

ตั้งแต่ลูกชายของผมอายุย่างเข้าสองขวบ พฤติกรรมและอุปนิสัยหลายอย่างของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมเคยว่านอนสอนง่าย กลายเป็นการปฏิเสธและทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่บอก

แน่นอนครับว่า พฤติกรรมแบบเจ้าแสบน้อยเช่นนี้เรียกความหงุดหงิด และอารมณ์โมโหของพ่อแม่ รวมทั้งคนเลี้ยงดูเด็กได้ไม่ยากนัก

พ่อแม่และคนเลี้ยงเด็กหลายคนลุแก่โทสะฟาดลูกวัยขวบ...สองขวบอย่างรุนแรง เหตุเพราะลูกดื้อ ลูกซน พ่อแม่เหล่านี้คิดว่าการลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีจะสามารถหยุดยั้งความดื้อของลูกได้

แต่จากงานวิจัยหลายๆชิ้นในต่างประเทศ สรุปออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า การเฆี่ยนตีเด็กไม่สามารถหยุดยั้งหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กได้เลย

ซ้ำร้ายมันยังเป็นการก่อตราบาปให้กับลูก เพราะการตีด้วยอารมณ์โกรธเป็นการบ่มเพาะและสอนให้ลูกเข้าใจไปเองว่า การใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่กระทำได้

ดังนั้นในหลายๆประเทศ รวมทั้งออสเตรเลียถึงกับมีกฎหมายลงโทษพ่อแม่ที่เฆี่ยนตีลูกอย่างรุนแรง เพราะถือว่าเป็นการกระทำทารุณกรรมเด็ก

อืม...แล้วเราจะสอนลูกหลานตัวน้อยๆในวัยต่อต้านอย่างไรละ ถ้าไม่ใช้การเฆี่ยนตี

ผมขอหยิบยกเอาข้อมูลของศูนย์ช่วยเหลือพ่อแม่ Parent Help Line ในประเทศออสเตรเลียมาบอกเล่าเป็นแนวทางให้ปรับใช้กับเจ้าแสบน้อยของคุณๆท่านๆ

เอกสารของศูนย์ช่วยเหลือพ่อแม่ ซึ่งแจกให้กับพ่อแม่ชาวออสซี่ระบุว่า เด็กในวัยตั้งแต่ขวบถึงสามขวบเป็นช่วงที่มีความอยากเป็นตัวของตัวเองสูง รวมทั้งอยากมีอิสระทำตามใจตัวเอง

เจ้าตัวเล็กในวัยนี้จึงมักจะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง

แล้วด้วยความเป็นเด็ก ทำให้เขาไม่คำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง การแสดงออกหลายๆอย่างของเจ้าวายร้อยตัวน้อยจึงมักไปกระตุ้นอารมณ์ต่อมโมโหของพ่อแม่และคนเลี้ยงดูให้คุกรุ่น หรือระเบิด

ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ พ่อแม่และคนเลี้ยงดูเด็กจะต้องพยายามควบคุมอารมณ์ตนเองให้ได้ พึงระลึกไว้อยู่เสมอว่า การที่ลูกซน...ดื้อ...ต่อต้าน...ท้าทายนั้น ลูกไม่ได้อยากจะเกเรกับคุณ เพียงแต่ลูกกำลังสับสนกับโลกกว้าง สับสนกับอารมณ์หลากหลายในตัวเอง อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารถึงอารมณ์ความรู้สึกของตนเองออกมาให้กับพ่อแม่ได้อย่างชัดเจน

สำหรับวิธีช่วยเหลือเพื่อปรับพฤติกรรมของเด็กวัยต่อต้านนั้น ศูนย์ช่วยเหลือพ่อแม่แนะนำว่า

1. ก่อนอื่นจะต้องคิดล่วงหน้าว่าอุปกรณ์หรือจุดใดๆในบ้านที่อาจก่ออันตรายให้กับลูก เมื่อหาพบให้พยายามป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเอาไว้ก่อน เช่น ควรล็อคตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก ปิดห้องครัวให้มิดชด หรือซื้อที่ปิดเต้าไฟฟ้าทุกแห่ง

การกระทำเช่นนี้จะช่วยลดคำพูดห้ามของพ่อแม่ประเภท “อย่าทำอย่างโน้น อย่างนี้นะลูก” ขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้เจ้าตัวน้อยกลายเป็นนักสำรวจภายในบ้านอย่างอิสระ ไม่ต้องถูกห้ามทำโน่น ทำนี่อีกด้วย

2. พยายามเลี่ยงการใช้คำว่า “อย่าทำ....” “ห้ามทำ....”ต่างๆกับลูก ยกเว้นว่าการกระทำเช่นนั้นจะเป็นอันตรายกับลูก เช่น พูดว่า “ลูกครับ ช่วยกันเก็บของเล่นใส่กล่องดีกว่า” แทนที่จะพูดว่า “อย่าปาของเล่นลงพื้นสิลูก”

3. พยายามให้ลูกกิน นอนอย่างเป็นเวลา เพราะถ้าลูกหิว หรือง่วงนอน เขามักจะดื้อและงอแง

4. เวลาจะให้ลูกทำกิจกรรมอะไร พยายามหาวิธีให้เขาสนุกด้วยการเปลี่ยนกิจกรรมนั้นๆให้เป็นเกมส์ หรือการแข่งขัน เช่น “พ่อว่า…พ่อใส่รองเท้าได้ไวกว่าลูกนะ ถ้าไม่เชื่อเรามาแข่งกันสิ”

5. ในช่วงที่ลูกเริ่มงอแง ให้พยายามหากิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจมาหลอกล่อ อาทิ การร้องเพลงโปรด หาของเล่นใหม่ๆมาเล่น

6. พยายามเสนอทางเลือกง่ายๆให้ลูกได้ตัดสินใจเอง เช่น “วันนี้ลูกจะใส่รองเท้าสีแดง หรือสีขาว” หรือ “คืนนี้ลูกจะกินส้มหรือแตงโม”

7. สอนลูกให้รู้จักการพูดสื่อสารถึงอารมณ์ ความรู้สึกของตนเอง เช่น ชอบ ไม่ชอบ เศร้า หงุดหงิด โกรธ ง่วงนอน หิว โดยอาจจะใช้เกมส์หรือหนังสือเป็นสื่อสอนลูก

8. พยายามอย่าสนใจ อย่าดุด่า เวลาลูกตัวน้อยต่อต้านด้วยคำว่า “ไม่” แต่พ่อแม่ควรจะชื่นชมเวลาลูกทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม

9. พยายามอธิบายเหตุผลง่ายๆแก่ลูก เช่น “เล่นกับแมวจะต้องระวังนะ เล่นเบาๆ ถ้าเล่นแรง เดี๋ยวมันกัดหรือข่วนเอา แล้วลูกจะเจ็บ”

10. อย่าเถียงเพื่อเอาชนะกับลูกน้อยวัยตะเต๊าะ

ครับ...นี่คือ 10 ข้อเสนอแนะในการปราบเจ้าแสบน้อย นำไปปรับใช้กับวายร้ายตัวน้อยได้ผลอย่างไรจะมาเล่าอีกครั้ง

........................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 21 เดือน กันยายน 2549



Create Date : 14 มกราคม 2551
Last Update : 14 มกราคม 2551 13:59:48 น. 2 comments
Counter : 727 Pageviews.

 
เพิ่งมาเจอคำแนะนำที่ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ จะนำไปปฏิบัติตามค่า

ปล.ลูกชายกำลังซนเหมือนกันค่ะ


โดย: lukpad วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:14:16:06 น.  

 
เป็นบทความที่มีประโยชน์และทรงคุณค่าอย่างยิ่ง ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อโดยอ้างอิงถึงแหล่งที่มา...ขออนุญาตค่ะ...ขอบคุณนะคะ


โดย: จันทร์กระจ่างฟ้า IP: 202.21.144.143 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:29:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายน้ำกับสายเมฆ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Locations of visitors to this page

Tracked by Histats.com
Friends' blogs
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.