Group Blog
 
All Blogs
 
เลี้ยงลูกแบบ…‘คิดเชิงบวก’

เมื่อเดือนที่แล้ว ผมเขียนเล่าว่า อดีตพี่เลี้ยงเด็กมหัศจรรย์ชาวอังกฤษชื่อ Jo Frost โด่งดังข้ามซีกโลกจากอังกฤษมาดินแดนออสเตรเลีย ด้วยรายการทีวีชื่อ “Super Nanny” เทคนิคการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมทั้งการสร้างวินัยให้เด็กในสไตล์ของ Jo Frost ถูกหยิบยกเป็นประเด็นถกเถียงแลกเปลี่ยนในหมู่พ่อแม่มือใหม่ทั่วโลก

ครับ...นั่นเป็นการเลี้ยงลูกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น คราวนี้ผมขอเล่าถึง Super Nanny...พี่เลี้ยงเด็กมหัศจรรย์อีกคนหนึ่ง คนนี้เป็นผู้ชายชาวออสซี่ ชื่อ Matt Sanders ชื่อเสียงของเขาดังกระฉ่อนไม่น้อยหน้า Jo Frost ดังขนาด ITVในอังกฤษต้องจ้างเขาให้บินไปผลิตรายการทีวีเกี่ยวกับกลวิธีปราบเด็กดื้อ เด็กเจ้าอารมณ์ ชื่อรายการ “Driving Mum and Dad Mad”

Matt Sanders ไม่เคยเป็นพี่เลี้ยงเด็กเหมือน Jo Frost อาชีพหลักของเขาคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็ก จากศูนย์สนับสนุนพ่อแม่และครอบครัวแห่ง University of Queensland

เขาสั่งสมประสบการณ์ด้านปรับแก้พฤติกรรมเด็กมาร่วม 25 ปี จนในที่สุดได้สร้างโปรแกรมแนะนำการเลี้ยงดูเด็กขึ้นมา ตั้งชื่อว่า Triple P — Positive Parenting Program

หรืออาจจะเรียกแบบไทยๆว่า โปรแกรมเลี้ยงลูกแบบ “คิดเชิงบวก”

เคล็ดลับสำคัญของ Matt Sanders คือ ให้พ่อแม่ผู้ปกครองเด็ก เลี้ยงดูบุตรหลานด้วยการหาแง่มุมที่ดีงามของเด็กให้เจอ แล้วยกย่องชื่มชมเขาอย่างจริงใจ !

อย่ามัวแต่คอยจับผิด ดุ ด่า ว่ากล่าว ตะคอก ทุบตีเหมือนเช่นเคย

เขาเชื่อว่า พลังของการชื่นชม ยกย่อง เป็นพลังด้านบวกที่สร้างสรรค์ สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กดื้อได้ผลกว่าการดุ ด่า เฆี่ยนตี ซึ่งเขามองว่าเป็นพลังด้านลบ...พลังด้านการทำลาย

เอาละครับ คราวนี้เรามาลองดูเทคนิคย่อยๆ 10 ประการที่เขาแนะนำให้กับพ่อแม่ชาวออสซี่ดูนะครับ ว่าจะสามารถนำมาปรับใช้กับลูกหลานของเราๆท่านๆได้อย่างไร

1. เมื่อลูกต้องการอวดหรือโชว์อะไรบางอย่างให้ดู เราควรหยุดการกระทำอื่นๆทันที ควรให้ความสนใจว่าลูกต้องการอวดอะไรเรา เช่น ขณะอ่านหนังสือนิยายอย่างเพลิดเพลิน ลูกตัวน้อยๆเดินหยิบกระดาษที่ละเลงไปด้วยสีเทียนฝีมือของเขามาอวด เราควรวางหนังสือ พูดคุย ชื่นชมภาพวาดของเขาอย่างสนอกสนใจ

การใช้เวลาเล็กๆน้อยๆเหล่านี้กับลูกเป็นสิ่งสำคัญในกระตุ้นให้เด็กรู้สึกว่าตนเองมีค่าในสายตาของพ่อแม่ ทำให้เขาตระหนักในคุณค่าของตนเอง

2. พยายามสัมผัสเนื้อตัวลูกหลานของเราบ่อยๆ เพราะเด็กมักจะชอบการถูกโอบกอด หอม จูงมือ

ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะเคอะเขินที่จะโอบกอดลูกหลานตัวเอง ยิ่งเด็กโตขึ้นยิ่งห่างการโอบ กอด หอม ไม่เหมือนสมัยเป็นเบบี๋ตัวน้อยๆ แต่หลักการทางจิตวิทยา และทางวิทยาศาสตร์เขาพิสูจน์อย่างเด่นชัดแล้วว่า เด็กที่ถูกพ่อแม่โอบกอด สัมผัสร่างกายด้วยความรักบ่อยๆ จะมีการพัฒนาด้านสติปัญญา และอารมณ์มากกว่าเด็กที่ขาดการสัมผัสจากพ่อแม่

3. พูดคุยกับลูกด้วยเรื่องที่เขาสนใจ และให้แลกเปลี่ยนเล่าเรื่องที่เราพบเจอในแต่ละวันกับลูก ด้วยเรื่องราวและภาษาง่ายๆ

พ่อแม่หลายคนไม่ยอมพูดคุยเรื่องราวที่ลูกสนใจ เพราะเห็นว่าไร้สาระ ทำให้ขาดช่องทางการสื่อสารกับลูกอย่างน่าเสียดายยิ่ง ถ้าเราสามารถประยุกต์พูดคุยเรื่องที่ลูกสนใจ แล้วสอดใส่สาระลงไปด้วย ย่อมทำให้เขารับรู้ได้อย่างง่ายดาย

4. ยกย่องชื่นชม สรรเสริญลูกเมื่อเขาทำในสิ่งที่เราต้องการ เช่น ลูกเก่งๆจริงๆนะ ที่เก็บของเล่นใส่ตระกร้า แม่/พ่อ ภูมิใจในตัวลูกมากที่มีความรับผิดชอบตั้งแต่เด็กๆ

สำหรับเทคนิคนี้ พ่อแม่ชาวไทยจำนวนไม่น้อยไม่ยอมทำ เพราะพวกเขาคุ้นชินว่า ถ้าชมลูกเดี๋ยวจะเหลิง ทำให้เด็กเหล่านี้ขาดกำลังใจในการกระทำสิ่งดีงาม เหมาะสม

5. เด็กมักจะดื้อ และเกเรเมื่อเขาเบื่อหน่าย ดังนั้นเราควรเตรียมกิจกรรม ของเล่นให้เขาสนุกสนานเพลิดเพลินอยู่ตลอดเวลา

ในประเทศออสเตรเลีย รายการทีวีเด็กเขาจะสอนให้พ่อแม่เรียนรู้ในการผลิตกิจกรรมให้เด็กได้สนุกสนาน โดยใช้อุปกรณ์รอบตัว เช่นกล่องกระดาษ เศษผ้า เป็นต้น แต่ในเมืองไทย ดูเหมือนพ่อแม่ยุคใหม่อาจจะต้องศึกษาค้นคว้าจากตำรา หรืออินเตอร์เนทเอาเอง

6. สอนลูกให้เรียนรู้ทักษะ และพฤติกรรมที่เหมาะสมในการดำรงอยู่ในสังคม ด้วยการแสดงให้เขาเห็นก่อน ต่อจากนั้นถึงเปิดโอกาสให้เขาได้เรียนรู้ที่จะปฏิบัติตาม เช่น การพูดจาสุภาพ พ่อแม่ควรจะเป็นต้นแบบแสดงให้เขาได้รับรู้ก่อน จากนั้นถึงแนะนำให้เขาทำตาม เมื่อเขาทำเราควรชื่นชมในการกระทำของเขาทันที

7. กำหนดให้ชัดเจนว่าพฤติกรรมอะไรของลูกที่เราคิดว่าไม่เหมาะสม จากนั้นถือโอกาสพูดคุยแลก เปลี่ยนความเห็นกันทั้งครอบครัว ก่อนจะออกมากฎ แล้วให้ลูกรู้ว่าถ้าไม่กระทำตามกฎจะได้รับผลลัพธ์อย่างไร

8. ถ้าลูกละเมิดกฎ ไม่ทำตามสิ่งที่ตกลงกันเอาไว้ ก่อนอื่นให้ใจเย็นๆ แล้วบอกเตือนให้ลูกรู้ทันทีว่ากำลังทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และให้หยุดการกระทำนั้นทันที เช่น หยุดทะเลาะ ทุบตีกันเองระหว่างพี่น้อง เป็นต้น ถ้าลูกทำตาม เราควรให้คำชื่นชมยกย่อง แต่ถ้าเขายังดื้อ ไม่ทำตามกฎและข้อทักท้วง ให้ลงโทษตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้

9. ให้คำนึงถึงโลกแห่งความเป็นจริง ว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์ เด็กทุกคนย่อมมีดื้อ มีซน มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในบางเรื่อง บางอย่าง อย่าคาดหวังว่าตัวเราเองจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง เพราะการคิดเช่นนี้จะทำให้เกิดโรคเครียด และหงุดหงิด

10. ให้ดูแลสุขภาพการและใจของตนเอง เพราะถ้าเครียดจะทำให้เราไม่สามารถทำใจเย็นเหมือนเช่นปกติ

ครับ...เหล่านี้คือกลวิธีตามแนวทางเลี้ยงลูกแบบ “คิดเชิงบวก” ของ Matt Sanders พ่อแม่ผู้อ่าน Mother & Care นำไปปฏิบัติแล้ว ได้ผลหรือไม่อย่างไร เขียนเล่ามาได้นะครับ

........................................................................................................
บทความนี้ผมเขียนลง ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Mother & Care ฉบับที่ 16 เดือน เมษายน 2549



Create Date : 02 มกราคม 2551
Last Update : 2 มกราคม 2551 15:15:07 น. 8 comments
Counter : 1209 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ ผมมีน้องอายุ 13 เอาไปใช้ตอนนี้ทันไหม พอจะทราบอายุสูงสุดที่ใช้วิธีนี้ได้ไหมคับ


โดย: deponj IP: 125.24.0.162 วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:19:32:22 น.  

 
คงไม่สายหรอกครับ...แต่อาจจะใช้เวลาบ้าง...เริ่มตอนนี้ดีกว่าวันพรุ่งนี้ เอาใจช่วยคครับ


โดย: สายน้ำกับสายเมฆ วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:9:38:23 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ ที่นำบทความมาให้อ่านทาง internet

ปกติก็เลี้ยงลูกแบบ “คิดเชิงบวก” อยู่แล้ว แต่ที่เน้นมาก ๆ คือการพูดเชิงบวกค่ะ วิธีนี้ ทำให้ลูก ๆ มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นจริง ๆ ค่ะ


โดย: อัญชนา วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:5:10:46 น.  

 
สวัสดีค่ะ เจนนี่แวะมาทักทายและขอบคุณสำหรับคำอวยพรปีใหม่ที่บล็อคไดอารี่ของเจนนี่นะคะ วันนี้เจนนี่เอารูปในคืนข้ามปีมาให้ชมกันด้วยน่ะคะ ว่างๆก็แวะไปชมและทักทายเจนนี่อีกน่ะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ

ไว้เจนนี่ว่างๆเจนนี่จะแวะมาทักทายที่บล็อคนี้อีกน่ะคะ ขอให้วันนี้และวันต่อๆไป เป็นวันดีดีของคุณค่ะ



โดย: สาวอิตาลี วันที่: 4 มกราคม 2551 เวลา:16:07:39 น.  

 
ผมเขามาอ่านแล้วนะครับผมก็ดูเหมือนกันครับอาจารย์ดูทางยุบีซีเอกซ์ไซด์ครับ ผมว่าเป็นรายการที่ดีนะ ดูแล้วเพลินดีบางครั้งผมก็เอามาทำตาม แต่ก็ยังทำได้ไม่หมด อ่านแล้วดีมากๆๆครับ


โดย: ลือเองครับ IP: 58.64.78.18 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:0:52:48 น.  

 

ขอบคุณมากๆสำหรับสิ่งดีๆที่ท่านแบ่งปัน..
ช่วยให้รู้สึกสุขใจ มั่นใจในการดูแลลูกหลาน ...ขอบคุณด้วยความจริใจ....


โดย: ธุลีดิน IP: 202.129.54.82 วันที่: 4 มิถุนายน 2551 เวลา:15:50:09 น.  

 
ดีมากค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: jj IP: 203.147.18.37 วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:17:24:07 น.  

 
ดีมากเลยค่ะ จะลองปฏิบัติตามเพราะปกติเราเป็นแม่ที่ค่อนดุ อารมณ์เสียบ่อยๆเพราะลูกชอบทะเลาะกันค่ะ


โดย: เจน IP: 123.243.106.129 วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:20:32:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายน้ำกับสายเมฆ
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Locations of visitors to this page

Tracked by Histats.com
Friends' blogs
[Add สายน้ำกับสายเมฆ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.