|
เด็กซน
ยอมรับว่าหลายปีที่ผ่านมา
ชีวิตวนเวียนกับคำว่า
สมาธิสั้นและออทิสติก
อยู่ตลอดเวลา
ในเมื่อปันปันเป็นเด็กที่ซนมากกว่าเด็กคนอื่น
หลายครั้งเราก็ทำเฉยเมย
แต่หลายหนก็ต้องกังวลเมื่อถูกเรียก ผู้ปกครอง
ไม่ได้กังวลว่า ปันปันเป็นหรือไม่เป็น
แต่กังวลในสิ่งที่ปันปันจะต้องเจอเมื่อไม่ได้อยู่กับเรา
คิดว่าคนอื่นๆ จะเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน
สองเดือนก่อน พ่อจ๊าง โทรมา บอกว่าอยู่ที่ มศว ประสานมิตร
แล้วบังเอิญเจอศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
เราก็ เอ่อ ออ จดเบอร์โทรเอาไว้
แต่เหมือนจ๊างจะรู้ว่า เราคงไม่โทรแน่
เลยส่งสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่
เราจำต้องให้ข้อมูลคร่าวๆ ไว้
แล้วเจ้าหน้าที่จะโทรมานัดไปพบเองอีกครั้ง
ผ่านไปเกือบเดือน พ่อจ๊าง โทรมาตามผล
ไม่รู้ช่วยลุ้น ช่วยเชียร์ให้เป็นหรือไม่เป็นกันแน่
ดูอาการตื่นเต้นกว่าเรามากนัก 555
แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่โทรมานัด เราเองยังลืมเลย
เมื่อวันศุกร์เจ้าหน้าที่โทรมาให้มาพบวันจันทร์ที่ 28 ตอนบ่ายโมง
ศูนย์ฯ อยู่ที่อาคาร 8 ชั้น 1
เบอร์ติดต่อ 02-664-1000 # 5639, 02-258-4443
ไปถึงก็กรอกข้อมูลตัวเราและปันปัน
จากนั้นพูดคุยกับครูที่ทำการทดสอบ
ครูใช้เวลาทดสอบประมาณ 45 นาที
จากนั้นเอาผลไปวิเคราะห์ดู
แล้วเรียกเราเข้าไปพบ
อาจารย์หัวหน้าศูนย์และครูที่ทดสอบรออยู่ในห้อง
หลังจากเล่าพฤติกรรมระหว่างที่ทำประเมินปันปันให้ฟังหมดแล้ว
ผลก็สรุปมาว่า ปันปันเป็นออทิสติกแบบเล็กน้อย
เพราะเหมือนเด็กทั่วๆ ไป ใกล้เคียงกับปกติ
เพียงแต่สิ่งที่ปันปันขาดคือ
ทักษะการเรียนรู้ทางสังคม
ทักษะในการสื่อสาร
พฤติกรรมบางอย่างที่ชอบทำซ้ำๆ
การไม่ยอมสบตา
ใครจะรู้บ้างไหมว่า
แค่เด็กคนหนึ่งที่ชอบตื้อไม่เลิก
เช่นเวลาสัญญาอะไรไว้แล้วไม่ยอมทำตาม
เค้าก็จะพูดจะตื้อเราจนกว่าเราจะทำตามสัญญา
ส่วนอาการที่ปันปันไม่อยู่นิ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งใน ออทิสติก
แต่ไม่ใช่เป็นสมาธิสั้น เพราะปันปันสามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้นานๆ
มาช่วงนี้เพราะการจำกัดทางด้านภาษา
ปันปันไม่สามารถสื่อสารความโกรธออกมาได้
ทำให้เริ่มตีหรือทุบตัวเองเวลาโกรธหรือโมโห
ในเรื่องของการฝึกเข้าสังคมให้มีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น
อาจารย์แนะนำว่าให้ ทำเป็นภาพเพื่อประกอบคำพูดของเรา
หรือแสดงให้เห็นระหว่างที่พูดไปด้วย จะทำให้ปันปันมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
ถามอาจารย์ไปว่า
ถ้าเราฝึกปันปันไปเรื่อยๆ และเริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นปันปันจะหายไหม
อาจารย์บอกว่า ไม่มีทางหายขาดได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เราเพียงทำให้เค้า
สามารถอยู่ในสังคมนี้ได้ เพื่อนอาจจะน้อยกว่าคนอื่น โลกอาจจะแคบหน่อย
แต่เค้าก็มีความสุขในแบบของเค้า อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพายาช่วยรักษาก็น่าจะดีที่สุดแล้ว
จริงสินะ ความสุขของคนเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราอยากให้เค้าเป็นหรือให้เค้ามี
ถ้ามีแล้วมีความทุกข์ มีแล้วเป็นภาระ
ไม่มีคงจะดีกว่า
และถ้าปันปันมีความสุขในโลกของเค้า
โลกที่อาจจะมีคนเข้าถึงได้น้อย
โลกที่วัตถุมากมายไม่ได้มีผลอะไรกับจิตใจ
ในเมื่อหลายเรื่องที่ผ่านมา
เรามองโลกในแง่บวกมาเสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน การได้รู้ ณ ตอนนี้ย่อมดีกว่ารู้เมื่อสายไป
ยังดีใจด้วยซ้ำ กับคำพูดของอาจารย์ที่ว่า
ปันปันเค้าดูดีนะ
ดูดีกว่าเด็กออฯ คนอื่นๆ
แค่นี้ก็มีกำลังใจมากมาย
ให้พูดจริงๆ จากใจ
ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายกับคำว่าเด็กออฯ เลย
ให้เมื่อเวลาที่เรามองปันปัน
เค้าก็คือลูกชายตัวเล็กๆ ของเราเสมอ
กับคำพูดล่าสุดของปันปัน
หนูอยากโตช้าๆ หนูอยากเป็นเด็กเล็กๆ
เพื่อที่หนูจะได้อยู่กับแม่นานๆ
เท่านี้ก็ซึ้งใจแล้ว
Create Date : 30 เมษายน 2551 |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2551 7:44:19 น. |
|
1 comments
|
Counter : 457 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:22:17:06 น. |
|
|
|
| |
|
|
มีเพื่อนของน้องสาวก็สงสัยว่าลูกชายจะเป็น เพราะไม่ค่อยยอมพูดจนจะ๓ ขวบแล้ว และชอบดูแต่โทรทัศน์
ไปหาหมอที่ไหนก็ยังไม่ยอมฟันธงว่าเป็นหรือเปล่า
จะได้ให้เขาลองไปที่นี่ดู