แม่จะเข็มแข็งเพื่อหนู/ที่หนึ่งในหัวใจ
Group Blog
 
All blogs
 
...T T... ซ้ำชั้น ... T T ...

วันนี้แม่ลางานครึ่งวันเพื่อไปพบครูของหนูที่โรงเรียน ครูบอกกับแม่ว่า อยากจะให้หนูซ้ำชั้น เพราะหนูยังซนและไม่มีสมาธิเหมือนเดิม ครูว่าอาจจะด้วยวัยและวุฒิภาวะของหนูยังไม่พร้อม ทำให้หนูยังไม่สามารถจะมีสมาธิ หรือควบคุมตัวเองให้อยู่ในกฎเกณฑ์ของห้องได้ ซึ่งหากหนูขึ้นไปเรียน อ.2 แล้วยังเป็นแบบนี้อยู่ หนูก็จะต้องซ้ำชั้น อ.2 อยู่ดี แถมยังเป็นการเพิ่มความเครียดให้หนูมากขึ้นไปอีก ดังนั้นทั้งพ่อกับแม่จึงตกลงใจจะให้หนูซ้ำชั้นอีก 1 ปี ปัญหาตอนนี้คือ หนูจะเรียนอยู่ห้องเดิมหรือย้ายห้องดี ตอนนี้แม่บอกตรงๆ ว่ายังคิดไม่ออกเลย


หลังจากลาครูกลับบ้าน แม่บอกให้พ่อไปส่งแม่และหนูที่ โรงเรียนสอนดนตรีแห่งหนึ่งแถวบ้าน แม่คิดอยากจะให้หนูเรียนดนตรีมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสสักที วันนี้แม่รู้สึกว่าตัวเองเคว้งๆ สมองตื้อๆ หลังจากคุยกับครู ไม่อยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าอยากจะทำอะไร เลยคิดพาหนูไปลองดูที่เรียนดนตรีดีกว่า หลังจากสอบถามเรื่องหลักสูตรที่หนูจะเรียนแล้ว ก็นัดว่าจะมาทดลองเรียนตอนหนึ่งทุ่ม


ด้านล่างของโรงเรียนดนตรี มีร้านไอศกรีมกับซุปเปอร์เล็กๆ แม่เลยพาหนูไปทานไอศกรีม แล้วก็ไปเดินซื้อของไว้ทำอาหารตอนเย็น พอกลับทำบ้าน ก็จัดการเอาของที่ซื้อไว้มาทำ เหมือนว่าอยากทำตัวให้ยุ่งๆ เพื่อที่จะได้ไม่คิดเรื่องที่หนูต้องซ้ำชั้น ใจหนึ่งก็รู้สึกท้อแท้ อยากจะร้องไห้ออกมาเพราะสงสารลูก (ทั้งๆที่หนูไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย การซ้ำชั้นไม่ได้มีผลอะไรกับหนู เพราะหนูก็ยังหัวเราะร่า วิ่งเล่นได้เหมือนเดิม) และรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่ดี ดูแลหนูไม่ดีพอทำให้หนูต้องมาเรียนซ้ำชั้น (จิตตกเป็นปกติ) แต่อีกใจหนึ่งก็บอกว่าหากเราอ่อนแอ ท้อแท้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วหนูจะเป็นอย่างไร หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล กว่าหนูจะโตเป็นผู้ใหญ่หรือพึ่งพาตัวเองได้ แม่ต้องเข้มแข็ง ต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่มีอะไรสายเกินไป พอคิดได้แบบนั้นค่อยสบายใจขึ้นหน่อย


พอใกล้ถึงเวลาที่จะไปทดลองเรียน แม่ก็บอกให้พ่อไปส่งแล้วก็ไปดูที่เรียนด้วยกัน พ่อไม่เห็นด้วยบอกว่าหนูยังเล็กเกินไป จะสามารถจดจำอะไรได้มากมาย เรียนไปก็ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ แม่บอกไปว่า ที่แม่ให้หนูเรียนดนตรี แม่ไม่ได้ต้องการหนูเก่งหรือประสบความสำเร็จอะไร แม่แค่ต้องการให้ดนตรีช่วยในการฝึกสมาธิให้หนู และวิธีการที่จะใช้กับหนูให้ได้ผลคือ ต้องเรียนแบบตัวต่อตัว หนูเป็นเด็กที่ต้องการให้เอาใจใส่ตลอดเวลา หากเรียนแบบกลุ่มหนูจะต้องเดินไปมาและไม่สนใจที่ครูสอนแน่นอน แม่บอกว่าบางทีเราต้องยอมรับว่า หนูเป็นเด็กพิเศษกว่าคนอื่น อาจจะต้องดูแลและเอาใจใส่มากกว่าปกติ และแม่จะเป็นคนตัดสินใจในเรื่องการเรียนเสริมอื่นๆ เอง


ตอนพาหนูไปทดลองเรียน ครูส้มเป็นคนสอนหนู ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว เพราะหลักสูตรที่สอนไม่ใช่การใส่เนื้อหาอะไรมากมายให้ แต่เป็นการเอาตุ๊กตาตัวเล็กๆ และหนังสือที่มีสีสันสดใสมาช่วยดึงความสนใจให้หนูสามารถเรียนจนจบ โดยไม่สนใจสิ่งอื่น และการเรียนในแต่ละครั้งใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เทียบกับความสามารถในเด็กวัยหนูแล้วก็น่าจะกำลังดี แม่ตกลงให้หนูเรียนที่นี่ ตอนหนึ่งทุ่มถึงหนึ่งทุ่มครึ่งวันอังคารและวันพฤหัส หนูจะได้มีช่วงเวลาพักจากที่โรงเรียน และทานข้าวก่อนมาเรียนด้วย


ช่วงนี้คงต้องหาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เผื่อจะพาหนูไปทำกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างอื่น จากที่แม่คุยกับเพื่อนๆ ก็คิดว่าอาจจะพาหนูไปเจอกับลูกๆ ของเพื่อนแม่ให้มากขึ้น เพื่อให้หนูมีเพื่อน รู้จักการเข้าสังคมบ้าง แม่ไม่รู้ว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้นมากแค่ไหน แต่สำหรับแม่ แม่จะพยายามและเข้มแข็งเพื่อหนูครับ


ปอลอ
ขอบคุณคุณ อิ๋ง คุณ icebridy และคุณมัชชารที่เข้ามาเยี่ยมค่ะ



Create Date : 24 มกราคม 2550
Last Update : 24 มกราคม 2550 22:40:47 น. 2 comments
Counter : 449 Pageviews.

 


Myspace Layouts

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมเยียน ค่ะ ได้เวลา

เดินชมบ้านเพื่อน แล้วค่ะ

(@^_^@)

จุ๊ฟๆๆๆ

Myspace BackgroundsMyspace LayoutsMyspace Codes, Myspace GraphicsMyspace LayoutsMyspace BackgroundsMyspace CodesMyspace BackgroundsMyspace LayoutsGlitter GraphicsMyspace Text Generator, Myspace GraphicsMyspace Layouts




โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:0:05:29 น.  

 
อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ

ลูกชายตอนอยู่ป.1 ก็ เจอปัญหานี้...ขออนุญาติเล่านะคะ

สาเหตุมาจากเขาเข้าเรียนเร็วกว่าคนอื่นๆ 1 ปี
เพื่อนๆ ในห้องจะอายุมากกว่าลูกชาย

เริ่มจากตอนอนุบาล 1 ครูประจำชั้นบอกว่า ลูกชายเก่ง
มีความสามารถและความพร้อมในทุกๆ ด้าน
ฉลาดเกินวัย...อายุน้อยแต่ตัวโตกว่าเพื่อนๆ ที่อายุมาก
อารมณ์ดี...ดีทั้ง IQ และEQ

เราเป็นแม่ก็ดีอกดีใจ ครูบอกว่าปีหน้าขึ้นป.1 ไปเลย
เพราะเขาทำแบบฝึกหัดของ อ.2 ได้สบายๆ

ตกลงว่าขึ้นป.1 ก็ขึ้นตามที่ครูแนะนำ
ปัญหาก็เริ่มเกิด...ว่าลูกชายเรียนเก่งเหมือนเดิม
กิจกรรม และอื่นๆ ทันเพื่อนๆ ที่อายุมากกว่าได้หมด

ยกเว้น...ทางด้านอารมณ์...ที่ลูกยังคงสนุกแบบเด็กเล็กๆ
นั่งฟังครูเฉยๆ ไม่เป็น ต้องเดินไปเดินมา
ไม่ชอบกฎเกณฑ์ ... อะไรที่รู้แล้วก็ไม่อยากฟังครูสอน
ชอบแหย่เพื่อนๆ ... ชวนเพื่อนคุย

จนครูทนไม่ไหว เรียนเชิญให้ไปพบแพทย์ค่ะ

แต่ทางเราก็ไม่ได้ไป...เครียดกันทั้งบ้าน
ใช้วิธีทำกิจกรรมต่างๆ มาช่วยเหมือนกันค่ะ

อุ๊ย...ชักจะเขียนยาวเกินไปแล้ว...
ขออภัยนะคะ

ยังไงขอเป็นกำลังใจค่ะ...สู้ๆๆๆ นะคะ


โดย: Love_Forget Me Not วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:1:06:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่เจ้าปัน
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ขอรหัสผ่านหลังไมค์นะค่ะ
Free Counters
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าปัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.