บทที่ 5 นำเป็นจ่าฝูงของตารางถึง 6 เดือน แต่จบฤดูกาลด้วยมือเปล่าอีกครั้ง
หากถามผมว่า ตั้งแต่เป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลมา 20 ปี มีปีไหนบ้างที่ผมจำผลงานของทีมได้ติดตาตรึงใจ โดยไม่ต้องไปเปิดอินเตอร์เน็ทเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม ผมจะตอบไปในทันทีว่า มี 3 ปีที่จำได้ฝังใจ

1. ฤดูกาล 1988 - 1989 ในปีนั้นหงส์แดงตามหลังอาร์เซนอลถึง 17 แต้ม ก่อนถึงปีใหม่แค่ไม่กี่วัน แต่หลังจากนั้นหงส์แดงไล่กวนจนแซงขึ้นนำ ก่อนที่จะมาตัดสินกันในนัดสุดท้ายที่แอนฟิลด์ ผลคือ หงส์แดงแพ้ไป 0 - 2 แชมป์หลุดมือไปแบบน่าเจ็บใจอย่างที่สุด

2. ฤดูกาล 2000 - 2001 ภายใต้การคุมทีมของฮูลิเย่ร์ หงส์แดงสามารถกวาดมาได้ 3 แชมป์เรียกว่าเป็นการคว้าแชมป์ในระดับ Junior Triple Champ เลยก็ว่าได้ เราได้มา 3 รายการได้แก่ ยูฟ่า คัพ , เอฟเอ คัพ , โคค่าโคล่าลีค คัพ ประทับใจจริงๆ

3. ฤดูกาล 2004 - 2005 เป็นฤดูกาลแรกของราฟา ซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 5 ของสโมสร แต่มันเป็นสมัยแรกที่ผมได้เห็นด้วยตาของผมเอง ประทับใจจริงๆ

นั่นคือความทรงจำที่ไม่ลืม 3 ฤดูกาลก่อนที่ฤดูกาล 2008 - 2009 จะเริ่มขึ้น ซึ่งเมื่อฤดูกาลนี้จบลง ฤดูกาลนี้ก็กลายเป็นหนึ่งฤดูกาลที่ผมไม่มีวันลืมเช่นกัน เพราะอะไรไปดูกัน



เมื่อเช่นเคยพวกเรา เปิดตัวฤดูกาลนี้ด้วยการเซ็นสัญญากองหน้าอาชีพที่ค้าแข้งในอังกฤษมาอย่างยาว นาน และ ยิงประตูมาอย่างเป็นกอบเป็นกำ บางคนบอกว่า นี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของราฟา



ก่อนย้ายมาเล่นให้ลิ เวอร์พูล Keane ส่องตาข่ายมาแล้ว 129 ประตู ซึ่งมากกว่าครึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่เขาเล่นให้ทีม Tottenham ด้วยค่าตัว 19,000,000 ปอนด์ ไม่แปลกเลยหากแฟนๆจะตั้งความหวังไว้สูงว่า การเข้ามาของเขา เมื่อบวกกับความร้ายกาจของ Torres ลิเวอร์พูลต้องมีกองหน้าที่น่ากลัวที่สุดในลีคอย่างไม่ต้องสงสัย

นอกจาก Keane ราฟายังซื้อผู้เล่นเข้ามาอีก 5 รายดังต่อไปนี้

Philipp Degen
Andrea Dossena
Diego Cavalieri
David N'Gog
Albert Riera





รวมความได้ว่าในปีนี้ราฟา ซื้อผู้เล่นครบทุกตำแหน่งเลย ทั้งผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง และ กองหน้า

ใช้เงินซื้อผู้เล่นเข้ามาทั้งหมด 39,000,000 ปอนด์
ขายผู้เล่นออกไปทั้งหมด 36,500,000 ปอนด์
สรุปใช้เงินในเรื่องผู้เล่นไปทั้งสิ้น 2,500,000 ปอนด์

ใช่แล้วครับ ราฟาใช้เงินไปแค่ 2.5 ล้านเท่านั้นในปีนี้ เพราะได้ค่าตัวจากการขายผู้เล่น 2 คนนี้ออกไปมาช่วยหักลบ



เมื่อมีกองหน้าตัว ใหม่เข้ามา คงเป็นการยากที่เก็บกองหน้าอย่าง Peter Crouch ไว้เป็นตัวสำรองได้อีกต่อไป Crouch จึงย้ายไปเล่นให้ Portsmouth ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ผลดี คือ แฟนไม่ต้องงงอีกต่อไปว่า คนไหน เค้าท์ คนไหน เคร้าซ์ !!! หยุดสถิติสำหรับลิเวอร์พูลไว้ที่ 134 เกมกับ 42 ประตู



การตัดสินขายแบ็คซ้าย ตีนหนักคนนี้ออกจากทีมไป โดยแลกกับเงินแค่ 4 ล้านปอนด์ เพราะ ราฟาไปซื้อผู้เล่นคนใหม่อย่าง Dossena เข้ามาด้วยเงินกว่า 7 ล้านปอนด์ นี่คือการซื้อขายที่ทุเรศที่สุดในการซื้อขายของราฟา ในมุมมองของผม Bye Bye Riise แบ็คซ้ายเจ้าของสถิติลงเล่น 348 เกม ทำได้ 31 ประตู นี่คือบางประตูใน 31 ลูกนั้น

เมื่อปรับปรุงทีมเรียบร้อย ราฟา ก็ได้ทีมของราฟาออกมาดังนี้


----------------------------------------------------Reina------------------------------------------------------

Arbeloa----------------------Carragher------------------Hyypia------------------------------Aurelio

--------------------------------Alonso----------------------------Mascherano-------------------------

Kuyt--------------------------------------------Gerrard---------------------------------------------Riera

----------------------------------------------------Torres-----------------------------------------------------

อ้าวแล้ว Keane ที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย รวมทั้ง Babel ที่โชว์ฟอร์มได้ดีพอสมควรเมื่อฤดูกาลที่แล้วหายไปไหน ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ แค่นั่งสำรองแค่นั้นเอง ในรายของ Babel ผมก็ไม่เข้าใจว่า สถิติที่ทำได้ในฤดูกาลที่แล้วยังไม่ดีพออีกหรือไง หรือฟอร์มการเล่นไม่เข้าตาหรืออย่างไร ถึงต้องไปซื้อ Riera เข้ามาอีกคน ไหนจะมี Benayoun อยู่ในทีมแล้วอีก 1 คน เป็นปีที่ราฟา ซื้อ - ขายผู้เล่นได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

แล้วไหนยังมีตัวป่วนอย่าง Lucas Dossena เพิ่มเข้ามาอีก โดยในรายของ Lucas นั่นราฟาปลุกปั้นเหมือนลูกในไส้ ส่งลงสนามแทบจะทุกครั้งที่มีโอกาสทำได้ โดย Lucas ได้ลงเล่นทั้งหมดในฤดูกาลนี้ 39 เกม มากกว่า Torres ที่ลงเล่นได้แค่ 38 เกมด้วยซ้ำไป !!!! ทั้งที่ผลงานในสนามไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่นหรือน่าสงเสริมแต่อย่างใด

แต่ในฤดูกาลนี้ถือเป็นฤดูกาลที่ Alonso ทำผลงานได้ดีที่สุด นับตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาร่วมทีมลิเวอร์พูลเลยทีเดียว ทั้งการแย่งบอล จ่ายบอล การอ่านเกมส์ รวมทั้งการยิงประตู Alonso ทำผลงานได้ในระดับที่เรียกว่า ไม่มีที่ติ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นปีที่ Steven Gerrard ยิงประตูได้มากที่สุดในอาชีพการค้าแข้งเลยทีเดียว ด้วยจำนวน 24 ประตูใน 1 ฤดูกาล สุดยอดจริงๆ

ด้านผลงานในสนาม โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีค นี่คือปีที่บอกได้เต็มปากว่า ใกล้เคียงคำว่าแชมป์มากที่สุดในรอบ 19 ปีเลยทีเดียว ลิเวอร์พูลเล่นได้ดีถึง 8 เดือนจากทั้งหมด 9 เดือน มีแค่เดือนมกราคมเท่านั้น ที่ลิเวอร์พูลเล่นได้ไม่ดี แม้ว่าจะไม่แพ้ แต่ผลเสมอที่มากจนเกินไป ส่งผลให้ทีมแพ้แมนยูไป 2 คะแนนเมื่อจบฤดูกาล ทำให้แมนยูคว้าแชมป์ลีคสูงสุดเท่ากับลิเวอร์พูล 18 ครั้งแล้วในตอนนี้

เอฟเอ คัพ : ตกรอบที่ 4 เมื่อต้องเดินข้ามสวนสาธารณะ ออกไปเยือนทีมร่วมเมืองอย่าง Everton ไป 1 - 0 ด้วยประตูจากผู้เล่นสำรองในช่วงต่อเวลาพิเศษในนาทีที่ 118

ลีค คัพ : ตกรอบที่ 4 เช่นเดียวกับ เอฟเอ คัพ โดยแพ้ต่อ Tottenham ในเกมที่พวกเราต้องออกไปเยือน White Hart Lane ไป 2 - 4

ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีค : ตกรอบ Quarter - Final ไปด้วยน้ำมือของทีมคู่แค้นในรายการนี้อย่างเชลซีไปแบบสนุกสนาม ตื่นเต้น 5 - 7 ประตู โดนในเกมแรกแพ้ไปก่อนคาบ้าน 1 - 3 ก่อนจะไปเสมอกันอย่างสนุกที่บ้านของเชลซี 4 - 4 ทั้งๆที่ทีมขึ้นนำไปก่อน 2 - 0 หมดครึ่งแรกสกอร์รวมเสมอกัน 3 - 3 แต่ครึ่งแรกกลับกลายเป็นฝันร้ายของลิเวอร์พูล

จบฤดูกาลที่ 5 2008 - 2009 ด้วยความว่างเปล่าไปอีก 1 ฤดูกาลเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เมื่อมองไปที่ผลงานในสนามก็เล่นได้เหมือนเดิมที่ผ่านมา 2 - 3 ปี แต่ปีนี้มีโชคมาช่วยพอสมควร จากที่กำลังแพ้กลายเป็นเสมอ จากเกมที่น่าจะจบด้วยผลเสมอ กลับกลายมาเป็นได้รับชนะจากประตูชัยในนาทีสุดท้าย เหมือนเทพแห่งโชคจะเข้าข้างลิเวอร์พูลแล้ว แต่สุดท้ายพลพรรคหงส์แดง ภายใต้การนำทีมของ ราฟา เบนิเตช กลับจบฤดูกาลที่น่าตื่นเต้นด้วยมือเปล่าอีกครั้งหนึ่ง

มองไปที่การปรับแต่งทีม ในปีนี้ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้ว ย่ำแย่ที่สุดในมุมมองของผม ไม่มีคะแนนในการปรับปรุงทีมเข้าช่วยราฟาอีกต่อไป แต่ผลงานในลีคทำได้ดีมากๆ คะแนนในปีนี้ 3 ดาว น่าจะเพียงพอแล้ว

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าผมจำฤดูกาลนี้ไม่ลืมแน่นอน เพราะ มันเป็นปีที่ผมบอกตัวเองว่า พวกเราจะเป็นแชมป์อย่างเต็มปากเต็มคำ แม้สุดท้ายมันจะล้มเหลว แต่ก็มีช่วงเวลาหลายเดือนให้รู้สึกว่า พวกเราจะเป็นแชมป์ได้จริงๆ .....

หลังฤดูกาลจบลงแฟนบอลหลายคนผิดหวัง หลายคนขับไล่ราฟา แต่อีกหลายคนรวมทั้งตัวผมเอง กับตั้งหน้าตั้งตารอคอยดูลิเวอร์พูลในฤดูกาลต่อไปข้างหน้า ด้วยความหวังที่มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกว่าพวกเราสามารถเป็นแชมป์ได้ มันเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม ฤดูกาลใหม่นี่แหละ ที่จะทำให้พวกเรามีความสุขสมหวังเสียที หลังจากที่รอกันมา 19 ปีแล้ว และที่สำคัญลิเวอร์พูลชุดนี้กำลังจะมาที่ประเทศไทย เพื่อให้พวกเราได้ยลโฉมตัวเป็นๆกันแบบติดขอบสนาม หลังจากนั้นเป็นอย่างไร คิดว่าทุกๆคนคงรู้ดีกันอยู่แล้ว .........



Create Date : 28 ธันวาคม 2552
Last Update : 28 ธันวาคม 2552 14:27:41 น.
Counter : 590 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายรักแท้
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



New Comments