สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับสู่บล็อคทุกเรื่องครับ

ชาทิกวนอิม - หลงฉา 龙茶

ผมคิดว่าชาทิกวนอิม เป็นชาจีนที่คุ้นหูของชาวไทยอันดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ (อาจจะสูสีกับชามะลิ) ก่อนจะดื่มชาเราต้องมาว่ากันถึงตำนานชาทิกวนอิมซะก่อนครับ เพื่ออรรถรสในการดื่มชาครับ สำหรับตำนานเรื่องเล่าของทิกวนอิมนี้จะมีด้วยกันสองตำนานครับ

ตำนาน แรกเล่ากันว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว (แต่ยังจำกันได้อยู่) ณ เมืองอานซี มณฑลฟูเจี้ยน(ฮกเกี้ยน) มีศาลเจ้าร้างอยู่หลังหนึ่ง และภายในศาลเจ้า มีรูปหล่อขององค์กวนอิมซึ่งทำด้วยโลหะประดิษฐานอยู่ ในหมู่บ้านนั้น มีชายยากจนคนหนึ่งชื่อนายเว่ย ซึ่งทุกวันที่นายเว่ยของเราจะต้องไปทำงานที่ไร่ชาของตัวเอง เขาจะต้องเดินผ่านศาลเจ้าแห่งนี้ทุกวัน ทุกครั้งที่เหลือบมองเข้าไปในศาลเจ้า เว่ยของเราจะรู้สึกหดหู่ทุกครั้ง เพราะศาลเจ้าเก่าและร้างไร้คนดูแล จะให้นายเว่ยเอาเงินมาทุ่มสร้างวัด ตั้งมูลนิธิ เหมือนนักการเมืองไทยที่จะทำความดีลบล้างความผิด ก็มิอาจกระทำได้ เพราะบ่มีเงินเยอะแยะขนาดนั้น แต่ด้วยจิตใจอันดีงาม เว่ยได้นำไม้กวาดและธูปเทียนจากที่บ้านเข้ามาทำความสะอาดภายในศาลเจ้า และจุดธูปเทียนบูชาองค์กวนอิมในศาลเจ้า พร้อมกับรำพึงในใจว่า "ข้าพเจ้าทำให้ได้แค่นี่แหละครับ อยากจะมีเงินบูรณะให้ใหม่ แต่คนมันจนอะครับ" เว่ยทำแบบนี้ทุกๆวันพระจีน (เดือนละสองครั้ง) เป็นประจำทุกเดือน จนกระทั่งคืนหนึ่ง พระโพธิสัตว์กวนอิมได้มาเข้าฝันเว่ย และบอกว่า "เว่ยเอ๋ย ในถ้ำหลังศาลเจ้าของข้านั้น มีสมบัติล้ำค่าอยู่ ให้เจ้าไปขุดเอามาซะ และให้แบ่งปันกับผู้อื่นด้วยนะ" เช้าตื่นมาเว่ยก็เข้าไปในถ้ำตามความฝัน และพบกับ "ต้นชา" ต้นหนึ่ง จากนั้นเว่ยก็นำเอาชาต้นนั้นมาประคบประหงมปลูกในไร่ของเขา จนเป็นพุ่มใหญ่ และเว่ยก็เริ่มตัดกิ่งและใบชาแจกชาวบ้านในหมู่บ้านให้ช่วยกันปลูก เว่ยเริ่มขายใบชาที่ได้มาจากในถ้ำหลังศาลเจ้า และเรียกใบชานี้ว่า "ทิกวนอิม" (铁观音 - แปลว่ากวนอิมเหล็ก) ตั้งแต่นั้นมาใบชาทิกวนอิมก็ขายดิบขายดีจนนายเว่ยและชาวบ้านมีเงินมาบูรณะ ศาลเจ้ากวนอิมเหล็กจนมีสภาพสวยงาม ทุกครั้งที่เว่ยเดินผ่านศาลเจ้าไปไร่ชาทุกวัน เขาก็รู้สึกสำนึกบุญคุณและภูมิใจไปทุกครั้ง และนี่ก็คือตำนานของชาทิกวนอิมตำนานแรกครับ

อีกตำนานว่ากันว่า มีบัณฑิตนายหนึ่งชื่อมิสเตอร์หวาง ซึ่งพบต้นชาต้นหนึ่งโดยบังเอิญอยู่ใต้ก้อนหินที่เป็นรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม ในเมืองซีผิง จึงนำมาเพาะต่อที่บ้าน จากนั้นในปีที่หกของฮ่องเต้เฉียนหลง (เฉียนหลงนี่คือสุดยอดคอชาในยุคนั้นเลย) ราชวงศ์ชิง หวางได้นำใบชานี้ถวายฮ่องเต่เฉียนหลง เมื่อเฉียนหลงได้ดื่มชา ก็รู้ชมชอบในรสชาดและกลิ่นของชานี้มาก และเมื่อถามความเป็นมานี้จากมิสเตอร์หวาง ฮ่องเต้เฉียนหลงเลยเรียกชานี้ว่า "ชากวนอิม" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

โม้เรื่องตำนานจบ เรามาว่ากันถึงชนิดของชาครับ ชนิดของชาทิกวนอิมสามารถแบ่งได้ตามชนิดของการหมัก และชนิดของช่วงเวลาในการเก็บใบชาครับ
เราสามารถแบ่งชนิดของใบชาทิกวนอิมตามความเข้มข้นของการหมักชาได้เป็นสามระดับครับคือ

๑. ทิกวนอิมหยก หรือชาคั่วแบบอ่อนครับ ตัวออกไซด์ของเหล็กจะมีไม่มาก จึงทำให้ทิกวนอิมหยกจะมีสีไปค่อนข้างเขียวไปทางชาเขียวมากกว่าไปทางชาอูหลง ปกติ แต่จะทำให้ชาที่ชงมีกลิ่นสดใหม่ กลิ่นประมาณดอกไม้หรือใบไม้นะครับ รสชาดก็จะเบาลงมาหน่อย

๒. ทิกวนอิมแบบเข้ม อันนี้จะคั่ว(หมัก)ชาแบบเข้มข้นครับ ชาที่ได้จะมีสีอำพัน กลิ่นและรสจะซับซ้อนซ่อนเงื่อน ชวนให้ลุ่มหลง แต่กลิ่นสดๆ จะหายไปนะครับ สำหรับการคั่วชาแบบนี้ และชาชนิดนี้ยังเป็นชาที่พบกันมาก และนิยมดื่มกันมากครับ รวมไปถึงตลาดในบ้านเราด้วยครับ

๓. ทิกวนอิมแบบกึ่งหมัก ชาทิกวนอิมแบบนี้ เป็นแบบที่มีการคิดเทคนิกการคั่วขึ้นมาใหม่นะครับ เป็นการทำให้มีความลงตัวพอดีระหว่างกลิ่นรสของแบบ ทิกวนอิมหยกและแบบเข้ม เป็นการรักษาทั้งกลิ่นรสความสด และความเข้มให้มีเท่าๆกันครับ ประมาณว่าสมานฉันท์ ประเทศชาติเราตอนนี้ต้องการชาชนิดนี้มากเลยครับ น่าจะผลิตในคนในชาติเราดื่มกันเยอะๆ (เกี่ยวกันไหมเนี๊ยะ)

ทีนี้ว่ากันตามชนิดช่วงเวลาเก็บใบชา แบ่งเป็น ๔ ชนิดตามฤดูกาลครับ คือ

๑. ทิกวนอิมที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิ จะให้รสชาดโดยทั่วไป แบบรวมๆ ถือว่าเป็นชาดีครับ

๒. ทิกวนอิมที่เก็บในฤดูร่วง จะให้รสชาดชาที่อ่อน แต่จะเด่นที่กลิ่นสดใหม่ครับ ความเข้มของชาจะลดลง

๓. ทิกวนอิมที่เก็บในฤดูร้อน ถือว่าเป็นชาที่มีคุณภาพต่ำครับ และยังแบ่งต่อเป็นสองชนิดคือ ช่วงที่เก็บในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม อีกชนิดหนึ่งคือชนิดที่เก็บในช่วงสิงหาคมครับ

๔. ทิกวนอิมที่เก็บในช่วงฤดูหนาว ถือว่าเป็นชาคุณภาพต่ำสุดๆ ครับ ไม่นิยมดื่มกัน

ยัง มีชาทิกวนอิมอีกชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า กวนอิมอ๋อง (观音王) แปลว่า ราชากวนอิม ถือได้ว่าเป็นสุดยอดของชาทิกวนอิมครับ โดยชาที่จะเรียกเป็นกวนอิมอ๋องได้นั้น คือเป็นเกรดชาที่ดีที่สุดของชาที่เก็บในฤดูใบไม้ร่วงครับ และเป็นชาทิกวนอิมหยกครับ ผมเองก็ยังไม่เคยลิ้มลองครับ ไว้ได้ดื่มจะมารีวิวให้อ่านกัน

ตอนนี้มารีวิวชาทิกวนอิมที่ผลิตขึ้น ภายในประเทศของเราเองครับ ชาทิกวนอิมนี้ยี่ห้อ "หลงฉา" (龙茶) แปลว่าชามังกรครับ (จริงๆ คนคิดชื่อยี่ห้อ อาจจะ"ลุ่ม"หลงชา ก็เป็นไปได้นะครับ ฮ่าๆ เลยใช้ชื่อนี้) กล่องที่ผมดื่มนี้เป็นขนาด ๑๐๐กรัม ก็ขนาดพอดีครับ ดื่มคนเดียวก็สักอาทิตย์หนึ่งคงดื่มหมด กล่องดูดีมากครับ ดูหรูดีและปิดผนึกป้องกันความชื้นอย่างดีครับ

ชาทิกวนอิมหลงฉานี่ ทำร้ายผมครั้งแรกด้วยกลิ่นครับ เอากรรไกรตัดซองสุญญากาศปุ๊บ กลิ่นใบชาพุ่งกระแทกจมูกผม จนจิตนาการไปไกลจนถึงไร่ชาแล้วครับ ดีที่ยังพอมีสติเรียกกลับคืนมาฮ่าๆ กลิ่นหอมมากครับ เป็นกลิ่นหอมของชาทิกวนอิมที่เป็นเอกลักษณ์เลย กลิ่นยั่วยวนจนต้มน้ำแทบไม่ทันครับ

สีของน้ำชาดีมากครับ เป็นสีอำพันพุ่งมาพร้อมกลิ่นจนในห้องทำงานผมอบอวลไปด้วยกลิ่นของชา รสชาดของชาไม่แพ้กลิ่นครับ มีรสชาดที่ดีเผลอลืมไปว่ากำลังดื่มชาไต้หวันอยู่ เหลือบดูข้างกล่องอีกที ผลิตในประเทศไทยนี่เองครับ ภูมิใจเล็กๆนะเนี๊ยะ



Package สวยงาม หรูหราดี



แกะฝากล่องจะเห็นซองสุญญากาศข้างในครับ อันนี้ขนาดร้อยกรัม



ดูกันชัดๆ



ใบชาจะขดเป็นเม็ดกลมครับ กลิ่นดีมากเลย



ใบชาเมื่อโดนความร้อนคลี่ใบออกครับ



ให้ดูสีของชา น่าดื่มมากครับ



ใครอยากลองชาทิกวนอิมหลงฉา ลองเข้าไปดูในเวบเขาก็ได้ครับ ที่ //www.longchathaitea.com

ขอให้มีความสุขกับการดื่มชาทิกวนอิมนะครับ


Create Date : 09 สิงหาคม 2552
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 23:36:09 น. 0 comments
Counter : 2250 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

JooB SurfDude
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับ ว่างๆชอบเขียนบล็อคครับ
ฝึกทักษะการถ่ายทอด และฝึกสมาธิดีนะครับ
[Add JooB SurfDude's blog to your web]