'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ กลางห้วย ~ "เชิญอักษร"



กลางห้วย
"เชิญอักษร" / เขียน
สำนักพิมพ์หมึกจีน / พิมพ์




ใกล้วันเด็กเข้ามาแล้ว...ขอเอาหนังสือเด็ก ๆ ของนักเขียนไทยมาบอกมาเล่าบ้างดีกว่า...

"กลางห้วย" เป็นเรื่องการผจญภัยเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ของเซ็น กับ ซิม สองพี่น้องที่มีคุณพ่อเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และมีคุณแม่เป็นคุณหมอผู้เข้มงวด แต่ด้วยหน้าที่การงานทำให้ดึงเวลาของพวกเขาไปเสียจากลูกชายทั้งสอง...

เรื่องเล่าจากมุมมองของ "เซ็น" เด็กชายวัยสิบสองขวบผู้พี่ ...ผู้ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกภายในอย่างตื่นเต้นสับสนและขลาดกลัว...

ด้วยแววตาใส ๆ หากพยายามขุดค้น เจาะลึกเพื่อเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมที่แปรไปตามสภาพ...
หลายครั้งที่เขารู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนกำลังเคว้งคว้างตามลำพังอยู่ "กลางห้วย"

บางห้วงความรู้สึกของ "เซ็น"...

(เมื่อพ่อกับแม่เกิดไม่ลงรอยกันขึ้นมา)

"พักหลัง ๆ นี้ บ้านเขาดูจะมีปัญหาที่บอกไม่ถูก เขานึกถึงตัวแตนที่มาทำรังที่บ้าน กับแมงมุม เรื่องนั้นบอกความจริงอย่างหนึ่งว่า การมีอะไรก็เพราะมีอะไร ความไม่ลงรอยที่เกิดขึ้นต้องมีที่มาอะไรสักอย่างทั้งนี้เนื่องเพราะ ย่อมไม่มีอะไรที่มาจากความไม่มีอะไร..."

(และเมื่อเขาต้องย้ายเข้าไปเรียนโรงเรียนวัด และพบสิ่งใหม่ ๆ...)

"...โลกหมุนไปช้ามากสำหรับเซ็น...อาจเป็นเพราะว่าเขาต้องอยู่อย่างระวังกว่าที่เคยก็ได้ เขาต้องมีชีวิตอย่างลืมตา เขาเริ่มเห็นว่า โลกนี้คล้ายมีโลกเล็กหลายใบ แทรกซ้อนอยู่ ความเป็นไปในโลกที่ซ้อน ๆ กันนั้น มีทั้งสิ่งที่เขาเคยพบและไม่เคย และโลกบางโลกก็เป็นโลกของความจริง ในขณะที่บางโลกไม่ใช่ ...
และในกระบวนโลกที่ไม่จริงทั้งหลายนั้น เซ็นคิดว่า โรงเรียนเป็นที่รวมความไม่จริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด..."

(หรือเมื่อเขาพยายามหาเหตุผลในการกระทำ...)

"...เซ็นรู้สึกสับสน และคิดว่าตัวเองอาจนอกคอก เขาพยายามเปลี่ยนความรู้สึกนึกคิด แต่ไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงเพียงแต่หวังว่า ข้อขัดข้องทั้งหมดที่มีในใจเขาคงชอบด้วยเหตุผลบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นเขาคงกลายเป็นคนมีปัญหาอย่างแท้จริง แล้วก็อาจเห็นแก่ตัวด้วย..."

โปรยปกหลัง...

...ระหว่างคน ย่อมมีการตัดสินใจเสมอ และส่วนใหญ่ก็มักทำกันอย่างนั้นอยู่เรื่อย
มาถึงตอนนี้ เขาพบว่าในกระบวนการการตัดสินที่เกิดขึ้นตลอดเวลานั้น
การตัดสินที่เจืออยู่ด้วยความเมตตาปรานี ดูจะดีกว่าการตัดสินในแบบอื่น...
โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ ที่มีหัวใจอ่อน ๆ เล็ก ๆ ย่อมไม่ต้องการอะไรที่น้อยกว่านั้นเลย...


บางส่วนจากคำนำผู้เขียน...

...สำหรับ "กลางห้วย" นี้ ข้าพเจ้าปะติดปะต่อขึ้นด้วยความหวังว่าจะนำความเยาว์วัย ที่น่ารักน่าชังกลับมาสู่หัวใจอุ่น ๆ ของเรา...



"เชิญอักษร" เป็นนักเขียนในดวงใจอีกคนหนึ่งของจขบ. นิยายของเธอส่วนใหญ่แม้จะเป็นนิยายรักกุ๊กกิ๊ก จุ๋มจิ๋ม หากก็แฝงไว้ด้วยความเป็นจริงแห่งชีวิตไว้อย่างแนบเนียน ไม่พาฝันจนหลุดโลก ไม่ฟุ้งเฟ้อจนใหลหลง...

นิยายแต่ละเรื่องของเธอจะลงตัวเหมาะเจาะทั้งพล็อต ทั้งความยาวที่พอดิบพอดี และทั้งสำนวนภาษาที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว...

"กลางห้วย" เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของเธอที่จขบ.ได้อ่าน ในจำนวนผลงานทั้งหมดร่วม ๆ ยี่สิบเรื่องที่เธอเขียนมา...และเป็นหนังสือที่เธอเขียนแทนเด็ก ๆ เล่มที่สอง จากเล่มแรกคือ "สู่สายรุ้ง" (หนังสือหายไปแล้ว...)

ผลงานเล่มอื่น ๆ ของเธอส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของความพยายามที่จะให้ผู้คนหันมาใส่ใจในธรรมชาติรอบตัวให้มากขึ้น ตัวเอกของเธอมักจะเรียนหรือไม่ก็ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร...(คาดว่า) ตามสายวิชาที่เธอเรียนมา...

เท่าที่ทราบ...หนังสือทุกเล่มของเธอจะจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์หมึกจีน ซึ่งจัดทำรูปเล่มได้กะทัดรัดน่ารัก น่าพกพา แต่เสียอย่างเดียว...การเย็บเล่มไสกาวทำได้แย่มาก ๆ โดยเฉพาะเล่ม "กลางห้วย" นี้ หน้าหนังสือหลุดเป็นแผ่น ๆ เลยทีเดียวเชียว...













 

Create Date : 11 มกราคม 2551    
Last Update : 12 มกราคม 2551 15:43:37 น.
Counter : 1278 Pageviews.  

~ ลิตเติ้ลทรี :วรรณกรรมเยาวชนเผ่าเชโรกี ~




ลิตเติ้ลทรี :วรรณกรรมเยาวชนเผ่าเชโรกี
( The Education of Little Tree)
ฟอร์เรสต์ คาร์เตอร์ / เขียน
กรรณิการ์ พรมเสาร์ /แปล
สำนักพิมพ์ มูลนิธิโกมลคีมทอง / พิมพ์




"ลิตเติ้ลทรี" เป็นเด็กน้อยที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ เขาอาศัยอยู่กับปู่และย่าผู้ชราบนภูเขา...ปู่เป็นลูกครึ่งเชโรกี ส่วนย่ามีสายเลือดเชโรกีเต็มตัว...

เรื่องราวได้เล่าขานถึงชะตากรรมของชนเผ่าเชโรกี อันเป็นชนกลุ่มน้อยในอเมริกา ซึ่งถูกรุกรานโดยคนขาว

"ลิตเติ้ลทรี" สะท้อนภาพการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายของคนชนเผ่า ที่ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เอื้อเฟื้อต่อสัตว์ป่า พึ่งพิงกันและมีสายสัมพันธ์อันงดงามที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณของธรรมชาติ ในสภาวการณ์ที่อินเดียนยังคงเป็นชนชั้นต่ำที่ถูกเยาะหยัน ถูกดูแคลนว่าเป็นคนโง่งมในสายตาของคนขาว โดยผู้คนเหล่านั้นไม่ได้ศึกษาเบื้องหลังความคิดของการดำรงชีวิต มักเทิดทูนวัฒนธรรมตนเอง และสร้างเป็นกรอบให้ผู้อื่นทำตามเพื่อความเป็นศิวิไลซ์

ปู่และย่า ผู้เปรียบเป็นพ่อและแม่คนที่สองของเขา ได้สอนวิธีการดำเนินชีวิตและปลูกฝังแนวคิดของชนเผ่าเชโรกี เขาได้เรียนรู้วิถีธรรมชาติอันเรียบง่ายด้วยความรักอันบริสุทธิ์ อ่อนโยน และใสสะอาด และเขาก็ได้สัมผัสชีวิตรักที่ยิ่งใหญ่ เรียนรู้ความงามและความมีชีวิตของธรรมชาติที่มอบให้เด็กกำพร้าอย่างเขา เขาเรียนรู้การจากพราก การอยู่รอด เรียนรู้ความเข้มแข็งของหัวใจ
ในขณะเดียวกัน เราเรียนรู้ความรักอันอ่อนโยนในครอบครัว ถึงแม้จะห่างไกลกัน แต่ต่างก็สัญญาที่จะดู “ ดาวสุนัข ” ในค่ำคืนและส่งใจถึงกัน รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

บางส่วนบางตอนจากคำสอนของปู่และย่า:

'ความกล้าหาญ คือ หัวใจของลิตเติ้ลทรี มีความเมตตาเป็นพลัง ลิตเติ้ลทรี จะไม่เดียวดาย'

'มันเป็นกฎธรรมชาติ...จงเอาเท่าที่จำเป็น เมื่อเจ้าล่ากวาง จงอย่าเลือกตัวที่ดีที่สุด ให้เลือกตัวที่เล็กและเชื่องช้า เพื่อให้กวาง (ที่แข็งแรง) เหล่านั้น จะได้เติบโตแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และมีเนื้อให้เรากินสม่ำเสมอ'

'คนทุกคน มีจิตอยู่สองดวง ดวงหนึ่งคือ จิตใจที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาสิ่งจำเป็น เพื่อให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ได้ เราต้องใช้จิตนี้ เพื่อไตร่ตรองหาวิธีให้ได้มาเพื่อร่างกายของเรา ให้ดำเนินชีวิตไปได้
จิตอีกดวงหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว คือ จิตวิญญาณ ถ้าเราใช้จิตใจไปในทาง โลภโมโทสัน หรือเลวทราม เช่น ถ้าเราชอบทำร้ายผู้อื่นเสมอ และมัวแต่คิดหาผลประโยชน์ทางวัตถุจากผู้อื่นเพื่อตนเอง จิตวิญญาณของเราจะหดเล็กลงเหลือขนาดเท่าลูกฮิคกอรี่นัท และอาจหายไปได้ ถ้าหากเราปล่อยให้จิตใจครอบงำร่างกายทั้งหมด เราจะสูญเสียจิตวิญญาณไปโดยสิ้นเชิง'

'ถ้าได้ยินใครใช้ถ้อยคำว่าร้ายใคร อย่าไปตัดสินจากถ้อยคำพวกนั้น เพราะมันไม่มีความหมายอะไร ให้ตัดสินจากน้ำเสียง จะให้รู้ว่าเป็นคนที่ต่ำช้าและโกหกหลอกลวงหรือเปล่า'

'เมื่อไรที่หัวใจของเขาอยู่ในที่ที่ควรอยู่ เขาจะได้เรียนรู้ว่า เขาควรจะให้ใคร และสิ่งที่ควรให้ คือ ให้การเรียนรู้ที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวเอง'

'ย่าว่าโดยธรรมชาติแล้ว ความเข้าใจกับความรักเป็นสิ่งเดียวกัน
.. ผมจึงเข้าใจว่า ผมจะต้องเริ่มพยายามเข้าใจทุกคนอย่างจริงจัง
เพราะแน่นอนว่าผมไม่อยากให้จิตวิญญาณเหลือเท่าลูกฮิคกอรี่นัท'

'ย่าบอกว่า เรารู้ได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนตาย
... เมื่อเขามองผู้หญิง เขาไม่เห็นอะไรนอกจากคิดสกปรก
... เมื่อมองต้นไม้ เขาไม่เห็นอะไรนอกจากไม้ซุงและผลกำไร มิใช่ความงาม
ย่าบอกว่าพวกนี้แหละคือคนตายที่ยังเดินอยู่ทั่วๆ ไป'





...เป็นวรรณกรรมเยาวชนอีกหนึ่งเล่มที่อ่านแล้วประทับใจ จึงนำมาชวนอ่านค่ะ...













 

Create Date : 10 มกราคม 2551    
Last Update : 10 มกราคม 2551 16:17:42 น.
Counter : 6080 Pageviews.  

~ 3 เล่มประทับใจ ของ วิลเลี่ยม ซาโรยัน ~



ความสุขแห่งชีวิต (The Human Comedy)
วิลเลี่ยม ซาโรยัน /เขียน
มัทนี เกษกมล / แปล
แพรวเยาวชน / พิมพ์


เรื่องราวของเด็ก ๆ แห่งครอบครัวแมคคอลี่ ในเมืองอิธคา รัฐแคลิฟอร์เนีย พวกเขากำลังพยายามจะเรียนรู้และทำความเข้าใจในคุณค่าและความหมายของชีวิต การพลัดพราก และความตาย...ผ่านคำสอนอันอ่อนโยนและลึกซึ้งของผู้เป็นแม่...มิสซิส แมคคอลี่...

นางบอกพวกเขาว่า..."ความตาย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะเข้าใจได้ ยิ่งเด็กด้วยแล้ว แต่ทุกชีวิตจะต้องสิ้นสุดลงสักวันหนึ่ง วันนั้นมาถึงพ่อของหนูเมื่อสองปีก่อน...แต่ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่เราอยู่ด้วยกัน...แต่ถ้าเรายังนึกถึงเขาอยู่ก็จะไม่มีอะไรในโลกมาพรากเขาไปจากเราได้...สิ่งที่ดีไม่เคยสูญ...เพราะถ้ามันสูญก็จะไม่มีคนเหลืออยู่ในโลกอีกแล้ว...ไม่มีชีวิตเหลืออยู่เลย...แต่ในโลกนี้ก็ยังเต็มไปด้วยผู้คนและชีวิตที่แสนสุข..."

และ..."ย่อมจะมีความเจ็บปวดอยู่ในสิ่งต่าง ๆ เสมอ...คนดี ๆ ย่อมจะทำความเจ็บปวดหายไปได้...คนชั่วจะทำให้ความเจ็บปวดฝังลึก...แต่ไม่ใช่ความผิดของใครเลย...คนชั่วไม่รู้หรอกว่าตัวเองชั่วร้าย...ทุก ๆ วันคนเราจะต้องยกโทษให้คนที่ชั่วร้าย...พวกเขาจะต้องมีคนรัก เพราะมีบางอย่างในตัวเราทุกคนอยู่ในตัวคนที่ชั่วร้ายที่สุด...และบางอย่างในตัวคนชั่วร้ายที่สุดก็มีอยู่ในตัวเราทุกคน...เราทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแยกกันไม่ได้..."

คำสอนเหล่านี้อาจจะไม่ใช่คำสอนที่แปลกใหม่อะไร แต่ด้วยลีลาการเขียน การบอกเล่าที่อ่อนโยน ใช้ภาษาที่เรียบง่าย ทำให้เรื่องราวน่าอ่าน เป็นการชี้แนะ ย้ำเตือนให้คนเราเห็นว่าความสุขแห่งชีวิตแท้จริงแล้วอยู่ที่ตรงไหน ขอเพียงเรามีศรัทธาและหาให้เจอ...

**หนังสือเล่มนี้มีภาคภาษาอังกฤษให้อ่านบนเน็ตด้วยค่ะ เชิญคลิกที่ลิงก์นี้ค่ะ~The Human Comedy~







ฟ้ากว้าง ทางไกล (Papa You're Crazy )
วิลเลี่ยม ซาโรยัน /เขียน
รัตนา รัตนดิลกชัย / แปล
แพรวเยาวชน / พิมพ์


เรื่องราวความรักความผูกพันของพ่อและลูกชาย พ่อซึ่งเป็นนักเขียนสอนลูกชายซึ่งกำลังเป็นวัยรุ่น ให้เรียนรู้วิธีการใช้ชีวิตอย่างละเอียด โดยสอดแทรกปรัชญาในการดำรงชีวิตที่เรียบง่ายและงดงาม ทั้งกลางแจ้งและในร่ม โดยไม่เน้นสิ่งที่เป็นวัตถุนิยม...

บทเกริ่นนำถึงที่มาแห่งหนังสือเล่มนี้ที่ผู้เป็นพ่อเขียนบอกกับลูกชาย...

"...ที่พ่อตัดสินใจเขียนหนังสือเล่มนี้เพราะลูกขอร้องให้พ่อเขียน ตอนที่ลูกอายุได้สิบขวบ และเพราะตอนที่พ่ออายุสิบขวบเหมือนลูกนั้น พ่อยังไม่มีความสามารถพอที่จะถ่ายทอดสิ่งที่พ่ออยากพูดออกมาได้

แต่ตอนนี้ ในที่สุดพ่อก็เขียนออกมาแล้ว หรือถ้าจะพูดให้ถูก ก็ต้องบอกว่าลูกเป็นคนเขียนมันมากกว่า เพราะทั้งหมดที่พ่อต้องทำก็มีเพียงนึกถึงตัวพ่อเองเมื่ออายุสิบขวบ เฝ้าสังเกตลูกตอนที่ลูกอายุสิบขวบ แล้วรวมทั้งสองส่วนเข้ากับวัยสี่สิบห้าของพ่อเอง น้ำเสียงและท่าทางของลูกก็คือเนื้อหาของหนังสือ สายตาที่ลูกมองดูสิ่งต่าง ๆ คือลีลาของเรื่องที่แน่วแน่ และกระตือรือร้น รวมถึงความคิดที่น่าทึ่ง คำอุทานเย้ยหยัน หรือเสียงหัวเราะที่ชวนพิศวง สิ่งเหล่านี้พ่ออาจจะถ่ายทอดได้ถูก หรือผิด หรืออาจจะทั้งสองอย่าง หรืออาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่างก็เป็นได้

ทว่าการทุ่มเทพลังมากมายลงในงานเขียนที่เรียบง่าย ก็คือสิ่งที่ง่ายที่สุดเมื่อลูกลงมือทำ และลูกก็ได้ทำมันแล้ว พ่อขอขอบใจ และพ่อรักลูก..." / วิลเลียม ซาโรยัน







คุณแม่เพื่อนรัก (Mama I Love You)
วิลเลี่ยม ซาโรยัน /เขียน
คันธา ศรีวิมล / แปล
สนพ.ดอกหญ้า / พิมพ์

(ยืมภาพปกเล่มนี้จาก AJBook.com ค่ะ)


เรื่องราวความสัมพันธ์อันสนุกสนาน อ่อนหวานละมุนละไมของคุณแม่กับลูกสาววัย 10 ขวบ...

เนื้อเรื่องบอกเล่าผ่าน "หนู" เด็กหญิงวัยสิบขวบที่ได้เดินทางติดตามแม่ของเธอเพื่อจะไปทำตามความฝันคือการได้แสดงละครเวทีในมหานครนิวยอร์กอันยิ่งใหญ่...

ที่นั่น ทั้งคุณแม่และคุณลูกได้พบเจอและเรียนรู้โลกกับผู้คนที่แตกต่าง...ทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวเองและเข้าใจซึ่งกันและกันด้วย...

"...มีเราเพียงสองคนในโลกนี้ คนหนึ่งเป็นเด็กหญิงตัวโตและกลม ส่วนอีกคนตัวเล็กและเป็นแท่งยาว และหนูก็รักเธอ รักทุก ๆ ส่วนของเธอ..."
เล่มนี้น่ารักดีค่ะ...แม้ว่าสำนวนแปลจะแปลก ๆ ไปสักนิด...





เกี่ยวกับผู้เขียน

: วิลเลียม ซาโรยัน (William Saroyan 1908-1981) เป็นชาวอาร์เมเนียน เขาเกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1908 ที่เมืองเฟรสโน แคลิฟอร์เนีย
จากบิดามารดาชาวอาร์เมเนียที่อพยพไปอยู่อเมริกา
ซาโรยันใช้ชีวิตวัยเด็กเยี่ยงเด็กในครอบครัวผู้อพยพจนๆ ในอเมริกาโดยทั่วไป

เขาต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตั้งแต่เด็ก เขาเริ่มเขียนหนังสือตั้งแต่อายุ 13 ปี เขามีผลงานตีพิมพ์ออกมากว่า 30 เล่ม ซึ่งมีทั้งเรื่องสั้น นวนิยาย บทละคร และอัตตชีวประวัติ

ในปี 1940 เขาได้รับรางวัลพูลิตเซ่อร์ กับรางวัล New York Drama Critics Circle จากบทละครเรื่อง The Time of Your Life
ซาโรยันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 1981
(คัดลอกจากหน้าปกในหนังสือเรื่อง 'คุณแม่เพื่อนรัก' ค่ะ)

***จริง ๆ แล้วมีอีกเล่มหนึ่งที่น่าจะเข้าชุดกับสามเล่มข้างบนนี้คือเรื่อง My Name is Aram แปลเป็นไทยตรง ๆ ว่า "ผมชื่ออารัม" แต่ ณ ตอนนี้หนังสือไม่อยู่กับตัว สงสัยหลานสาวเอาไปอ่านแล้วยังไม่มาคืน จำข้อมูลแทบไม่ได้เลยว่าใครแปล และเรื่องราวเป็นยังไง เดี๋ยวถ้าเจอแล้วจะเอามารวมไว้บล็อกนี้ก็แล้วกันค่ะ










 

Create Date : 21 ธันวาคม 2550    
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2554 15:09:53 น.
Counter : 2801 Pageviews.  

โลกของเธอ...บิเบียน่า & กุ๊ชโฉ่



โลกของเธอ...บิเบียน่า
โฆเซ่ หลุยส์ โอไลยโซล่า / เขียน
สว่างวัน ไตรเจริญวิวัฒน์ / แปลจากภาษาสเปน
บริษัท ฟ้าอภัย จำกัด / พิมพ์



บิเบียน่า หรือที่คนทั่วไปเรียกเธอว่า "บิ๊บิ" เป็นเด็กหญิงกำพร้าแม่ เธออาศัยอยู่กับพ่อที่วัน ๆ เอาแต่กินเหล้าจนเมามาย...
จนวันหนึ่ง คนในสังคมส่วนใหญ่ก็เห็นว่าพ่อของเธอไม่เหมาะที่จะดูแลเธอ เนื่องจากเขาไม่มีงานทำ และเป็นชายขี้เมาแถมกำลังต้องโทษฐานลักทรัพย์อีกด้วย...

เป็นปัญหาสังคมที่น่าจะเคร่งเครียดสำหรับที่จะเป็นหนังสือเด็ก แต่ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงแจ่มใสของบิเบียน่า ทำให้เรื่องราวดำเนินไปได้อย่างไม่เลวร้ายจนเกินไป และทางออกของปัญหาของเธอกลับกลายเป็นเรื่องโรแมนติกเล็ก ๆ ที่เมื่ออ่านจบต้องมีรอยยิ้มได้ทีเดียว...








กุ๊ชโฉ่
โฆเซ่ หลุยส์ โอไลยโซล่า / เขียน
รัศมี กฤษณมิษ / แปลจากภาษาสเปน
บริษัท ฟ้าอภัย จำกัด / พิมพ์


กุ๊ชโฉ่ เป็นเด็กชายอายุ 10 ขวบ เขาอาศัยอยู่กับย่า ที่เลี้ยงดูเขามาตามลำพังโดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าทำไมเขาไม่มีพ่อกับแม่เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ...วันหนึ่งย่าของเขาก็ประสบอุบัติเหตุ ขาหัก เดินไม่ได้ ทำให้ไปทำงานรับจ้างทำความสะอาดบ้านตามเคยไม่ได้...
กุ๊ชโฉ่จึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะหารายได้มาจุนเจือตัวเองและย่า...ด้วยวัยเพียง 10 ขวบ...
เหตุผลที่สำคัญยิ่งอีกประการหนึ่งที่ทำให้กุ๊ชโฉ่ต้องทำงานหนักก็คือเขาไม่อยากให้ใครมาพาย่าของเขาไปอยู่ในสถานสงเคราะห์คนชรา แล้วตัวเขาเองก็ต้องไปอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า...
เขารู้ว่าย่าของเขาจะไม่มีความสุขเป็นแน่ถ้าต้องไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านที่มีเขาอยู่ด้วย

บางส่วนจากบันทึกผู้แปล..
"ผู้อ่านจะได้สัมผัสกับความรักของกุ๊ชโฉ่ที่มีต่อย่าผู้มีพระคุณ ต่อกุ้งมังกรผู้เป็นทั้งพี่และเพื่อนที่แสนดี ต่อเซเลีย เพื่อนหญิงรูปสวยรวยน้ำใจ
ความซื่อสัตย์ของกุ๊ชโฉ่ต่อลุงอัมโบรซิโอผู้ไว้เนื้อเชื่อใจให้เขาดำเนินธุรกิจแทนตน
ความขยันและอดทนของกุ๊ชโฉ่ ต่องานทุกอย่างที่เขาทำ
ความสุภาพอ่อนน้อมของลุงอันโตนิโอ สุภาพบุรุษผู้ยากจน ความเมตตาปรานีของครูอันเซลโม่ที่มีต่อศิษย์ผู้เคราะห์ร้าย...
และเหนือสิ่งอื่นใด ความศรัทธาและไว้วางใจในพระเจ้า ที่ย่าสอนกุ๊ชโฉ่ให้รู้ว่า คนเราอาจสูญเสียอะไรต่อมิอะไรได้ แต่ต้องไม่สูญเสียศรัทธา..."



** ทั้งสองเล่มเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ได้รับรางวัลเรือกลไฟของประเทศสเปนค่ะ










 

Create Date : 20 ธันวาคม 2550    
Last Update : 20 ธันวาคม 2550 9:11:29 น.
Counter : 2992 Pageviews.  

~เด็กกระป๋อง & มงกุฎกระดาษ ~

เป็นวรรณกรรมเยาวชนแปลจากเยอรมันค่ะ



เด็กกระป๋อง
คริสทีเนอ เนอสลิงเงอร์ : เขียน
อำภา โอตระกูล : แปลจากภาษาเยอรมัน
แพรวเยาวชน : พิมพ์


จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อจู่ ๆ ก็มีเด็กสำเร็จรูปอัดอยู่ในกระป๋อง ส่งทางพัสดุไปรษณีย์มาถึงคุณที่หน้าบ้าน ?

คอนราด เป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบที่แสนจะเรียบร้อย เฉลียวฉลาดและว่านอนสอนง่าย เขาถูกผลิตขึ้นและส่งมาทางไปรษณีย์ให้กับคุณป้าบาร์โทล็อตตี้
หญิงสูงวัยที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ณ บ้านหลังหนึ่ง...
คุณป้าได้พยายามเต็มที่ที่จะเป็นแม่ที่ดีที่สุดของคอนราดโดยการมอบความรักความปรานีให้เขา ตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่แนบมากับคอนราด
แต่ปัญหาก็คือ คอนราดถูกผลิตโดยผู้ใหญ่ ดังนั้นเขาจึงถูกป้อนคุณสมบัติของเด็กในแบบที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายอยากให้เป็น
คอนราดจึงเป็นเด็กที่ในหัวมีแต่ระเบียบกฎเกณฑ์ ทำให้เขาไม่สามารถเข้ากันได้กับเด็กจริง ๆ
โชคดีที่คอนราดมีเพื่อนดี ๆ อย่างเด็กหญิงคิตตี้ และมีแม่อย่างคุณป้าบาร์โทล็อตตี้ ที่พยายามจะปลุกปั้นให้เขากลายเป็นเด็กจริง ๆ ให้ได้...

จู่ ๆ วันหนึ่งทางโรงงานก็ส่งจดหมายมาบอกคุณป้าว่า...เกิดเหตุขัดข้องทางระบบคอมพิวเตอร์ของโรงงานทำให้เขาส่งของมาผิด...
สิ่งที่คุณป้าสั่งซื้อไม่ใช่เด็กกระป๋อง หากแต่เป็นยาช่วยความจำต่างหาก ดังนั้น คุณป้าจะต้องส่งคอนราดคืนโรงงานโดยด่วน...

ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงคอนราดให้กลายเป็นเด็กจริงจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของคุณป้าบาร์โทล็อตตี้...
แต่เด็กที่ถูกโปรแกรมมาให้เป็น "เด็กดี" อย่างที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องการ โดยมีขั้นตอนการผลิตอย่างเข้มงวดก่อนที่จะบรรจุลงกระป๋องอย่างคอนราดนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ล่ะหรือ...

เป็นหนังสือเด็กอ่านสนุกอีกเล่มที่อยากแนะนำค่ะ







มงกุฎกระดาษ
เรนาเตอ เวลช์ : เขียน
อำภา โอตระกูล : แปลจากภาษาเยอรมัน
แพรวเยาวชน : พิมพ์


นิโคเลอาศัยอยู่กับแม่ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่เธอเชื่อว่าจริง ๆ แล้วเธอเป็นเจ้าหญิง และสักวันหนึ่งพ่อของเธอที่เป็นพระราชาจะมารับเธอไปอยู่ด้วย...
เทเรซ่าเป็นเพื่อนสนิทของนิโคเล เธอทั้งสองเรียนอยู่ห้องเดียวกัน ...
แล้ววันหนึ่งทั้งสองก็ต้องผิดใจกันเพราะเทเรซ่าก็เกิดอยากจะเป็นเจ้าหญิงขึ้นมาอีกคนหนึ่ง....
เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ฉันใด เจ้าหญิงสององค์ก็อยู่ห้องเรียนเดียวกันไม่ได้ฉันนั้น...

ยิ่งแล้วใหญ่เมื่อทั้งสองจะต้องมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน... เมื่อแม่ของนิโคเลเกิดไม่สบายขึ้นมาและต้องไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาล นิโคเลจึงต้องไปพักอยู่กับครอบครัวของเทเรซ่า...
เทเรเซ่าต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันและปลอบโยนเพื่อนผู้กำลังมีความทุกข์ ...
ในขณะที่นิโคเลต้องลืมความคิดที่ว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงผู้โดดเด่นไป เพราะความเป็นความตายของแม่ของเธอสำคัญกว่ามากนัก...

เป็นหนังสือเด็กที่อ่านแล้วซาบซึ้งไปกับความฝันและจินตนาการของเด็ก ๆ กับความรักและมิตรภาพระหว่างเพื่อน ตลอดถึงสายใยรักอันผูกพันของแม่กับลูกสาว...












 

Create Date : 17 ธันวาคม 2550    
Last Update : 17 ธันวาคม 2550 12:01:52 น.
Counter : 4345 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.