'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
~บุปผาซ่อนจันทร์/The Lotus Palace โดย จินนี่ หลิน(แปลโดย วรินทร์ วารีนุกูล )~







บุปผาซ่อนจันทร์/The Lotus Palace
ผู้เขียน : จีนนี หลิน
ผู้แปล : วรินทร์ วารีนุกูล
ผู้พิมพ์ : สนพ.อรุณ (ครังแรก ส.ค. ๕๘)
๓๔๙ หน้า ราคา ๒๖๕ บาท


โปรยปกหลัง :

เยว้อิง
สาวใช้ประจำหอดอกบัว หอคณิกาเลื่องชื่อในย่านเริงรมย์
นางไม่ได้มีใบหน้างดงามดังเช่นคณิกาที่นางรับใช้
ซ้ำร้ายใบหน้ายังมีตำหนิปานแดงมาแต่กำเนิด
นางใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของนายหญิงและคณิกานางอื่นๆ
จนกระทั่งได้พบกับ ไป่ หวง ชายหนุ่มจากตระกูลขุนนางสูงศักดิ์

ด้วยสถานะทางสังคมที่แตกต่าง ทางเดินชีวิตของทั้งสอง
จึงไม่มีทางมาบรรจบกัน แต่แล้วชีวิตของพวกเขาก็พลิกผัน...
เมื่อทั้งสองเข้าไปพัวพันกับการตายของหญิงคณิกาชื่อดังนางหนึ่ง

เมื่อความใกล้ชิดก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ทั้งสองจะฝ่าฟันอุปสรรคจากความต่างระหว่างชนชั้นได้อย่างไร
เขาและนางจะเลือกยอมแพ้ต่อโชตชะตา...
หรือต่อสู้เพื่อหัวใจของตนเอง






เรื่องย่อ (ย่อเอง)

เยว้อิงเป็นหญิงรับใช้ประจำตัวของหมิงยวี้ หญิงคณิกาผู้เลอโฉมประจำหอดอกบัว
มีเหล่าบัณฑิตและข้าราชสำนักชั้นสูงแวะเวียนมาเกี้ยวพานางอยู่เนือง ๆ
รวมทั้งไท่จู นักประวัติศาสตร์ผู้สูงวัย
กับคุณชายไป่หวง บัณฑิตสอบตกจนได้ชื่อว่าคนไม่เอาถ่านในสายตาของผู้คนในย่านเริงรมย์นั้น

เขาเวียนมาท่องโคลงกลอนเกี้ยวพาราสีหมิงยวี้อย่างออกหน้าออกตา
จนทำให้ไท่จูขัดเคืองใจ และเรียกเขาว่าหนุ่มเสเพล
แต่หมิงยวี้ก็จับได้ว่า ขณะที่เกี้ยวพานาง ไป่หวงกลับเพ่งความสนใจไปที่เยว้อิง
สาวใช้ของนางมากกว่า ทำให้นางแสดงอาการไม่พอใจ

เยว้อิงเองก็รู้สึกได้ถึงท่าทีของคุณชายไป่ หากความที่สำเหนียก่ใจดีว่านางเป็นแค่บ่าว
นางจึงคิดเพียงว่าไป่หวงอาจจะเพียงเย้าเล่นเพื่อความบันเทิงของตัวเองเท่านั้น

ทว่า...เมื่อมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นกับนางคณิกาอีกคนแห่งหอร้อยบทเพลงที่ไป่หวงเคยพัวพันด้วย
และการสืบสวนดูเหมือนจะพุ่งเป้ามาที่เขา เพราะเขาไม่อาจอ้างสถานที่อยู่ของตัวเองได้
ว่าขณะที่เกิดเหตุนั้น เขากำลังติดพันอยู่กับเยว้อิง...

ไป่หวงถือเป็นภาระหน้าที่ในการสืบหาตัวฆาตกรที่ฆ่าคณิกาฮุยหลาน
และเขาต้องขอความช่วยเหลือจากเยว้อิง
เพราะนางเป็นสาวใช้ที่อาจจะรู้จักบรรดาลูกค้าที่ไปมาระหว่างหอทั้งสองเป็นประจำ

ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยิ่งใกล้ชิดและล้ำลึกมากขึ้น...มากขึ้น

มาร่วมลุ้นกันค่ะว่า...ท้ายที่สุดเขาทั้งคู่จะสามารถคลี่คลายคดีฆาตกรรมอันซับซ้อนนี้ได้หรือไม่
และความรักต่างฐานันดรของพวกเขาจะลงเอยเช่นไร






เมาท์มอยหลังอ่าน...
ต้องออกตัวก่อนนะคะว่าตัวเองไม่ใช่คอนิยายจีนจ๋าแต่อย่างใด แต่ก็ได้สัมผัสผ่านๆ มาบ้าง
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวกำลังภายในเสียแหละมาก
แนวดราม่าโรแมนติกปนสืบสวนแบบนี้ไม่ค่อยได้อ่านอะ

ฉะนั้น เรื่องที่จะบอกกล่าวเล่าต่อจึงจะเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวที่ได้จากการอ่านล้วน ๆ
ไม่ได้อิงข้อมูลหรือเกร็ดประวัติศาสตร์นอกเหนือจากในนิยายแต่อย่างใด

เล่มนี้ได้มาด้วยความบังเอิญ ปกสวยดึงดูดมาก ทำให้คว้ามาอ่านโดยไม่ลังเลเลย
แต่...ยอมรับเลยว่าอ่านบทแรก ๆ เกือบไม่ผ่าน
มันสะดุด ๆ ตั้งแต่สำนวนภาษาที่มีกลิ่นอายนิยายจีนน้อยมาก
แม้จะลื่นไหลดีอยู่แต่ก็เป็นแบบนิยายแปลฝรั่งมากกว่า...
บรรยากาศอันหม่น ๆ ทึม ๆ ของเรื่อง...
ไปจนถึงบุคลิกลักษณะอันคลุมเครือของคู่พระ-นาง...

เริ่มตั้งแต่นางเอก...นางเป็นอดีตนางโลมค่ะ แถมเป็นนางโลมในซ่องชั้นต่ำอีกต่างหาก
เจ้าหล่อนมีปานสีแดงบนใบหน้าซีกหนึ่ง ทำให้นางไม่อาจเทียบได้กับบรรดานางคณิกาทั้งหลาย
โดยเฉพาะหมิงยวี้ นายสาวโดยตรงของหล่อน ที่มีทักษะทั้งด้านดนตรีและการประพันธ์โคลงกลอน
ในขณะที่เยว้อิงไม่รู้จักกระทั่งตัวอักษร...

ไป่หวงหลงใหลนาง และมองว่านางแสนฉลาด แต่เรากลับเข้าไม่ถึง
สัมผัสไม่ได้ถึงความฉลาดของนาง กลับจะดูทื่อ ๆ แกมเย็นชาด้วยซ้ำ
ทำให้ความรู้สึกมันก้ำกึ่งๆ ว่าชอบหรือไม่ชอบนาง(ในฐานะนางเอก)

ส่วนพระเอกก็อึมครึมพอกัน เขาเป็นคุณชายจากตระกูลสูง แต่สอบเข้ารับราชการตกซ้ำซาก
เขาเป็นเจ้าทึ่มในสายตาใคร ๆ ไอ้เราอ่าน ๆ ไปก็คาดหวังว่าจะได้เห็นประกายที่เขาแอบงำไว้
ก็ไม่ยักกะแลเห็น แม้ตอนท้ายเขาจะสอบจนผ่าน และเป็นผู้คลายปมคดีจนลุล่วงก็เถอะ
มันก็ยังไม่ชัดเจนจนเป็นประกาย ...

กว่าจะผ่านการสอบ เขาก็ต้องอดทนเคี่ยวกรำอย่างเอาเป็นเอาตาย...
กว่าจะคลี่คลายคดีได้ก็เกือบจะสายเกินไป...
แต่เขามีข้อดีข้อหนึ่งที่เรารู้สึกชื่นชม คือเขารักนางเอกมาก
แม้จะรู้ดีว่าอดีตนางมีความเป็นมาเช่นไร เขาก็พร้อมจะปกป้องนางและทำให้นางมีความสุข

ตัวละครสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือหมิงยวี้ นางคณิกาผู้เป็นนายสาวของเยว้อิง
คนนี้มีบทบาทโดดเด่นจนกลบนางเอกแทบมิดเลย
อ่านตอนแรก ๆ จะรู้สึกเหมือนนางเป็นตัวร้ายยังไงชอบกล
ทำท่ากดขี่ กีดกันนางเอกตลอดเวลา
แต่พอมาตอนหลังบทกลับพลิกไปอีกอย่าง แต่ก็ยังไม่วายขโมยซีนนางเอกอยู่ดี...
แต่ชอบนางนะ ชอบมากกว่านางเอกอีก





นั่นคือความรู้สึกที่ได้จากการอ่านแบบฝืด ๆ ฝืน ๆ ในรอบแรก ในบทต้น ๆ
แต่หลังจากผ่านไปถึงบทหลัง ๆ ผ่านการคลี่คลายของปมบางปม
(โดยเฉพาะปมความสัมพันธ์ของเยว้อิงกับหมิงยวี้) ความรู้สึกมันเริ่มกระเตื้องขึ้นอ่ะ
มันเริ่มรู้สึกรู้สม เข้าอกเข้าใจในภาษาสัญลักษณ์บางอย่างที่ผู้เขียนใช้

ไม่ว่าจะด้วยการเปิดเรื่องด้วยฉากของเหตุการณ์แผ่นดินไหว...
ฉากการเปลี่ยนผ่านองค์ฮ่องเต้ผู้ครองบัลลังก์...
ฉากงานเทศกาลและการแข่งเรืออันคึกคัก
ฉากการเฟื่องฟูของหอคณิกาในย่านเริงรมย์...
ฯลฯ
ตลอดถึงฉากรักอันลึกล้ำ ทว่าอ่อนไหวของคู่พระ-นาง

เมื่อมาย้อนนึกในตอนหลัง (บางตอนก็ถึงกับย้อนไปอ่านซ้ำเพื่อเก็บรายละเอียดใหม่)
เราก็พบว่าผู้เขียนเขาสอดแทรกความหมายที่ซ้อนอยู่...
เป็นประหนึ่งสัญลักษณ์หรือปริศนาอะไรบางอย่าง...
แทรกแฝงอยู่แทบจะทุกฉากทุกตอนเลยทีเดียว

จากทีรู้สึกอืด ๆ เอื่อย ๆ ในตอนแรก กลับกลายเป็นว่าชอบมาก สนุกมาก
สนุกกับการตีความ สนุกกับการติดตามความเป็นไปของเรื่องราว
.........
เสียดายก็แต่...สรุปจบแบบห้วนๆ ดื้อ ๆ และง่ายไปหน่อยไหมอะ
มันรู้สึกเหมือน เฮ้ย...ทำไมง่ายนักล่ะ เงื้อง่าราคาแพงอยู่ตั้งนาน

ไม่เล่านะคะ ไว้ไปตามอ่านกันเอาเองแล้วกันค่ะ

ส่วนที่บอกว่าสะดุดเรื่องสำนวนภาษาในตอนแรก
ก็อาจจะเป็นเพราะนิยายเรื่องนี้ผู้แปลแปลจากภาษาอังกฤษ...
(แน่ล่ะ ผู้เขียนเขียนเป็นนิยายฝรั่ง)
แม้ฉากและเรื่องราวจะเป็นจีนโบราณค่อนข้างชัดเจน
แต่สำนวนบรรยายที่ใช้มันกลับไม่ให้บรรยากาศความเป็นจีนเลย

การใช้สรรพนามเรียกชื่อตัวละครมันฟังแปลก ๆ แปร่ง ๆ อย่างพระเอกชื่อไป่ หวง (ชื่อหวง แซ่ไป่)
แทนที่จะเรียกคุณชายไป่ หรือไม่ก็เรียก"ไป่หวง"เต็ม ๆ ไปเลย เขากลับเรียก"หวง" เฉย ๆ
นางเอกก็เรียกหวงอย่างนั้น หวงอย่างนี้...อืมม...มันทะแม่ง ๆ นะ

แถมการสะกดชื่อ การผันวรรณยุกต์ที่ผิดเพี้ยนเพียงเล็กน้อย
ก็สามารถทำให้ความรู้สึกขณะอ่านแตกต่างไปมากมาย
ทำให้อ่านแล้วสะดุด ๆ อย่างตัวละครหลักสองคนคือเยว้อิงกับหมิงยวี้
ตัวเองเลือกที่จะออกเสียงเป็น เยว่อิง กับ หมิงยวี่(ใช้ไม้เอกสะกด)มากกว่า
ไม่งั้นมันจะให้ความรู้สึกตงิด ๆ อยู่ตลอดเวลา

แต่...โดยรวมก็ชอบนะคะ ก็อย่างที่บอกว่าอ่านตอนแรก ๆ รู้สึกฝืน ๆ หน่อย
แต่พอผ่านจุดพลิกผันบางอย่าง...คลี่คลายบางปมแล้ว
ช่วงหลัง ๆ มันก็อ่านได้พรั่งพรู เข้าอกเข้าใจมากขึ้น...
พยายามมองข้ามสำนวนภาษาที่แปลก ๆ ไปซะ
แล้วก็พูดได้เต็มปากเต็มใจว่า...ชื่นชอบ ค่อนข้างมากทีเดียว

อ่านจบแล้วหยิบมาบอกเล่า ชวนอ่านกันค่ะ













Create Date : 25 กันยายน 2558
Last Update : 12 มีนาคม 2561 13:15:31 น. 4 comments
Counter : 1231 Pageviews.

 
ปกสวยจริงๆค่ะเล่มนี้ เห็นอยู่บนแผงโดดเด่นมาก
เล็งไว้แล้ว งานหนังสือเดือนหน้าไม่พลาดค่ะ :-)


โดย: piramon IP: 1.47.71.247 วันที่: 25 กันยายน 2558 เวลา:18:05:36 น.  

 
แปลกที่สะกดจริงๆ ด้วยเนอะ

อ่านรีวิวแล้วอยากรู้ว่าสัญลักษณ์กับปริศนาที่ว่านั่นคืออะไร


โดย: ออโอ วันที่: 25 กันยายน 2558 เวลา:18:38:34 น.  

 
อ่านมาเป็นรีวิวที่สอง ความเห็นคล้ายๆกันเลยค่ะ ขอเก็บไว้เป็นข้อมูลต่อไป


โดย: kunaom วันที่: 25 กันยายน 2558 เวลา:22:13:28 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
แม่ไก่ Book Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 26 กันยายน 2558 เวลา:2:47:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.