'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
ปี๋ใหม่เมือง...ป๋าเวณีกับวิถีแห่งธรรม



"ปี๋เก่าก็ล่วงไปแล้ว ปี๋ใหม่แก้วก็มาฮอดมาเติง..."

ในระยะนี้ เดินทางไปที่ไหนในเขตภาคเหนือ ก็จะได้ยินแต่เพลงพื้นเมืองเพลงนี้ดังกระหึ่ม...
ไม่ว่าจะเป็นตามบ้านเรือนผู้คน ชุมชน ร้านค้า หรือวัดวาอารมต่าง ๆ
ก็จะมีการตกแต่งประดับประดา "ตุง" ที่ทำจากผ้าและกระดาษ สีสันสดใสงดงาม
เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า...ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองได้เวียนมาถึงอีกขวบปีหนึ่งแล้ว...

"ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง" เป็นประเพณีที่มีคุณค่าและความหมายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชาวเหนือ
เจตนารมณ์ของป๋าเวณีก็เพื่ออนุรักษ์สามัคคีธรรม ทั้งในระดับครอบครัวและระดับชุมชน

ระดับครอบครัวก็เพื่อให้เครือญาติที่แยกครอบครัวไปจากบุพการีแล้ว ได้กลับมาพบปะกันในวัน "ดำหัว" พ่อ แม่และญาติผู้ใหญ่ วัน"ดำหัว"จึงเป็นเสมือน "วันรวมญาติ"
หรือวันคืนสู่เหย้าของพี่น้อง ญาติสนิทที่พร้อมใจกันมาแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ

ในระดับชุมชนนั้น การได้ร่วมกันประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ในระหว่างเทศกาลถือได้ว่าเป็นการส่งเสริมความสามัคคีในหมู่ชนได้เป็นอย่างดี ทั้งเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม
บรรยากาศ ชุ่มชื่นด้วยการรดน้ำซึ่งกันและกัน ผู้น้อยมีความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ให้อภัยแก่ผู้น้อย ก่อให้เกิดความร่วมมือในอันที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้กับสังคมต่อไป






ในสังคมล้านนาไทยสมัยก่อน (แม้ในสมัยนี้ ในบางพื้นที่ก็ยังคงมีการสืบทอดประเพณีและพิธีกรรมเหล่านี้อยู่)
ประเพณีสงกรานต์หรือปี๋ใหม่เมืองจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ต่อเนื่องกันถึง ๗ วัน

โดยเริ่มตั้งแต่วันแรก คือวันที่ ๑๓ เมษายน เรียกว่า "วันสังขารล่อง"
ซึ่งนับเนื่องเป็นวันสิ้นศักราชเก่า ขึ้นศักราชใหม่ ปู่สังขาร ย่าสังขาร
อันหมายถึงอายุขัยของคนเราได้"ล่อง" หรือล่วงผ่านไปอีกหนึ่งขวบปี
กิจกรรมหลักในวันนี้ก็ได้แก่การทำความสะอาดบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย
รวมถึงการชำระล้างจิตใจและร่างกายให้สดใส ผ่องแผ้ว อย่าให้มีสิ่งสกปรกใด ๆ ติดค้างอยู่
หาไม่แล้ว เมื่อปู่สังขารหรือย่าสังขาร"ล่อง"ผ่านมาพบพานความสกปรกเข้า อาจจะตำหนิติเตียนเอาได้
และหากผู้ใด หรือบ้านใดถูกตำหนิโดยปู่สังขารย่าสังขารเสียแล้ว
นั่นหมายถึงความเป็นอัปมงคลต่อชีวิตของคนผู้นั้นหรือบ้านหลังนั้นไปตลอดทั้งปีเลยทีเดียว

(ในสมัยเด็ก ๆ พวกเราจะถูกขู่ว่า จะต้องตื่นแต่เช้า และทำความสะอาดห้องหับเรือนชานหรือเนื้อตัวของเราให้ดี ถ้าปู่จั๋งขารมาพบว่าเราตื่นสายและเนื้อตัวไม่สะอาดจะถุยน้ำลายใส่ ผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะยิงปืนขึ้นฟ้าเสียงดังโป้งป้าง ๆ เป็นการ"ไล่"ปู่สังขารให้ล่องผ่านไปแต่โดยดี)





วันถัดมา วันที่ ๑๔ เรียกว่า "วันเนา"ถือเป็นวันเชื่อมต่อระหว่างวันสิ้นปี(วันสังขารล่อง) กับวัน"เถลิงศก"(วันที่ ๑๕)
ในวันนี้จะเป็นวันตระเตรียมการทำบุญใหญ่ เช่นจัดซื้ออาหารหวานคาวมาทำเพื่อจะได้นำไปถวายพระสงฆ์ที่วัดในวันที่ ๑๕
รวมทั้งนำไป "ทานขันข้าว" ให้กับผู้เฒ่าผู้แก่ ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือด้วย - -
(อาหารยอดนิยมของประเพณีนี้ก็ได้แก่ "ห่อนึ่ง"(ห่อหมก)อาจจะเป็นห่อนึ่งหมู ปลา ไก่ ได้ทั้งนั้น) ส่วนของหวานหรือขนม ส่วนใหญ่ก็จะทำขนมเทียนไส้มะพร้าว)
ตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ ของวันเนานี้ก็จะมีการ"ขนทรายเข้าวัด" เพื่อก่อเป็นเจดีย์ทรายแล้วนำ"ตุง"ไปปักในวันถัดไป

(ในวันนี้ผู้ใหญ่จะมีความเชื่อว่า วันนี้ทำบุญไม่ได้บุญและทำบาปไม่ได้บาป และที่สำคัญวันนี้ห้ามทะเลาะเบาะแว้งกัน ห้ามพูดคำหยาบไม่เช่นนั้นปากจะเน่า...เด็ก ๆ ก็พากันเชื๊อ-เชื่อ เคยพูดกันกู-มึงก็จะเปลี่ยนเป็นฉัน-เธอ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะกลัวปากเน่า...)





วันที่สามเรียกว่า"วันพญาวัน"(หัวหน้าของวัน) หรือวัน"เถลิงศก"
วันนี้ผู้คนจะต้องตื่นแต่เช้า นำอาหารหวานคาวที่เตรียมไว้เมื่อวานไปถวายพระ
หลังเสร็จพิธีที่วัดแล้วก็ตระเวนไปตามบ้านญาติผู้ใหญ่เพื่อ"ทานขันข้าว"
จากนั้นตอนสาย ๆ ก็กลับไปที่วัดอีกที เพื่อทำบุญและสรงน้ำพระ
พร้อมทั้งรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านซึ่งจะมารวมตัวกันที่วัดเพื่อให้เด็ก ๆ มารดน้ำขอพร...
พอ "เปิ้นปั๋นปอนเฮากะยกมือไหว้ เย็นอกเย็นใจ๋อายุมั่นขวัญยืน"
เป็นอันเสร็จพิธีกรรมประจำวันนี้





วันถัดมาวันที่ ๑๖ เรียกว่า "วันปากปี"
ในวันนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้ามืดอีกวันหนึ่ง เพื่อทำพิธี "ปูจาสีสาย(บูชาสายสิญจน์) หรือบูชาไฟ"
โดยทุกครอบครัวในหมู่บ้านหรือชุมชนจะไปรวมตัวกันที่วัด
และนำเอาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของสมาชิกในครอบครัวไปทำพิธี "ส่งเคราะห์"(สะเดาะเคราะห์)
ในวันนี้ตอนบ่าย ๆ ก็มีพิธีสรงน้ำพระเป็นวันที่สองด้วย

(ใน "วันปากปี" นี้ ที่ถือเป็นประเพณีอีกอย่างหนึ่งก็คือ แทบทุกบ้านจะต้องทำอาหารด้วยเมนูหลักคือ "แกงขนุน"
ด้วยเป็นความเชื่อมาแต่โบราณว่า วันปากปีเป็นวันเริ่มต้นแห่งปี การกินแกงขนุนจะช่วย"หนุน"ส่งชีวิตให้สูงขึ้นนั่นเอง)






วันที่ ๑๗ เรียกว่า"วันปากเดือน" จะมีการ "ส่งเคราะห์และสืบชะตาหมู่บ้าน"
โดยทุกครัวเรือนจะนำข้าวปลาอาหาร โดยเฉพาะผลิตผลทางการเกษตรที่ตัวเองเพาะปลูกได้
(ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวเปลือก ข้าวโพด กล้วย อ้อย งาขาว งาดำ เมล็ดถั่ว ธัญพืชต่าง ๆ )
มารวมกันไว้ในสะตวงขนาดใหญ่สี่สะตวง
และใช้ดินเหนียวปั้นรูปสัตว์ต่าง ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ปีนักษัตรที่ตัวเองเกิด (ทางเหนือจะเรียกว่า "ตั๋วเปิ้ง" หรือ "ตัวพึ่ง" เช่นตัวหนู วัว เสือ กระต่าย เป็นต้น)ใส่ลงไปด้วย
พอเสร็จพิธี ผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะนำสะตวงทั้งสี่อันนี้ไปวางทิ้งไว้ที่ชายเขตหมู่บ้านทั้งสี่ทิศ - -

ในวันนี้ก็ยังคงมีพิธีสรงน้ำพระเป็นวันที่สาม -วันสุดท้ายด้วย





วันที่ ๑๘ เรียกว่า "วันปากวัน" และวันที่ ๑๙ คือ"วันปากยาม"
เป็นการทอดระยะวันสงกรานต์หรือ "ปี๋ใหม่เมือง" ให้ยืดยาวออกไปเพื่อให้เวลากับกิจกรรม "ดำหัว"
สำหรับคนที่อาจจะอยู่ไกลออกไป เช่นอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างอำเภอที่การคมนาคมอาจจะไม่สะดวกนัก






"ปริศนาธรรมจากป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง" *

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำกันในเทศกาลสงกรานต์มักจะมีความหมายที่แฝงอยู่ในทุก ๆ กิจกรรม
ในที่นี้จะขอยกมากล่าวเพียง ๓ - ๔ อย่าง ดังนี้

"การก่อเจดีย์ทราย" หมายความว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่สั่งสมบารมี(ทราย)ไปทีละน้อย
จนกว่าจะสัมฤทธิ์ผล จนกลายเป็นเจดีย์ ซึ่งมีธง(ตุง)ปักบนยอด
เพื่อบ่งบอกถึงชัยฃนะในวาระสุดท้าย อันหมายถึงพระนิพพานหรือการสิ้นทุกข์นั่นเอง





"การปล่อยนก - ปล่อยปลา"
ปลาและนกถือเป็นสัญลักษณ์ของเดรัจฉาน หรือความโง่เง่า(อวิชชา)
ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องตั้งจิตอธิษฐาน ปล่อยออกไปจากจิตจากใจเรา
เพื่อจิตใจของเราจะได้เป็นอิสระ ปราศจากอวิชชาคือความไม่รู้
ก้าวสู่วิมุตติภูมิคือความหลุดพ้น





"การรดน้ำ-ดำหัว" คำว่า"ดำหัว" ในความหมายทั่วไปของชาวล้านนาไทยนั้นหมายถึงการ "สระผม"
แต่ในพิธีกรรม โดยเฉพาะในเทศกาลสงกรานต์ของทุก ๆ ปี หมายถึง การชำระสะสางสิ่งอันเป็นอัปมงคลในชีวิตให้วิปลาสปราศไป
ด้วยการใช้น้ำส้มป่อยเป็นเครื่องชำระ

หัวหรือศีรษะ ถือกันว่าเป็นอวัยวะส่วนที่สูงที่สุดในร่างกาย เป็นที่บรรจุแห่งก้อนสมอง
ซึ่งเป็นศูนย์รวมของระบบประสาท เช่นเดียวกับคุณธรรมที่มนุษย์ผู้เจริญแล้วต้องเทิดทูนไว้เสมอ
พิธี"ดำหัว"จึงเป็นพิธีเชิดชูคุณธรรมที่มีอยู่ในปูชนียบุคคลเช่น พ่อ แม่และญาติผู้ใหญ
หรือคนแก่คนเฒ่าที่น่าเคารพคนอื่น ๆ (เช่นครูบาอาจารย์ ผู้นำชุมชนหรือหน่วยงานต่าง ๆ )
น้ำส้มป่อยที่ใช้ดำหัวก็คือธรรมะที่ใช้ชำระความสกปรกหรืออบายธรรมทั้งหลายที่มีอยู่ในใจนั่นเอง






"ไม้ค้ำศรี-ค้ำโพธิ์" ต้นโพธิ์ (ทางเหนือเรียกว่าต้นศรี หรือเก๊าศรี) เป็นสัญลักษณ์ของการตรัสรู้ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึง "โพธิญาณ" หรือญาณหยั่งรู้ อันเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนที่จะต้องฝ่าฟันบรรลุให้ถึง
หากเมื่อบารมีแห่งเรายังมิกล้าแกร่งพอ จึงเป็นหน้าที่ที่จะต้อง "ค้ำชู" พระศาสนาให้ดำรงคงอยู่ตราบนานเท่านาน
เพื่อให้พระศาสนานั้นเป็นหลักยึดเหนี่ยวหรือหลักชัยในการดำรงชีวิตในโลกอย่างเป็นสุข ร่มเย็น









*(รวบรวมและเรียบเรียงจาก ""ภูมิปัญญาล้านนาชน" โดย มานิต สุทธจิตต์)
**ภาพดอกไม้วันสงกรานต์ได้รับฟอเวิร์ดเมล์มาเมื่อหลายปีก่อน ขอขอบคุณผู้สร้างสรรค์ค่ะ








Create Date : 13 เมษายน 2553
Last Update : 13 เมษายน 2553 12:34:56 น. 24 comments
Counter : 2093 Pageviews.

 
สวัสดีปีใหม่เมืองเจ้าปี้แม่ไก่

อ่านที่พี่แม่ไก่รวบรวมเรียบเรียงมาแล้วชอบจังเลยค่ะ
ได้ประโยชน์มากๆ (หลายเรื่องหนูไม่เคยทราบมาก่อนค่ะ)

หนูเองเคยไปร่วมบรรยากาศงานสงกรานต์ทางภาคเหนืออยู่สองครั้งค่ะ
แต่นั่นก็น้านนานมาแล้ว ตั้งแต่ยังเด็กๆอยู่เลย แต่ยังจำได้ค่ะว่าสนุกมาก
ปีนี้หนูก็อดอยู่บ้านวันสงกรานต์อีกแล้วค่ะ (อดมาหลายปีแล้ว แงๆ T.T)

สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะพี่แม่ไก่ มีความสุขมากๆค่ะ

ป.ล. ถือโอกาสนี้ขอพรปีใหม่ด้วยเลยละกันนะคะ


โดย: discipula วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:12:21:10 น.  

 
สวัสดีเจ๊าปี้แม่ไก่

ขอส่งความสุขและสวัสดีแก่พี่แม่ไก่และก็ครอบครัว
ด้วยนะค่ะ ..

วันนี้เริ่มต้นด้วยดีกับการทำความสะอาดบ้านตามประเพณี
แต่ว่าทำเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ทำมากเพราะว่า
อากาศร้อนเหลือเกินค่ะ .. แต่ก็ได้เริ่มต้นทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ
ให้บ้านสะอาด คิดเอาเองว่าคนอยู่ก็จะได้ชื่นใจเอง
นะค่ะพี่ ...

ส่วนวันนี้คงไม่ได้ออกไปไหน เพราะอากาศร้อนๆ อยู่บ้าน
ดีกว่า และดีที่สุดค่ะ ... พี่แม่ไก่ออกไปเที่ยวไหนก่อเจ๊า


โดย: JewNid วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:12:33:24 น.  

 

มะลิลอยน้ำหอมชื่นใจ
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง | ดารา | เกมส์

ดอกมะลินำไปลอยน้ำหอมชื่นใจทั้งคนให้และคนรับนะคะ


โดย: gripenator วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:12:43:26 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: TREE AND LOVE วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:13:21:15 น.  

 
สวัสดีค่ะ บทความน่าสนใจมาก
ขออนุญาตคััดลอกบทความเก็บไว้นะคะ

มีแฟนเป็นคนเหนือ ตอนนี้กำลังกวาดบ้านตึงตังๆ อยู่ชั้นบน อ่านบล๊อกเสร็จต้องไปช่วย เฮียแกแล้วค่ะ
(^..~)


โดย: T-naiG วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:15:05:32 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ




โดย: pet.sp วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:15:23:50 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับปี้แม่ไก่


ธรรมเนียมเก่าๆ
ลูกหลานคงหลงลืมไปนั๊กแล้ว
บ่าเด่วก่ฮู้ก้าว่า
สงกรานต์ก่สาดน้ำๆๆๆอย่างเดวเลยนะครับ 555







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:7:17:37 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:7:24:11 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:7:16:30 น.  

 
จริงๆ ค่ะพี่แม่ไก่ .. อากาศมันร้อนสุดๆ เยื้องย่าง
ออกจากบ้านทีกลัวจะเป็นลมแดดจริงๆ ล่ะค่ะ เพราะว่า
อากาศมันร้อนเหลือใจ .. ไม่ไหว ถ้ามันร้อนขึ้นเรื่อยๆ
แบบนี้จะทำยังไงล่ะค่ะ จำศีลในบ้าน 3 เดือนและก็ขุดดินอยู่
อาจจะได้ความเย็นมาแทนเรื่อยๆ เหมือนกันนะค่ะ ... 555+


ปีนี้ 12 เมษาออกไปดูเค้าแห่งสลุงหลวงวันเดียวค่ะ
ส่วนวันสงกรานต์ก็อยู่บ้านเพราะว่ารถเยอะและร้อนก็คง
ไม่สามารถสู้เด็กๆ เค้าได้ ก็ต้องปล่อยไปเพราะสังขารมันไม่
ค่อยสู้เท่าไหร่ .. ส่วนวันที่ 14 ก็ไม่ได้ออกไปไหน
เพราะว่าเริ่มมึนกับอากาศ และก็วันที่ 15 ก็ยังมึนอยู่
เลยกลายเป็นว่าอยู่บ้านมากกว่าปีก่อนเยอะเลยค่ะ
และก็ไม่คิดอยากออกไปไหนด้วยเพราะว่าอากาศเหลือแสนจริงๆ ค่ะพี่


โดย: JewNid วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:15:36:46 น.  

 
ขอให้ทุกวันเป็นวันดีดีของคุณนะคะ


โดย: cd2lucky วันที่: 16 เมษายน 2553 เวลา:16:45:49 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:7:05:15 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องเล่าเย็น ๆ เป็นของขวัญวันสงกรานต์ผ่านบล็อก พร้อม ๆ กับฝนพรำลงมาเหมือนฟ้าปลอบใจคนไทยที่กำลังรุ่มร้อน...
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของสงกรานต์ในมุมดี ๆ ค่ะ

และแวะมาอ่านเดินทางไกลกับไซอิ๋วด้วยค่ะ แต่งานนี้ถ้าจะเป็นการ "เดินทางไกล" จริง ๆ ก็เลยเบรคไว้ก่อนแค่ตอนคำแนะนำของคุณแม่ไก่ คำนิยมภาคร้อยแก้วและร้อยกรอง รวมถึงคำนำของผู้ประพันธ์..

อยากละเลียดอ่านงานนี้ในอีกบรรยากาศหนึ่งของอารมณ์นะคะ
เพราะรู้ว่านี่ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่บทความ และไม่ใช่ "ฟาสต์ฟู้ด" ทางวรรณกรรม...

ขณะที่เขียนอยู่นี้ แดดส่องผ่านกระจกหน้าต่างมา เงาของมุมบ้านและต้นไม้สะท้อนกันสวยงาม คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้เขียนถึงหนังสือเรื่อง "เนื่องในความงาม" ของท่านเขมานันทะด้วย
ไม่รู้ว่าอารมณ์นี้จะต่อเนื่องจนจบความงามของหนังสือหรือไม่ เอาไว้ผลออกมาแล้วจะบอกค่ะ
:)


โดย: กังสดาล IP: 125.25.86.153 วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:9:21:43 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:6:16:49 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:7:28:24 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:7:35:10 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 เมษายน 2553 เวลา:7:06:30 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:7:28:13 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:7:19:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2553 เวลา:6:56:26 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:6:55:59 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:7:18:49 น.  

 
วันก่อนก่เพิ่งคุยกับน้องคนนึงเรื่องโกหกขาวและโกหกดำครับปี้แม่ไก่

รายละเอียดก่เหมือนตี้ปี้แม่ไก่อธิบายไว้ในเม้นท์เลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:13:42:23 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แม่ไก่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 เมษายน 2553 เวลา:7:28:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.