...คิดว่ายังมีความหวัง ตราบที่ยังมีลมหายใจ...
Group Blog
 
All blogs
 
ทุ่งหลวง



ทุ่งหลวง วันที่ดอกดวงหัวใจบาน

ทุ่งหลวงช่วงต่อมอเตอร์เวย์ ทุ่งกว้างดังทะเล
ในบึงทั่วมีบัวบาน

แดงขาวพราวพรั่งทั้งธาร ปลุกฟื้นวิญญาณ
เกิดก่อต่อชีพชนม์ยืน

เช้าสายเที่ยงบ่าย-คืน ปลุกอดีตขีดฟื้น
แต่ครั้งยังอุดม

ปู่ย่าตาทวดนิยม เก็บดอกบัวชม
ประดับตั้งแจกันพาน

บัวขาวบัวแดงบันดาล ประดับเรือนชาน
สร้างสวรรค์วิมานบนดิน

บัวหลวงดั่งดวงชีวิน จ่อจิตคิดจินต์
ก่อเกิดศิลป์ ณ บัดดล

บัวสล้างล้างกมล พิษร้ายในตน
จิตสว่างอยากสร้างบุญ

ด้วยความดีมีทุน ไปวัดทำบุญ
เก็บดอกบัวบูชา

ถวายองค์พระปฏิมา แต่ครั้งปู่ตา
ยายย่าสืบทอดประเพณี

บัวหลวงแทนใจนัยมี สืบต่อก่อศรี
พุทธศาสน์สืบชาติไทย

ฉันรักดอกบัวหัวใจ บัวตูมตั้งไสว
หทัยชื่นยามยืนมอง

วันหนึ่งฉันจึงไปจอง ชวนเพื่อนพวกพ้อง
ไปริมหนองนั่งดูบัว

“ทุ่งหลวง”อาหารร้านครัว ลมทุ่งพัดรัว
บัวตูมบัวบานตระการตา

เลือกโต๊ะตั้งฝั่งธารา ก่อนหยิบเมนูมา
สั่งปลาข้าวสุกรับประทาน

ยามดื่มยามกลืนชื่นบาน หนองบัวตระการ
บรรเทาทุกข์สุขนักหนา

กระท่อมไม้ไผ่ริมนา เพื่อนมิตรศิษย์หา
หนีตึกใหญ่มาไกลเมือง

อาหารไทยไม่เปลือง แถมจิตประเทือง
เหมือนคืนถิ่นแผ่นดินเดิม
00000





Create Date : 19 มิถุนายน 2550
Last Update : 19 มิถุนายน 2550 0:56:18 น. 12 comments
Counter : 1304 Pageviews.

 
ร้านอาหารที่ว่านี้แหละที่หนอนเมืองกรุงพูดถึง แต่เสียดายที่พอไปทีหลังเขาถมบึงหนองบัวหมด ร้านอาหารไม่ได้เป็นผู้ถม แต่เจ้าที่ขายที่ให้นายทุนสร้างตึก

น่าเศร้าจริง ๆ

ผมเคยขับรถไปศรีสะเกษ เห็นเขาใช้ยาฆ่าหญ้าฆ่าบัวในทุ่งนา ใจเจ็บทันที ทำไมเราไม่มีที่ ๆ สามารถปลูกบัวให้เต็มหนองอย่างนั้นได้บ้าง นี่อะไรได้ต้องมาทำอ่างคอนกรีตขึ้นเอง บางกอก็ใช้กระถางเคลือบปลูก

ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ดูแล้วรึกสึกเย็น แต่ดอกกุหลาบกลับรู้สึกอีกแบบ โดยเฉพาะกุหลาบแดง...


โดย: pantamuang วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:1:04:11 น.  

 
มาอ่านบทกวี และชมบัวค่ะ


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:8:01:20 น.  

 
สวัสดีรคับ

มาเจอบทกวี มลังเมลืองอย่างนี้
นักเขียนผู้ต่ำต้อยก็พูดไม่ออกสิครับ
เสียดาย ที่พ่อผมตายไปแล้ว..นะ


ขอตัวไปทำงานก่อนครับ
เดี๋ยวเพลิดเพลินแวะบ้านโน้นบ้านนี้ กว่าจะเที่ยงบ่ายยังไม่ได้ลงมือ


โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.19.147 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:8:31:42 น.  

 
ตามไม่ทันจริ๊ง...วัยสะรุ่นไฟแรงขนาดนี้
สงกะสัยจะขี้เกียจเกินไปแล้วเรา...ดูเอาเถอะนี่แทบจะอัพบล๊อควันละสามเวลา...เฮ้อ
วันนี้เปลี่ยนรูปหล่อขึ้นนะ...มีคนบ่นว่ารูปเมื่อวานตัวเท่ามดล่ะสิ
เรามานินทาป๊ะป๋ากันต่อนะ....เงี่ยหูมาหน่อยลุงบูลย์เดี๋ยวแกได้ยิน ต้องค่อยๆกระซิบ
เมื่อวานเขาตั้งไปเป็นกรรมการคัดสรรซี 8 ของเขตนี้น่ะ หอบเอกสารมาสิบกว่าลังกระมัง....ได้ออกนอกบ้านกะเขาแล้วล่ะ คงชื่นขึ้นมานิดหนึ่งแล้วล่ะว่าไม่ไร้เกียรติกะเขาแล้วเนอะ....ก็แอบซุบซิบกันอย่างนี้แหละ เรื่องที่แกโกรธลุงบูลย์ก็พอรู้บ้าง แม่เล่าให้ฟังเองแหละ ยังว่าเลยคนอะไรสิบปี ยี่สิบปี เรื่องผ่านไปแล้วยังเอามาบ่นมาว่า...เราไม่สนอยู่แล้วววววว....
แม่ที่อยู่พะเยาแกเกษียณยังอยู่ป.1เหมือน 40 ปีที่แล้ว เงินเดือนแกก็ไปค้ำผอออแล้วแกไม่เอา แกบอกรบกะเด็กสบายใจกว่า...ทุกวันนี้แกก็ได้พึ่งไอ้ตัวที่โดนไม้เรียวหนักที่สุดนั่นแหละ อยากเอาอะไรวิ่งตะลอนหามาให้...เป็นตั้งกะครู แม่ครู ตอนนี้เป็นย่าครู มีแววว่าจะเป็นทวดครูเร็วๆนี้ แกเป็นผู้มีอิทธิพลในชุมชนนะ..อย่าไปแตะต้องแกเชียว
ทุกวันนี้แกก็มีความสุขดีกะการเล่นปริศนาอักษรไขว้ ออกใหม่กี่เล่มแกกว้านซื้อหมด....อย่าไปเขียนภาษาไทยผิดนะแกบ่นอยู่นั่นแหละ
เคยคิดอยากให้ป๋าแกมีความสุขกะสิ่งรอบตัวแบบนั้น แต่คงไม่ใช่อย่างนั้น...ก็..ลุงบูลย์ก็รู้จักแกดีกว่าอีก ก็เลยเลิกความตั้งใจ อย่างที่พี่โดมว่านะไฟมันต้องออกมาจากในตน...เราเอาเตาไปย่างให้ก็คงไม่ลุกหรอก...เฮ้อ...อีกที
สงสัยต้องหาคีย์บอร์ดใหม่เสียแล้ว เด็กมานั่งเล่นเกมส์ในเครืองเคาะกันเสียจนตัว ไม้เอก ไม้โทกดแล้วไม่ลง ต้องมาคอยไล่อ่านเพิ่มลงไปใหม่...
วันนี้มานั่งบ่นกับลุงบูลย์เป็นคนแก่เลย ฝนมันตกมาสามวัน สามคืนแล้วน่ะ อากาศมันเย็นจนขี้เกียจ แล้วก็ฟุ้งซ่านกระมัง...ยังไม่ได้ตกแต่งหน้าตาบล๊อคให้ทันวัยรุ่น เปิดมาอีกที อ้าว...เป็นสีเทาไปแล้ว อย่ามาเลียนแบบกันนะ
พักผ่อน กินผลไม้ให้มากๆนะคะอย่านอนดึก นอนสักตีสี่ ตีห้าไปเลย จะได้ไม่มีใครว่าได้....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:10:29:58 น.  

 
อ้อ...จะไปเขียนกะเขามั่งล่ะนั่งเข็นลากไปลากมาอยู่รอบบ้านเป็นอาทิตย์แล้ว วิ ญญาณไม่รู้ไปเข้าสิงใครที่ไหน...ต้องจุดธูปตามหาเสียหน่อยแล้ว
ท่าจะต้องเลิกเข้าบล๊อคสักสองสามวันแล้ว...ไม่ถึงไหนเลย มัวแต่กังวลว่าลุงบูลย์จะค่อนแคะ แกะเกาอะไรให้ตามไปแก้ความอีก....


โดย: ปลายแปรง วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:10:34:18 น.  

 
สวัสดีวันใหม่ค่ะลุง

วันหนึ่งอารมณ์ของเราก็เปลี่ยนไปเรื่องหนึ่ง.. เมื่อวานแจมก็เฝ้าร้าน แล้วก็นั่งทำงานหน้าจอคอมพ์ไปเรื่องเจื้อย จนเกือบตีห้า
(ลูบแขน... เหมือนถูกปลายแปรงสะกิดแน่ะ ...)

พูดถึงบัว.. วันก่อนไปทำงานแถว อบต.ห้วยยูง น้านพ(หุ้นส่วนค่ะ) เขาก็แวะบึงบัวที่ขุดใหม่ โดย รพช. (เร่งรัดพัฒนาชนบท) มีภาพมาเหมือนกัน แต่เจอเรื่องซะก่อนเลยยังอัพบล็อกไม่เสร็จเลย เดี๋ยวยังไง..ค่อยเอาลิ้งค์มาฝากให้ลุงไปทัวร์กระบี่ผ่านเน็ต

^^ เห็นลุงสนุกกับการใช้บล็อก.. แวะไปบล็อกป้ามดบ้างหรือยังคะ คำแนะนำเพียบ มีแบ่งเป็นหัวข้อ ๆ แยกหมวดหมู่ชัดเจนค่ะ

แจมเองก็ได้ความรู้มาจากที่นั่นมหาศาลเลยค่ะ ลุงคลิกที่โลโก้นี้เข้าไปดูได้เลยค่ะ





โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:11:26:24 น.  

 
อ้าว..ลืม น้านพฝากถามค่ะ (ฝากแซวล่ะสิ) .. เพื่อนลุงบูลย์ชื่อ คุณลุงนิ่ม นาทรายหรือเปล่า

(น้านพเป็นลูกศิษย์ เพื่อนคุณลุงค่ะ แต่ว่า..ก็ไม่ได้พบกันนานเหมือนกันแล้วนะคะ น้านพไปอยู่เกาะพีพี เพิ่งได้กลับมาทำงานบนฝั่งหลังสึนามินี่เอง ไว้วันไหนมีโอกาสจะเข้าไปเยี่ยมท่าน แล้วส่งภาพมาให้ลุงบูลย์ค่ะ)


โดย: สีน้ำฟ้า วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:11:30:28 น.  

 
ปลายแปรง

คอยสังเกตทีท่าพ่อแฟนเธอไว้ด้วย ถ้าเห็นเค้าไม่เข้าท่ารีบลบทิ้งซะในเวบของเธอ ๆ ลบได้ ส่วนของลุงอะไรไม่เข้าท่าลุงก็ลบ อย่างเมื่อวานมีรุ่นน้องที่ใกล้ชิดกัน(นักเขียนสุราษฎร์)มาโพสต์ชี้แนะความไม่เหมาะสมบางประการ คือ เรื่องครูที่มาว่าจ้างลุงทำงาน

อันที่จริงเรื่องเขาเขียน แต่เราวาดรูปประกอบให้นี่ มันไม่เป็นอะไรหรอก พวก ป.โท อาจารย์ ม.อนุญาต พวก อ.๓ (ผู้เชี่ยวชาญ) กรรมการก็อนุญาต แต่ลุงลบเลยหมดเรื่อง พร้อมกันก็อธิบายไว้แล้วว่ารายนั้นไม่ใช่ แต่ที่ใช่นั้นใครจะกล้าเอามาโพสต์ล่ะ

เฮ้อ แต่ก็อดนินทาเพื่อนไม่ได้วะ คงสุขใจขึ้นมาละซีกะการได้ไปทำงานเก่า ๆ(แม้จะไม่ได้เงินเดือน แถมเปลืองน้ำมันรถอีกครั้ง) ปลายแปรงเคยอ่านอนุสรณ์ที่แกทำตอนเกษียณมั้ย แกแจกมาให้ลุงวันที่ลุงไปเยี่ยมครั้งแรก

แกเขียนความรู้สึกในการมุ่งมั่นทำงานไว้ในนั้น ตั้งแต่ที่ว่าโรงเรียนอนุบาลอาคารเก่าโทรม สถานที่แคบพอแกเข้าไปแกทำงานแบบลืมตาย จนมีอาคารใหญ่โต โก้หรูอย่างปัจจุบัน นั่นแหละที่ลุงใช้คำว่า จากครูน้อยธรรมดา ๆ ไม่เอา แกไปสมัครสอบเป็นครูใหญ่ จารย์ใหญ่ และสุดท้ายเป็น ผอ.

แน่นอนตอนแกอยู่มีชื่อเสียงมากมาย ใคร ๆ นบหน้า ผู้ว่ายังยำเกรง ลุงเองก็เคยหลงมาแล้ว ตอนที่เขาพาลุงไปนั่งฝ่ายวิชาการในตัวจังหวัดพังงา ตอนไปนั่งในตำแหน่ง หน.บก.วารสารพังงา โฮ้เกียรติหรูหรามาก ผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด หน.ส่วนราชการทุกส่วน ยำเกรงลุงมากกว่า ผอ.อีก แต่พอลุงย้ายมาชุมพร มาเป็นครูธรรมดา ขอโทษอย่าไว้ใช้คำหยาบ ลุงถูกกด ถูกข่ม ถูกเขก เหมือนDOG ตัวหนึ่ง ลุงจึงซึ้งซาบในถนนราชการดี พอลุงได้ซี ๘ มั่งหลังจากเขากดเราไม่ลง ลุงก็ลาออกมาให้ดู

กรณีของพ่อภานุ พอแกออกมาคนอื่นเข้าไปสวมแทน ก็โดนคนใหม่นินทาดูถูกแก เจอหน้าทำเมินเหมือนกับว่า "หมดยุคของนายแล้ว ไปนอนซะ ตอนนี้เป็นยุคของฉันแล้ว" แบบนี้มันน่าช้ำไหม แต่พวกข้าราชการที่เคยใหญ่พอเกษียณออกมาเห็นช้ำทุกคน บางคน เช่น ผช.ผอ.ของลุง ตอนยังมีอำนาจ ฟันดะ ลูกน้องสาว ๆ สวย ๆ มีทางได้ฟันหมด(คงเข้าใจความหมาย ฟัน) ตอนหลังเกษียณ ๒ ปี เป็นอำพฤกษ์ นอนรอตายโดยไม่มีลูกน้องเก่าเคยโผล่ไปเยี่ยมเลย ลุงเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้แกตายหรือยัง

เอาละเราพูดเรื่องอื่นกันดีกว่า
ลุงจำเป็นต้องเปลี่ยนสีบล็อกทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบเพราะว่า สีชมพูมันอ่านข้อความยาก ก็เลยมาทดลองสีนี้ ลุงไม่ได้ขยันอะไรมากหรอก แค่เอากลอนที่เขียนไว้นานแล้วมาโพสต์ แต่ถ้าจะขยันก็คือการมาตอบทุกตนนี่แหละ ตอบยาวด้วย
ไปก่อนนะ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.104 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:13:19:41 น.  

 
ขอบคุณคุณสีน้ำฟ้า เข้าไปในเวบป้ามดแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมือทดลองทำ เอาไว้ว่าง ๆจะทำครับ แต่ขั้นแรกนี่ก็คือว่าชอบบสีชมพู แต่พอเพื่อนมาโพสต์ตัวอักษรมันกลืนไปหมดก็เลยอยากเปลี่ยน แต่พอเปลี่ยนมาเป็นสีนี้แล้วก็เหงาอีก เห็นทีจะต้องไปหาใหม่ ต้องเอาโทนส้ม ๆ หรือชมพูนั่นแหละ

เอ้อ จารย์พยอมแกใช้นามปากกา นิ่ม นาทราย หรือ อันนี้ลุงไม่รู้ เพราะหลังจากที่เราต่างจบ ม.๖ ปีสุดท้าย(ก่อนจะเป็น ม.ศ.๓) เมื่อปี ๒๕๐๕ แล้วเราก็ไม่เคยพบกันอีกเลย แต่พยอมเขาขับรถไปหาลุงที่ปะทิวตอนที่ลุงกำลังจะเออร์ลี่ เขาพาลูกและภรรยาไปด้วย

จากนั้นก็แค่โทร.คุยกันบ้างนิดหน่อย ตอนนี้ลุงขี้เกียจโทร. เพราะเคยส่งหนังสือเรื่องสั้นให้ไป ๒-๓ เล่ม ไม่เห็นเขาตอบอะไรมาเลย

ขอขอบคุณคุณสีน้ำฟ้าอีกครั้งครับ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 125.27.233.104 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:13:39:48 น.  

 
เห็นชอบ Cursor ที่เป็นดาวคอยไล่ตาม แล้วบอกว่าเก่ง เลยรีบมาแก้ข่าวค่ะ ไม่ได้เก่งอะไรเลย มือใหม่หัดแต่ง blog เหมือนกันนะคะ นกเองก็ไป Copy มาจาก blog ป้ามดนะคะ ลองเข้าไปดูแล้วลองทำตามก็ได้ค่ะ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=auntymod&group=15&month=06-2006&date=08


โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:20:34:08 น.  

 
เรื่องมันยาวจริงๆนะคะลุงบูลย์ ทั้งๆที่ก็เป็นเรืองพ้นตัวลุงบูลย์ไปแล้ว ไม่น่าเอาเรืองมารบกวนใจลุงเลย...ไม่สบายใจเลย เข้าใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เราเด็กไง...การจะรู้อะไรมากกว่าผอออซี 8 มันก็ไม่ใช่เรื่อง
แต่ไม่ต้องลบอะไรหรอกค่ะ...เพราะแกแอนตี้อินเตอร์เนต เพราะแกว่าติดตั้งให้แล้วไม่รู้จะได้อะไรกลับมา ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เลยไม่อธิบาย...ก็เลยพูดดังๆให้ได้ยินว่าบางครั้งเราอยากทำอะไรแต่ยังไม่สามารถทำได้อย่างที่เราต้องการ แล้วจะคาดหวังว่าจะให้คนอื่นทำอะไรให้ได้ดั่งใจเราล่ะ...นิ้วห้านิ้วยังไม่เท่ากันเลย
รู้สึกเหมือนรบกวนลุงบูลย์จังเลยกับปัญหาโลกแตกแบบนี้
เดี๋ยวจะไปนอนบ้านลุงบูลย์จริงๆนะ...พอคุยเรื่องพ่อรู้สึกเหมือนเราต้องมีอะไรต้องคุยกันให้จบด้วยแหละ...เพราะมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอยู่แล้วค่ะที่เราต้องมาเจอแก
อย่าปฏิเสธ...ลุงไปเจอใครในโลกภายนอกมากมายลุงยังต้องกลับมาหาเพื่อนคนนี้อยู่เลย..
เดี๋ยวจะรู้มากไปกระมัง....แต่รู้สึกว่า ลุงบูลย์เองก็ยังมีเรื่องที่พูดไม่จบกับพ่อ อยากพูด แต่พูดไม่ได้ และไม่รู้จะพูดทำไม ติ๋มเองก็ไม่เข้าใจว่าต้องรู้ทำไม แต่เหมือนต้องมาจัดการปมปัญหาบางอย่าง...อย่างน้อยก็ปมในใจตัวเอง...แค่เส้นใยบางใสอีกหนึ่งเส้นที่ไม่เคยรับรู้ว่ามันมี...เป็นกรรมของเราที่ต้องพานพบ...การพบใครสักคนเพราะเรามีกรรมคาบเกี่ยวกัน
แต่ที่แน่ๆ..ติ๋มพบกับลุงบูลย์เป็นกรรมดีที่เราเคยสร้างร่วมกัน..อยู่แล้ววววววววววว
ไม่เสียดายเวลาเลยค่ะที่วันนั้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ไม่ก้าวเข้าไปสู่เวลาของการเป็นใครสักคนที่อาจจะเป็นนักเขียนโด่งดัง (แฮ่..น่าจะ)
ไม่เสียดายที่หันหลังจากมันไป...เพราะหากมีวันนั้นติ๋มคงกลายเป็นใครสักคนที่มีหน้ากาก มีหัวโขนสวมใส่ว่าข้าเป็นใคร..ดีใจที่กลับมารู้จักลุงในวันนี้ วันที่ติ๋มไม่มีอะไรเลย..ไม่มีหน้ากาก..ไม่มีหมวก มีแต่ติ๋มคนที่ไม่มีอะไรเลย....
ชีวิตเป็นเรื่องเหนื่อยหนักจริงๆค่ะ....โลกนี้ช่างวุ่นวายจริงหนอ อยากบวชค่ะ...แต่พอเป็นผู้หญิงบวชเป็นชีก็ไม่เอาหรอก บวชอยู่กับบ้านอยู่กับฆราวาส...
ธรรมะคือธรรมชาติ ใช้ชีวิตเป็นธรรมชาติ..ก็อยู่อย่างธรรม รู้..เห็น..เป็น...ดับ..
สักวันจะไปจริงๆ..เดียวได้ค่าเรืองสักเรืองจะจ้างตานุขับรถไปส่งค่ะ


โดย: ติ๋ม IP: 203.113.17.148 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:23:10:35 น.  

 

โหใจเย็น ๆ ติ๋ม นี่ไป ๆ มา ดูเหมือนลุงจะไปสะกิดถูกปมอะไรที่ติ๋มรู้อยู่ก่อน แต่ลุงไม่รู้นะซี ฟังดูน่ากลัวมากนะแบบนี้ นี่ถ้าแกโกรธขึ้นมาละก้อจะร้ายกว่าเมื่อก่อน สิบเท่าเชียวนะ

ลุงพอจะรู้ธรรมชาติของคนอยู่

อันว่าคนเรานั้นถ้าไม่มีธรรมะกล่อมเกลาให้รู้จักตัวเองไว้ตลอดเวลา เช่นว่า เมื่อหนุ่ม ๆ เคยมีทิฐิ ๒๐ รู้ตัว ๘๐ แบบนี้อยู่ได้ แต่พอแก่เข้าหน่อย คิดว่าตนเก่งตนรู้ทุกอย่างแล้ว ทิฐิจะขึ้นมาเป็นรู้ตัว ๕๐ และทิฐิ ๕๐

แบบนี้คนข้าง ๆ เริ่มจะเดือดร้อน เพราะไม่รู้ว่าวันนี้ข้างไหนจะขึ้น

แล้วถ้าแก่ตัวมากขึ้นทิฐิถูกยั่วด้วยอำนาจที่มอมเมา ก็จะขึ้นมาเป็นรู้ตัว ๒๐ แต่ทิฐิ ๘๐ แบบนี้พังทลาย ใครอย่าได้ไปคิดต่อรองใด ๆ

โห... ต้องทำใจปิดปาก ปืฃิดคำกันแล้วละติ๋ม ไม่งั้นภูเขาไฟอาจจะระเบิด แม้แต่ลุงก็ไม่กล้าเข้าใกล้นะ

ลุงเองลุงเตรียมตัวมานานว่าถ้าแก่ตัวลงจะทำอย่างไร วิธีแก้คือพยายามปล่อยวางหมด และพยายามดึงสติ ดึงความรู้ตัวขึ้นมาไว้ที่ ๘๐ และให้มีทิฐิบ้างแค่ ๒๐ พอ

เช่นที่ลุงพูดว่า ข้าจะเขียนแบบนี้แหละ ใครจะทำไม จริง ๆ ยอมรับว่าที่เขาเขียนกันนะมันดี มันถูก แต่ลุงอยากดูละครน้ำเน่า อยากอ่านแบบการ์ตูนนี่มันเบาสมองดี

เรื่องมันก็น่าจะไม่มีเหตุร้ายอะไรถ้าเราจะไม่พากันใช้ทิฐิของแต่ละคนมาจับแล้วก็เถียงเอาชนะกัน จบ.


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 20 มิถุนายน 2550 เวลา:0:24:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pantamuang
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




ไม่อยู่อย่างอยาก แต่ยังอยากจะอยู่
อยู่อย่างไม่ลำบาก เวลาที่เหลือน้อยรีบสอยรีบคว้า
ก่อนจะหมดเวลาให้สอย

ดวงดาวบนฟ้าก็สอยได้ ถ้ารู้จักต่อด้ามฝันให้ยาวพอ

ฝันถึงไหนก็ได้ มีสิทธิ์ฝัน แต่จะเป็นจริงหรือไม่ช่างฝัน
เพราะสิ่งที่ฝันคือนวนิยาย..

ชีวิตก็คือนวนิยายเรื่องหนึ่ง ที่เราเป็นผู้เขียนและกำกับ.

เริ่ม 9 กันยายน 2550

Friends' blogs
[Add pantamuang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.