Group Blog
 
All Blogs
 
ผมนี่แหละ…มืออาชีพ…ตัวจริง “ขายตัว…….ครั้งที่สอง”

วันรุ่งขึ้น ลุงใส่สูทตัวงาม เดินทางไปพบคุณสุเมธารัตน์ ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าที่ยิบอินซอย ซึ่งตอนนี้ลาออกไปอยู่ที่แบงค์ชาติ ที่ร้านเบเกอรี่แห่งซึ่งขายอาหารเวียดนามด้วย อยู่บนถนนสีลม ใกล้ๆ กับบริษัท ซัมมิท อินดัสเตรียล จำกัด


ในที่นั้น ลุงได้พบกับคุณวิชิต อมรวิรัตนสกุล (เดี๋ยวนี้ เปลี่ยนเป็น…..ญาณอมร) ซึ่งลุงได้เลยยินชื่อเขามานานแล้ว เพราะเป็นลูกศิษย์มือหนึ่งของดร.นิยม อยู่ที่ NSO เก่า แล้วลาออกมาทำงานที่ซัมมิท อินดัสเตรียล ซึ่ง ดร.นิยมเคย Recommend ให้ทางยิบอินซอยรับไว้ แต่ทางยิบอินซอยยังไม่ทันพิจารณา เขาก็ลาออกเสียก่อน


อีกท่านหนึ่ง เป็นผู้หญิง ท่าทางคล่องแคล่ว ยิ้มแย้มแจ่มใส เห็นปั๊บเดียวก็รู้ว่าเป็น “คนทำงาน” แบบถึงไหนถึงกันคนหนึ่ง เธอ คือ “คุณนงลักษณ์ หวังศิริรุ่งเรื่อง”


เราได้คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่เป็นเวลานาน ลุงจึงได้ความรู้ว่า บริษัท ซัมมิท อินดัสเตรียล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ที่ ซี. เจ. ฮวง ถือหุ้นใหญ่อยู่ ในอดีตได้เคยใช้ IBM มาเพื่อคำนวณประมาณการกลั่นน้ำมันมาก่อน แต่พอ Univac เข้ามาหาตลาดที่เมืองไทย ก็ไป Approach ให้ ซี. เจ. ฮวง หันมาใช้ Univac แทน IBM เพราะเป็นเครื่องที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทางด้านการคำนวณมากกว่า

หลังจากที่ ซี.เจ. ฮวง ตัดสินใจเปลี่ยนจาก IBM มาเป็น Univac แล้ว นิสัยของพ่อค้า ก็เลยเจรจาต่อรองขอเป็นเอเย่นต์ เพื่อจัดจำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์ของ Univac แต่ผู้เดียวในเมืองไทย เพื่อจะได้ซื้อของที่นำมาใช้เองในราคาพิเศษ และถือโอกาส จำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยที่มีแนวโน้มทางด้านการตลาดว่าดีขึ้นเรื่อยๆ เสียเลย


ในขณะนั้น ในเมืองไทย มีผู้แทนจำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์อยู่ไม่กี่ราย ส่วนใหญ่จะเป็น “ผู้แทนจำหน่าย หรือ Distributor” หรือผู้ที่ซื้อขาดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จำหน่ายมามาจากเมืองนอกหรือ จากบริษัทผู้ผลิต แล้วก็เอามาให้เช่า หรือขาย ให้แก่ลูกค้าในเมืองไทย โดยการลงทุนเองทั้งหมด ดังนั้น ผู้แทนจำหน่ายแต่ละราย จะต้องเป็นผู้ที่มีเงินทุนสูง มีสายป่านยาว กล้าลงทุน กล้าจ้างบุคลากรที่มีราคาแพง และมีคุณภาพด้วยกันทั้งนั้น


การซื้อขาย การเช่าคอมพิวเตอร์ของหน่วยราชการและเอกชนก็ยังอยู่ในวงจำกัด คงจะไม่เกิน 50 รายในเมืองไทย ประชาชนยังไม่มีใครรู้จักคอมพิวเตอร์กันสักเท่าไหร่ เพราะเป็นสินค้าเฉพาะกิจ คนที่ไม่จำเป็น เขาไม่ลงทุนซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้เล่นที่บ้านกันหรอก เพราะเป็นชนิด “เมนเฟรม” ทั้งสิ้น ราคาก็ 10 –20 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงนับ ร้อยๆ ล้านบาท


ดังนั้น ในวันนั้น เราก็แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และคุยกันเรื่องการจำหน่ายระบบคอมพิวเตอร์ทั่วไป ลุงนั้น ตั้งใจที่จะไปคุยเพื่อจะได้ทราบข่าวเพื่อนร่วมอาชีพอีกรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์ด้วยกัน ส่วนคุณนงลักษณ์กับคุณวิชิตนั้น เขารู้จักลุงเป็นอย่างดี เพราะตอนที่ลุงขายให้ธนาคารกสิกรไทย ได้ หนังสือพิมพ์ก็ข่าวกันครึกโครม และสมัยที่ยิบอินซอย แถลงข่าวเปิดตัว ระบบ “เบอร์โร่ส์” ใหม่ๆ ลุงก็เป็นที่หอมหวลในฐานะที่เป็นมือใหม่ในวงการยิ่งนัก

จนกระทั่ง คุณนงลักษณ์เป็นผู้เอ่ยขึ้นมาว่า………………..


“คุณอมรคะ…..ที่เรียนเชิญคุณอมรมาคุยในวันนี้ เพราะบริษัท ซัมมิท คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ซัมมิท ได้แยกตัวออกมาตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่อง Univac โดยตรง และในปัจจุบัน บริษัทซึ่งมีคุณกำธร ทองอุไร เป็นกรรมการผู้จัดการอยู่ ก็ได้ลาออก…..บริษัทจึงได้ลงโฆษณารับ GM คนใหม่………………………………..”


คุณนงลักษณ์ หยุดถอนหายใจนิดหนึ่งแล้วพูดต่อว่า


“เราทราบว่าคุณอมร มีความสามารถที่จะเป็น GM ของเราได้ และตั้งแต่ลงโฆษณาไปก็ไม่มีใครมาสมัครเลย คุณอมรจะสนใจไหมคะ……ถ้าบริษัทจะเรียนเชิญคุณอมรให้มาเป็น GM ของบริษัท….”


………………………………………………………………


ในวินาทีนั้น มันทำให้ลุงนึกถึงวันแรกที่เข้าไปสมัครงานที่บริษัท ยิบอินซอย หลังจากที่จบจากโรงเรียนพณิชยการพระนครใหม่ๆ ในปี 2507

“เฮียครับ……..ผมมาสมัครงานครับ”

“สมัครตำแหน่งอะไรวะ….” เฮียตัวอ้วนๆ เงยหน้าขึ้นถาม

“ตำแหน่งพนักงานงานขายครับ…..” ลุงตอบ

“มีประสบการณ์มาบ้างหรือเปล่า”

“มีครับ……ผมเคยฝึกขายดินสอ ไม้บรรทัด ยางลบ ที่
สหกรณ์โรงเรียนครับ….” ลุงตอบไปอย่างนั้นเอง เพราะถ้าบอกว่า ไม่มีประสบการณ์ ใครเขาจะให้งานทำ

“ฮะ…ฮะ…..” เฮียหัวเราะ….

“ประสบการณ์แค่นี้เองละหรือ….”

“เอ็งรู้หรือเปล่าว่า…ที่นี่ขายอะไร”……เฮียถาม

“ไม่ทราบครับ….”

“ที่นี่เราขายอุปกรณ์สำนักงานที่ทันสมัยที่สุด รู้จักไหม
“เครื่องบวกเลข” นะ…..ราคาเครื่องละ 6,000.- บาทเชียวนะ
คนไม่มีประสบการณ์ขายไม่ได้หรอก…..ไป…กลับไปหาประสบการณ์ ไปขายดินสอ ปากกา ยางลบสักสองสามปี
แล้วค่อยมาสมัครใหม่……ไปได้แล้ว”


……………………………………………………………..


นั้นคือเมื่อปี 2507 ที่ลุงพยายามหาทาง “ขายตัวเอง” ให้เฮียแกตกลงรับลุงเข้าทำงานจนได้



และได้ต่อสู้ เผชิญทุกข์ ผจญสุข ต่อสู้ อยู่ใน “ยิบอินซอย” ตั้งแต่เป็นพนักงานขายฝึกหัด เลื่อนขึ้นมาเป็นพนักงานขาย โดนลูกค้าโกง จนหมดกำลังใจทำงาน เกือบหนีไปเป็นชาวเรือตังเกที่อำเภอกันตัง จนกระทั่งบริษัทฯให้โอกาสอีกครั้ง ตามจับลูกค้าจอมโกงมาเข้าคุกจนไถ่ตัวจากการใช้หนี้ให้บริษัทจนได้


จนเติบโตภายใต้การอุปถัมภ์ค้ำชูของบริษัท ยินยินซอย จนขึ้นมาขายเครื่องจักรลงบัญชี ได้คอมมิชชั่นเดือนละ 3 –4 หมื่นบาท จนบริษัทเอาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาจำหน่ายแบบ “ดำดิน” หรือไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนกว่าเราจะได้ออเดอร์แล้ว นั่นแหละจึงประกาศตัวเป็นผู้แทนจำหน่ายที่แท้จริง


จากนักขายธรรมดา ก็ได้มารั้งตำแหน่งผู้จัดการแผนก “เบอร์โร่ส์” และได้เลื่อนเป็น “รองกรรมการผู้จัดการ” บริษัท ศูนย์คอมพิวเตอร์ประเทศไทย จำกัด…….จากเงินเดือนที่เริ่มต้นเพียง 650.- บาทจนเป็นหลายหมื่นบาทในเวลานี้ และบัดนี้ ใช้เวลาเป็นเวลาถึง 14 ปีเต็ม

…….ถ้าหาก “เราจะขายตัวอีกครั้ง เป็นครั้งที่สอง….หลังจากที่มีประสบการณ์ 14 ปี….ในตำแหน่ง GM …..อยากรู้นักว่า จะได้เงินเดือนสักกี่บาท”


……………………………………………………………..


จนเสียงคุณสุเมธารัตน์ก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบว่า

“ว่าไง…คุณอมร ที่คุณนงลักษณ์เขาพูด น่าสนใจไหม”

จึงปลุกให้ลุงตื่นขึ้นจากภวังค์ และความคิดที่หวลกลับไปเมื่ออายุ 19 ปี

“สนใจครับ…..” ลุงตัดสินใจบอกคุณนงลักษณ์ไปด้วยความอยากรู้จริงๆ ว่า เขาจะรับเราหรือไม่ จะได้เงินเดือนสักเท่าไหร่ จะได้อะไรบ้าง เพราะเกิดมา ก็ไม่เคยสมัครงานในตำแหน่ง GM สักที

“แต่…ผมขอเรียนก่อนว่า …..ผมไม่มีปริญญานะครับ…….”


ลุงไม่รู้จะอธิบายอย่างไรได้ถูก ก็ตั้งแต่จบพาณิชย ซึ่งวุฒิขณะนั้นคือ “อาชีวะศึกษาชั้นสูง” ลุงก็เอาแต่ทำงาน….งานทำ…..จนไม่ได้ไปเรียนต่อที่ไหนเลย

…..นี่มาสมัครงานในตำแหน่ง GM ต้องมาคุมคนที่ขายคอมพิวเตอร์ พวกนักวิชาการที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่จะจบปริญญาตรี หรือปริญญาโทจากต่างประเทศ…….


“ไม่เป็นไรหรอก……คนของเราคนหนึ่ง ซึ่งเป็นจีเนียสทางคอมพิวเตอร์ แม้แต่ปริญญาเอกยังสู้ไม่ได้ คุณก็เอาไปทำงานกับคุณแล้ว….คุณวิชัย ไกรสิงขร….ไง…..จำได้ไหม”

มันทำให้ลุงนึกถึง “ไอ้แก้ว” จอมอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ ที่ทำเอาฝรั่งจากเมืองนอกเกาศีรษะแบบไม่เข้าใจมาแล้วว่าทำได้อย่างไรตอนที่มันแพทดิส ที่มีปัญหาเรื่อง Operating System กลับเข้าที่อย่างเก่าจนสำเร็จ….ด้วยมือเพียงสองข้างและหนึ่งสมองเท่านั้น…..ใช่ ลุงเอาเขามาจากซัมมิทนี่เอง


“เอาละ….ถ้าคุณสนใจ ดิฉันจะนัดให้คุณสัมภาษณ์กับ ซี.เจ.ฮวง ซึ่งเป็นประธานของบริษัท นายใหญ่ของเรา เนื่องจากบริษัทต้องการผู้ที่เข้ามาบริหารงานด่วนมาก…..จึงเป็นไปได้ไหมที่คุณจะเจอกับ ซี. เจ. ภายในอาทิตย์นี้” คุณนงลักษณ์ถาม


ลุงหยิบสมุดไดอารี่ที่พกติดตัวอยู่เสมอขึ้นมาดู

“ถ้าเป็นไปได้….อาทิตย์นี้ผมว่างสองวัน คือวันพฤหัสที่ 22 หรือไม่ก็วันศุกร์ที่ 23 (มิถุนายน 2521) นี้……เอาวันไหนก็ได้ครับ……..”

“คะ…..แล้วดิฉันจะเรียนปรึกษากับ ซี.เจ. แล้วจะนัดเวลามาให้คุณอมรทราบ…….”


………………………………………………………………


ลุงลาจากออกมาจากที่นั่งคุยกันด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก

ใจหนึ่งก็เสียดาย……ไม่อยากจากยิบอินซอย ซึ่งอยู่มานาน และเป็นที่ที่มีพระคุณต่อลุงอย่างเหลือล้น

อีกใจหนึ่ง ก็คิดถึงอนาคตของตนเอง ว่า “ช่วงเวลา 14 ปี ลุยเคยออกไปอยู่โอลิมเปียเพียง 9 เดือนด้วยเหตุผลในด้านการบริหารเพราะยิบอินซอยสมัยนั้น กำลังเปลี่ยนนโยบายโดยเอาฝรั่งเข้ามาคุมคนไทยเกือบหมด แต่ก็ได้กลับมาทำงานที่ยิบอินซอยต่อ และไม่เคยไปสมัครงานที่ไหน การอยู่ที่เดียวนานๆ นี่มันก็มีความรู้สึกเหนื่อยหน่ายเฉื่อยชาไปได้เหมือนกัน…………………”

“……หากเราจะอยู่ยิบอินซอยต่อ อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร……เราคงไม่สามารถก้าวขึ้นในตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ”…ได้…..(ลุงคิดเล่นๆ ) เพราะเป็นบริษัทในครอบครัว…….แล้วขณะนี้เราก็ได้ไต่ขึ้นมาชนเพดานแล้ว …..ด้วยอายุเพียง 35 ปี……………………………………………….


แล้วจะไปทำอะไรต่อ…….อย่าหวังว่าจะไปลงทุนทำการค้าเอง เป็นนายของตนเอง…..เพราะ ตัวเองไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนายทุน…..เราเป็นเพียง “มืออาชีพ….ที่แท้จริง” เท่านั้น


“ตำแหน่ง GM ที่กำลังได้รับข้อเสนอ…..มันก็เหมือน “โอกาส” ที่หาไม่ได้ง่ายๆ นัก……โดยเฉพาะกับ “เด็กพาณิชย์” ที่ใครๆ เขาชอบเรียก หรือ “ไอ้คนไม่มีปริญญาอะไร…..”


เคยมีคนพูดดูถูกลุงว่า “ไอ้’มรหรือ….มันก็เก่งอยู่แต่ในยิบอินซอยละวะ….เพราะมันอยู่มานาน เลยจับเส้นผู้ใหญ่ได้เก่ง
ความจริงฝีมือนะ…ไม่เท่าไหร่หรอก”


ถ้าลุงได้งานที่ Univac คราวนี้ มันจะลบล้างคำพูดที่ดูถูกดูหมิ่นอันนี้เสียได้….เพราะลุงแทบจะไม่รู้จักใครเลยที่ซัมมิท เอาเป็นว่า “ไม่รู้จักเลย” จะดีกว่า เพราะกับคุณนงลักษณ์และคุณวิชิต ก็เพิ่งรู้จักกันเมื่อตะกี้นี่เอง


………………………………………………………………

เอาวะ…..ไหนๆ ก็ไหนๆ “ลุงเห็นจะต้องขายตัว…..อีกสักครั้ง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ดูซิว่า เด็กไม่จบปริญญา….ขายครั้งแรกไม่มีประสบการณ์ ขายได้ในตำแหน่ง “พนักงานขายฝึกหัด” ได้ในราคา 650.-บาท …….. คราวนี้มีประสบการณ์ 14 ปี จะขายตัวในตำแหน่ง GM…….จะได้สักกี่บาท”

……และเวลาก็กระชั้นชิด…..นี่ลุงต้องเขียน Resume สมัครงานไปก่อน และนัดสำภาษณ์กับท่านประธานในวันพฤหัสหรือศุกร์นี้……..ลุงจะมีวิธี “ขายตัว” อย่างไร…….อย่าพลาด
เชียวนะครับ….ถึงนาทีระทึกใจอีกแล้ว…………………..






//lungadd.pantown.com/

“คลับนักขาย 001”

“ลุงแอ็ด”









Create Date : 29 ตุลาคม 2548
Last Update : 29 ตุลาคม 2548 10:16:09 น. 17 comments
Counter : 1490 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ว่าที่ GM
ดิฉันมาเสนอตัวขาย เป็นเลขา ว่าที่ GM รับมั๊ยค่ะ



อ่านเรื่องลุงแอ็ดน่าสนใจมากค่ะ
ขออนุญาตติดตามต่อ

ขอเป็นกำลังใจให้ว่าที่ GM ขายตัวได้สำเร็จค่ะ


โดย: run to me วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:10:56:48 น.  

 


โดย: Zantha ตี๋น้อยไม่ได้ล็อคอินครับ IP: 210.82.175.244 วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:14:42:58 น.  

 
แวะเข้ามาติดตามครับลุง


โดย: ultraman seven IP: 221.128.113.154 วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:16:25:10 น.  

 
มาติดตามอ่าน ตอนต่อไปเลยค่ะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:18:57:02 น.  

 




จ๊ะเอ๋ ..
หนี่ฯมาแอบบบบบบบบ ดูอีกแล้วค่ะ




โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:19:20:13 น.  

 

มาแอบดู คุณลุง "ขายตัว" ค่ะ



โดย: Big Spender วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:21:59:08 น.  

 

เข้ามาอ่านเรื่อง 'ขายความเป็นมืออาชีพ' คับ

...จะรออ่านต่อคับ ขอบคุณ


โดย: yyswim วันที่: 3 พฤศจิกายน 2548 เวลา:0:46:42 น.  

 
รออ่านตอนต่อค่ะ


โดย: เธอรี่ (เธอรี่ ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:45:02 น.  

 
เยี่ยมมากเลยครับ ลุงแอ๊ด ผมขออนุญาติAdd Blog
ไว้อ่านต่อนะครับ : )


โดย: ป๊ะป๋า วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:12:20:48 น.  

 
เรียน. คุณลุงแอ็ด ครับ

กระทู้ไหนไม่สุภาพช่วยลบให้ด้วยครับ
ชาวบ้านเข้าเดืออร้อน
ขอบคุณ.ลุงแอ็ดมากครับ


โดย: It. IP: 203.155.165.102 วันที่: 22 กันยายน 2549 เวลา:20:56:16 น.  

 
ตลกดี


โดย: ทุ่งหมาเมิน IP: 61.7.160.100 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:19:45 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:5:05:47 น.  

 
สุขสันต์ คริสต์มาส และ ส่งความสุขปีใหม่ให้คุณ ลุงแอ๊ด และ ครอบครัว ค่ะ

animated graphics Merry X'mas graphics


โดย: tiki_ทิกิ วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:10:23:26 น.  

 
Blog นี้เป็นหนึ่งใน Best Business Blog
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องการดำเนินธุรกิจ
โดยเฉพาะธุรกิจด้านการขายเป็นอย่างมากค่ะ

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลที่น่าสนใจ
ที่คุณ ลุงแอ็ด ได้นำประสบการณ์ที่น่าสนใจ
มาแบ่งปันกันอย่างต่อเนื่องเสมอมานะคะ


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 12 มกราคม 2552 เวลา:13:06:15 น.  

 

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆจ้า..
(*-*)


โดย: zawadio (khonmanrak ) วันที่: 17 มิถุนายน 2553 เวลา:19:56:53 น.  

 


โดย: หน่อยอิง วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:13:43:30 น.  

 
ขอบคุณครับ Thank you blog สวยดีครับ
epson printer
electricscooterscheaper


โดย: aomzon วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:8:42:17 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลุงแอ็ด
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




Friends' blogs
[Add ลุงแอ็ด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.