|
ผมนี่แหละ
มืออาชีพ
.ตัวจริง ตอนที่ 27 คุณธวัช ยินอินซอย
คุณธวัช ยินอินซอย อายุมากกว่าลุง 13 ปี ท่านเกิดเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2575 ที่กรุงเทพ คุณธวัชไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ยังเล็กๆ ตั้งแต่ปีนัง จนไปจบปริญญาตรีทางด้านไฟฟ้าที่ Faraday House Engineering College ในลอนดอน แล้วก็ย้ายไปทำปริญญาโทต่อ สาขาการบริหารที่มหาวิทยาลัยคอร์แนล เมืองอิตาก้า รัฐนิวยอร์ค
คุณธวัชกลับมาเริ่มงานที่ยิบอินซอย โดยมาเป็นผู้จัดการแผนกเครื่องใช้สำนักงาน เบอร์โร่ส์ หรือที่เราเรียกกันว่า แผนกบี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2506
ก่อนที่ลุงจะเข้ายิบอินซอย โดยการสัมภาษณ์ของเฮีย ฤทธิ์ และการอนุมัติของคุณธวัช เมื่อพ.ศ. 2507 ดังที่ลุงได้เล่าไว้แล้วในหนังสือเล่มแรก คือ อวสานเซลส์แมน
และลุงได้ทำงานใกล้ชิดกับคุณธวัชเพิ่มขึ้นเรื่อยมา จนเป็นลูกน้องที่ใกล้ชิดและสนิทที่สุดของคุณธวัชในเวลาต่อมา
คุณธวัชเคยพูดให้ใครต่อใครฟังว่า ลุงเป็น My first best recruit. ของแก และลุงก็นับถือว่าคุณธวัช เป็นเจ้านายคนแรก และคนเดียว ที่ให้ทุกๆ อย่างกับลุง ไม่ว่า ความรู้ คำสั่งสอน ความก้าวหน้าในชีวิตการทำงาน ชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข
.และลุงเป็น คน ขึ้นมาได้ ก็เพราะ คุณธวัช คนนี้แหละ
คุณธวัช เป็นคนทำงาน
.ใช่
ใครก็เป็นคนทำงาน แต่ลุงไม่เห็นใครเหมือนคุณธวัช
คุณธวัชจะใส่สูทมาทำงานทุกวัน มาทำงานตั้งแต่เช้า มาถึงก็นั่งก้มหน้าง่วนอยู่กับกระดาษ ตัวเลขต่างๆ เพราะท่านเป็นนักไฟฟ้า เรียนมาทางวิศวะ ทางคงถนัดในการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องคำนวณเลข ไม่มีคอมพิวเตอร์ มีแต่สไล้ท์รูล เป็นไม้บรรทัด สีขาวๆ ซ้อนกันอยู่สองอัน ลุงแอบมองท่านบ่อยๆ ไม่รู้ว่าแกทำอะไรของแก
ตอนเข้าไปทำงานแรกๆ ท่านในฐานะของลูกนายห้าง และผู้จัดการแผนก ทำให้ลุงไม่กล้าสนิทด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แกไม่พูดภาษาไทย และลุงก็ภาษาอังกฤษยังไม่ได้กระดิกสักตัว ก็เลยแอบอยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ พอเห็นคุณธวัชเดินมาทักทายสต๊าฟ ลุงก็หลบแว๊บด้วยความเกรงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมา พอลุงทำงานนานขึ้น ก็เริ่มมีกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับแผนกมากขึ้น เช่น การเอาเครื่องไปแสดงในงานสินค้าที่โรงเรียนพณิชยการพระนคร ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าของลุง ซึ่งลุงต้องขออนุมัติเอาเครื่องไปแสดงหลายๆ เครื่อง เป็นเวลาหลายๆ วัน คุณฤทธิ์เขาก็ให้ลุงเข้าไปชี้แจงกับคุณธวัชเอง
ลุงจำได้ว่า แกก็พยายามพูดภาษาไทย ส่วนเราก็พยายามกระแดะภาษาอังกฤษ เพื่อให้เป็นที่เข้าใจกันทั้งสองคน ก็เลยมีสนิทสนมใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
ต่อมามีงานแสดงสินต้าที่เรียกว่า The First American International Products Show ซึ่งจัดที่ศูนย์แสดงสินค้าของอเมริกา ซึ่งน้องๆ คงสงสัยว่าอยู่ที่ไหน ก็อยู่ใกล้ ยิบอินซอยนั่นแหละ อยู่ตรงหัวมุมตึก ซึ่งตอนนี้เป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์กระจก และสินค้าพลาสติคต่างๆ
เป็นครั้งแรกที่เราเอาเครื่องบวกเลข เครื่องจักรลงบัญชีไปแสดง พนักงานขายทุกคนต้องใส่สูท คุณธวัชต้องลงมากำกับดูแลการติดตั้งเครื่อง การตกแต่งสถานที่เอง พวกเราก็ต้องเทสเครื่องกันเป็นเวลาติดต่อไม่ได้หลับได้นอกันหลายคืน มีการเชิญนักเรียนพาณิชย์ ธรรมศาสตร์ จุฬามาในงาน ต้องมีการบรรยายให้ผู้เข้าชมเหล่านี้ฟัง
ลุงก็อาสาเป็นผู้บรรยายคนหนึ่ง ต้องท่องบท เขียนบท ซ้อมพูดหน้ากระจกให้คล่องปาก ไม่ให้อายบูทอื่นเขาได้ ซึ่งตอนนั้นก็มีบริษัทที่ขายเครื่องใช้สำนักงานของอเมริกันเช่น NCR หรือ WANG ก็มาออกในงานนี้เหมือนกัน
ในตอนที่เราขนเครื่องไปทดลองให้ประชาชนผู้มาชมดูนั้น ก็ต้องอยู่กันดึกดื่น คุณธวัชกับพี่เอื้อย ภรรยาสาวสวยของคุณธวัช ที่พูดไพเพราะ นิสัยงาม แต่งตัวสวย สมเป็นกุลสัตรียิ่งในสายตาของพวกเรา ก็เอารถโฟล๊กเต่าทองสีเหลือง (ซึ่งตอนแรกที่เขียนในอวสานเซลส์แมน คิดว่าเป็นของคุณธวัช แต่ที่จริงเป็นของพี่เอื้อย)
เปิดหน้ารถ เอาแซนวิท โค๊ก ลงมาแจกจ่ายให้พวกช่างและเซลส์ที่กำลังหน้าดำคร่ำเครียดกับเครื่องที่มีปัญหา บางทีทั้งสองท่านก็ขับรถกันมาดึกๆ ตั้งสี่ห้าทุ่ม สองยาม คอยเป็นห่วงพวกเราเสมอ
ตอนหนึ่ง มีงาน The First International Trade Fair ที่หัวหมาก ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งจัดให้มีการแสดงสินค้าครั้งยิ่งใหญ่เป็นเวลาถึง 24 วัน ไปสิ้นสุดเอาวันที่ 10 ธันวาคม 2509
งานนี้จัดกันยิ่งใหญ่มาก (ในสมัยนั้น) และถึงแม้จะอยู่ไกลแสนไกลถึงหัวหมาก ผู้คนก็ยังไปชมกันล้นหลาม โดยสถานที่แสดงสินค้าทั้งหมดก็คือเวลโลโดมที่ใช้แข่งกีฬาในอันดับต่อมานั่นเอง
ยิบอินซอยก็ไปออกงานแสดงสินค้ากันอย่างเต็มที่ มีเครื่องจักรทุกชนิด ทั้งรถแทร๊กเตอร์ ทั้งเครื่องทำความเย็น เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องทำบัญชี พวกเราก็ช่วยกันตกแต่งบูทที่จะไปออกเอง ยืนเฝ้าบูทเอง
แต่เนื่องจากงานมีหลายวัน จะให้พวกเซลส์ไปเฝ้าบูทกันหมด ก็จะไม่มีใครไปขายของ ลุงเลยเสนอคุณธวัชว่า ควรให้ Helper เข้าไปช่วยอธิบายเครื่องจักรของแผนกต่างๆ ที่ไปออกงาน คุณธวัชก็เห็นดีด้วย ก็สั่งว่า
เอ้า ถ้าอย่างงั้น ให้คุณอมรเป็นคนจัดการหานักเรียนมา อบรมและจัดการทั้งหมดในเรื่องนี้จนสิ้นงาน
พอได้รับคำสั่งจากคุณธวัชดังนั้น ลุงซึ่งเป็นเซลส์แมนตัวเล็กๆ ธรรมดา แต่อาสาทำงานใหญ่ ก็ไปติดต่อที่โรงเรียนพาณิชยการราชวิถี ที่ลุงเกิดจับผลัดจับพลูให้ไปเป็นครูสอนเครื่องบวกเลขจำเป็นที่นั่น ก็เอานักเรียนหญิง นักเรียนชายมายี่สิบกว่าคน ทำหนังสือไปขออนุญาตผู้ปกครองของแต่ละคนเรียบร้อย เอามาที่บริษัท ก็จัดการให้ศึกษาเรื่องเครื่องยนต์กลไกต่าง ๆที่จะนำออกแสดงในงาน
ซึ่งเราไม่ค่อยคาดหวังเท่าไหร่ว่านักเรียนสามารถจะตอบคำถามต่างๆ แก่ผู้เข้าชมงานได้ แต่เนื่องจากเราต้องการให้เขาไปเฝ้าดูของ กันคนมาเล่นหรือขโมยหนึ่ง คอยยิ้มสวยๆ ให้กับลูกค้าสอง คอยยืนแจกแคตาล๊อคสาม และถ้าใครสนใจจริงๆ ก็ให้วิ่งตามเซลส์หรือผู้จัดการที่เข้าเวรยามในวันนั้นให้มาอธิบายคุณสมบัติของสินค้าแทน
ลุงจึงเลือกนักเรียนที่มีหน้าตาดี ยิ้มสวย น่ารักไปทุกคน และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ลุงได้ร่วมงานกับ ป้าอี๊ด ที่เป็นภรรยาของลุง อยู่กินกันมาจนถึงบัดนี้เป็นเวลา 34 ปีแล้ว
และก็เป็นงานที่เกิดเรื่องที่ทำให้ลุงเห็นน้ำใจและสปิริตของคุณธวัชมาตั้งแต่บัดนั้น
ซึ่งมันทำให้ลุงยิ่งรักและเคารพคุณธวัชมากยิ่งขึ้น ซึ่งหาไม่ได้ในผู้ใหญ่รุ่นปัจจุบัน
ไว้คอยติดตามนะครับว่า จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในงานแสดงสินค้านั้น
//lungadd.pantown.com/
Create Date : 21 กันยายน 2548 |
Last Update : 21 กันยายน 2548 14:01:54 น. |
|
6 comments
|
Counter : 949 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนี่หนีหนี้ วันที่: 21 กันยายน 2548 เวลา:20:13:32 น. |
|
|
|
โดย: Somprasong Chaisumran IP: 61.91.68.31 วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:15:16:36 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ็ด IP: 210.203.182.86 วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:16:54:52 น. |
|
|
|
โดย: d_yong IP: 203.144.158.122 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:18:13:57 น. |
|
|
|
โดย: a IP: 58.8.156.215 วันที่: 20 กันยายน 2549 เวลา:19:57:42 น. |
|
|
|
| |
|
|
หนี่ฯมาคอยแถวหน้า เลยค่ะ