Wellcome To My Blog(@^_^@)KIW_LunaMoonfang

LittleKIWKIW
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




*-*
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add LittleKIWKIW's blog to your web]
Links
 

 

((((__ต๋ำบ่ะตื๋น ก็คือ ตำกระท้อน นั่นเองค่ะ ^^__))))

เมนูนี้ทำไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ พอดีกลับจากทำธุระที่ธนาคารเสร็จเร็ว เลยแวะตลาดค่ะ ซื้อไข่ไก่ ผัก พริก มะนาว ตามเรื่องตามราว เหลือบไปเห็นแผงผลไม้มีกระท้อนปุยฝ้ายวางขายกองโตเลยค่ะ ลูกใหญ่น่าทานมาก ตอนแรกกะว่าไม่ซื้อดีกว่า มีมะม่วงในตู้เย็นว่าจะำทำมะม่วงน้ำปลาหวานยังไม่ได้ทำเลย แต่อดใจไม่ไหว ฮ่าๆๆ หัวใจมันเรียกร้อง เลยเดินไปถามแม่ค้าว่าโลเท่าไรคะ--- แม่ค้าบอกโลละ 35 จ้า เลยเลือกมาซะลูกนึง ขนาดกำลังดีให้แม่ค้าชั่ง ค่าเสียหายอยู่ที่ 20 บาท ได้แล้วก็รีบตรงดิ่งกลับบ้าน จะทำตำกระท้อนรสแซ่บให้สมใจ

กระท้อน คนเมืองเรียกว่า "บะตื๋น" หรือ "บะต้อง" ค่ะ แต่บะตื๋นบ้านกิวไม่ลูกโตอย่างกระท้อนปุยฝ้ายนะคะ มันจะลูกเล็กๆ ฝาดๆ แล้วก็เปรี้ยวค่ะ เอามาตำให้รสจัดๆ เผ็ด เค็ม เพื่อข่มรสฝาด ต้องใส่ "น้ำปู๋" ด้วยนะคะถึงจะอร่อยครบสูตร แต่วันนี้ไม่มีน้ำปู๋นะคะ ไม่ครบสูตร แต่ก็ยังอร่อยอยู่ค่ะ

เครื่องปรุง - ส่วนผสม
1. กระท้อนปุยฝ้าย (วันนี้กิวใ้ช้ครึ่งลูกค่ะ ทานคนเดียว)
2. พริกขี้หนู // กระเทียม // กะปิ
3. กุ้งแห้ง
4. ปลาป่นพริกขี้หนูตราพันท้ายฯ
5. น้ำตาลปี๊บ // น้ำปลา
6. ตะไคร้ซอย // ผักชีฝรั่งหั่นท่อนสั้น // หอมแดงซอย
7. ถั่วลิสงทอดหรือคั่ว

วิธีทำ
1. ผ่าครึ่งกระท้อน ปอกเปลือก สับเป็นชิ้นเหมือนสับมะละกอเลยค่ะ แต่มีดกิวเล็กสับไม่ได้ เลยบั้งเป็นริ้วๆ เหมือนจะทำกระท้อนทรงเครื่องน่ะค่ะ แล้วก็หั่นครึ่งอีกที พักไว้
2. โขลกกระเทียม กะปิ พริกขี้หนูเข้าด้วยกัน ตามด้วยกุ้งแห้ง ปลาป่น น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชิมรสให้ถูกใจ
3. ใส่กระท้อนลงไป ใช้สากครกตำๆให้ชิ้นกระท้อนแตกออกจากกัน อย่าตำแรงมากนะคะ มันจะกระเด็น -*- ตำพอเข้ากัน ใส่ส่วนผสมในข้อ 6. ลงไป โขลกๆ คนๆให้เข้ากัน ใส่ถั่วลิสง แล้วตักเสริฟได้เลยค่ะ



















ลากันด้วยรูปนี้นะคะ แล้วพบกันใหม่เมนูหน้าค่ะ

ปล.ทานหมดแล้วถึงเพิ่งนึกออกว่า ร้านขายตำกระท้อนบางเจ้า ที่เชียงใหม่นี่น่ะค่ะ เค้าจะใส่ใบแมงลักลงไปด้วย รสชาติก็หอมอร่อย เข้ากันดีค่ะ เสียดายวันนี้ไม่ได้ใส่ ทั้งๆที่มีใบแมงลักในตู้เย็น ไว้ค่อยใส่อีกครึ่งลูกที่เหลือละกันค่ะ




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2553    
Last Update : 9 มิถุนายน 2553 17:53:19 น.
Counter : 5045 Pageviews.  

((((__อาหารเช้าแสนง่าย ในวันสุดแสนขี้เกียจค่ะ^^__))))

วันนี้ตื่นมาอย่างงัวเงียที่สุดค่ะ เหตุเพราะเมื่อคืนดูดีวีดีดึกไปหน่อย กว่าจะหลับก็ปาไปตีหนึ่งละ วันนี้เลยตื่นสาย---เจ็ดโมงกว่าๆเกือบแปดโมงเช้าแน่ะค่ะ ตื่นมาก็หิวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็คุ้ยเขี่ยตู้เย็นอย่างเอาเป็นเอาตาย มีแต่ไข่ เต้าหู้ ไก่บด ผักกาดขาวนิดหน่อย บลูเบอร์รี่กระป๋อง เนย ตอนแรกกะจะทำแกงจืดเต้าหู้ กับไข่เจียว ทีนี้ว่าขี้เกียจหุงข้าว ถึงไม่ขี้เกียจกว่าจะหุงสุกก็หิวไส้ขาดพอดี เดชะบุญเหลือบไปเห็นขนมปังยักษ์---อันที่จริงมันติดฉลากว่า"ขนมปังเยอรมัน"อ่ะค่ะ คุณพ่อบ้านซื้อมาสองสามวันก่อนละ ก้อนเบ้อเร่อ พอซื้อกลับมาลองชิมดู แกว่ามันไม่อร่อยค่ะ เลยยัดตู้เย็นทิ้งไว้ เหลือเยอะเลยค่ะ ดูส่วนผสมแล้วมันเป็นประมาณว่าขนมปังโฮลวีต ออกแนวเพื่อสุขภาพหน่อยอ่ะค่ะ ใส่ลูกเดือย งาดำอะไรประมาณนั้น เนื้อหนาค่อนข้างแข็งแต่ก็ไม่ถึงกับแข็งโป๊กอย่างขนมปังฝรั่งเศษ คือยังเคี้ยวได้สบายอยู่ แต่ไม่หวาน ออกจืดๆน่ะค่ะ แต่เคี้ยวมันดีนะคะ เหนียวๆหน่อย

นั่นล่ะค่ะ กิวเลยเปลี่ยนแผนเอาขนมปังยักษ์นี่มาทำเป็นมื้อเช้าดีกว่า เสียดายของ อิอิ สรุปเอาเป็นขนมปังทาเนยปิ้ง กับบลูเบอร์รี่กระป๋อง(เหลือจากทำชีสพาย) กับไข่ลวกดีกว่า ง่ายดี เร็วด้วยค่ะ^^

เครื่องปรุง-ส่วนผสม : ขนมปังปิ้ง
1. ขนมปังเยอรมันที่คุณพ่อบ้านเหลือทิ้งไว้
2. เนยจืด
3. บลูเบอร์รี่กระป๋อง

วิธีทำ
1. หั่นขนมปังเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 เซน กิวหั่นตามขวางบ้าง ตามยาวบ้าง แล้วแต่อารมณ์เลยค่ะตอนนั้น 555+
2. วอร์มเตาปิ้งขนมปัง วันนี้ิกิวใช้เตาปิ้งแซนด์วิชอบร้อนอ่ะค่ะ เสียบปลั๊กไว้ รอให้เตาร้อน ระหว่างนี้ก็ทาเนยลงบนขนมปังที่หั่นไว้ทั้งสองด้านเลยค่ะ
3. พอเตาร้อนได้ที่แล้วก็ใส่ขนมปังที่ทาเลยแล้วลงไป กิวใส่ตามแนวทะแยงให้ตรงกลางขนมปังถูกตัดพอดีน่ะค่ะ พอสุกแล้วเราก็จะได้ขนมปัง 2 ชิ้นเล็ก อบ(ปิ้ง)ให้เนยละลายและขนมปังเกรียมนิดหน่อย เสร็จแล้วก็คีบใส่จานรอหม่ำได้เลยค่ะ ขนมปังที่ได้วันนี้จะกรอบนอกนิดๆ ข้างในก็เหนียวหน่อยค่ะ ได้ขนมปังปิ้งแล้ว ก็วางรอไว้ ไปทำไข่ลวกกันต่อค่ะ

เครื่องปรุง-ส่วนผสม : ไข่ลวก
1. ไข่ไก่ 4 ฟอง (คนละ2ฟองกับคุณพ่อบ้านค่ะ)
2. พริกไทย ซีอิ๊วขาวหรือแม็กกี้

วิธีทำ
อันนี้ง่ายเลยค่ะ ตั้งน้ำให้พอท่วมไข่ ตั้งให้เดือดแล้วใส่ไข่ลงไป เบาๆนะคะระวังแตก*-* คนเบาๆ ทิ้งไว้สัก 5 นาที ปิดไฟ ตักไข่ออก **กิวชอบไข่ลวกแบบสุกนะคะ เลยทิ้งไว้นานหน่อย**
เสร็จแล้วก็ตอกไข่ใส่ชามละ 2 ฟอง โรยพริกไทย ซีอิ๊วขาวตามชอบ

เสร็จทั้ง 2 อย่างแล้วก็หม่ำเลยค่ะ ยกขนมปังปิ้งมาพร้อมบลูเบอร์รี่กระป๋อง ตามมาด้วยไข่ลวก แล้วก็นั่งโซ้ยกันอย่างเอร็ดอร่อย จะเอาหนมปังจิ้มไข่ลวกทานก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด อร่อยดีค่ะ อิ่มท้องด้วย^^


บลูเบอร์รี่กระป๋อง เนยสด(จืด) กับขนมปังยักษ์ที่ว่าน่ะค่ะ ก้อนโตเชียว



เรียบร้อยไปแล้ว 1 อย่าง



ถ่ายรูปหมู่ พร้อมหม่ำแล้วจ้า



ลาไปด้วยรูปนี้นะคะ หิวแล้วๆ หม่ำดีกว่า




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 9:09:46 น.
Counter : 1099 Pageviews.  

((((__น้ำพริกกะปิไข่เค็ม+ไข่ชะอม__))))

เมนู "น้ำพริกกะปิไข่เค็ม-ชะอมไข่" ทำไว้หลายวันแล้วค่ะ ทำตอนมื้อเย็น แบบว่าหิวจัดมากกก ทำงาน(เฝ้าร้าน)ทั้งวันโดยที่ไม่ได้ทานข้าวกลางวัน เหตุเพราะเบื่ออาหารตามสั่งข้างบ้าน เลยทานขนมจุกจิกให้พออยู่ท้อง มื้อเย็นหมายมั่นปั้นมือไว้ตั้งแต่บ่าย3โมง 555 ว่ามื้อเย็นจะทำกับข้าวเอง เอาแบบชุดใหญ่เลย ฮึ่ม--- พอน้องพนักงานมาเปลี่ยนปุ๊บ กิวรีบขึ้นบนบ้านปั๊บ จัดการหุงข้าวก่อน แล้วเตรียมของทำกับข้าวทันที เริ่มที่เตรียมส่วนผสมน้ำพริกก่อน แล้วถึงทำไข่เจียว แล้วก็แกงจืดอีกชาม ไว้ซดให้คล่องคอค่ะ

น้ำพริกกะปิไข่เค็ม
1. พริกขี้หนู 3-4 เม็ด // กระเทียมไทยกลีบเล็ก 5กลีบ(ปอกเปลือก)
2. กะปิดี 1/2 ชต.
3. น้ำตาลปี๊บ 3/4 ชต. // น้ำปลานิดหน่อย // น้ำมะนาว 1ลูก //น้ำสุก
4. ไข่แดงของไข่เค็ม(ต้มสุก) 1 ฟอง

วิธีทำ
1. โขลกกะปิกับกระเทียมให้ละเอียด ตามด้วยพริกขี้หนู กิวใส่พริกขี้หนู3-4เม็ด แต่โขลกละเอียดเลยค่ะ จะได้ทานง่ายๆ แล้วก็เผ็ดพอดี
2. ใ่ส่น้ำตาลปี๊บลงไปโขลกเบาๆให้พอละลาย ตามด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา(นิดเดียวนะคะระวังเค็มเกินจะแก้ยาก)
3. ใส่ไ่ข่แดงเค็มลงไปโขลกให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำสุกลงไปเล็กน้อยพอไม่ให้น้ำพริกข้นเกินไป หรือใครชอบข้นๆก็ไม่ต้องเติมก็ได้ค่ะ

น้ำำพริกสูตรนี้จะได้ประมาณ 1 ถ้วยเล็กๆตามรูปเลยค่ะ รสชาติออกหวาน เปรี้ยว เผ็ด มันไข่เค็ม คลุกข้าวอร่อยนักล่ะค่ะ ถ้ามีกุ้งแห้ง ใส่ไปด้วยจะอร่อยเหาะไปเลยค่ะ แช่น้ำให้นิ่ม แล้วโขลกตามพริกขี้หนูลงไปค่ะ

ไข่เจียวชะอม
1. ชะอม
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำมันพืช ประมาณ 3 ชต.

วิธีทำ
1. เ้ด็ดชะอมเป็นท่อนๆ ล้างน้ำ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ วางใส่ตะแกรงผึ่งไว้เลยค่ะ
2. ตอกไข่ไก่ใส่ชามคนๆให้เข้ากัน ไม่ต้องตีจนขึ้นฟองฟูนะคะ เสร็จแล้ว ใส่ชะอมลงไป คนให้เข้ากันอีกที
3. ตั้งน้ำมันพืช พอร้อนใส่ไข่ชะอมลงไป เกลี่ยให้ชะอมกระจายใ้ห้ทั่วไข่ ทอดให้สุกทั้งสองด้าน ตักออกพักให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นใส่จานเตรียมหม่ำ *-*

พี่ข้างบ้านบอกว่าไข่เจียวชะอมสำหรับทานกับน้ำพริกกะปิไม่ต้องปรุงรสเพราะมันจะทำให้ไข่เจียวชะอมไม่น่าทาน ประมาณว่าอย่าให้มีส่วนผสมของน้ำในไข่ที่จะเจียวน่ะค่ะ ถึงได้บอกว่าให้ผึ่งชะอมไว้เลย พอทอดออกมามันจะแห้ง ไม่อมน้ำมัน น่าทานค่ะ

แกงจืด
1. ไก่บด หมัก(น้ำมันหอย พริกไทย ซีิอิ๊วขาว) // ปูอัด
2. ผักกาดขาว // ต้นหอม-ขึ้นฉ่าย
3. เต้าหู้ไข่
4. ซีอิ๊วขาว // ผงปรุงรสไก่นิดหน่อย // พริกไทย

วิธีทำ
1. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ไก่บดลงไป ตามด้วยปูอัด ผักกาดขาว
2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผงปรุงรสไก่
3. ใส่เต้าหู้ไข่ รอสักครู่ให้สุกดี ใส่ต้นหอม-ขึ้นฉ่าย โรยพริกไทย ปิดไฟ แล้วคนให้เข้ากัน ตักใส่ชามได้เลยค่ะ

รูปวันนี้มีแต่รูปที่ทำ้เสร็จแล้วนะคะ เพราะรีบทำ แบบว่าหิวมาก ตอนถ่ายรูปคุณพ่อบ้านถือช้อน-ส้อมตั้งท่ารอหม่ำอย่างใจจดใจจ่อ 555 เร่งกิวอยู่นั่นว่าเร็วๆๆ หิวแล้วๆ พอกิววางกล้อง สองคนสามีภรรยา ก้มหน้าก้มตาทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย เสียงช้อนส้อมกระทบจากกันก้องแก๊ง ไม่พูดไม่จา คุณพ่อบ้านเติมข้าวถึง 2 รอบ กิวเป็นปลื้มเพราะปกติแกทานข้าวจานเดียวก็อิ่มแล้วน่ะค่ะ



ถ่ายรูปแบบว่ามือสั่นเลยค่ะ หิวจริงๆ


นอกจากไข่ชะอมแล้ว ผักจิ้มน้ำพริกก็มีแค่ถั่วฝักยาวกับแตงกวา แล้วก็ข่าอ่อนที่เพิ่งแทงต้นออกมา คนเมือง(เหนือ)เรียกว่า "หน่อข่า" ค่ะ อร่อยมาก ของโปรดกิวเลย

รูปสุดท้ายสำหรับเมนูนี้ มือสั่นสุดๆไปเลยค่ะ




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 5 ธันวาคม 2554 23:04:51 น.
Counter : 1760 Pageviews.  

((((__ต้มแซ่บไก่บด__))))

เมนูต้มแซ่บไก่บดนี้ทำไว้หลายวันแล้วค่ะ แต่ยังไม่มีเวลาเอามาลงบล็อก งานยังวุ่นเหมือนเดิมค่ะ ยิ่งช่วงสิ้นเดือนแบบนี้ ต้องจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆใ้ห้เรียบร้อย ต้มแซ่บชามนี้ทำตอนมื้อเช้าค่ะ พอทานเสร็จหมดเกลี้ยงถึงเพิ่งรู้ตัวว่าทานไม่ได้ เพราะว่าจะปวดท้องกระเพาะน่ะสิคะ มื้อเช้ากิวจะทานรสจัดไม่ได้เลย แต่เผลอทานไปจนกระทั่งอิ่มแล้ว เลยรีบดื่มนมหมีไป1กระป๋อง เวลาปวดท้องกระเพาะกิวต้องรีบดื่มนมทันทีค่ะ แล้วก็จะหายปวดเลย แต่ก็หายแค่ช่วงสั้นๆนะคะ 1-2 ชั่วโมงถ้าไม่ทานอะไรเลยก็จะปวด คือดื่มนมแล้ว ต้องทานข้าวหรือขนมปังตามลงไป ทานยารักษาโรคกระเพาะ(กิวทาน omepazol น่าจะชื่อประมาณนี้ค่ะ) ถึงจะหาย แต่บางคนเป็นโรคกระเพาะก็ดื่มนมไม่ได้นะคะ ดื่มแล้วจะยิ่งปวดกว่าเดิม กิวเคยถามหมอว่าทำไมกิวปวดแล้วดื่มนมถึงหาย หมอบอกว่านมมีโปรตีน ดื่มเข้าไป จะไปช่วยเจือจางกรดในกระเพาะอาหารทำให้หายปวด ประมาณนี้ค่ะ

คุยมายืดยาว มาทำต้มแซ่บไ่ก่บดกันดีกว่าค่ะ เรื่องของเรื่องคืออ่านนิตยสารแล้วไปเจอเมนู ต้มแซ่บหมูเด้ง+คอลลาเจน ของร้าน Zaab Eli ของทายาทโออิชิ (คุณกิ๊ฟที่คุณโน๊ตอุดม พูดถึงในเดี่ยว 8 นั่นละ่ค่ะ) เห็นแล้วอยากซดต้มแซ่บขึ้นมาจับใจ เลยหาวัตถุดิบในตู้เย็นว่าพอทำได้หรือเปล่า ปรากฏว่ามีไก่บดที่หมักไว้สำหรับใส่แกงจืดเหลืออยู่พอทำได้สักชามนี่แหละค่ะ แล้วก็มีเห็ดออรินจิที่เหลือจากเมนูผัดเห็ดไ่ข่เค็ม(เมนูนี้ทำวันพระค่ะ ทานมังฯ) ผักชีใบเลื่อย ผักชี-ต้นหอม ตะไคร้ ใบมะกรูด มะขามเปียก พริกแห้ง มีพร้อมหมด โช๊ะเึด๊ะเลย อิอิ

เครื่องปรุง-ส่วนผสม
1. ไก่บดหมัก หรือ เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่มีติดตู้เย็นค่ะ
2. เห็ด วันนี้ใช้เห็ดออรินจิค่ะ แต่ถ้าได้เห็ดฟางกิวว่าจะอร่อยกว่าเนอะ
3. ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมเล็ก(หอมแดง) มะเขือเทศลูกเล็ก
4. ผักชี-ต้นหอม // ผักชีใบเลื่อย // พริกขี้หนูเขียว-แดง
5. น้ำมะขามเปียก // มะนาว 1 ซีก
6. พริกป่น (พริกแห้งคั่ว แล้วโขลกเองค่ะ ไม่ต้องละเอียดยิบก็ได้)
7. ซีอิ๊วขาว น้ำปลา ผงปรุงรสไก่นิดหน่อย

วิธีทำ
1. มะขามเปียกล้าง แล้วแช่ในน้ำสุกทิ้งไว้ค่ะ
2. ข่า หั่นแว่นบางๆ ตะไคร้หั่นเฉียงหนาพอประมาณ ใบมะกรูดฉีก หอมแดงปอกเปลือกออกให้เรียบร้อย(ล้างด้วยค่ะ)==> ทั้งหมดนี้คั่วให้หอม จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป มันจะหอมมากก เลยค่ะ
3. ใ่ส่มะเขือเทศลูกเล็กผ่าครึ่งลงไปสัก3-4ลูก พอน้ำเดือดใส่ไก่บดหรือเนื้อสัตว์ที่จะใช้ต้มแซ่บลงไป (ไก่บดของกิววันนี้ตักใส่เป็นก้อนๆเหมือนใส่แกงจืดค่ะ)
4. รอใ้ห้เดือดอีกที ใส่เห็ดลงไป จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ซีอิ๊วขาว(ทำให้กลมกล่อม) น้ำปลา ผงปรุงรส จากนั้นชิมดูค่ะ ขาดเหลืออะไรก็เติมลงไปตามใจเลย แต่เหลือที่ให้รสเปรี้ยวนิดหนึ่งนะคะ เพราะเราจะใส่มะนาวในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อความเปรี้ยวปรี๊ดดด ^^
5. ชิมรสได้ที่แล้ว ปิดไฟ ใส่ผักชี ต้นหอม ผักชีใบเลื่อย พริกขี้หนูเขียวแดง ลงไป
6. บีบมะนาว 1 ซีกของเราใส่ชาม ใส่พริกป่นลงไป(กิวใส่ 1 ช้อนชาพอละ) ตักต้มแซ่บของเราใส่ชาม คนๆ เสิร์ฟได้เลยค่ะ

**ในรูปกิวใส่ขาอ่อนลงไปด้วยนะคะ ใส่ไปเยอะด้วยเพราะชอบทานมาก ทางเหนือเรียกข่าอ่อนที่แทงต้นออกมาใหม่แบบนี้ว่า "หน่อข่า" ค่ะ**


ลืมเอาไก่บดมาถ่ายรูปหมู่ด้วยอ่ะค่ะ - -*


เสร็จพร้อมเสริฟค่ะ



ลาำกันไปด้วยรูปนี้นะคะ


แล้วพบกันใหม่เมนูหน้าค่ะ ^^




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2553    
Last Update : 3 มิถุนายน 2553 12:37:29 น.
Counter : 964 Pageviews.  

((((_ข้าวผัดกุ้ง+ปูอัด_))))

สวัสดีวันหยุดค่ะ ^^

วันนี้เชียงใหม่อากาศไม่ร้อนเหมือนทุกวันค่ะ เปิดพัดลมนอนสบายเชียวล่ะ แต่เหตุการณ์เกี่ยวกับเรื่องการเมืองนี่สวนทางกับอากาศเลยค่ะ เรียกว่าร้อนฉ่าเลยทีเดียว ตอนแรกกะว่าเย็นนี้จะเข้าเมือง ไปเดินเล่นชิลๆถนนคนเดินสักหน่อย ปรากฏว่า ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวเพิ่มอีก 2 วัน -*- เป็นอย่างนี้ก็คงไม่ได้ไปละค่ะ แถมยังต้องปิดร้าน 3 ทุ่มอีกต่างหาก เสียรายได้อีก...แต่ก็เอาเถอะค่ะ ก็ต้องทำตาม ขอให้เหตุการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน เพราะตอนนี้เดือดร้อนกันไปหมด ลามจากกรุงเทพมาต่างจังหวัด คือพูดถึงในแง่ของการทำงาน การทำมาหากินน่่ะค่ะ พอประกาศเคอร์ฟิวแบบนี้ คนที่ทำงานกลางคืนก็ลำบาก เช่นแม่ค้ากาดหลวง กิวเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน เพราะปกติร้านเปิดได้ 24 ชม. แต่ตอนนี้ต้องปิด 3 ทุ่ม รายได้ก็หายไปเกือบ 30 % เหมือนกันค่ะ นี่ขนาดเราเพิ่งโดนพิษการเมืองนะ แล้วกิวคิดถึงใจคนกรุงเทพที่เค้าทำมาหากิน(เปิดร้าน)ไม่ได้เลยช่วงที่มีการปิดถนนเนี่ยะ...สำหรับเราแล้วมันเล็กน้อยกว่ามากจริงๆ ยังไงก็เอาใจช่วยคนกรุงเทพที่ได้รับความเดือดร้อนและคนไทยทุกคนนะคะ

วันนี้ทำข้าวผัดให้คุณพ่อบ้านทานเป็นมื้อกลางวันค่ะ ส่วนกิวเอาแต่หม่ำขนม-น้ำหวานแก้วโต 555+ เลยไม่หิวซะอย่างนั้น ตอนแรกแกอยากทานผัดมาม่าค่ะ ผัดกับน้ำพริกเผาเยิ้มๆ แต่กิวเสียดายข้าวสวยที่ซื้อมาเมื่อวาน(กะว่าจะทานกับแกงจืดตำลึงหมูสับ)แช่อยู่ในตู้เย็น เลยต่อรองแกว่าทานข้าวผัดก่อน มื้อเย็นค่อยผัดมาม่า คุณชายของเราพยักหน้าหงึกหงักตามสไตล์ค่ะ ไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้ ขอไม่เผ็ดก็ทานได้หมด *-* เมนูข้าวผัดกุ้ง-ปูอัดก็เลยไ้ด้มาลงบล็อกแทนผัดมาม่า อิอิ

เครื่องปรุง-ส่วนผสม
1.ข้าวสวย ประมาณ 2 ทัพพี
2.ไข่ไก่ 1 ฟอง
3.กุ้ง+ปูอัดหั่นเป็นวงๆ
4.ผักกาดขาวหั่นเป็นชิ้น // มะเขือเทศหั่นชิ้นเล็กๆ // หอมใหญ่สับหยาบ //ต้นหอมซอย
5.ซีอิ๊วขาว // น้ำตาล // เกลือป่น //พริกไทย

วิธีทำ
1. ตั้งน้ำมันพอร้อน ใส่หอมใหญ่ลงผัดสักครู่ แล้วใส่กุ้งตามลงไป ผัดให้เข้าักัน
2. ตอกไข่ไก่ลงไป ยีไข่ให้แตกทั่วๆ ผัดๆๆ แล้วก็ใส่ปูอัดกับผักกาดขาว(หรือคะน้าก็ได้ค่ะ) ลงไป ตามด้วยมะเขือเทศ ผัดให้พอผักเกือบสุก
3. ใส่ข้าวสวยลงไป ยีข้าวให้่ร่วนเป็นเม็ดอย่าให้จับเป็นก้อน ผัดให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ
4. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวนิดหน่อย น้ำตาล 1 ช้อนชา เกลือป่นนิดเดียว ผัดให้ทั่ว เสร็จแล้วปิดไฟ โรยพริกไทยป่น กับต้นหอมซอย คนให้เข้ากันอีกครั้ง---ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ


ส่วนผสมข้าวผัดวันนี้ค่ะ


ผัดเสร็จแล้วค่ะ ถ่ายรูปจากในกระทะ(ไฟฟ้า)เลย


มุมใกล้ในกระทะจ้า


ใส่จานพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ


สังเกตดีๆจะเห็นว่าไข่กับกุ้งแอบ(เกือบ)ไหม้ด้วยล่ะค่ะ แหะๆๆ ไฟมันแรงไปหน่อยจ้า


ลากันไปด้วยภาพนี้นะคะ รวมข้าวผัดทุกมุมเลย น่าทานมั๊ยเอ่ยยยย




 

Create Date : 23 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 15:33:56 น.
Counter : 3186 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.