เรียนภาษาเกาหลีเอง มี.ค. 2012 (+สู่ภาษาจีน)
เดือนนี้ผ่านไป 2 ใน 3 เองแต่ก็จะเขียนบล็อกเลยเพราะจะเปลี่ยนไปเรียนภาษาจีนแล้ว เหอๆๆๆ

ที่เรียกว่าเรียนภาษาเกาหลีเป็นเรื่องเป็นราวในเดือนนี้ก็มีแค่อ่านหนังสือ Korean Grammars for International Learners ของมหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonse) ซึ่งไม่รู้จะชมหรือจะด่าดี หนังสือก็รวบรวมเนื้อหาต่าง ๆ ได้เป็นหมวดหมู่เรียบร้อยดี แต่อธิบายไม่ค่อยรู้เรื่อง นอกจากจะใช้ศัพท์เทคนิคแล้วยังมีบาง grammar point ที่ไม่บอกว่าแปลว่าอะไร บอกแค่ใช้เมื่อไร ประโยคตัวอย่างก็ไม่แปลให้อีกต่างหาก อ่านมันแบบคลุมเครือ ๆ ไปยังงั้นแหละ งง O_O (หมายเหตุ นี่หมายถึงส่วน advance ซึ่งเป็นครึ่งหลังของหนังสือ ในส่วนครึ่งแรกเป็น basic grammar มีคำแปลประโยคตัวอย่างให้)

ตอนนี้จขบ.คิดว่าแกรมม่าพอได้แล้ว เหลือแต่คำศัพท์ที่ยังห่างไกล เห็นได้เด่นชัดมากหลังจากลองทำ TOPIK 고급 ที่คะแนนพาร์ทคำศัพท์เตี้ยติดดิน แต่คะแนน reading กลับดีได้ (จริง ๆ นี่อาจแสดงให้เห็นว่าข้อสอบเขาออกมาไม่ค่อยดี วัดผลไม่ได้ เพราะถึงอ่านไม่รู้เรื่องจริง ก็เลือก choice ให้ถูกได้)

ปัญหาเรื่องคำศัพท์นี่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไงเพราะจขบ.ขี้เกียจเปิดดิก ขี้เกียจท่องศัพท์ โชคดีมีผู้ใจดีช่วยหิ้วหนังสือ bilingual eng-kor มาให้ มันเป็นหนังสือสำหรับให้คนเกาหลีฝึกอ่านภาษาอังกฤษ series นี้มีเป็นร้อยเล่มได้มั้ง ส่วนใหญ่เป็นหนังสือ classics ถ้าใครสนใจลอง search ybm sisa 대역

พอมีหนังสือพวกนี้แล้วเราก็ไม่ต้องเปิดดิก แต่ใช้วิธีไล่บรรทัดเทียบเอา หน้าทางซ้ายเป็นภาษาอังกฤษ หน้าทางขวาเป็นภาษาเกาหลี จขบ.ลองเริ่มอ่านเรื่อง 50 famous stories ไปบ้างแล้ว เหมาะกับมือใหม่มาก เพราะเป็นเรื่องสั้น ๆ (สั้นจริง ๆ ส่วนใหญ่หน้าสองหน้าจบ) แต่เรื่องโดเมนมันจะซ้ำ ๆ เป็นคิงไปรบอยู่นั่น (แต่หลัง ๆ อาจจะมีเรื่องพวกอื่นด้วย)

ทีนี้มาเรื่องภาษาจีน จริง ๆ จขบ.ก็สนใจเรียนภาษาจีนมาตั้งนานแล้วล่ะ เพราะอย่างน้อยเราก็เป็นคนไทยเชื้อจีน แถมยังมีคนพูดจีนได้อยู่ที่บ้านอีก สะดวกกว่าเรียนเกาหลีเยอะ แต่นอกจากนี้ก็มีเหตุผลอื่นดังนี้

1. อยากลอง assimil course เพราะเห็น Prof.Alexandar โฆษณาซะ อยากลองว่าเวิร์คจริงเหรอ จขบ.เป็นคนที่เรียนภาษาแล้วจะถนัดอ่านกว่าทักษะอื่นเยอะ ฟังห่วย พูดห่วย เขียนห่วย อยากรู้ว่า assimil จะพอทำให้เราพูดได้มั่งไหม

2. ภาษาจีนคนใช้เยอะ ตอนนี้จขบ.กำลังติดรายการออดิชั่นเกาหลี sbs kpop star อยู่ ดูแบบไม่มีซับฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ครั้นจะรอ eng sub ก็ช้ามาก หาคนแปลลำบาก กรุ๊ปทำซับถึงกับ recruit คนที่รู้ภาษาจีนเพื่อมาแปลจากซับจีนอีกที ซับจีนนี่ไม่ว่าอะไรก็ออกเร็ว คนปริมาณมหาศาลไง ยังไงมันต้องมีคนว่างมานั่งแปลแหละ ก็เลยคิดว่าหันมาเรียนจีนให้อ่านซับออก น่าจะเร็วกว่าฝึกเกาหลีให้ฟังออกหรือเปล่า?...

ตอนนี้ assimil มาได้สามวันแล้ว ภาษาจีนยากมากตรงเสียงพยัญชนะคล้าย ๆ กันเยอะแยกไม่ออก เสียงวรรณยุกต์ก็ยาก แถมมีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ด้วย เริ่มท้อและพิจารณาว่าจะตัดใจทิ้งพูดไปเลยดีไหม เหอๆๆๆ :P

แล้วไว้จะมาอัพเดตการเรียนภาษาจีนใหม่ค่ะ หรือถ้าเจอเวบอะไรดี ๆ ของภาษาเกาหลีก็จะมาแปะเหมือนกันค่ะ ^^ แล้วเจอกัน



Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 22:32:47 น.
Counter : 2082 Pageviews.

0 comment
เรียนภาษาเกาหลีเอง ก.พ. 2012
หลัง ๆ มานี้ (จริง ๆ ก็หลายเดือนมาแล้วล่ะ) จขบ.มักจะใช้เวลาไปกับการหาข้อมูลว่าชาวบ้านเขาเรียนภาษายังไงมากกว่าเอาเวลามาเรียน คืออ่านบันทึกพวกนี้มันสนุกกว่าเรียนนั่นเอง :P แต่ตอนนี้ชักเริ่มเบื่อแล้ว เพราะมันก็ซ้ำ ๆ คือ เรียนตาม textbook, สร้าง flash card, review, อ่านหนังสือทั่วไป, ฟังและดูนู่นนี่นั่น มันจะมีอะไรมากกว่านี้ได้ละเนอะ มันก็ต้องทำซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ และอาศัยความอดทน

ที่สำคัญคือต้องเลือกทำที่มันสนุกสำหรับเราและเหมาะกับเราด้วย

อย่าง Anki(flash card) นี่ ชมกันใหญ่ ชมกันออกหน้าออกตาทุกคน จขบ.ก็เอากะเขามั่ง ปรากฎยังไม่ถึงเดือนเลย ก็เลิกแล้ว T-T คือรู้สึกเหมือนมันเป็นภาระที่จะต้องมารีวิวทุกวัน ๆ เลยเบื่อ เลิกมาอาทิตย์กว่าได้แล้วมั้ง แต่นี่ถือว่าดีนะทำได้ตั้ง 3 อาทิตย์แหนะ เรื่องอื่น (i.e. การออกกำลังกาย) ฝืนทำได้แค่ 3 วันเอง

สิ่งทีสำคัญสำหรับการเรียนภาษาคือการทบทวน โดยเฉพาะศัพท์ ไม่งั้นเรียนแล้วก็ลืม แต่จขบ.นิสัยไม่ดีตรงที่ไม่ชอบอ่านหรือดูหรือฟังอะไรซ้ำ ๆ ดูหนังดูละครก็น้อยเรื่องมากที่จะดูซ้ำ หนังสือก็น้อยเล่มมากที่อ่านรอบสอง ขนาดอะไรที่มันสนุก ๆ ดู/อ่านแล้วชอบยังไม่อยากจะทวนซ้ำเลย นับประสาอะไรกับพวกบทเรียนนิ :(

ทางออกที่ดี(?)สำหรับคนแบบจขบ.คือ
1.ทนเรียนมันไปนาน ๆ เพราะนานระดับหนึ่งมันก็ได้ทวนซ้ำศัพท์ไรพวกนี้ไปเอง มันวนมา แต่เราจะลืมไปแล้ว ก็เปิดดิกใหม่ อย่างน้อยเปิดรอบสองจำไม่ได้ เปิดรอบที่ห้าน่าจะจำได้ล่ะนะ ต้องสมน้ำหน้าตัวเองที่ดันขี้เกียจไม่รู้จักรีวิวตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็รับกรรมที่ตัวเองก่อไป

2. ให้เวลากับการรับสื่อภาษาที่เรียนเยอะ ๆ เพราะยิ่งฟัง/ดู/อ่านเยอะ ในที่สุดศัพท์มันจะกลับมาซ้ำเร็วกว่าถ้าแบบนาน ๆ ฟัง/ดู/อ่านที ถ้าเป็นศัพท์ที่ใช้บ่อย ๆ ยังไงเดี๋ยวก็เจออีกง่าย (ว่ากันว่า 80% ของศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีขนาดเป็นแค่ 20% ของจำนวนศัพท์ทั้งหมดในภาษาหนึ่ง ๆ)

เอาละ มาถึงสิ่งที่เรียนในเดือนก.พ.
1. อ่าน Integrated Korean Intermediate 2 หนังสือดีมาก(มี mp3 ให้โหลดบนเน็ตด้วย) พอดีเจอในห้องสมุด เสียดายมีอยู่เล่มเดียวไม่มีเล่มที่ระดับสูงขึ้นในซีรี่ยส์เดียวกัน :( อ่านแป๊ปเดียวก็จบเพราะส่วนใหญ่รู้หมดแล้ว

2. เรียน Intermediate College Korean เป็นคอร์สของ UC Berkeley ให้เรียนบนเน็ตซึ่ง copy content มาจากหนังสือชื่อเดียวกัน ดีมากเลย(อีกแล้ว) มี audio ให้ฟัง แล้วยังมีตรวจ exercise บางอันให้ด้วย อันนี้ยากกว่า Integrated Korean ข้างบน(แม้ว่าจะชื่อ Intermediate เหมือนกัน)
อยากให้เขาทำระดับยากขึ้นกว่านี้ขึ้นเวบต่อจังเลย
//www.language.berkeley.edu/korean/10/index.htm

3. เปลี่ยนจาก follow คนญี่ปุ่นใน twitter มา follow คนเกาหลีแทน อันนี้ไม่ค่อยได้ผลเท่าไร เพราะทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นอ่าน tweet น้อยลง (อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเลยขี้เกียจอ่าน) หรือบางทีก็ skip อันเกาหลีไปอ่านเฉพาะภาษาอื่นที่ง่ายกว่า

4. เปลี่ยน interface ของ google chrome เป็นภาษาเกาหลี อันนี้ได้ผลนิดนึง เพราะบางทีมันต้องอ่านเวลาหาเมนู แต่ส่วนใหญ่มันมักจำตำแหน่งหรือเดาได้อยู่แล้ว
*จริง ๆ พยายามจะเปลี่ยน interface ของ windows ด้วยแต่มันต้องหา install เพิ่มเลยขี้เกียจ

5. review ศัพท์ด้วย Anki (เอิ่ม...)

6. นั่งอ่านที่เที่ยวในเกาหลีที่เวบ //english.visitkorea.or.kr/enu/CU/CU_EN_8_6_1_2.jsp
เขาทำเป็นเรื่องเป็นราว มี audio, grammar, vocab, game แต่เนื่องจากไม่ได้เป็นคอร์สสอนภาษาจริงจัง ระดับก็เลยไม่คงเส้นคงวา ก็ถือว่าไปอ่านเล่น ๆ ขำ ๆ ละกันค่ะ

7. ลง Lingoes chrome extension ปรากฎว่ามันมี dict naver ภาษาเกาหลีให้โหลดด้วยแฮะ เวลาเลื่อนเมาส์ไปบนศัพท์มันจะ pop ขึ้นมาเร็วเลยเพราะไม่ต้องไปโหลดเน็ต แต่พอดีมันโง่ จะหาเจอเฉพาะศัพท์โดดเท่านั้น ถ้า conjugate หรือต่อด้วย marker ต่าง ๆ มันจะหารากคำไม่เจอ เลยยังต้องใช้ร่วมกับ extension dict naver/daum อันเดิมที่เปิดดิกจากเน็ตอยู่ ซึ่งถึงช้าแต่ก็ฉลาดกว่า

8. นั่งทำข้อสอบ TOPIK ใหม่ แต่ใช้ข้อสอบชุดเดิม (เรียกว่าแอบขี้โกงนิดหน่อย แบบ part listening & reading บางข้อยังจำได้อยู่เลย) เชื่อหรือไม่คะแนน part vocab ได้คะแนนลดลง เกือบอยากเลิกเรียน เศร้ายิก แต่ยังดีที่ listening & reading ได้คะแนนเพิ่มขึ้น ค่อยมีกำลังใจหน่อย ว่าเรียนไปไม่เสียเปล่า

ปล. หลังจากกลับไปดูที่ทำ TOPIK นี้ครั้งแรกแล้วปรากฎว่าทำไปเมื่อปีที่แล้วเดือน 9 หรือ 10 นี่แหละ (ลืมแล้ว) ไม่ใช่เมื่อเดือนม.ค. เลยรู้สึกว่าตัวเองเขียน blog บันทึกการเรียนได้มั่วมาก ถึงกับคิดว่าจะเลิกเขียนดีมั้ย เหอ ๆ คนเรามั่วขนาด

แต่ถึงความจำจะแย่อย่างจขบ.แต่ก็ยังจะเรียนภาษาต่อไปนะคะ



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2555 22:21:55 น.
Counter : 2177 Pageviews.

1 comment
file mp3 สำหรับฝึกฟังภาษาเกาหลี
ข้างล่างที่ลิสต์ไว้นี้ฟังได้เป็นปีก็ไม่หมดค่ะ

1. Talk To Me In Korean -> iyagi series เป็นภาษาเกาหลีล้วน
//talktomeinkorean.com

2. Koreanclass101.com เลือกฟังตาม level ตัวเองได้เลย

3. TOPIK ที่ official site มีข้อสอบย้อนหลังเยอะมากพร้อมไฟล์เสียงที่เป็นข้อสอบ listening แต่เวลาฟังมันจะมีช่วงเงียบเพื่อเว้นให้คิดตอบคำถาม ถ้าเอามาฟังเล่น ๆ ไม่ได้ทำข้อสอบจะรำคาญ ให้ใช้โปรแกรม slice มาตัดส่วนที่เป็นเงียบ ๆ ทิ้งไป
//www.nch.com.au/splitter/index.html

เวลาดาวน์โหลดข้อสอบเก่า เพื่อความง่ายให้โหลดจากเวบนี้แทน ดูตรง previous papers //www.topikguide.in/

4. Integrated Korean บทสนทนาและประโยคตัวอย่างจากหนังสือระดับ beginner-advanced intermediate
//www.hawaii.edu/uhpress/mp3/klear/



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2555 21:22:07 น.
Counter : 5664 Pageviews.

0 comment
วิธีการเรียนภาษาต่างประเทศ สูตร Prof.Alexander
ถ้าจะให้ชัวร์ให้ไปอ่านที่ //foreignlanguageexpertise.com/ และดูวีดีโอใน youtube channel ของ prof.alex เองนะคะ

เพราะจขบ.ดูมานานแล้ว จะเขียนจากที่จำได้ค่ะ

1. ขั้น beginner&intermediate เรียนจากหนังสือ/audio จากยี่ห้อ assimil/linguaphone อะไรพวกนี้ ซึ่งถ้าหาไม่ได้ก็ยี่ห้ออื่นก็ได้ค่ะ ประเด็นคือ เป็นบทเรียนที่เริ่มจาก dialog แล้วจากนั้นก็มีอธิบายไวยากรณ์และคำศัพท์/expression ต่าง ๆ ที่ปรากฎในบทนั้น เวลาเรียนแนะนำให้ฟัง audio แล้วทำ shadowing ไปด้วย และทบทวนบทเรียนเก่า ๆ อย่างสม่ำเสมอ เรียนอย่างต่อเนื่องให้ได้ทุกวันเพื่อให้ได้ผลที่ดี ขั้นนี้ง่ายที่สุดแล้ว แค่หา textbook เวิร์ค ๆ มาเรียนตามไปเรื่อย ๆ จนจบ

หมายเหตุ: คนอื่นจะใช้ textbook style อื่นก็ได้ แต่ Prof แนะนำสไตล์ assimil/linguaphone เพราะใช้มากับตัวแล้วเวิร์คสุด

2. จาก intermediate สู่ advance ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากมาก เพราะบางภาษาจะหาหนังสือเรียนไปสู่ระดับสูงไม่ค่อยได้ ต้องขวนขวายควานหาอะไรมาเรียนเอง จาก vocab ที่รู้แค่สองพันจะกระโดดไปเจ็ดพันได้อย่างไร แต่กระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง Prof.Alex แนะนำแนวทางไว้ดังนี้ค่ะ
- หา textbook ระดับ beginner&intermediate ยี่ห้ออื่นมาอ่าน จะได้ทบทวนไปในตัวแล้วยังได้ศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมด้วย
- หาหนังสือ workbook, pattern drills แบบฝึกหัดต่าง ๆ มาทำ จะได้ศัพท์เพิ่มเติมด้วย
- หาหนังสือสำหรับเด็กมาอ่าน
- หา readers มาอ่าน (readers คือหนังสือสำหรับฝึกภาษา เป็นนิยายที่มีคำแปลศัพท์พิมพ์ลงไปในเล่มด้วยเลย จะได้ไม่ต้องอ่านไปเปิดดิกไป)บางภาษาจะหา readers ยากก็ให้ซื้อหนังสือ 2 เล่ม เล่มละภาษามาเปิดเทียบอ่านไปพร้อม ๆ กันทีละบรรทัด ทีละย่อหน้า ทีละบท หรือจะทีละเล่มก็แล้วแต่ความสามารถทางภาษาของเรา
- ท่องศัพท์จะโดยใช้ Anki (flash card software) หรืออะไรก็แล้วแต่ก็ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้ว Prof เขาไม่ทำ เขาใช้วิธีอ่านเยอะ ๆ เอาแทน อ่านซ้ำด้วย ปริมาณเยอะด้วย ในที่สุดศัพท์ก็จะซึมเข้าหัวเอง

พอเขียนออกมาแล้วก็ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาเนาะ ทำไมทำยากจัง



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2555 22:49:05 น.
Counter : 1994 Pageviews.

0 comment
แนะนำ podcast น่าสนใจ ภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น
ไว้ฟังเพลิน ๆ สนุกดี ฟังไม่ออกก็ช่างมัน ไม่ได้ออกข้อสอบ
ที่จขบ.ฟังประจำก็มี

English
- Freakonomics Radio
//freakonomicsradio.com/feed
เป็นมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อเรื่องรอบ ๆ ตัวที่เราไม่เคยคาคคิดถึงมาก่อน (จัดทำโดยคนเดียวกับที่เขียนหนังสือชื่อเดียวกัน) ที่จำได้แม่นเลยคือมีตอนนึงเขาเสนอความคิดว่า ประธานาธิบดีสหรัฐจะเป็นใครก็ได้ ไม่ค่อยมีนัยสำคัญต่อการรันประเทศ (ฮา) ส่วนตอนล่าสุดนี่ก็โดนใจมาก Save me from myself พูดถึงการที่คนเราควบคุมตัวเองไม่ค่อยจะได้เลยต้องใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ มาใช้ห้ามตัวเอง (ไม่ให้กินเยอะ, ไม่ให้เล่นพนัน ฯลฯ)

- The Moth Podcast
//themoth.prx.org/?feed=rss2
เป็นเรื่องเล่าจากชีวิตจริงของแต่ละคน (ใครจะสมัครไปเล่าก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เห็นเป็นนักเขียน) มีทั้งเรื่องตลก และเรื่องซาบซึ้ง

- NPR: Technology Podcast
//www.npr.org/rss/podcast.php?id=1019
รวบรวมข่าวเทคโนโลยีรายสัปดาห์ ตัดมาจากรายการต่าง ๆ ที่ออกอากาศในสถานี บางทีมันเลยซ้ำ ๆ อย่างสัปดาห์ที่ Steve Jobs ไป(สวรรค์) podcast นี้ก็จะมีแต่ข่าว Steve Jobs โดยไม่มีข่าวอื่นเลย @_@ ใครสนใจข่าวประเภทอื่น การเมือง เศรษฐกิจ ฯลฯ ก็ไปเลือก subscribe ได้ตามใจชอบจาก npr.org ค่ะ

Japanese
- MinCinema Lounge
//www.j-wave.co.jp/blog/mincinema/index.xml
เป็นรีวิวหนังค่ะ ทั้งหนังญี่ปุ่นและฮอลลีวู้ด คนจัดรายการรักหนังมาก หาจุดมาชมได้ทุกเรื่อง ไม่เห็นค่อยบ่นเรื่องไหนเลย (ผิดกับจขบ.ลิบลับ)

- 穂花のホントだよ
//www.tbsradio.jp/honoka/index.xml
คนจัดรายการตอบคำถามจากผู้ฟัง(บางทีก็คุยกันเองเฉย ๆ)เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์หญิงชาย คนในครอบครัว และอื่น ๆ สนุกดีค่ะ

ที่แปะมาทั้งหมดเป็น podcast update รายอาทิตย์ค่ะ
ใครฟังอะไรสนุก ๆ อยู่ ก็เอามาแชร์กันบ้างนะคะ



Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2555 22:21:20 น.
Counter : 2892 Pageviews.

2 comment
1  2  3  

lulla
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



Group Blog