ประวัติการเรียนภาษาเกาหลีจนถึงปีที่แล้ว (2011)
เริ่มเรียนด้วยตัวเองครั้งแรกประมาณสิบปีที่แล้วจากเวบของ Sogang University (ปัจจุบันยังมีอยู่เลย เวบดีมาก //korean.sogang.ac.kr/ มีบทเรียนระดับ beginner-intermediate)

แล้วก็ซื้อหนังสือ teach yourself korean มาอ่านด้วย อันนี้ไม่แนะนำ เพราะดันใช้ romanization เป็นหลัก ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเลย เพราะ hangul อ่านง่ายกว่าตั้งเยอะ -_-;;

นอกจากนั้นก็ซื้อดิก นิทาน และการ์ตูนมาอ่าน (ด้วยความยากลำบากมาก ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปซื้อ)

ช่วงนั้น ขยันสุด ๆ เปิดดิกแปลเพลงด้วย แปลเป็นร้อยเพลงได้มั้ง นึกย้อนกลับไปไม่รู้แปลเข้าไปได้ยังไง เพราะปัจจุบันรู้สึกว่าภาษาเกาหลีของตัวเองยังไม่ดีขนาดนั้น (หรือตอนนั้นภาษาเกาหลีอาจจะดีกว่าตอนนี้ก็เป็นได้)

แต่แล้วก็เกิดการเบนเข็มไปเรียนภาษาญี่ปุ่นแทน เนื่องจากหาโรงเรียนเรียนง่ายกว่าเยอะ (และ BoA ออกผลงานญี่ปุ่นมากกว่าเกาหลีอีก)

10 ปีผ่านไปรู้สึกเสียดายที่อุตส่าห์เรียนเกาหลีมาพอสมควรแล้ว แต่ไปไม่ถึงระดับที่พอใช้งานได้ (จริง ๆ ภาษาญี่ปุ่นก็ใช่ว่าจะเก่ง ดูละครยังต้องพี่งซับ อ่านนิยายยังไม่สนุกเพราะสะดุดตลอด แต่ก็พอแล้ว แบบว่ามักน้อย(จริง ๆ คือขี้เกียจแล้ว พัฒนาไม่ขึ้น))

10 ปีผ่านไป กรุงเทพมีโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีหาไม่ยากเท่าไรแล้ว (แต่เราก็แก่จนไม่กล้าไปเรียนกับเด็กแล้ว) หนังสือเรียนภาษาเกาหลีก็หาซื้อได้ง่ายในร้านหนังสือทั่วไป (แต่เห็นมีแต่ระดับต้น หากลางกับสูงไม่เจอเลย) เปรียบเทียบกับหนังสือญี่ปุ่นในตลาดแล้วก็ยังเป็นฟ้ากับเหวอยู่ดี พูดถึง resource online ก็ยังน้อยกว่าเยอะ แต่จะให้รอจนเป็นป้าแล้วค่อยมาเรียนก็คงจะไม่ไหว

เอาน่ะ ไม่ต้องรออะไรแล้ว เริ่มเลยดีกว่า!

ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (ช่วงวิกฤตน้ำท่วม) ก็เลยไปเอาหนังสือเรียนที่สะสมไว้ชาติที่แล้วมาปัดฝุ่นอ่านซะที ได้แก่
-ganada beginner1-2, intermediate 1-2
series นี้ค่อนข้างจะ popular พอสมควรมั้ง? เวลาอ่านตามฟอรัมมีคนพูดถึงบ้าง แต่จขบ.ไม่ค่อยปิ๊ง เพราะรู้สึกคนเขียนคำอธิบายจะไม่ใช่ native english speaker เลยอธิบายไม่ค่อยแจ่มแจ้ง แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ เรียกว่าพอไปได้ละกัน แต่เทียบกับ sogang แล้ว sogang ดีกว่า ฟรีด้วย อยู่บนเวบเลย ศักดิ์ศรีซอกังก็ดีกว่าเพราะเป็นมหาวิทยาลัย แต่ ganada เป็นแค่โรงเรียนสอนภาษา

-seoul national university, korean 1-4
series นี้ดีมาก แต่ละเล่มมีประมาณสามสิบบท เนื้อหาแน่นเอี้ยด แต่ข้อเสียคือเป็นภาษาเกาหลีล้วน พอดีจขบ.รู้ grammar มาก่อนแล้ว มาอ่านรีวิวเฉย ๆ เลยไม่ค่อยประสบปัญหามากเท่าไร

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอหมายเหตุไว้ว่าหนังสือพวกนี้เก็บมาสิบปีแล้ว สมัยนี้เขาคง revise กันไปไม่รู้กี่รอบ คุณภาพคงดีขึ้นกัน(? ถ้าดูวีดีโอของ Prof. Alex จะพบว่าแนวโน้มหนังสือเรียนภาษาง่ายลง ๆ เรื่อย ๆ textbook รุ่นเก่า ๆ จึงอาจจะเวิร์คกว่า?)

ที่น่าเสียดายคือจขบ.ไม่มีหนังสือระดับ advance (เล่มห้าเล่มหก) เลยซักกะยี่ห้อ เลยจอดอยู่แค่นี้ T-T จะซื้อก็ต้องสั่งแพง ๆ จากเมืองนอกซึ่งงกเกินจะทำ

ประวัติการเรียนจนถึงปีที่แล้วก็จบเพียงแค่นี้



Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2555 20:57:55 น.
Counter : 2817 Pageviews.

4 comments
  
หุหุ หวัดดีค่ะ
แวะมาทักทายค่ะ จขบ. เก่งจังค่ะ
เราพยายามเรียนภาษาด้วยตัวเองแต่ก็ไปไม่ถึงไหนเลย
ถ้ามีเคล็ดลับดีๆ ขอคำแนะนำบ้างนะค่ะ :)
โดย: Nepster วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:54:23 น.
  
จขบ.ไม่เก่งหรอกค่ะ อาศัยเรียนนานและถึก ตอนนี้อายุชักเริ่มเยอะ เลยต้องเริ่มหาวิธีเรียนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังอยู่ในช่วงลองผิดลองถูกค่ะ แต่ไว้เดี๋ยวจะเขียนวิธีที่ prof.alex แนะนำไว้นะคะ ^^
โดย: lulla วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:39:57 น.
  
오아!! 정말 열심히 공부하구나!
โดย: จิ้งจอกฟ้า วันที่: 8 มีนาคม 2555 เวลา:13:57:21 น.
  
อ่านแล้วเข้าใจอารมณ์เลยค่ะ แต่ไม่เหมือนกันตรงที่เราเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนแล้ว
ส่วนภาษาเกาหลี ไม่มีพื้นเลยค่ะ แต่กำลังสนใจคิดอยากจะเรียนอยู่
ซึ่งภาษาญี่ปุ่นของเราตอนนี้ก็แย่ลงไปเยอะ เพราะไม่ได้ใช้ (เข้าใจที่จขบ. เขียนมากๆว่า จริงๆขี้เกียจแล้ว พัฒนาไม่ขึ้น 555)

ลองหาโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีในกทม.ก็ยังมีน้อยอยู่จริงๆค่ะ เทียบกับโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแล้ว คนละเรื่องเลย
ยังไงเป็นกำลังใจให้เช่นกันนะคะ
โดย: ZoSha วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:20:41:45 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lulla
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



Group Blog