The Tale of the Princess Kaguya
ภาพงามมาก เหมาะเจาะกับเนื้อเรื่องที่จะเล่าซึ่งนำมาจากตำนานพื้นบ้านที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี สไตล์ของ animation มีเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเนื้อเรื่องด้วย ครีเอทดี ชอบมาก

ดู trailer อย่างยาวได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=9lDrkokymLQ

ตำนานเจ้าหญิงคางุยะนี่ถ้าชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น ยังไงก็ต้องเคยเจอแน่นอน ที่ว่าชายตัดไม้เจอทารกอยู่ในกระบอกไผ่ เด็กเติบโตอย่างรวดเร็วขึ้นเป็นเจ้าหญิงที่งดงาม จนบรรดาชายผู้สูงศักดิ์ต่างพากันมาสู่ขอ แต่เจ้าหญิงไม่อยากแต่งงานก็เลยออกโจทย์ยากให้แต่ละคนไปหาของล้ำค่าที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกนี้มาให้ หาได้แล้วจะแต่งงานด้วย ภายหลังแม้แต่จักรพรรดิ์ยังมาร่วมขบวนสู่ขอกับเขาด้วย สุดท้ายอวสานที่มีขบวนจากดวงจันทร์มารับเจ้าหญิงกลับดวงจันทร์ไป (สรุปเจ้าหญิงเป็นคนดวงจันทร์มาเกิด)

หนังก็เล่าเรื่องตามนี้เปี๊ยบเลย แต่แน่นอนว่าต้องมีรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มมาเยอะ เจ้าหญิงตอนเด็ก ๆ นี่น่ารักมาก เราเห็นพัฒนาการเจ้าหญิงค่อย ๆ เดินเตาะแตะ เด็ก ๆ ในป่าทุกคนก็เรียกเจ้าหญิงว่าหน่อไม้ (ชื่อเจ้าหญิงคางุยะนี่มาตั้งทีหลัง ตอนโตแล้ว) animation ช่วงนี้น่ารักมาก ดูแล้วยิ้มปากฉีกกันเป็นแถว ๆ

ถัดมาเป็นสิ่งที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็แปลกที่ไม่เคยสงสัย ว่าเด็กที่เติบโตในป่าแท้ ๆ จะกลายเป็นเจ้าหญิงงดงามมารยาทดีที่มีพวกเจ้าชายมาสู่ขอได้ยังไง พ่อแม่ก็เป็นคนตัดไม้อยู่ในป่า ไหงเลี้ยงลูกให้เป็นเจ้าหญิงได้ ตรงนี้หนังก็เล่าให้ดูความเป็นไปอย่างละเอียด รวมถึงสภาวะจิตใจของเจ้าหญิงด้วย คนเคยวิ่งเล่นสนุกสนานอยู่ในป่า อยู่ ๆ ต้องมาเป็นเจ้าหญิงกิริยามารยาทงดงามอยู่ในวังที่ถึงแม้จะใหญ่โตโอ่อ่า ก็ไม่มีทางกว้างใหญ่เหมือนป่าได้

จากช่วงนี้เป็นต้นไป หนังจะสนุกน้อยลง(อย่างน้อยก็ในความคิดเรา) ดูแล้วแอบเบื่อเล็กน้อยถึงปานกลาง จนกระทั่งตอนสุดท้ายที่กลับมาว้าวอีกครั้งกับธีมของเรื่อง ที่แท้นี่มันพุทธศาสนานี่นา!

(ถ้าไม่อยากโดนฝังหัวไว้ก่อน ให้ไปดูหนังก่อนมาอ่านต่อ)

ข้อคิดที่ได้จากหนัง แล้วแต่คนจะเก็บเกี่ยวได้ อย่างแรกที่เห็นกันชัด ๆ ทุกคนก็พ่อแม่เลิกมากะเกณฑ์ชีวิตลูกสักที ชอบคิดเอาเองว่าอะไรคือความสุขของลูก

อย่างที่สองคือ แม้แต่ในสมัยนั้น เงินก็คือพระเจ้าที่บันดาลได้ทุกสิ่ง จากลูกคนตัดไม้ ขอแค่มีเงิน ก็สามารถเสกให้เป็นเจ้าหญิงได้ในชั่วข้ามคืนแบบไม่แคร์แบคกราวด์ใด ๆ ชายสูงศักดิ์มาต่อคิวขอเป็นเมียกันใหญ่ สวยจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แค่ฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ก็ยกโขยงมากันแล้ว (สมัยนั้นไม่ให้เห็นหน้าหญิงจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน), เรื่องค่านิยมบูชาความงาม, งามไปเป็นร้ายแก่ตัว ฯลฯ

เรื่องคนดวงจันทร์มาเกิดบนโลกแล้วลืมอดีตเก่า และพอกลับดวงจันทร์ (สวมผ้าคลุม) ก็ลืมอดีตที่โลกนี่มันคือการเวียนว่ายตายเกิดนี่เอง เรามาเกิดใหม่ก็ลืมอดีตเก่า แต่แม้ความจำจะหายไปแต่ไม่ทั้งหมด ความรู้สึกยังคงอยู่ เราเลยรู้สึกถูกชะตาคนที่เคยเจอครั้งแรกได้ และเจ้าหญิงก็จำเพลงที่เคยได้ยินในอดีตชาติได้

ชีวิตในโลก มีทั้งสุขและทุกข์ แต่ถึงเวลาต้องจากไป ก็อาลัยไม่อยากจาก แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อถึงเวลามีคนจากดวงจันทร์มารับ ถึงจักรพรรดิ์จะเอาทั้งกองทัพมาสู้ เจ้าหญิงก็ต้องไป

บางคนอาจตีความได้ว่าเจ้าหญิงมีความทุกข์บนโลกมาก (เพราะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการ ไม่ได้อยู่กับที่คนรัก และมีแต่ผู้ชายมาขอแต่งงานด้วยไม่มีที่สิ้นสุด) จนในที่สุดฆ่าตัวตาย <= เพราะชั่ววูบที่ทุกข์อยู่นั้น เจ้าหญิงคิดแวบขึ้นมาว่าไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว เป็นการ trigger ให้ขบวนจากดวงจันทร์มารับ พ่อแม่เจ้าหญิงก็ต้องร้องห่มร้องไห้เสียใจที่ลูกสาวมาตายก่อนวัยอันควร

โดยสรุป แม้จะไม่ได้สนุกตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็เป็นหนังที่ควรค่าแก่การชม ทั้งภาพและเรื่องโบราณแต่ล้ำมาก และยังไงก็ดูสนุกกว่า the wind rises เยอะด้วย แถมถัดจากคางุยะแล้ว จะเหลือแค่ marnie ให้ดูอีกแค่เรื่องเดียว แล้วก็ไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไร studio ghibli จะกลับมาทำหนังเรื่องใหม่อีกนะ

ปล. น่าเสียดายที่เนื้อเรื่องส่วนที่ย้ายเข้าเมือง ไม่ยอมแต่งเรื่องให้เจ้าหญิงดื้อ ๆ เถียง ๆ หน่อย แล้วก็แอบหนีบ่อย ๆ ด้วย จะได้คงคาแรกเตอร์เด็กบ้านป่าหน่อย นี่ปล่อยให้ซึมกระทือไปครึ่งเรื่อง ความสนุกเลยดร็อปไปช่วงหนึ่งเลย :(



Create Date : 02 มกราคม 2558
Last Update : 2 มกราคม 2558 23:48:17 น.
Counter : 651 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lulla
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



Group Blog