ซีอาน...เสน่ห์เมืองเก่า 4
วันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางครั้งนี้แล้ว วันพรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางกลับ น่าเสียดายจัง งั้นต้องเต็มที่กับวันที่เหลือก่อนดีกว่า เริ่มวันนี้ด้วย เจดีย์ต้าเยี่ยน วัดห่านป่าใหญ่ วัดแห่งนี้ก็มีตำนานเล่าว่า นานมาแล้วมีวัดแห่งหนึ่ง ณ อาณาจักร Magadha (อดีตอาณาจักรแห่งหนึ่งในดินแดนของประเทศอินเดียปัจจุบัน) ตอนเช้าของวันสำคัญทางพุทธศาสนาวันหนึ่ง เมื่อพระสงฆ์ในวัดออกเดินบิณฑบาต แต่กลับไม่มีชาวบ้านออกมาทำบุญกันเท่าใดนัก เมื่อกลับถึงวัด พระสงฆ์รูปหนึ่งจึงกล่าวอย่างทอดถอนใจว่า "พระโพธิสัตว์ท่านคงไม่หลงลืมไปนะว่าวันนี้เป็นวันอะไร ... " ในเวลานั้นเอง ห่านป่าฝูงหนึ่งได้บินผ่านวัด พอคำพูดของพระสงฆ์รูปนั้นกล่าวไม่ทันขาดคำ ก็มีห่านป่าตัวหนึ่งบินแยกตัวออกมาจากฝูง ร่วงตกลงมาตายในบริเวณวัด ทำให้พระทั้งวัดตกตะลึงเป็นอันมาก โดยต่างก็สันนิษฐานกันไปว่า พระโพธิสัตว์ท่านคงได้ยินคำรำพึงรำพันจึงอุทิศร่างหนึ่งของท่านเป็นห่านป่าส่งมาเป็นอาหารให้แก่เหล่าสงฆ์ เมื่อคิดได้ดังนี้ พระสงฆ์ในวัดจึงเลิกรับประทานเนื้อ และได้สร้างเจดีย์หินขึ้น ณ ที่ซึ่งห่านป่าลอยร่วงลงมานอนเสียชีวิตนั่นเองและวัดแห่งนี้เป็นวันที่พระถังสัมจั๋งที่เรารู้จักกันในเรื่องไซอิ๋ว ท่านได้นำพระไตรปิฏกมาจากประเทศอินเดีย มาคัดลอกและแปลเป็นภาษาจีน ที่ด้านหน้าของวัดมีรูปปั้นของพระถังขนาดใหญ่ตั้งเอาไว้ด้วยช่วงบ่ายจะได้ไปพิพิธภัณฑ์ซีอาน ที่เป็นแหล่งเก็บสะสมข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณมากมาย และยังแสดงเรื่องราวความเป็นมาต่าง ๆ อารยธรรมตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เส้นทางสายไหม มีคนเข้าชมเยอะจริง ๆ (ต้องเข้าแถวซื้อตั๋ว) ตอนเย็นได้ไปเดินช้อปปิ้งแถวหอนาฬิกากับตลาดมุสลิม เพราะที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมที่ต้องเดินทางไปค้าขายในสถานที่ไกล ๆ ก็เป็นเมืองท่ามีคนต่างชาติ ต่างภาษาเข้ามาอาศัยอยู่ด้วย เราก็จะเห็นผู้คนที่หน้าตาเป็นคนจีนแต่เป็นมุสลิมพ่อเราก็ได้ใบชากลับมาอีกหอบใหญ่ (เพราะที่บ้านหมดสต๊อกไม่มีจะชงแล้ว) และอุปกรณ์อื่น แถมไปช่วยคนอื่นเลือกอีก ชำนาญมาก คืนนี้งานหนักแน่ต้องมาแพ็กของที่มา (ของพ่อคนเดียว) พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเร็ว เพราะเครื่องออกแต่เช้าอีก เหนื่อยจัง แต่ดีใจนะที่จะได้กลับเมืองไทยแล้ว คิดถึงอาหารไทยมาก
ซีอาน...เสน่ห์เมืองเก่า 3
หลังจากห่างหายกับการอัพ blog ไปนาน เนื่องจากเหนื่อยหน่ายกับที่ทำงานอย่างแรง ทำให้พลังชีวิตหายไปหมด กว่าจะชาร์ตพลังกลับมาให้ได้เหมือนเดิม ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง ลืมเรื่องแย่ ๆ แล้วกลับมาเรื่องเที่ยวต่อกันดีกว่า เช้านี้เตรียมตัวไปเขาฮัวซาน ที่เคยได้ยินในหนังจีนกำลังภายในที่คู่กับสำนักง้อไบ๊ และเป็นหนึ่งในห้าของภูเขาที่ชื่อเสียงของจีนด้วยเราต้องมายืนต่อแถวเพื่อนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอด สูง ๆ น่าตื่นเต้น แต่มีบางคนเดินขึ้นไปด้วย แข็งแรงน่าดูเลยที่นั่นจะมีความเชื่อว่าเอากุญแจเขียนชื่อคนที่เรารัก แล้วก็ล็อคความสุข ความรักเอาไว้และข้างบนก็มีโรงแรมให้พักด้วย ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่งนะ พอลงจากเขามาก็มาเติมพลังด้วยไข่ต้มชาอร่อยมาก แต่ไม่มีรูปมาให้ดูนะ เพราะจัดการไปซะก่อน (ลืม) ในช่วงบ่ายก็ไปเดินเล่นกันที่กำแพงเมืองซีอานเป็นกำแพงที่สมบูรณ์ที่สุดและสร้างขึ้นเพื่อฮวงจุ้ยตอนเย็นอากาศก็เย็นสบายดี ไม่ร้อนอบอ้าวด้วย เย้มื้อเย็นนี้จะได้ลองอาหารขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว นั่นก็คือ เกี๊ยว รสชาติก็อร่อย มีหลายไส้มากเลย พนักงานยกมาวางตั้งสูงมาก...ก ลองกันจนจุก หลังจากนั้นต้องไปดูการแสดงในสมัยถังกันต่อการแสดงมีหลายชุด คนแสดงมีความสามารถเฉพาะตัวสูงและโชว์มาได้ดี ทำได้น่าประทับ มีชาวต่างชาติเยอะมาก (ได้นั่งติดขอบเวทีเลย) ก็คงเหมือนกับของที่เมืองไทย ทำให้คนที่มาเที่ยวได้เข้าใจวัฒนธรรม ศิลปะ (แบบคร่าวๆ)
ซีอาน...เสน่ห์เมืองเก่า 2
เรายังอยู่ที่เมือง Luo Yang ที่เป็นเมืองเก่า เค้าบอกว่า เมืองเก่าเก้ารัชสมัย ช่วงสาย ๆ ก็เตรียมตัวไปเที่ยวต่อ หลังจากเติมพลัง(อาหารเช้าที่โรงแรม) เราพร้อมจะลุย ที่หมายแรกของวันนี้ ศาลเจ้ากวนอู เป็นสถานที่ฝังศีรษะของกวนอูในเรื่องของสามก๊ก เมื่อกวนอูแพ้สงคราม จึงถูกจับตัวไปและถูกตัดหัว ซุนกวนส่งศีรษะของกวนอูส่งไปให้โจโฉ ส่วนโจโฉมีความชื่นชมในตัวของกวนอู จึงได้นำศีรษะของกวนอูไปฝังอย่างสมเกียรติ กวนอูเป็นน้องร่วมสาบานของเล่าปี่และเตียวหุย มีหน้าแดง เครายาว มีง้าวมังกรเขียวเป็นอาวุธประจำกาย ต่อสู้ร่วมกับเล่าปี่ด้วยความจงรักภักดี ความกล้าหาญ กวนอูได้รับการยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เค้าอธิฐานให้คนในครอบครัวมีความสุข ความแข็งแรง โดยการเขียนชื่อในป้ายสีแดงไว้ แล้วก็ไปผูกกับต้นไม้หรือสิงโตแบบนี้ไปกันต่อดีกว่า ถ้ำหลงเหมิน ที่นี่ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกเหมือนกัน มีการแกะสลักพระพุทธรูปตลอดหน้าผา ที่น่าตื่นตาก็คือ พระพุทธรูปองค์นี้ มีเรื่องเล่าว่าพระนางบูเซ็กเทียนทรงบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อนำมาสร้างใช้เวลา 25 ปี โดยมีแรงงาน 700,000 คน อลังการจริง ๆ หลังจากกินข้าวกันแล้วก็ไปต่อกันที่ วัดไป๋หม่า หรือวัดม้าขาวฮ่องเต้ฮั่นหมิงตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ทรงพระสุบินว่ามีบุรุษทองคำเหาะไปทางทิศตะวันตก เมื่อพระองค์ตื่นขึ้นจึงสอบถามกับขุนนางว่า ฝันเช่นนี้มีความหมายว่าอย่างไร ขุนนางผู้หนึ่งจึงตอบไปว่าทางทิศตะวันตกมียอดคนถือกำเนิดขึ้น เมื่อได้ยินเช่นนั้นพระองค์จึงรับสั่งให้ขุนนางสิบกว่าคนออกเดินทางไปยังทิศตะวันตกเพื่อเสาะหายอดคนผู้นั้น เมื่อขุนนางเดินทางไปถึงดินแดนที่ปัจจุบันคือ อัฟกานิสถาน จึงได้พบกับพระสงฆ์สองรูป โดยพระสงฆ์สองรูปนี้นำพระคัมภีร์และพระพุทธรูปมาด้วยจำนวนหนึ่ง ดังนั้น บรรดาขุนนางราชวงศ์จึงนิมนต์พระสงฆ์สองรูป และใช้ 'ม้าขาว' บรรทุกพระคัมภีร์และพระพุทธรูป มายังนครหลวง(เมืองลั่วหยาง) ในขณะนั้น และได้ใช้ชื่อว่าวัดม้าขาวเพื่อเป็นเกียรติแก่ม้าขาวที่นำพุทธศาสนามาที่ประเทศจีนมาถึงที่สุดท้าย(ของวันนี้)แล้ว เทศกาลดอกโบตั๋นตอนที่มาถึงดอกไม้เริ่มโรยไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรดูที่ยังมีอยู่ก็แล้วกันสีชมพูสีเหลืองสีขาวแถมให้ ขออภัยฝีมือถ่ายรูปยังไม่เข้าขั้นเท่าไร แต่จะพยายามให้ดีกว่านี้
ซีอาน...เสน่ห์เมืองเก่า 1
ไชโย ! ในที่สุดก็ได้เวลาไปเที่ยวแล้ว ทิ้งงานที่แสนเหนื่อยหนักและน่าเบื่อไว้ที่กรุงเทพ ฯ งั้นก็ Let's go ไปรอขึ้นเครื่องตั้งแต่ 5 ทุ่ม กว่าเครื่องจะออกก็ประมาณตี 2 (ไปนั่งหลับรอดีกว่า) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ได้เห็นแสงอาทิตย์กำลังส่องมาให้ความอบอุ่นแก่ชาวโลก หลังจากผ่านด่านตรวจ (ไม่รวมเหตุการณ์ที่หากระเป๋าไม่เจอ) ก็เรียบร้อยดี งั้นต้องเติมพลังให้ร่างกาย เพื่อเราจะมีแรงพร้อมจะลุยต่อ เมืองซีอานเป็นเมืองหลวงของมณฑลซ่านซีในประเทศจีนและเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก โดยมีประวัติมากกว่า 3,100 ปี แล้วก็เคยเป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิจีนมา13 ราชวงศ์ (โจวตะวันตก ฉิน ฮั่นตะวันตก ซินหม่าง ฮั่นตะวันออก จิ้นตะวันตก เฉียนเจ้า เฉียนฉิน โฮ่วฉิน เว่ยตะวันตก โจวเหนือ สุย และถัง) ที่หมายแรกของวันนี้ก็คือ "สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี" สุสานแห่งนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญ เมื่อชาวนาคนหนึ่งกำลังขุดบ่อน้ำลึก 3 เมตร แล้วก็พบกับซากดินเผาชิ้นส่วนร่างกายของมนุษย์ ทำให้ทางการของจีนเข้ามาดูแล ขุดค้นและทำการศึกษา ในที่สุดก็ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก และที่โด่งดังที่สุดก็คือ รูปปั้นทหารของจักรพรรดิการจัดตำแหน่งกระบวนทัพวางตามตำราพิชัยสงครามซุนวู แบ่งเป็น 11 แถว ประกอบด้วย แม่ทัพฝ่ายบู๊ แม่ทัพฝ่ายบุ๋น พลหอก พลดาบ สารถีประจำรถม้า ม้าศึกโครงหน้าและทรงผมของหุ่นแต่ละตัวก็จะไม่เหมือนกันแตกต่างกันตามเผ่าพันธุ์ แล้วหุ่นทหารมีรายละเอียดต่าง ๆ รองเท้าก็มีการทำลายที่พื้นรองเท้าไว้เพื่อกันลื่น (แหมคิดได้ไงเนี่ย) หุ่นแต่ละตัวก็มีการลงสีสันไว้อย่างสวยงาม แต่น่าเสียดายที่เมื่อขุดขึ้นมาเจอกับอากาศทำให้สีจางหายไปหมดจากการขุดค้นสุสาน เราได้เข้าชม 3 หลุม คือหลุมหมายเลข 1 เป็นรูปปั้นทหารและม้าขนาดเท่าตัวจริง ประมาณ 6,000 ชิ้นหลุมหมายเลข 2 เป็นรูปปั้นกองทัพผสมม้าศึกหลุมหมายเลข 3 เป็นกองบัญชาการทหาร (มีความสำคัญมากที่สุด) จักรพรรดิจีนมีสิ่งที่ปรารถนา อย่างแรกคือ ยาอายุวัฒนะ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องสร้างสุสานขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นที่ประทับในภพหน้า สุสานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บพระบรมศพของพระองค์ และด้วยความเชื่อที่ว่ารูปปั้นทหารเหล่านี้จะเป็นบริวาร ผู้ปกป้องของพระองค์ แล้วยังมีรูปหล่อสัตว์ต่าง ๆ เช่น เป็ด ปลา ด้วยสุสานที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ทำให้เราเห็นถึงความเจริญ ความก้าวหน้าของสถาปัตยกรรม วิศวกรรมอันน่าทึงเมื่อสมัยหลายพันปีก่อน ที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ออกมาได้
พ่อพาไปไหว้พระวันเกิด
เมื่อวันเสาร์ตื่นเช้าเหมือนปกติ เพราะนัดกับพ่อแม่ไว้ว่าจะไปไหว้พระในวันเกิด(ของพ่อ) ตั้งใจไว้ว่าจะไปไหว้พระองค์ใหญ่ ๆ เริ่มจากที่วัดกัลยา ฯ กันก่อน ต้องไปนั่งเรือข้ามฝาก บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยากำลังสบายดี แดดไม่ค่อยร้อนเท่าไร (เหมือนจะมีฝนด้วย) พระองค์ใหญ่และงามจริง ๆ เริ่มจะรู้สึกหิวแล้วต้องเติมพลังหน่อย ก็เลยไปกันต่อที่เยาวราช แถวนี้พ่อชำนาญมาก แทบจะหลับตาเดินได้แล้วมั่ง (อันนี้เกินไปหน่อย) อะไรอร่อยรู้หมด หลังจากเติมพลังกันนิดหน่อยแล้ว ก็ไปกันต่อที่วัดมังกร ฯ แต่ที่นี่ห้ามถ่ายรูป เสียดายจัง เพราะวัดนี้มีศิลปะที่สวยมาก ก็ถ่ายมาได้เฉพาะทางเข้านะเราก็จะไปที่วัดไตรมิตร ฯ กันต่อ แต่ระหว่างทางก็ขอแวะอีกหน่อยนะ ลูกเดือยต้มน้ำตาล หวาน อร่อย ชื่นใจจังมันต้มน้ำตาล (ของแม่) หอมน้ำขิงมาก วันนี้มีจัดงานวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกกัน เริ่มต้นกันที่วงเวียน เลยทำให้ดูคึกคักกันหน่อย ตามถนนก็ประดับธงงานเต็มไปหมด แล้วก็เดินต่อมาเรื่อย ๆ ไปไหว้พระกันต่อที่วัดไตรมิตร ฯ พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก วันนี้ก็อิ่มบุญไหว้พระ(องค์ใหญ่) สบายใจจัง Happy Birthday คุณพ่อครับ รักมากที่สุดเลย มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกนาน ๆ ครับ Create Date : 20 เมษายน 2551 3 comment Last Update : 20 เมษายน 2551 10:51:19 น. Counter : 1645 Pageviews. ShareTweet