Funny@SIN 4: Orchard ถ้าพูดถึงย่านนี้แล้ว หลายๆคนคงรู้ดีว่าต้องมา Shopping อย่างแน่นอน..งั้นเรามาแนะนำห้างดังย่านนี้กันเลยดีกว่า... 1. Delfi Orchard 2. DFS Galleria 3. Far East Plaza 4. Far East Shopping Mall 5. Forum The Shopping Mall 6. Ion Orchard 7. Liat Towers 8. Lucky Plaza 9. Meridien Shopping Centre 10. Midpoint Orchard 11. OG Orchard Point 12. Orchard Emerald 13. Orchard Plaza 14. Orchard Towers 15. Pacific Plaza 16. Palais Renaissance 17. Paragon 18. Park Mall 19. Plaza Singapura 20. Scotts Shopping Centre 21. Shaw House 22. Takashimaya 23. Tang Plaza 24. Tanglin Mall 25. Tanglin Shopping Centre 26. The Centre Point 27. The Heeren 28. The Shopping Gallery 29. Tudor Court Shopping Gallery 30. Wheelock Place 31. Wisma Atria เยอะมากๆ เลยทีเดียว....เดี๋ยวไปดูกันว่าไปซ่าส์ ที่ไหนกันมาบ้าง อย่างแรกเลย....ก็ต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่สถานี NS 22 Orchard กันค่ะ สำหรับการเดินทางเที่ยวในสิงค์โปรครั้งนี้ถือว่าคุ้มมากๆ เพราะนั่งรถประดุจนั่งฟรีเลยทีเดียว เพราะซื้อตั๋วรถแบบเหมา 3 วัน เที่ยวให้หน่ำเลยทีเดียว...แต่วันที่ 4 เลือกแบบซื้อตั๋วราคาปกติเอา เพราะนั่งไปสนามบินเฉยๆ...เพ้อกันมามากละ ลุยเลย.... ซึ่งภาระกิจในการมาในย่านนี้คือ หาซื้อ Longchamp ตาม Order ของพี่ๆที่ทำงานค่ะ...โดยได้ Drop ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ค่ะ ดูกัน ซึ่งบรรยากาศโดยรอบถือว่าน่านั่งเล่นชิวๆ เหมือนกันค่ะ ซึ่งทางเข้าของห้างจะสวยมากโดยจะมีน้ำพุ คล้ายๆกับเซ็นทรัลเวิลด์บ้านเราเลยทีเดียว แล้วก็จะมีโดมเข้าไป ถือว่าสวยเลยทีเดียว และมีการประดับตกแต่ง เช่น ลูกมะพร้าวครึ่งเซี่ยวที่ได้เห็นไป ปล. อาจจะไม่ใช่ก็ได้ จินตนาการเอาเองอีกแล้ว 55 อีกหนึ่งจุดที่สนใจ ก็คือ ป้ายนับถอยหลังอันนี้ค่ะ หลังจากเดินช๊อปจนสาแก่ใจแล้วในถ.เส้นนี้ ก็เลยเปลี่ยนไปยัง Plaza Singapura ค่ะ โดยการนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Dhoby Shaut ค่ะ ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่มีชื่อเสียงร่ำลือกันว่า ที่เดียวมีครบทุกสิ่ ก็เลยอยากจะดูว่าครบทุกสิ่งจริงๆหรือเปล่า โดยห้างพลาซาสิงหปุระ ขนาด 9 ชั้น มีทั้งสินค้าแบรนด์เนม และแห่งชอปราคาถูกสำหรับคนรักประหยัดอยู่ด้วยเช่นกัน...ดังนั้นลุยกันเลย หลังจากที่ช๊อปจนหน่ำใจแล้ว ก็หิวซะแล้ว เลยได้เมนูนี้แหละค่ะช่วยชีวิต อร่อยมาก...โดยจะมีกลิ่นของมะนาวในจานด้วย...ทำไมถึงมีกลิ่นมากมายไปดูกัน.. พอทราบหรือยังเอ่ย....เพราะเค้าใส่มะนาวที่ปลอกเปลือก แต่ยังไม่เสร็จนะค่ะ ปลอกแค่ครึ่งนึง ทำเหมือนเราปลอกเปลือกแอปเปิ้ล แต่เอาใส่ไปเลยทั้งลูก ก็ได้จะรสชาติที่หอมมะนาว แถมยังมีรสชาติเปรี้ยวแบบพอดีๆ อีกด้วย.... หวังว่าคงจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ   Create Date : 27 พฤษภาคม 2553     Last Update : 27 พฤษภาคม 2553 11:00:23 น. Counter : 395 Pageviews.   1 comment Share Tweet

Funny@SIN 3: Marina Bay (Again) หลังจากที่กลับไปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว..ก็ลุยอีกครั้งค่ะ... โดยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปลงสถานี City Hall ค่ะ ก็จะเจอกับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อีกแล้ว...City Link Mall จากเอสพลานาดสามารถเดินลัดมาถึง Suntec City เป้าหมายของเราได้...โดยใช้ทางเชื่อม CityLink Maill ซึ่งเป็นทางเดินใต้ดินไปยัง Suntec City ระหว่างทางก็จะมีของขายมากเลย ประดุจสยามบ้านเราเลยทีเดียว...งั้นขอแนะนำร้าน น่าอร่อย...ละกันนะค่ะ Bread Talk เป็นร้านขายขนมปังขึ้นชื่อของสิงค์โปรมีคอนเซ็ปต์ง่ายๆ ว่า คุณก็มองเห็นครัวเรา เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงความเอาใจใส่และคุณภาพวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะที่นี่เท่านั้นนะค่ะ ยังมีสาขาเยอะแยะไปทั่วทุกห้างเลยทีเดียว... นอกจากร้านนี้แล้วก็ยังมีร้านขายของอีกเต็มไปหมดเลย...มาช๊อปกันได้มันส์ไม่แพ้ย่าน Orchard เลยทีเดียว ว่าแล้วก็ไปลุยเป้าหมายของเรากันเลย ตึก Suntec ไปดูน้ำพุแห่งความโชคดีกัน ขอเกริ่นถึงความหมายของการมาครั้งนี้ก่อนละกันนะค่ะ ซึ่งมาถึงตึกซันเทกแล้วไม่ได้แวะมาชมน้ำพุแห่งความโชคดี (Fountain of Wealth) ก็ถือว่ามาไม่ถึง โดยเฉพาะน้ำพุแห่งความโชคดีได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1997 และได้รับการจดบันทึกสถิติจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 1998 โดยมีความสูงถึง 13.8 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งตัวน้ำพุตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง หมู่ตึกซันเทกทั้งห้า ที่เปรียบเสมือนนิ้วมือตามหลักฮวงจุ้ย ด้วยความเชื่อที่ว่าหากใครได้สัมผัสละอองน้ำพุแห่งนี้จะมีสิริมงคลกับตนเอง จึงทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาเยี่ยมชมกันมากมาย เท่านั้นยังไม่พอถ้าหากใครต้องที่จะได้น้ำศักดิ์สิทธิ์กลับไปเป็นของที่ระลึกหรือของฝากก็สามารถซื้อได้ ณ จุดจำหน่ายใกล้ประตูทางออกอีกด้วย ไปดูกัน ซันเทกทั้ง 5 รายล้อมน้ำพุแห่งความโชคดีอยู่ พอมาถึงก็ต้องทำให้ถูกวิธี เพราะการชมน้ำพุศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ควรจะทำตามขั้นตอนจะได้ทำให้ผลที่ถูกต้องตามต้องการ 55 ขั้นตอนก็ง่ายๆคือ การเดินไปถึงแล้วใช้มือขวาสัมผัสพร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน เสร็จแล้วก็เดินวนตามเข็มนาฬิกาให้ครบ 3 รอบ เพียงเท่านี้สิ่งที่ขอก็จะสมหวังค่ะ หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนไปแล้ว...ก็มีหนุ่มญี่ปุ่นเดินมาแซว ว่าทำแล้วมันจะได้ผลจริงๆน่ะเหรอ 55 ก็เลยตอบไปแบบมั่นใจว่า แน่นอน 55 แล้วหนุ่มๆก็ทำตามกันใหญ่เลย 55 พูดถึงการมาชมก็ต้องทราบเวลากันด้วยนะค่ะ เดี๋ยวมาเสียเที่ยวกัน โดยน้ำพุจะสามารถเข้ามาสัมผัสได้ทุกวันในเวลา 09.00-12.00, 14.30-18.00, 19.00-19.45, 21.30-22.00 น. ส่วนช่วงเวลาที่มีการแสดงเลเซอร์ก็คือเวลา 20.00,20.30และเวลา 21.00น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมและสัมผัสค่ะ สบายๆแบบนี้ ต้องมานั่งเล่นริมแม่น้ำซะหน่อย... เหมือนจะไม่มีสาระ...ร่ายให้ฟังซะหน่อย เพราะนอกจากที่ๆกล่าวไปแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจในย่านนี้อีกมากเหมือนกัน แต่ที่ไปก็เลือกเฉพาะที่สนใจเท่านั้น แฮะๆๆ 1. Singapore Flyer เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2008 โดยจัดเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงถึง 165 เมตร. โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-22.30 น. ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 29.50 สิงค์โปรดอลล่าห์ และเด็กราคา 20.65 สิงค์โปรดอลล่าห์ ซึ่งอาจจะมี การเปลี่ยนแปลงได้ภายหลัง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่ //www.singaporeflyer.com.sg 2. St. Andrew's Cathedral เป็นโบสถ์ที่สร้างโดยสถาปนิกชาวไอริชที่มีชื่อทางด้านการออกแบบด้านสไตล์โคโลเนียล ซึ่งออกแบบตามสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก โดยตัวโบสถ์ภายนอกจะเป็นสีขาวทำจากปูนชนิดพิเศษที่เรียกว่า ชูนัม มีส่วนผสมของไข่ขาว, เปลือกหอย, มะนาว, น้ำตาล, เปลือกมะพร้าว และน้ำ ส่วนหลังคาเป็นทรงกรวยแหลมและมีลวดลายที่สวยงามเลยทีเดียว ถ้าสนใจที่จะเข้าชมเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.30-16.30 น. ส่วนวันพุธตั้งแต่ 02.30-16.30น.เลยทีเดียว 3. The Padang ซึ่งอยู่ติดกับโบสถ์เซนต์แอนดรูว์ อดีตเคยเป็นศูนย์กลางของประชาชนยุคอาณานิคมที่ใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเฉพาะการแข่งขันคริกเก็ต ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติของสิงค์โปรเลยทีเดยว ซึ่งสนามนี้มีบรรยาที่ร่วมรื่นเหมาะสำหรับการมาออกกำลังกายหรือว่านั่งเล่น รวมทั้งยังเป็นจุดชมวิวและมุมถ่ายรูปที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในสิงค์โปรเช่นกัน 4. Esplanade Park ในสวนแห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างในยุคประวัติศาสตร์ให้ได้ชมมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำพุสไตล์วิคทอเรีย, อนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหาร 124 คนที่เสียชีวิตในช่วงสงคราโลก และอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงลิมโบเส็ง วีรบุรุษชาวจีนในสิงคโปร์ 5. Supreme Court 6. The Art House 7. Victoria Theatre & Memorial Hall 8. Parliament House 9. Sir Stamford Raffles 10. Asian Civilisations Museum 11. The Fullerton & Cavenagh Bridge 12. Merlion Park & One Fullerton 13. Esplanade 14. Marina Bay Sands 15. Suntec City 16. Fountain of Wealth 17. Raffles Hotel 18. Mint Museum of Toys 19. Sculpture Square 20. Singapore Art Museum 21. National Museum of Singapore 22. Peranakan Museum 23. Singapore Philatelic Museum 24. Fort Canning Park 25. The Battle Box 26. Civil Defence Heritage Gallery 27. War Memorial Park มากมายเหลือเกิน...555 ชักเหนื่อยไปช๊อปปิ้งกันต่อดีกว่า...55   Create Date : 25 พฤษภาคม 2553     Last Update : 25 พฤษภาคม 2553 18:26:11 น. Counter : 379 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Funny@SIN 2: China Town วันที่สองของการท่องเที่ยวไปลุยที่ไหน ตามกันครับ... ออกเริ่มต้นจาก...โรงแรมไปลุยแดน China Town ค่ะ ย่านนี้มีที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายอย่างเลยทีเดียว ทั้งสถานที่ กิน ช๊อป หรือถ่ายรูปชิวๆ เมื่อถึงสถานที่ China Town ก็จะเจอกับ OG Building และ Yue Hwa Building ทางเข้าของห้าง Yue Hwa Building จะมีร้านขายอาหารหลายร้านเลยทีเดียว...ก็เลยถือโอกาสไปชิมข้าวมันไก่ของขึ้นชื่อสิงค์โปรก่อนเลย หลังจากอิ่มแปล่ ก็เดินข้ามถ.มาอีกฝั่งนึงจะ เจอกับถ. Pagoda ซึ่งในนั้นจะมีของขายหลายอย่างเลยทีเดียว รวมทั้ง สถานที่ที่น่าสนใจหลายอย่าง 1. ChinaTown Heritage Centre ในนั้นจะบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลังจากชมเสร็จถ้าอยากจะลิ้มรสกาแฟในบรรยากาศแบบจีนสมัยก่อน ก็ไม่ว่ากัน เมื่อเดินไปจนสุดซอย เพื่อนๆคงจะเหนื่อยกันพอดูแนะนำให้ไปพักทานอะไรที่ Far East Square ค่ะ โดยการข้ามถ.จากท้ายซอย Pagoda โดยสังเกตุว่าท้ายซอยหรือเปล่า โปรดสังเกตุว่าจะเจอกับ Sri Mariamman Temple ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้เล่นกัน ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในสิงค์โปร ชาวท้องถิ่นเชื่อกันว่ามีพลังในการรักษาโรคระบาด แล้วเดินมาทางซ้ายมือ เมื่อเดินมาได้สักพักจะเห็นสี่แยกให้ข้ามถ.อีกครั้ง แล้วเดินไปทางด้านขวาตามถ. Upper Cross ก็จะเห็นทางแยกอีกครั้ง เลี้ยวเข้าไปในซอยนั้นเลยค่ะ ซึ่งถ.ในซอยนั้นคือ South Bridge เมื่อเดินเข้าไปด้านขวามือของถ.จะเจอร้าน Ya Kun Kaya Toast ซึ่งร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องของ Kaya Toast ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลกเลยทีเดียว ส่วนเมนูเด็ดที่ต้องลองคือ ขนมปังสังขยาปิ้งคายาโทสต์ ที่ทางร้านจะมีสูตรเฉพาะ ที่ทำให้ขนมปังสังขยาอร่อย และหอมหวาน ซึ่งมักจะทานคู่กับกาแฟสูตรโบราณที่มีรสขม และไข่ลวก ซึ่งตอนที่สั่งมาก็งงๆ ไม่รู้สั่งยังไง แต่พอยื่นมาเมนูมาง่ายทันที เพราะคนไทยคงจะไปเยอะมาก จนเค้าเขียนเมนูไว้เป็นภาษาไทยเลยทีเดียว 55 ระหว่างรอก็แนะนำร้านไปด้วยละกันนะค่ะ ร้านี้จะเปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 7.30-19.00 และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ราคาจะอยู่ที่ 1.6 สิงค์โปรดอลล่าห์ขึ้นไป ซึ้งย่านนั้นในตอนกลางคืนก็จะมีหนุ่มสาว และหนุ่มๆวัยทำงาน เอ๊อะๆมานั่งกินข้าว หรือว่านั่งจิบเบียร์ กันเต็มไปหมดเลย...อิอิ เมื่ออิ่มหน่ำแล้วข้างๆ ร้านก็จะมีซอยทะลุ ถึง Far East Square ซึ่งสังเกตุสัญลักษณ์แล้วจะเห็นว่ามีการนำธาตุทั้ง 5 มาเป็นส่วนและกอบกับประตู ซึ่งเป็นการนำเสริมการค้าขายให้เจริญรุ่งเรือง อิ่มอร่อยมาแล้ว ตะลุยกันต่อ โดยเดินกลับมายังถ. Pagoda อีกครั้ง แต่เดินเลยไปอีกซอยนึงคือ Temple St. ในซอยนี้มีของกินอร่อยๆอีกแล้ว...คือ 1. Tak Po 2. Yum Cha 3. Bee Cheng Hiang ลองหาดูละกันนะค่ะ ถัดไปอีกถ.นึงคือ Smith ก็มีของกินเยอะแยะเหมือนกัน แต่ตอนกลางคืนจะคึกคักกว่า เรียกได้ว่า เป็นศูนย์รวมของแหล่งอาหารขึ้นชื่อของสิงค์โปรเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่เลี้ยวเข้าไป แต่เราเดินตามถ.ใหญ่ เส้น South Bridge เราก็จะเจอกับ Buddha Tooth Relic Temple&Museum ซึ่งตัวอาคารสร้างตามสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง...โดยนอกจากจะสร้างเพื่อเป็นสถานที่สักการบูชาของชาวพุทธแล้ว ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูปองค์เทพเจ้าสำคัญ อีกด้วย ปล. เข้าฟรีนะค่ะ กินจนอิ่มมากแล้ว...ต้องขอกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรมเสียก่อน 55   Create Date : 24 พฤษภาคม 2553     Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 19:30:33 น. Counter : 352 Pageviews.   2 comment Share Tweet

Funny@SIN 1: Marina Bay ในที่สุดก็ได้ไปเที่ยวสักที...ลุยเลยดีกว่า.. ในที่สุดก็ถึงที่นี่สวย และอลังการงานสร้างมากๆเลยก๊าบ ไปไหนต่อดี รถไฟฟ้าๆ ไม่ยากสักเท่าไหร่ คล้ายๆในรถไฟฟ้าบ้านเรา ต่อไปที่พักค่ะ....เดินหลง ดูสภาพละกัน 55 มาถึงสิงค์โปรต้องไปนี่เลย...Marina Bay กำหนดการคือ 1. ดูตึกทุเรียน 2. ดูสิงค์โตพ่นน้ำ 3. ไปชิมสิงค์โปรสลิงค์ไปลุยเลย เดินทางง่ายๆเลยก๊าบ นั่งรถไฟฟ้าได้สองเส้นค่ะ สีเขียว กับ สีแดงลงที่สถานที City Hill แล้วก็เดินลัดห้างสรรพสินค้ามายังตึกทุเรียน แล้วก็จะโผล่มาเจอตรงสะพานข้ามไปฝั่งโรงแรม Fullerton ง่ายๆ แต่ก็เสียเวลาพอสมควร เพราะว่าใช้เวลากับการถ่ายรูป 55   Create Date : 05 พฤษภาคม 2553     Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 18:00:07 น. Counter : 259 Pageviews.   1 comment Share Tweet

***Let's go to Singapore!!*** สวัสดีค่ะ... ช่วงนี้เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย....ปวดหัวๆๆ แต่ที่ทำให้หน้าบานมาได้ขนาดนี้ เพราะว่าฝึกงานเสร็จธันวาคมนี้ ก็คือจบเลย...ถ้าเค้าให้ฝึกผ่านนะ 55 ที่บ้านก็เลยให้ของขวัญ เนื่องในโอกาสที่ ร่ำเรียนจนจบมาได้อย่างสวยงาม 55 เป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ BKK-SIN-มาเลเซีย จำโค๊ดสนามบินไม่ได้ 55-BKK ก็เลยออกอาการเห่อ ว่าจะไปไหนดี เลยมีข้อมูลมาฝากสำหรับบางคนที่อยากจะไปเที่ยวสิงค์โปรเหมือนกัน ไปลุยกันเลย ที่จำเป็นต้องใช้น่าจะเป็น...อันนี้นะ ฮูฮู ลืมเล่าให้ฟังจ้า...ทีต้องหาข้อมูลขนาดนี้ เพราะว่าที่บ้าน ให้ไปคนเดียวคร่า....คุณน้องชายไม่ได้ไปด้วย ก็เลยต้องฟิต อย่างแรงเลยนิ....55 สิงคโปร์ ฟลายเออร์ ให้คุณได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามแบบพาโนรามาวิว 360 องศาของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ที่อ่าว มาริน่า เบย์ (Marina Bay) บนชั้นที่สามของห้างรีเทล เทอร์มินอล (Retail Terminal) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร ส่วนตรงกลางเปิดโล่งรับธรรมชาติแบบป่าเขียวชอุ่ม พร้อมโรงภาพยนตร์แบบกลางแจ้ง คุณจะได้สัมผัสทั้งทัศนียภาพอันงดงามของถนนคนเดินริมฝั่งแม่น้ำยาวกว่า 210 เมตร คุณสามารถชมทัศนียภาพจากจุดที่สูงถึง 165 เมตร คุณจะสามารถสัมผัสประสบการณ์ในการชมท้องฟ้าอันงดงามของสิงคโปร์ อ่าวมาริน่าอันเลื่องชื่อ ตึกสูงระฟ้า วิวธรรมชาติแบบป่าเขียวชอุ่ม และกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ท้องฟ้าที่สดใส เวลาเปิดให้บริการ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8:30 น. ถึง 22.30 น. (เปิดให้บริการในไตรมาสแรกของ ปี 2008) เวลาบริการโดยประมาณ 30 นาที สถานที่ เลขที่ 30 ถนนราฟเฟิล สิงคโปร์ 039803 อัตราค่าบริการ (ราคาเริ่มต้น) รูปแบบการบริการ ผู้ใหญ่ * เด็ก * ผู้สูงอายุ สิงคโปร์ ไฟล์ท (Singapore Flight): ตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพอันงดงามของสิงคโปร์แบบพาโนรามาวิว 360 องศาในเวลา 30 นาที: ไม่ว่าจะเป็นอ่าวมาริน่าอันเลื่องชื่อ ตึกสูงระฟ้า วิวธรรมชาติแบบป่าเขียวชอุ่ม และกิจกรรมต่างๆท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใส 29.50เหรียญสิงคโปร์ 20.65 เหรียญสิงคโปร์ 23.60เหรียญสิงคโปร์ เอกซ์เพรส บอร์ดดิ้ง (Express Boarding): ทางเลือกใหม่ที่คุณไม่ต้องเสียเวลาในการต่อคิวซื้อตั๋วนั่งสิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) เพื่อหลีกเลี่ยงวันที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น ราคานี้รวมของที่ระลึกจากสิงคโปร์ ฟลายเออร์ด้วย 52.00เหรียญสิงคโปร์ 36.40เหรียญสิงคโปร์ 41.60เหรียญสิงคโปร์ ซิกเนเจอร์ คอกเทลไฟล์ท (Signature Cocktail Flight): ชมทัศนียภาพอันงดงามของสิงคโปร์พร้อมกับจิบคอกเทล ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบผสมแอลกอฮอล์หรือไม่ผสมแอลกอฮอล์ ราคานี้รวมเอกซ์เพรส บอร์ดดิ้ง (Express Boarding) และคอกเทลจากสิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer) 69.00เหรียญสิงคโปร์ 48.30เหรียญสิงคโปร์ 55.20เหรียญสิงคโปร์ แคปซูลส่วนตัว (Private Capsule): ท่านสามารถชมทัศนียภาพของเส้นขอบฟ้าในแคปซูลอย่างเป็นส่วนตัวซึ่งสามารถจุได้มากถึง 28 ท่าน อย่าพลาดในการเปิดรับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับตัวคุณเองพร้อมกับคานาเป้และเครื่องดื่มเลิศรส 1,000 เหรียญสิงคโปร์/ต่อแคปซูล (ตั้งแต่เวลา 8.30 น. ถึง 18.30 น. ในวันธรรมดา) 1,500เหรียญสิงคโปร์/ต่อแคปซูล (ไม่รวมค่าอาหารเครื่องดื่มและบริการอื่นๆขั้นต่ำ 500 เหรียญสิงคโปร์/ต่อแคปซูล) (ตั้งแต่ 18.30 น. เป็นต้นไปในวันธรรมดาและตลอดทั้งวันของวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หมายเหตุ: อัตราข้างต้นได้รวมภาษีแล้ว *เด็ก – อายุตั้งแต่ 3-12 ปี *ผู้สูงอายุ – อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เบอร์โทรศัพท์ 6333 3311 การเดินทาง -รถไฟใต้ดิน (สายวงกลม) โพรมินาด MRT (promenade MRT) (คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2010) -สามารถจอดรถทัวร์ได้ 33 คัน และรถยนต์ 280 คัน สำหรับท่านที่ไม่ได้นำรถยนต์มาสามารถเดินเข้าทางริมแม่น้ำ ถนนราฟเฟิลล์ และสะพานใหม่ใกล้รีสอร์ท สถานที่ คลิกที่นี่ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม เวปไซต์ //www.singaporeflyer.com น่าไปเนอะ...ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่ามิวสิควีดีโอของรุท เดอร์สตาร์ เคยไปถ่ายที่นั่นด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเพลงอะไรน่ะ ถ้าคุณกำลังมองหาช่วงเวลาวันหยุดอันน่าจดจำ ลองดูไอเดียที่แปลกใหม่ทั้ง 20 อย่างต่อไปนี้ เพื่อให้คุณมีเวลาที่ดีที่สุดจริงๆในสิงคโปร์! ดูเรื่องน่าทำที่พิเศษสุด 20 อย่างในสิงคโปร์ได้ฟรีที่นี่ 1. ลิ้มรสอาหารทะเล ริมชายหาดในสไตล์สิงคโปร์! อร่อยกับปูผัดพริก กุ้งแม่น้ำผัดพริกไทยดำรสจัดจ้าน และกุ้งอบเนยเนื้อนุ่ม นี่คือมื้ออาหารรสเลิศที่คุณจะต้องติดใจ 2. แวะชมโรงแรมที่พิเศษสุด ในสิงคโปร์ - ตั้งแต่โรงแรม Gallery Hotel อันทันสมัยพร้อมด้วยอุปกรณ์ตกแต่งยุคโพสโมเดิร์นอันโดดเด่นที่ทำขึ้นในปี1929 ที่นี่คือโรงแรมหรูในย่านไชน่าทาวน์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาศภายในที่แปลกตาและเก้าอี้ชั้นยอด 3. ทำตามหัวใจคุณ ด้วยการนวดที่ผ่อนคลายในบรรยากาศสวนที่เขียวชอุ่มของสปากลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย นั่นก็คือ สปาโบตานิก้า (Spa Botanica) 4. ลองเป็นนักกายกรรม โหนชิงช้าสูงได้ที่ทราพิซซ่า (Trapizza) แหล่งท่องเที่ยวชายหาดแห่งใหม่ สร้างจากไอเดียใหม่ที่ผสมผสานระหว่างร้านพิซซ่าและโรงเรียนสอนกายกรรมโหนชิงช้าแห่งแรกของสิงคโปร์ 5. เล่นกอล์ฟยามค่ำคืน ในแฟร์เวย์ที่สว่างจ้าของสนามกอล์ฟจูร่งคันทรีคลับ (Jurong Country Club) หรือสนามกอล์ฟออคิดคันทรีคลับ (Orchid Country Club) 6. นั่งรถสะเทินน้ำสะเทินบก ไปกับดั๊กทัวร์ (Ducktour) - เป็นพาหนะครึ่งรถครึ่งเรือ แล้วไปล่องอ่าวหลังทัวร์เมืองทั่วแล้ว ไม่อยากจะเม้าท์ว่า...อันนี้ก็เป็นอีกอันที่สนใจอยากจะทำ...รองจาก Singapore Flyer 555 7. ถ่ายภาพ ของบุคคลที่มีคนถ่ายภาพด้วยมากที่สุดคนหนึ่งของสิงคโปร์ นั่นก็คือพนักงานเฝ้าประตูของโรงแรมแรฟเฟิล (Raffles Hotel) อันนี้ก็ไม่น่าจะพลาดที่จะทำ....เพราะว่าจากประสบการณ์การไปเที่ยวต่างแดน คนที่เป็นพนักงานเฝ้าประตู เค้าชอบแต่งตัวกันแปลก...น่าไปถ่ายรูปด้วย อย่างตอนไปมาเก๊า คนที่เฝ้าประตู ใส่ชุดเหมือนคนที่แข่งชนกระทิง อะไรแบบนั้น เรียกไม่ถูกเหมือนกัน...แปลกๆดี 8. ฟื้นฟูหยินและหยางในตัวคุณ หรืออร่อยกับอาหารจานเด็ดเพิ่มอีกได้ที่ร้านอาหารสมุนไพร "Imperial Herbal Kitchen" อาทิเช่นแมงป่องและมดทอด 9. ปาร์ตี้กันจนถึงตีหนึ่งตีสอง ที่แหล่งไนท์คลับชั้นนำของสิงคโปร์ บนถนนโมฮัมหมัดสุลต่าน (Mohamed Sultan Road) 10. แวะไปดูแมวป่า สิงโต เสือชีตาร์ จากัวร์ เสือดำ เสือโคร่ง - ได้กับทัวร์ชมสวนสัตว์สุดพิเศษ หรือจะนั่งรถบั๊กกี้ที่คุณสามารถเลือกเส้นทางได้ด้วยตัวเอง เพื่อชมเบื้องหลังของสวนสัตว์สิงคโปร์ (Singapore Zoo) แห่งนี้! 11. อยากเป็นครูฝึกปลาโลมาไหม? งั้นลองว่ายน้ำกับปลาโลมาสีชมพูที่เกาะเซนโตซ่าซักวันสิ แล้วสัมผัสกับอุปนิสัยและการเคลื่อนไหวของมันได้ด้วยตัวคุณเอง! 12. ระลึกถึงความตื่นเต้นในอดีตของจอว์ส ดำน้ำกับฉลามที่โลกใต้น้ำ (Underwater World) พบกับโลกแห่งสัตว์ทะเลอย่างเช่นพะยูนหายากหรือวัวทะเล ถึงแม้จะไม่มีใบรับรองการดำน้ำท่านก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมอันแสนสนุกนี้ได้! 13. ย้อนกลับไปในอดีต สู่สิงคโปร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง คุณน่าจะแวะชมโรงสวดและพิพิธภัณฑ์ชางฮี (Changi Chapel and Museum) ป้อมปืนใหญ่โจฮอร์ (Johore Battery) พิพิธภัณฑ์ "Reflections at Bukit Chandu" และป้อมไซโลโซ (Fort Siloso) บนเกาะเซนโตซ่า สถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยความทรงจำแห่งช่วงเวลาอันสับสน 14. เรียนรู้วิธีการเป็นครูฝึกเหยี่ยว และสัมผัสนกนักล่าได้ที่สวนนกจูร่ง (Jurong BirdPark) หรือจะทานอาหารเช้าแสนอร่อยข้างๆฝูงนกฟลามิงโกสีชมพูก็ได้! 15. แอบมองดูกิ้งก่า "Malayan Water Monitor" ที่ปราดเปรียวและสามารถโตได้ถึง 2 เมตร ได้ที่เขตอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำซันไกบูลอร์ (Sungei Buloh Wetlands Reserve) 16. เพลิดเพลินกับชาที่สูงที่สุด ในสิงคโปร์ได้ที่ร้าน "Equinox" บนชั้นที่ 69 ของโรงแรม "Swissotel The Stamford" ไปพร้อมๆกับชมทิวทัศน์ที่คุณจะต้องประทับใจ! 17. ลองชิมแกงหัวปลาหม้อไฟ ที่เสริฟพร้อมกับข้าวสวยบนใบตองแล้วรับประทานโดยใช้อุปกรณ์ยุคโบราณ นั่นก็คือมือของคุณเอง! 18. ซึมซับกับค่ำคืนแห่งวัฒนธรรม ซื้อตั๋วชมงานแสดงของเอสพลาเนด - โรงภาพยนตร์ริมอ่าวที่มีชื่อเสียงก้องโลกของเราได้แล้ววันนี้ 19. ทำสามอย่างในที่เดียว ที่ซันเทคซิตี้ (Suntec City) คุณจะมองเห็นน้ำพุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จากนั้นชมฮวงจุ้ย ศาสตร์แห่งการพยากรณ์โบราณ ที่ได้ถูกนำมาใช้ในการออกแบบของที่นี่ด้วย จากนั้นก็ช้อปปิ้งกันต่อได้เลย! แบบว่าอยากไปดูมากๆ เลยอันนี้...เห็นจากรูปคงจะสวยมากๆ 20. ช้อปปิ้งตอนตีสี่ ที่ศูนย์การค้า 24 ชั่วโมงของสิงคโปร์ นั่นก็คือห้างมุสตาฟา (Mustafa Centre) อันมีชื่อเสียง แล้วเลือกซื้อสินค้าจากกว่า 120,000 รายการ! ขอบคุณข้อมูลจาก....//www.visitsingapore.com   Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552     Last Update : 15 พฤศจิกายน 2552 16:48:01 น. Counter : 377 Pageviews.   0 comment Share Tweet