วันวานในสยาม...ยามนั้นและยามนี้

InSiam : From Time to Time



Group Blog
 
All blogs
 
ฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน


ฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน


กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร


 พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



 


เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากรขอเชิญร่วมงาน 'ฤกษ์ดีปีใหม่ ไหว้พระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน' โดยในโอกาสนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้อัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณ ๙ องค์ ออกให้ประชาชนได้ร่วมสักการะ เพื่อประชาชนสักการะบูชาอย่างใกล้ชิด ๑ ปี ๑ ครั้ง ณ หอพระวังหน้า พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ (สนามหลวง ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์) 


 



 


โดยปกติพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปหลวงพ่อนาก พระพุทธรัตนมหามุนี และพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงทั้งคู่ จะประดิษฐานอยู่ ณ หอพระวังหน้า พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ แต่ในคราวนี้ทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้อัญเชิญพระหายโศก พระไภษัชยคุรุ พระชัยนครราชสีมา และพระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ ออกให้ประชาชนได้ร่วมสักการะครบทั้ง ๙ องค์ อันเป็นวาระที่เป็นมงคลและหาได้ยากยิ่ง


พระพุทธรูปสำคัญที่นำออกให้ได้ร่วมสักการะในครั้งนี้ ได้แก่…


 


๑. พระพุทธสิหิงค์ พระปฏิมาแบบสุโขทัย - ล้านนา อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ นับถือเป็นพระพุทธปฏิมาศักดิ์สิทธิ์ ตามตำนาน พระพุทธสิหิงค์ได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นสิริยังพระนครหลวงโบราณของไทยทุกแห่ง นับแต่กรุงสุโขทัย เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา ตราบเท่าถึงกรุงรัตนโกสินทร์ จึงสถิตเป็นมงคลแก่พระนครประจำ ณ พระราชวังบวรสถานมงคล กรุงเทพมหานครได้อัญเชิญออกให้ประชาชนถวายน้ำสงกรานต์เป็นประจำทุกปี นับเป็นพระพุทธรูปอำนวยความอุดมสมบูรณ์และสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง ทุกวันนี้ พระพุทธสิหิงค์องค์จริงเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ที่มีมาแต่โบราณกาล และมีความสง่างามเป็นเลิศ ได้ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สนามหลวง



๒.พระหายโศกพระปฏิมาศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๑ เป็นพระพุทธรูปของหลวงพระราชทานมีนามเป็นมงคลพิเศษ จากจารึกฐานพระพุทธรูปกล่าวว่าส่งมาถึงกรุงเทพฯในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๙เดิมคงใช้ในพระราชพิธีหลวง จนกระทั่งกรมพระราชพิธีส่งมาเก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปอำนวยความสุข สวัสดี


                                                                                             


๓. พระไภษัชยคุรุศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ แสดงปางสมาธินาคปรก ทรงเครื่องมีผอบบรรจุพระโอสถอยู่ในพระหัตถ์เป็นพระพุทธปฏิมาที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนาฝ่ายมหายานนับถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าแพทย์ผู้ช่วยสัตว์โลกทั้งปวงให้พ้นทุกข์อันเกิดจากโรคทางกายและโรคทางใจตลอดจนช่วยให้มีชีวิตยืนยาวเนื่องจากทรงบำเพ็ญพระบารมีโดยอธิษฐานความปราศจากโรคภัยของผู้คนในกาลสมัยของพระองค์เชื่อกันว่าผู้ปฏิบัติบูชาพระไภษัชยคุรุสามารถหายจากอาการเจ็บป่วยทางกายและใจด้วยการสวดบูชาออกพระนาม และสัมผัสรูปพระปฏิมา สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗แห่งกรุงกัมพูชา สร้างพระราชทานเป็นพระปฏิมาประธานในอโรคยาศาลเพื่อผู้ป่วยและประชาชนบูชา เพื่อพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ



                                                
 ๔. พระชัยนครราชสีมา ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ เดิมพระชัยสร้างขึ้นเพื่อเป็นมงคลในการศึกสงคราม เพื่อความมีชัยชนะต่ออริราชศัตรู ต่อมาอัญเชิญไปในการพิธีด้วย เรียกว่าพระชัยพิธี เพื่อให้การพิธีสัมฤทธิ์ผล ปราศจากการเบียดเบียนบีฑาจากสิ่งชั่วร้ายอัปมงคลต่างๆ พระชัยนครราชสีมา แสดงปางมารวิชัย คือครั้งพระพุทธองค์ทรงมีชัยชนะเหนือพระยารามาธิราช พระองค์เบื้องหน้า เบื้องพระปฤษฎางค์(หลัง) พระนลาฏ(หน้าผาก) พระศอ(คอ) พระอังสา(ไหล่) และพระกรทั้งสอง จารึกอักขระขอม ภาษาบาลี อายุอักษรราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑-๒๒ เป็นยันต์และหัวใจพระคาถาต่างๆ เช่น หัวใจพระคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ (นะ โม พุท ธา ยะ) หมายถึง ชัยชำนะ โดยยึดถือคุณพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอาศัย



๕. พระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ สร้างขึ้นตามคติเรื่องชมพูบดีสูตร หรือพระพุทธเจ้าทรงทรมานพระยาชมพูบดี โดยทรงบันดาลพระเวฬุวันวิหารประดุจเมืองสวรรค์ และเนรมิตพระองค์ทรงเครื่องพระจักรพรรดิราช แสดงบุญญานุภาพเหนือพระยามหากษัตริย์ทั้งปวง เพื่อคลายทิฐิมานะแห่งพระยามหาชมพูกษัตริย์ผู้ทรงอานุภาพ และทรงแสดงธรรมจนกระทั่งพระยาชมพูสิ้นมานะ ขอบวชเป็นพระสาวกในพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิจึงหมายถึงอำนาจ และธรรมอันเป็นแก่นสารยิ่งกว่าอำนาจแห่งทรัพย์สมบัติทั้งหลาย พระพุทธรูปดังกล่าวนี้นิยมสร้างเป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์พระเจ้าแผ่นดิน และพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งนับถือเป็นหน่อพุทธางกูร



๖.-๗. พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แดงทั้งคู่ ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๔ เป็นพระพุทธรูปมงคลด้วยวัตถุพิเศษ ตามตำนานพระแก่นจันทน์ มีเนื้อความว่าด้วยสมัยพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดายังดาวดึงส์สวรรค์เป็นเวลา ๓ เดือน พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงอนุสรณ์ถึงพระพุทธองค์จึงโปรดให้สร้างพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ขึ้นในครั้งนั้น พระแก่นจันทน์จึงเป็นรูปแทนเสมือนองค์พระพุทธเจ้า เพราะสร้างในขณะพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ พระเจ้าแผ่นดินและผู้มีอำนาจวาสนาจึงมักสร้างพระพุทธรูปจากไม้จันทร์หอม พระไม้แก่นจันทน์แดงทั้งคู่นี้แสดงปางประทานอภัย มีความหมายถึงการปกป้องภยันตรายทั้งปวง



 
๘.
 พระพุทธรูปหลวงพ่อนาก ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๐ เป็นพระพุทธรูปมงคลด้วยวัตถุพิเศษ พระองค์สีนาก เนื่องจากเนื้อสำริดมีส่วนผสมของทองคำมากเป็นพิเศษ พระเนตรฝังนิล ประทับขัดสมาธิเพชร พระบาททั้งสองข้างจำหลักลวดลายมงคล จารึกฐานพระพุทธรูประบุว่า พระยายุธิษฐิระ เจ้าเมืองพะเยาสร้างเมื่อพ.ศ.๒๐๑๙ เดิมคนร้ายขุดค้นพบในเจดีย์โบราณที่ป่าแดงหลวงดอนไชยบุนนาค จังหวัดพะเยา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางที่จังหวัดลำปาง ต่อมาหลวงอดุลยธารปรีชาไวท์ ผู้พิพากษาจังหวัดเชียงรายได้ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือ พ.ศ.๒๔๖๙ จึงพระราชทานให้เก็บรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พระพุทธรูปแสดงปางสมาธิ หมายถึงการตรัสรู้ธรรม 



๙. พระพุทธรัตนมหามุนี (พระแก้วน้อย) ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๒๑ เป็นพระพุทธรูปมงคลด้วยวัตถุพิเศษ มีความหมายถึงสวัสดิมงคลและสินทรัพย์ องค์พระพุทธรูปจำหลักจากอัญมณีแก้วสีเขียวอ่อน น้ำแตงกวา พุทธศิลป์ล้านนาสมัยหลัง ทรงเครื่องทองและอัญมณี เดิมพบแตกเป็น ๒ ส่วน เจ้าของเดิมได้มาคนละคราว นำมาต่อเป็นเนื้อเดียวกันได้เป็นอัศจรรย์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รับถวายจาก พ.ต.อ.อานนท์ อาขุบุตรและครอบครัว พระราชทานแก่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อพ.ศ.๒๕๓๔



ติดต่อสอบถาม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร


โทร.๐๒-๒๒๔ ๑๓๗๐, ๐๒-๒๒๔ ๑๓๓๓


 






Free TextEditor


Create Date : 13 เมษายน 2554
Last Update : 13 เมษายน 2554 21:39:53 น. 0 comments
Counter : 3413 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nuttavong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Blog รักสยาม : เกิดขึ้นจากผู้เขียนเป็นนักอ่านและมีความหลงไหลในเสน่ห์ของหนังสือเก่า ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาในอดีตตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษของเรา ที่ได้บันทึกเรื่องราวต่างๆ ผ่านตัวอักษร และทุก ๆ ตัวอักษรได้บอกเล่าเรื่องราวของสยามบ้านเมืองของเราเมื่อครั้งอดีต และมีความเชื่อว่า "อดีตคือรากฐานของปัจจุบัน" หนังสือเก่าจึงเต็มไปด้วยคุณค่าและความหมายแตกต่างกันไป เมื่อเกิดชำรุดเสียหายมีหลายคนไม่เห็นคุณค่าปล่อยให้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลาเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ลูกหลานของเราในวันข้างหน้าอาจลืมเลือนความเป็นชาติของเรา และอาจหลงลืมความดีงามของบรรพบุรุษที่ได้สร้างรากฐานที่มั่นคงไว้

ผู้เขียนยอมรับว่าการเขียนบทความ ณ ที่นี้ได้เรียบเรียงจากหนังสือเก่าอันทรงคุณค่าหลายเล่ม ด้วยภูมิรู้ของตนเองเท่าที่มีอยู่น้อยนิด หากผิดพลาดประการใด
ผู้เขียนขอน้อมรับคำแนะนำจากท่านผู้รู้ทั้งหลายด้วยความยินดี และหากท่านจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความรู้ก็จะเป็นประโยชน์สืบต่อไปในภายหน้า
Friends' blogs
[Add nuttavong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.