Group Blog
 
All Blogs
 




 

มหัสจรรย์เสื้อแดง 27 มี.ค.ต้องบันทึกกินเนสท์

กินเนสต์บุ๊คบันทึก..ที่สุดของผู้ทรงเกียรติไทย

                แว่วๆว่า เสี่ยเต้น เจ้าของบ้านหรูที่ได้จากน้ำพักน้ำแรง ประกาศเสียงดังฟังชัดว่า 27 มีนาคม 2553 โลกจะต้องตะลึงกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง หรืออีกทำนองว่ากินเนสต์ จะต้องบันทึกไว้ถึงความที่สุด ทำนองนี้ถ้าแว่วมาไม่ผิด และหูไม่เพี้ยน นั่งพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้วจะเห็นได้ว่าทั้งหัวและหางของคนเสื้อแดงแต่ละประเด็น น่าจะบันทึกในกินเนสต์ได้ทั้งนั้น น่าจะเสนอให้บันทึกไปในคราวเดียวกันได้อย่างยิ่งใหญ่ เท่าที่นึกออกในเวลานี้พอจะสรุปได้คือ

  1. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  น่าจะถูกบันทึกได้ว่าเป็นหัวหน้าเสื้อแดงตัวจริงอย่างที่ไม่มีใครจับได้ไล่ทัน เป็นคนฉลาดที่สุดในประเทศไทย....

  2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และมหัศจรรย์ที่สุดแม้ว่าจะถูกยึดทรัพย์มหาศาล แต่ยังมีเงินอีกมหาศาลอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้

  3. แกนนำ 3 เกลอ ไม่ค่อยปรากฏอาชีพที่แน่ชัด แต่สามารถสร้างทรัพย์สมบัติได้ด้วยการมุมานะขยันหมั่นเพียรเป็นตัวอย่างทีดีกับคนรุ่นหลังที่ต้อง สู้แล้วรวย

  4. การพูดจาปราศรัยบนเวทีกล่อมคนเสื้อแดงสามารถพลิกความเป็นจริงให้เป็นจริงกว่าในสมองชาวเสื้อแดงได้อย่างไม่เคยมีใครทำได้ เช่นการบอกว่า นายสมัคร สุนทรเวช ถูกให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะแค่ไปทำกับข้าว นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ โดยแค่ไม่ได้บอกต่อว่ากฎหมายห้ามไม่ให้นายกรัฐมนตรีของไทยไปเป็นลูกจ้างของเอกชน

  5. คนเสื้อแดงเจาะเลือดจริงๆแล้วเอาไปละเลงเล่น...ดันถูกกล่าวหาว่าเอาเลือดวัวเลือดควายมาเท เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่คนไทยส่วนใหญ่เห็นว่าเลือดเสื้อแดง เป็นเลือดวัวเลือดควาย

  6. พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า 6 เดือนจะแก้ปัญหาจราจรกรุงเทพได้หมด แต่ผ่านมาแล้วเกือบ 10 ปี เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเห็นว่าไม่ครบ 6 เดือน จึงเสนอแคมเปญใหม่กลับมาทำเขื่อนรอบกรุงเทพป้องกันน้ำท่วมอย่างน่ามหัศจรรย์

  7. มหัศจรรย์ที่ สส.พรรคเพื่อไทยยกเว้น กรุง ศรีวิไล และ ประยุทธ เห็นว่าการรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง กลายเป็นการขัดขวาง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าประชุมทำหน้าที่ และเป็นการปฏิวัติเงียบ ในขณะที่ ส.ส.อีก 245 คนสามารถเข้าประชุมได้อย่างสบาย แต่ในขณะที่ สภาล่มเพราะองค์ประชุมไม่ครบนั้นมหัศจรรย์ที่ ส.ส.หลายคนไม่มีมือไว้เสียบบัตรแต่มีมือไว้รับเงินเดือน

  8.  มหัศจรรย์อีกแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แกนนำ 3 เกลอและพลพรรคแดงทั้งหลายเห็นว่าทหารคือศัตรู ทั้งที่แผ่นดินที่คนพวกนี้ยืนอยู่นั้นคงอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้เพราะทหารที่เป็นลูกเป็นหลานของคนไทย

  9. พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น จะกลับมานำเสื้อแดงเข้าสู้ด้วยตัวเอง หลังจากทั้งลูกปืนดังขึ้น อาร์พีจีดังขึ้น เอ็ม 79 ดังขึ้นหลายนัดแล้ว มหัศจรรย์อีกแล้วที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ยินเสียงปืนเลย (คงเป็นเพราะอยู่ในต่างประเทศก็เป็นได้)

  10. แม้ว่าคำตัดสินของศาลจะสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้วพลพรรคของ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถแก้ตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ว่าไม่ได้โกง ไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยม สวนกับคำสั่งศาลได้อย่างง่ายดาย มหัศจรรย์ที่คนพวกนี้อ่านคำพิพากษาไม่หมด

  11. กับบิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ บอกว่าจะไปโดดแม่น้ำโขงตาย ผ่านมาแล้วหลายปีสงสัยว่าหายใจในน้ำโขงได้ราวกับปลา เป็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์แบบ บิ๊กจิ๋ว โดยแท้ และอีก ฯลฯ กับความมหัศจรรย์ในกลุ่มคนเสื้อแดง

  12. ท้ายสุดนั้นถือเป็นความมหัศจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่แท้จริงหาก เสี่ยเต้นจะเอาประเด็นในความมหัศจรรย์นี้ไปบันทึกด้วย ถ้าเอาไปบันทึกจริงผมว่า เสี่ยเต้น บ้าครับ และผมก็ บอ พอดูทีเดียว... 

 

ปล...ใครคิดว่าอะไรเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมาะแก่การบันทึกอีกก็เสนอไปได้ที่เสี่ยเต้นครับ....

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 23:49:24 น.
Counter : 443 Pageviews.  




 

ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย กลัวอะไรกับการป้องกันฝูงชนหน้ารัฐสภา

              กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชน และเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบฯ ในเรื่องที่ รัฐบาลใช้กำลังตำรวจและทหารทำหน้าที่ป้องกันฝูงชนบริเวณรอบๆ รัฐสภา ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับสมาชิกรัฐสภา และเป็นการผ่านกฎหมายหลายๆฉบับโดยการใช้สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่มีฝ่ายค้าน

              การที่รัฐใช้กำลังตำรวจ ทหาร ในการควบคุมและป้องกันฝูงชน ตามกฎหมายความมั่นคงฯ เพื่อป้องกันไม่เกิดเหตุร้ายซ้ำซ้อน เหมือนมีการประชุมสภาฯ ทุกครั้งที่มีการประท้วงจากกลุ่มชนที่ผ่านมา  โดยรัฐมีเหตุผลในการป้องกันและป้องปรามการประท้วงและใช้กำลังฝูงชนในการปิดล้อมรัฐสภา ตามกฎหมายความมั่นคงที่ให้อำนาจกับรัฐอยู่

              ประเด็นที่สำคัญก็คือ พรรคร่วมรัฐบาล ได้เสนอยื่นถอดถอนประธานวิปฝ่ายค้าน คือ นายวิทยา บุรณศิริ โดยให้เหตุผลว่า ได้นำสมาชิกฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทยทำการขัดขวางการเดินทางเข้าประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยไม่ให้ทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ บริเวณหน้าสภาฯ เนื่องจากประธานวิปฝ่ายค้าน นำสมาชิกฝ่ายค้านประท้วงปิดทางเข้าด้านหน้ากองกำลังตำรวจ ทหารที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนหน้ารัฐสภา

              การที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการให้รัฐบาล นำกำลังตำรวจและทหาร มาควบคุมฝูงชนตาม กฎหมายความมั่นคง โดยการใช้รั้วลวดหนามและเครื่องปิดกั้นถนน และไม่มีการติดอาวุธให้กับเจ้าหน้าที่ เพียงใช้แต่โล่ห์และกระบองเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าเป็นการปฏิวัติเงียบและไม่ให้เกียรติสมาชิกผู้แทนราษฎรซึ่งทำหน้าที่ ฝ่ายนิติบัญญัติ นั้น  โดยอ้างว่ากลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดินไม่มีแนวความคิดที่จะยกกำลังไปปิดล้อมรัฐสภาแต่อย่างใด

              นัยสำคัญที่กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจในการที่รัฐใช้กำลังตำรวจและทหาร ในการเตรียมการป้องกันและควบคุมฝูงชนบริเวณหน้ารัฐสภานั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การชุมนุมของ กลุ่ม นปช. ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ที่สำคัญก็คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย ทั่วประเทศ ทั้งด้านกำลังทรัพย์และการขึ้นปราศัยบนเวทีของกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย  หากรัฐไม่มีการป้องกันและควบคุมฝูงชนที่ดีมีประสิทธิภาพ ปัญหากระทบกระทั่งบริเวณหน้ารัฐสภาก็คงจะเกิดขึ้นเหมือนทุกครั้งที่มีการประท้วงของผู้ชุมนุม หากทดลองกันว่า บริเวณหน้ารัฐสภาไม่มีกำลังตำรวจและทหารในการเตรียมการเพื่อควบคุมฝูงชนแล้ว  ไม่มีหลักประกันว่ากลุ่มผู้ชุมนุม นปช.จะนำกำลังไปปิดล้อมรัฐสภาหรือไม่   การที่กลุ่ม ส.ส.ฝ่ายค้าน กล่าวว่าผู้ชุมนุม นปช. มาชุมนุมกันเป็นเวลา 14 วันแล้ว และไม่ได้เกิดเหตุรุนแรงใดๆ  รัฐเองไม่มีเหตุผลที่จะต้องการกลัวว่า กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.จะไปปิดล้อมรัฐสภา เพราะการใช้กำลังตำรวจและทหารเตรียมการควบคุมฝูงชนจะเป็นการทำให้สภาผู้แทนราษฎรเสื่อมเกียรติ คงเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล เพราะข้ออ้างดังกล่าวเป็นจริง คงต้องให้รัฐยกเลิกการใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามปรกติที่รัฐสภา เนื่องจากมีการตรวจสอบรถและบุคคลทุกคนที่จะเข้ารัฐสภาอยู่เป็นปกติแล้ว

                   การเรียกร้องของกลุ่ม ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทยในครั้งนี้มีเหตุผลอยู่เพียงอย่างเดียวคือ หากไม่มีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการเตรียมพร้อมควบคุมฝูงชนบริเวณรัฐสภา หากกลุ่ม นปช.ต้องการนำกำลังมวลชนไปปิดล้อมรัฐสภา ก็สามารถกระทำได้โดยง่ายเท่านั้นเอง

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 23:49:15 น.
Counter : 419 Pageviews.  




 

เมื่อโรงหนังสกาล่ากลายเป็นแหล่งมั่วสุมทางความคิด

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมงาน Creativities Unfold 2010 ซึ่งเป็นงานสัมมนาประจำปีของ TCDC (ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ) ที่โรงหนังสกาล่า สยามสแควร์ครับ

 เนื้อหาสัมมนาของปีนี้คือ “Play : From Passion to Business ทำเป็นเล่น เห็นเงินล้าน”  จะเห็นโลโก้คำว่า PLAY ใหญ่เบ้อเริ่มหน้าโรงหนัง  บังเอิญว่า อ.ธัญญา ผลอนันต์เพิ่งไปพูดในงาน Go Training Live Talk ครั้งที่ 2 เรื่อง Play เช่นกัน แสดงว่ากระแสเรื่องการเล่นหรือ Play กำลังมาแรง

 

 อ.ธัญญา ผลอนันต์ สุดยอดกูรูด้าน Mind Map ของเมืองไทยก็มาฟังด้วยครับ

  

 ที่ข้างหน้าโรงหนังมีผ้าคลุมรถสีสันสดใส 

  

 งานนี้เป็นการสัมมนาโดยขุนพลทางความคิด นักคิด นักออกแบบ นวัตกร มาบอกเล่าขานเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยจัดทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมได้เข้าร่วม เพราะคุณจรินทร์ทิพย์หรือคุณปุ๋ม นักวิจัยแห่ง TCDC ได้กรุณามอบบัตรงานนี้ให้แก่ผมตอนที่ผมไปพูดในงาน IgniteBKK   ขอขอบคุณอีกครั้งครับ

 

 

งานมีสองวันคือ เสาร์ที่ 20 และ อาทิตย์ที่ 21 มีนาคม บัตร 1 วันราคา 900 บาท แต่ถ้าซื้อบัตรร่วมงานทั้งสองวัน จะราคา 1,500 บาท ซึ่งหลังจากที่ผมได้เข้าร่วมงานทั้งสองวันแล้ว อยากบอกว่าถึงจะจ่ายเงิน 1,500 บาทก็คุ้มสุดคุ้มมากครับ  นอกจากนี้ TCDC ยังได้จัดโปรแกรมสำหรับนักศึกษา โดยมอบบัตรฟรีให้แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมงานด้วย ซึ่ง TCDC ได้มอบบัตรฟรีแก่นิสิตจุฬาฯ 10 ใบ ด้วยครับ ผมจึงชวนลูกศิษย์ของผมให้มาร่วมงานด้วย

 

ลูกศิษย์สาวล้อเลียนอาจารย์

 

ที่โรงหนังชั้น 1 ได้จัดนิทรรศการ Baht & Brains  

นิทรรศการ Baht & Brains ได้สัมภาษณ์ผมในวิชา Innovative Thinking  และเปิดวิดีโอการสอนในวิชาผม พร้อมกับลูก juggling สำหรับผู้ดูที่อยากหัดโยนไปด้วย

 

  ภาพนี้ถ่ายกับอวตาร (รูปประจำตัวตนเอง) ในผ้าโฆษณา Baht & Brains

 

ที่ป้ายฉายภาพยนตร์ ตอนนี้แสดงรายชื่อและข้อมูลของวิทยากรทั้งหมด

 

 

เดินขึ้นไปชั้นสอง คนมากมายเต็มไปหมด ผมไปถึงเวลาประมาณ 10.50 น. แต่งานเริ่มเวลา 11 น.ครับ ผมประหลาดใจกึ่งดีใจที่พบว่ามีคนมาร่วมงานนี้อย่างล้นหลาม เพราะตอนแรกผมคิดว่าหลายคนอาจไม่อยากมา เนื่องจากกลุ่มเสื้อแดงได้ออกตระเวณทั่วกรุงในวันนั้น ลูกศิษย์ผมคนหนึ่งถึงกับเปลี่ยนใจไม่มางาน เพราะกลัวจะออกมาไม่ได้  ผมไม่ได้เห็นโรงหนังสกาล่ามีคนเต็มโรงอย่างนี้มานานแล้วครับ สมัยนี้ไปดูหนังที่สกาล่าทีไร เสียวทุกครั้งว่าจะยกเลิกฉายหนังหรือเปล่า เพราะคนค่อนข้างโหรงเหรง นึกถึงสมัยผมเรียนปริญญาตรี 20 ปีก่อน  เวลามาดูหนังที่สกาล่าทีไร จะมี “ผี” ขายตั๋วทุกครั้ง เพราะคนดูเยอะมาก

 

กำลังต่อแถวเข้าในงาน 

พิธีกรสาวสวยในงานผู้มากความสามารถ ขออภัยที่ไม่ทราบชื่อจริงครับ  

 

วิทยากรท่านแรกคือ คุณคาร่า จอห์นสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุแห่งบริษัท IDEO  ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการออกแบบระดับโลก ในวิชา Innovative Thinking ที่ผมสอน ผมจะเปิดวิดีโอการทำงานของบริษัท IDEO ให้นิสิตดูด้วย ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นที่จะได้พบคนจากบริษัท IDEO มาพูดให้ฟัง  เธอพูดถึงหนังสือของเธอชื่อ “I Miss My Pencil (ฉันคิดถึงดินสอ) และเล่าเรื่องการทดลองกับงานออกแบบต่างๆ ให้ฟังครับ เช่น แอร์ที่ปรับอุณหภูมิด้วยการเป่าลมใส่ตัวเซนเซอร์ เป็นต้น

 ผมถามเธอว่าทำไมตั้งชื่อหนังสือว่า “ฉันคิดถึงดินสอ” เธอตอบว่า สมัยนี้คนส่วนใหญ่เริ่มต้นออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยเริ่มจากการเขียนด้วยดินสอหรือวัสดุต่างๆ เธอจึงนึกถึงสมัยก่อนที่ใช้ดินสอเป็นตัวเริ่มต้นในการออกแบบครับ 

 

คุณคาร่าพูดเสร็จเกือบบ่ายโมง ก็หยุดพักรับประทานอาหารกลางวันหนึ่งชั่วโมง เริ่มอีกทีตอนบ่ายสอง การหาอาหารรับประทานที่สยามสแควร์เป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลเลย จริงไหมครับ เพราะมีร้านอาหารมากมายในละแวกนั้น หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ผมก็ขึ้นมาเตร็ดเตร่ที่หน้าโรงหนัง เพราะห้องยังไม่เปิด แต่เอ๊ะ นั่นหุ่นยนตร์นี่น่า !!!

  

วิทยากรท่านที่สองในวันนี้คือ คุณเฉลิมพล ปุณโณทก CEO แห่งบริษัท CT Asia Robotics  ซึ่งผมเคยฟังคุณเฉลิมพลบรรยายในงาน Go Training  Live Talk ครั้งที่ 1 ปีที่แล้ว คุณเฉลิมพลมีแนวคิดที่น่าสนใจมากครับ และคำพูดก็ “โดน” ทั้งนั้น เช่น คุณเฉลิมพลบอกว่า มีนักศึกษาไทยหลายคนที่อยากมีเจ้านายเป็นฝรั่งเพราะอยากฝึกภาษาอังกฤษ แต่ทำไมไม่คิดอยากมีลูกน้องเป็นฝรั่งบ้าง

 

Passion หรือความหลงใหลของคุณเฉลิมพลคือ อยากสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยครับ คุณเฉลิมพลได้ทำบริษัทขายซอฟต์แวร์ Call Center ซึ่งมีชื่อเสียงมาก และตอนนี้เริ่มทำบริษัทด้านหุ่นยนตร์ โดยได้สร้างหุ่นยนตร์ชื่อ “ดินสอ” โดยได้รวบรวมทีมนักศึกษาที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันหุ่นยนตร์ในที่ต่างๆ มาร่วมกันสร้าง

 

คุณเฉลิมพลบอกว่า หุ่นยนตร์ดินสอใช้งบในการสร้างประมาณ 1 ล้านบาท โดยได้ใส่อารมณ์สีหน้าไปด้วย “ดินสอ” จะอารมณ์ดีตลอดเวลาครับ แถมใส่มุขแบบไทยๆ เช่น ทำหน้าแพนด้า หรือแสดงอารมณ์ต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งหุ่นอาซิโมของญี่ปุ่นทำไม่ได้  เพราะอาซิโมจะหน้ามืดตลอดเวลาครับ

คุณเฉลิมพลให้ข้อคิดว่า อย่าทำอะไรที่ง่ายๆ หรือทำเหมือนกับคนอื่น เช่น ใครๆ ก็อยากมีร้านกาแฟเล็กๆ ก็เลยมีร้านกาแฟเต็มบ้านเต็มเมือง และแข่งขันกันเองจนแทบอยู่ไม่รอด แต่ถ้าเราทำเรื่องยากๆ ที่ไม่มีใครทำ เราจะเป็นผู้นำตลาดด้านนั้น  

  

สาเหตุที่ตั้งชื่อว่า “ดินสอ” เพราะฟังดูเป็นไทย ๆ และดินสอเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ง่าย เราคุ้นเคยดีอยู่แล้ว  คุณเฉลิมพลบอกว่า วิสัยทัศน์ตอนนี้คือ อีก 20 ปีข้างหน้า 1 บ้าน 1 หุ่นยนตร์ครับ เหมือนกับที่บิล เกตส์เคยตั้งวิสัยทัศน์ว่า 1 บ้าน 1 พีซี  ตอนนี้สุกี้เอ็มเคได้สั่งซื้อดินสอไปแล้ว 4 ตัวครับ

 คุณเฉลิมพลทิ้งท้ายว่า ขอให้พวกเราหาเวลาในการวางแผนเพื่ออนาคตหรือทำ Future Thinking ด้วย เพราะส่วนใหญ่เราง่วนกับปัญหาในปัจจุบัน จนไม่ได้คิดวางแผนสำหรับอนาคต และคนไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ตามที่ดี ดังนั้นจงหัดเป็นผู้นำ  อีกทั้งคนไทยเก่งๆ มีเยอะ แต่เรายังขาดศิลปะการบริหารคนเก่ง (เหมือนกับวาทยกร) ที่ประสานคนเก่งให้ทำงานด้วยกันได้ ถ้าใครสนใจด้านหุ่นยนตร์ เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.ctasia-robotics.com ครับ    

 

วิทยากรท่านที่สามคือ คุณวินัย ฉัยรักษ์พงศ์ ซึ่งเป็นนักออกแบบนิทรรศการและ event ต่างๆ มากมาย รวมทั้งนิทรรศการของ TCDC ด้วยครับ  นิทรรศการหนึ่งที่คุณวินัยพูดถึงคือ การนำอาหารมาจัดในนิทรรศการ แล้วปล่อยให้ค่อยๆ บูดเน่า เช่น แอปเปิลเน่าจะมีหนอน ฟังดูน่าขยะแขยง ใช่ไหมครับ แต่คุณวินัยก็มีวิธีในการจัดแสดงงานให้น่าสนใจและดึงดูดครับ เว็บไซต์ของคุณวินัยคือ www.bugstudio.com

 

วิทยากรท่านสุดท้ายคือ คุณคริส แบงเกิล (Chris Bangle) อดีตผู้อำนวยการออกแบบรถยนตร์ของ BMW  คุณคริสมีลูกเล่นและมุขแพรวพราวมาก  ทีเด็ดหนึ่งที่คุณคริสนำมาโชว์คือ การออกแบบรถยนตร์ต้นแบบที่ใช้ผ้าเป็นวัสดุ ชื่อ GINA BMW  สามารถดูได้ใน youtube ที่นี่ครับ

 

 

คุณคริสฝากข้อคิดสามข้อว่า จงตั้งคำถามท้าทายทุกอย่าง (challenge everything)  คำนึงถีงวัฒนธรรม (culture counts)  และ จงกล้าลงมือทำ โดยอ่านเป็นภาษาไทยให้ฟังเลย

 

งานเลิกประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ผมกลับบ้านพร้อมกลับความรู้และแรงบันดาลใจที่เต็มอิ่ม และลุ้นว่า วันอาทิตย์จะได้ฟังอะไรดีๆ อีกบ้างครับ

Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 23:49:05 น.
Counter : 651 Pageviews.  




 

เป็ด"แม่ค้าเสื้อผ้ามือสอง"ที่ไม่รู้ว่าตัวเองโด่งดัง

<<
Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 23:48:58 น.
Counter : 453 Pageviews.  




 

.....เชิญชวนบล็อกเกอร์โอเคเนชั่น..แสดงพลัง..หนึ่งเสียงไม่เอาความรุนแรง.....

Info
Create Date : 25 มีนาคม 2553    
Last Update : 25 มีนาคม 2553 23:48:50 น.
Counter : 382 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.