...ส บ า ย ๆ ส ไ ต ล์ มื อ ไ ม่ PRO แ ถ ม ยั ง... LOWFESSIONAL ...
 
สื่อสารผ่านไมค์ ด้วย OfficeIntercom



ที่ทำงานผมเป็นตึก 5 ชั้น มีอินเตอร์คอมจากชั้นล่าง มายังชั้น3 เวลาจะเรียกคุย หรือเรียกใครรับโทรศัพท์ ก็กดติดต่อกันได้ทันที แต่ไม่ค่อยสะดวกตรงที่ ตัวเครื่องอินเตอร์คอม มันแขวนอยู่ข้างห้อง มีเสียงเรียกทีก็ต้องวิ่งกันที บางครั้งไม่ใช่ชื่อตัวเองก็ไม่สนใจ วันใหนคนถูกเรียกไม่มา คนได้ยินขี้เกียจลุก คนเรียกก็เลยไม่รู้เรื่อง พาลหงุดหงิดว่าเรียกแล้วไม่ขานตอบ มีงอนๆใส่กันบ้างก็เคย

จริงๆแล้วแต่ละคนมีคอมฯอยู่บนโต๊ะทั้งนั้น ลักษณะการจัดโต๊ะทำงาน จะแบ่งเป็นกลุ่มๆ กลุ่มละ 3-4คน ทุกคนมีคอมหมด แต่ว่าแต่ละกลุ่ม จะให้ติดลำโพงได้ 1 ชุดเท่านั้นครับ เอาไว้เปิดเพลง(เบาๆ) จากเน็ตหรือจาก mp3 ก็ไม่ว่ากัน ฟังพอคลายเครียด ขืนติดลำโพงให้ทุกเครื่องคงแย่แน่ๆ เพราะรสนิยมในการบริโภคเพลง ช่างต่างกันอย่างสุดขั้วเหลือเกิน

ผมเองก็เคยผ่านตา จากการเข้าดูตามอินเตอรืเน็ต ในเรื่องเกี่ยวกับโปรแกรมสื่อสารในเน็ทเวิร์ค ทั้งในวงแลนเดียวกัน ทั้งผ่านอินเตอร์เน็ต ก็โหลดมาทดลองอยู่หลายตัวเหมือนกัน แต่มาสรุปอยู่ที่โปรแกรมนี้ครับ OfficeIntercom ที่จะนำมาเล่าให้ฟังนี่ละครับ

เกือบลืม เมื่อตกลงใจจะลองใช้โปรแกรม OfficeIntercom สิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดคือ ไมโครโฟน ครับ ไม่อย่างนั้นคงจะพูดให้ใครได้ยินไม่ได้ และก็น่าจะเป็นไมค์แบบตั้งโต๊ะ ซึ่งจะมีขายตามร้านคอมทั่วๆไปอยู่แล้ว หรือจะเป็นไมค์แบบมีแป้นให้ติดเทปกาว 2 หน้า เพื่อติดกับข้างจอภาพ หรือข้างเคสก็ตามถนัด ขอให้หันหัวไมค์มาทางปากเราเป็นใช้ได้ และก็ไม่จำเป้นต้องมาจ่อใกล้ๆปาก (เหมือนนักร้อง) ก็ได้ครับ นั่งทำงานปกติ พูดด้วยเสียงปกติก็ได้ยิน

หรือใครที่มีหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์โดยตรง วันๆไม่ได้คีย์งาน แต่มีหน้าที่รับโทรศัพท์ เรียกคนโน้นเรียกคนนี้ ลักษณะนี้ ถ้าใช้หูฟังแบบมีไมค์ในตัว ก็จะสดวกมากขึ้นครับ เอาหูฟังครอบหัว (หรือคล้องคอ) หันไมค์จ่อปาก เท่านี้ก็มือว่าง 2 มือแล้วครับ (ผมเจอมีขายที่เซียร์รังสิต ราคา 49 บาท!)

แต่ของผมพิเศษกว่าใคร บังเอิญจริงๆว่า จอมอนิเตอร์ของเครื่องคอมที่โต๊ะผม มีไมค์ฝังมาด้วย 1 ตัวแล้ว สายมอนิเตอร์ที่จะไปต่อเข้าหลังคอม มันจะมีแจ็คไมค์ให้ด้วยเส้นนึง ผมจึงไม่ต้องซื้อไมค์มาเพิ่ม หรือเอามาตั้งให้เกะกะโต๊ะทำงาน ดังนั้น ถ้าใครมีโอกาสซื้อมอนิเตอร์ใหม่ ถ้าเลือกได้ เลือกแบบที่มีไมค์ก็จะดีนะครับ จอผมเป็นยี่ห้อ Socos รุ่น H 770 HA ครับ

หลังจากเสียบไมค์เสียบลำโพงพร้อมแล้ว ก็ไปดูที่นี่ครับ //www.nch.com.au/oi/index.html ลองอ่านๆดูซะหน่อย(ไม่ค่อยออกเท่าไร) ก็พบว่า ตรงตามความต้องการเกือบ 100%

จากหน้าเว็บ ตรงกลางๆจะมีลิ้งก์ให้ดาวน์โหลด มีทั้งแบบเป็น EXE กับแบบ ZIP ก็เลือกเอาตามสะดวกละกันครับ แต่ตรงนี้ผมจะเลือกเอาแบบ EXE ให้ดูเป็นตัวอย่างนะครับ



เมื่อคลิกที่ลิ้งก์แล้ว กรอบดาวน์โหลดก็จะขึ้นมา ผมก็กดที่ปุ่ม Save แล้วเลือกโฟลเดอร์ที่จะวางไฟล์ติดตั้งนี้ไว้ ขนาดไฟล์เพียง 219K ก็คงไม่ต้องใช้โปรแกรมช่วยดาวน์โหลดอะไรหรอกครับ แป๊บเดียวก็ได้มาไว้ในเครื่องแล้ว

หลังจากนั้นก็ตามไปดับเบิ้ลคลิก ที่ไฟล์ที่ดาวน์โหลดลงมา ซึ่งจะได้หน้าต่างแสดงลิขสิทธิ์หรือข้อตกลงต่างๆ



อันนี้ก็ต้องเลือกที่ I Agree... แล้วก็คลิก Next ครับ



จากรูป เป็น Step 1 ช่องข้างบนนั้น ให้ใส่ EMail ของเราลงไป ซึ่งตรงนี้ ผมแนะนำว่า ไม่ต้องใช้เมล์จริงก็ได้ ให้ใช้ชื่อของผู้ใช้คอมเครื่องนี้ดีกว่า เวลาจะติดต่อกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร เพราะเมล์ของบางท่าน ก็ไม่ได้สื่อถึงเจ้าของสักเท่าไร ในที่นี้ ผมจึงใช้ชื่อเมล์เป็นนามแฝงของผม (ที่เขารู้กันทั้งบริษัท) เป็นว่า mitrapap@office.com ครับ

หลังจากใส่ Email(เทียมๆ)แล้ว ก็ติ๊กเลือกที่ Use 14 Day ... เพื่อทดลองใช้ 14 วัน (ถ้าจะใช้จริงๆยาวๆเดี๋ยวจะบอกให้ทีหลังครับ...ใจเย็นๆ!!??) แล้วก็คลิก Next ครับ



เข้าสู่ Step 2 แล้วครับ ตอนนี้ จะได้ยินเสียง ตุ๊ดๆๆ ออกมาจากลำโพง และในช่องสีน้ำเงินนั้น จะแสดงชื่อของซาวด์การ์ดที่เราใช้ ถ้าไม่ได้ยินเสียง หรือไม่มีชื่ออะไรขึ้นมา แสดงว่าผิดพลาดละ แต่ถ้าเครื่องสามารถฟังเพลงได้อยู่ สเต็ปนี้ต้องได้ยินเสียงแน่ๆครับ

มาถึงขั้นตอนนี้ ผมรู้สึกว่าขั้นตอนมันยังซ้ำซ้อนกันอยู่ (หรือเพราะผมทำหลายเครื่องแล้วก็ได้ เลยรู้สึกอย่างนั้น) ผมจึงเสนอให้คลิกที่ปุ่ม Next ลัดไปเลยครับ ตั้งแต่ Step 3 ไป Step 4 แล้วก็ Finish ครับ

พอกด Finish ถ้าใครใช้ WindowsXP จะพบกับหน้าจอข้างล่างนี้ครับ



เป็นหน้าจอของ Forewall หรือระบบรักษาความปลอดภัยเบื้องต้นของ WindowsXP เมื่อมีการติดตั้งโปรแกรมใหม่ๆ ที่จะต้องมีการติดต่อเข้าออก ผ่านแลนหรือผ่านเน็ต ระบบนี้จะเตือนขึ้นมา เหตุนี้ก็เพราะว่า มักมีผู้ไม่ประสงค์ดี แอบนำโปรแกรมต่างๆมาติดตั้งครับ เช่นพวกไวรัส หรือสปายแวร์ทั้งหลาย

ตรงนี้คลิกที่ UnBlock ครับ เพื่อให้โปรแกรม OfficeIntercom สามารถติดต่อเข้า/ออกได้

และในขณะเดียวกัน โปรแกรม OfficeIntercom ก็จะดำเนินการติดตั้งในส่วนของ Internet ต่อไปอีก ให้เรา Cancel ได้เลยครับ

หลังจากนี้โปรแกรมจะรันขึ้นมาแล้ว ซึ่งมันจะมีโลโก้ของ NCH ขึ้นมาบังอยู่ประมาณ 10 วินาที จากนั้นก็จะพบกับหน้าจอดังรูปข้างล่างครับ



จากนั้น คลิกที่เมนู Intercom ก็จะได้หน้าจอนี้ขึ้นมา



2 ช่องข้างบน กลุ่ม Sound Out Device จะขึ้นมาเป็นปกติอยู่แล้ว โดยอันบนสุด จะเป็นชื่อของซาวด์การ์ดที่ใช้ ของผมเป็น SoundOnBoard ธรรมดาๆนี่ละครับ

มาสนใจที่กลุ่ม Sound In Device ให้คลิกที่ปุ่มยาวๆที่ชื่อ Open Windows Record Mixer จะได้หน้าจอดังรูปข้างล่างครับ



ตรงนี้สำคัญมาก ตอนแรกที่คลิกเข้ามานั้น แกนวอลลุ่มของ Microphone จะอยู่ต่ำเกือบสุด ผมจึง"ติ๊ก"เลือกที่ช่อง Select ใต้วอลลุ่ม แล้วดันแกนวอลลุ่มขึ้นจนถึงบนสุดดังรูปนั่นเองครับ

จากนั้น คลิกที่เมนู Option แล้วเลือก Advanced Controls สังเกตว่าจะมีปุ่ม Advanced ขึ้นมาใต้วอลลุ่ม ให้คลิกที่ปุ่มนี้ ก็จะได้หน้าจอนี้ขึ้นมาครับ



จากรูป ถ้าซาวด์การ์ดใครราคาสูง ค่อนข้าง Professional (ไม่ Lowfwssional อย่างผม) ก็จะปรับเสียงทุ้มและเสียงแหลมได้ด้วย แต่ถ้าของใครปรับไม่ได้ ก็หาอ่านวิธีที่จะทำให้ซาวด์ของท่านเสียงดีขึ้นได้ จาก Blog ของผมนี่ละครับ

ที่เราต้องการจริงๆอยู่ข้างล่างครับ คือมาติ๊กเลือกที่ 1 Mic Boost ครับ เพื่อเร่งเกณฑ์อัตราการขยายเสียงของไมค์ ให้มีความไวมากขึ้น เพื่อเวลาพูด จะได้ไม่ต้องเอาไมค์มาจ่อปาก คนละอาการกับการเอาปากจ่อไมค์นะครับ

จากนั้นก็คลิก Close และ X กลับออกมา พอมาถึงหน้าจอของโปรแกรม ให้คลิกเลือกที่ปุ่ม3เหลี่ยม ของช่องที่อยู่เหนือปุ่มยาวๆ จะมีรายการยืดออกมาให้เลือก เราก็เลือกที่รายการ Microphone ครับ

เกือบเสร็จละ อันที่จริงผมมั่นใจว่า 5 ข้อข้างล่างนั้น ทุกท่านคงจะตีความกันได้แล้ว แต่เขียนไว้ซะหน่อยดีกว่าครับ

- Start OfficeIntercom... > โปรแกรมจะทำงานพร้อมกับการเปิดคอม
- Display ... > แสดงสัญลักษณ์อยู่บนทาสก์บาร์
- Allow Others ... > เครื่องอื่นสามารถแอบฟังเราได้
- Play Audio ... > จะมีเสียง ติ๊ด เมื่อกดปุ่มและปล่อยปุ่ม มีประโยชน์ครับ ไม่ลองไม่รู้ (เดี๋ยวพอลองแล้วจะรู้เอง)
- Use Automatic... > ถ้าเรามีการเบาเสียงโปรแกรมอื่นๆ เช่น Winamp หรือ Mediaplayer เวลามีใครกดพูดเข้ามา วอลลุ่มจะถูกปรับให้ดังขึ้นโดยอัตโนมัติ


เอาละครับ มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว คราวนี้ก็ไปติดตั้งโปรแกรมนี้ที่เครื่องอื่นๆในวงแลน ด้วยวิธีเดียวกันนี้ละครับ อย่าลืมว่า การตั้งชื่อเมล์ ให้ใช้เมล์หลอก แต่เป็นชื่อของคนที่อยู่ประจำเครื่องคอมนั้นๆนะครับ เวลาเรียกหากันจะได้ไม่สับสน

จริงๆแล้ว โปรแกรมสามารถใช้เลข IP ในการเรียกหากันได้ แต่เวลาใช้จะไม่สะดวกครับ คนเยอะๆแล้วงงว่าเลขใหนเครื่องใคร เรียกผิดเรียกถูกอยู่เรื่อย

อีกอย่างนึง...ชื่อเมล์ สามารถตั้งเป็นภาษาไทยได้ แต่บางทีไปอยู่กับเครื่องที่มีระบบปฏิบัติการต่างๆกัน เช่น WindowsME บ้าง, XP บ้าง, 98 บ้าง ทำให้บางทีกลายเป็นอักษรขอม สับสนยิ่งไปกว่าเก่าอีก เอาเป็นว่า พยายามเขียนเป็นภาษาอังกฤษเข้าไว้ครับ

การใช้งาน
เอาละครับ มาถึงตรงนี้ สมมติว่าผมติดตั้งไว้ 2 เครื่องแล้ว โดยอีกเครื่องหนึ่งผมใช้อีเมล์ตามชื่อเจ้าของเครื่อง คือ somchai@office.com (สมชาย มีคนเคยบันทึกสถิติเอาไว้ ว่าเป็นชื่อที่มีมากที่สุดในประเทศไทย)

จากหน้าจอของโปรแกรม ผมก็พิมพ์ somchai@office.com ลงไปในช่องว่างนั้น ตอนนี้สังเกตเอาไว้สักนิดนึงว่า ปุ่ม On/Off ทางด้านขวาจะต้องยุบลงไป นั่นหมายถึงการเปิดโปรแกรมหรือ เปิดเครื่องไว้พร้อมใช้งานนั่นเอง

ส่วนอีกปุ่มที่ชื่อ Call [F5] นั้น จะทำงานเหมือนกับวิทยุของตำรวจ หรือเครื่องอินเตอร์คอมที่คุ้นเคยนั่นเอง คือเอาเม้าส์กดค้างไว้ แล้วก็พูด พอพูดจบก็ปล่อย เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามพูดตอบได้ ซึ่งปุ่มนี้ หากขี้เกียจจับเม้าส์ ก็สามารถกดปุ่ม F5 ข้างบนสุดของแป้นคีย์บอร์ดแทนได้ คือกดค้างไว้แล้วพูด พูดจบแล้วปล่อยเหมือนกันนั่นเองครับ

ถ้าทุกอย่างราบรื่นดี ก็จะสามารถพูดจาโต้ตอบกันได้ครับ มีที่สังเกตอีกอย่างคือ ตรงใต้ช่องที่พิมพ์เมล์นั้น จะมีไฟแสดงความแรงของสัญญาณเสียงอยู่ด้วย ตัวด้านซ้าย จะแสดงเสียงจากฝ่ายตรงข้าม ตัวด้านขวาจะแสดงเสียงจากของเราเอง

ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เปิดเครื่อง หรือเครื่องแฮ้งค์ หรือโปรแกรมนี้ไม่ทำงาน เวลาเราคลิกเม้าส์เพื่อพูด จะมีสัญญาณตีกลับมา ดัง ตุ๊ดๆๆ นั่นแสดงว่าติดต่อไม่ได้ครับ (นั่นก็คือผมต้องวิ่งขึ้นบันได 3 ชั้น ซึ่งไม่ชอบเลยเป็นอย่างยิ่ง)

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าฝ่ายตรงข้ามหยุดพูดแล้ว เราจะได้กดปุ่มเพื่อพูดตอบบ้าง?

คืออย่างนี้ครับ เวลาเรากดปุ่ม Call ปุ๊บ จะมีเสียงดัง "ตุ๊ด" สั้นๆ ซึ่งจะดังทั้งฝ่ายที่เรียกและฝ่ายที่ถูกเรียก ดังนั้น ก็จะรับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายนึงกำลังกดปุ่มเพื่อจะพูดละ เราก็อย่าเพิ่งกด ให้รอฟังก่อนครับ

พอพูดจบแล้วปล่อยปุ่ม ก็จะมีเสียงดัง "ติ๊ด" สั้นๆ 1 ครั้ง นั่นก็หมายถึงอีกฝ่ายปล่อยมือแล้ว เราก็จะสามารถกดเพื่อพูดตอบได้บ้าง อันนี้มีประโยชน์ครับ เพราะบางที การพูดอาจมีการเว้นวรรคเพื่อหายใจ ก็จะสังเกตได้ว่ายังไม่มีเสียง "ติ๊ด" ออกมา เราก็ยังไม่ต้องกดเพื่อพูดสวนเข้าไป ซึ่งสัญญาณเสียงนี้ ต้องอธิบายให้ทุกคนที่จะใช้โปรแกรม ให้เข้าใจโดยถ่องแท้ด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นก็จะกดสวนกันไป สวนกันมา ไม่เป็นอันรู้เรื่องกันละครับ

เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ที่เครื่องหรือเปล่า? ก็เอาอย่างนี้สิครับ กดปุ่มแล้วก็ปล่อย ยังไม่ต้องพูดครับ เสียงก็จะดัง "ตุ๊ดติ๊ด" พออีกฝ่ายได้ยิน ตามมารยาทก็ต้องกดแล้วปล่อยตอบกลับมาเช่นกัน เพื่อแสดงตัวว่าอยู่ จากนั้นก็เริ่มสนทนากันได้ครับ

ในการใช้งานจริง ที่ผมไม่ได้มีเพียง 2 เครื่องครับ ถ้าจะมาพิมพ์เมล์เพื่อเรียกคนนั้นที คนนี้ที ไม่ไหวแน่ ซึ่งโปรแกรมก็เตรียมไว้แล้วครับ คือเมื่อเราพิมพ์เมล์ของใครเข้าไปแล้ว ก็คลิกที่เมนู Intercom > favorites > Add To Favorites ชื่อเมล์ก็จะไปปรากฏอยู่ข้างล่าง เมื่อเราพิมพ์เมล์ของคนอื่น เราก็เข้ามาทำคำสั่งนี้อีก ชื่อเมล์ก็จะต่อกันไปเรื่อยๆ เวลาจะเรียกใคร ก็เอาเม้าส์ไปคลิกที่เมล์นั้น ชื่อก็จะเข้ามาในช่องที่พิมพ์นี้ทันที สะดวกมากครับ

สำหรับกรณีที่มีคนเรียกเข้ามา คราวนี้เราไม่ต้องคลิกเลือกเมล์แล้ว เพราะชื่อฝ่ายตรงข้าม จะเข้ามาอยู่ในช่องที่พิมพ์นี้ทันที เราสามารถกดปุ่ม Call เพื่อพูดตอบได้ทันที และเมื่อพูดคุยจบแล้ว ถ้าชื่อเมล์นี้เรายังไม่เคยบันทึกไว้ ก็สามารถบันทึกได้เลย ตามวิธีการข้างบนครับ

เป็นอันว่าการใช้งานแบบปกติ ในอาคารสำนักงานเดียวกัน หรือวงแลนเดียวกัน ก็สำเร็จเสร็จสิ้นไปด้วยดีครับ

แต่ปัจจุบันนี้ สำนักงานต่างๆมักใช้อินเตอร์เน็ตแบบ ADSL กันแล้ว รวมทั้งสำนักงานของผม เอ้ยยย...สำนักงานที่ผมอยู่ ซึ่งมี 2 สาขา ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้ ADSL ทั้ง 2 ที่ โดยอีกแห่งใช้ผ่าน Router อีกต่างหาก ผมก็ได้ติดตั้งโปรแกรม OfficeIntercom ไว้ใช้งานทั้ง 2 ที่ ซึ่งต้องมีการทำ Port Forward ที่ Router ด้วย และยังต้องใช้บริการจาก //www.no-ip.com ด้วย ซึ่งก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ

Tip : ว่าด้วยการประกาศ
บางครั้งมีเรื่องด่วน จะต้องประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ก็สามารถทำได้ โดยวิธีการดังต่อไปนี้ครับ
1. คลิกเมล์คนที่ 1 ให้ชื่อเข้าไปอยู่ในช่องพิมพ์เมล์
2. พิมพ์ตัว ,
3. คลิกเมล์คนที่ 2 ชื่อจะเข้าไปต่อท้ายคนที่ 1 ที่คั่นด้วย ,
4. ทำซ้ำข้อ 2. และ 3. จนครบทุกคน
5. ทำ Favorites เอาไว้ด้วย เพื่อคราวหน้าจะประกาศอีก สามารถคลิกใช้ได้เลย
สะดวกดีครับ คลิกแล้วก็พูดประกาศไปเลย ได้ยินทุกเครื่องครับ ถ้ามีเป็นแผนกๆ หรือแยกเป็นห้อง เป็นกลุ่ม เราก็สามารถจัดกลุ่มไว้ได้ ไม่ต้องลุกเดินไปบอกให้เมื่อยอีกแล้วละครับ

สำหรับเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับ OfficeIntercom ทั้งที่ติดค้างเอาไว้ และที่อาจจะนึกขึ้นได้(อีก)ในภายหน้า ผมจะนำมาเล่าให้ฟังใน Blog นี้แหละครับ แต่วันนี้เหนื่อยแล้ว (พวกจิ้มดีด) ขอพักก่อน...

สวัสดีครับผม

*** ขอบคุณสาวสวยกับ Headphone และ Mic. เห็นว่าสวยดีและใกล้เคียงกับเนื้อหา เลยหยิบยืมมาใช้โดยพลการครับ ***


Create Date : 22 กรกฎาคม 2549
Last Update : 22 กรกฎาคม 2549 13:47:58 น. 3 comments
Counter : 2286 Pageviews.  
 
 
 
 
ตรงที่ใช้ได้ 14 วัน จะบอกวิธีให้ทีหลัง ตกลงต้องทำยังไงคะถึงจะใช้ได้ยาวน่ะค่ะ
 
 

โดย: mai.2550@hotmail.com IP: 58.8.104.200 วันที่: 27 เมษายน 2550 เวลา:10:47:17 น.  

 
 
 
นานๆได้ไล่เปิดหน้าบล็อกแรกๆที ไม่รู้ป่านนี้เลิกใช้ไปหรือยังน้อ...

//www.mediafire.com/?axy5ywzmetd

ตามไปเอายาที่นี่เด้อ...
 
 

โดย: mitrapap วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:19:10:42 น.  

 
 
 
ขอตัวโปรแกรม Version 4.0 หน่อยครับผม ขอบคุณครับ
 
 

โดย: สมชาย IP: 58.64.110.127 วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:9:43:18 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

mitrapap
 
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




Free Domain Names @ .co.nr!
[Add mitrapap's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com