เที่ยงๆ แถวๆที่ทำงานผมนี่ ผมเปิดโอกาสให้น้องๆได้ผ่อนคลายกันบ้าง จึงมักพบว่า บางคนนั่งเปิด MSN พิมพ์ก๊อกๆแก๊กๆแล้วก็นั่งยิ้มมมมม... เอ้า...ก็ไม่ว่ากัน ยามว่างๆไม่เป็นไร แต่ถ้าในเวลางานก็ต้องขอๆกันไว้บ้าง...ใหนๆก็ใหนๆ จะทำร้ายจิตใจกันถึงขั้นถอดเน็ตก็กระไร เลยมาปรับแต่งกันอีกนิด ซื้อไมค์ตั้งโต๊ะมาเพิ่ม แล้วจัดการให้ MSN สามารถคุยผ่านไมค์กันได้ด้วย เอาไว้ใช้ติดต่อกันระหว่างชั้น ระหว่างตึก ระหว่างสาขาได้ทันที มาดูวิธีการกันหน่อย...1. ติดตั้ง MSN ด้วยวิธีการปกติ ให้สามารถพิมพ์ข้อความหากันได้โดยปกติซะก่อน2. สำรวจเครื่องคอมกันสักนิด ว่าสามารถดูหนัง/ฟังเพลงได้เป็นปกติ ถ้าไม่อย่างนั้น ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนด้วย3. ลองมองตรงมุมล่างขวาของจอภาพเราเองว่ามีรูป "ลำโพง" อยู่หรือเปล่า รูปนี้อาจจะเป็นสีเหลือง หรือสีเทาก็ได้ ถ้าไม่มี ก็ต้องจัดการเรื่องนี้ก่อน4. อ่าาาา...มาถึงเนื้อหากันซะที ให้ไปดับเบิ้ลคลิกที่รูปลำโพงนั้นขึ้นมา จะได้ดังรูปข้างล่างนี้ลักษณะจะเป็นแผงควบคุมอย่างนี้ มองหา Mic หรือ Microphone ถ้าเจอแล้วก็แล้วไป แต่ถ้าไม่เจอให้ทำดังนี้4.1 คลิกที่เมนู Options เลือก Properties4.2 มองหา Microphone ในกรอบเลื่อนกรอบล่างนั้น สังเกตว่ายังไม่มีเครื่องหมายใดๆ ให้กาเครื่องหมาย "ถูก" แล้วกด OK กลับออกมาเลย4.3 จะเห็นแผงควบคุม Microphone ออกมาแล้ว5. สังเกตรูปข้างบน ที่ช่องของ Microphone ว่า จะมีการติ๊กเครื่องหมายไว้ที่ Mute นี้คือการ "ปิด" ไม่ให้เสียงที่เราพูดใส่ไมค์ มาดังออกที่ลำโพงเราเอง เพราะส่วนมากแล้ว เราจะวางลำโพงไว้ใกล้ๆเครื่องคอม และไมค์ก็จะเอามาวางอยู่ใกล้ๆกันด้วย หากไม่เลือก Mute ไว้ อาจจะทำให้เกิดเสียง"หอน" วี้ดๆจนปวดหูไปหมดก็ได้ คำแนะนำคือให้ติ๊กเลือกเอาไว้6. มองดูใต้ข้อความ Mute เมื่อตะกี้ หากเครื่องใครไม่มีปุ่ม Advance ก็ข้ามไป แต่ถ้ามี ก็คลิกเม้าส์ที่ปุ่ม Advance น่าจะเห็นรูปข้างล่างนี้ดูข้างล่างของรูปข้างบน (?) เครื่องผมเขียนไว้ว่า 1 Mic Boost นี่คือการเพิ่มอัตราความไวของการรับเสียงของไมค์ ทำให้เวลาเราพูด ไม่จำเป็นต้องจ่อปากไปใกล้ๆไมค์ และไม่จำเป็นต้องตะโกน สามารถพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แนะนำว่าให้ติ๊กเครื่องหมายไว้ ตรงนี้ คอมบางเครื่องอาจจะใช้ข้อความที่แตกต่างกันไป ต้องสังเกตและแปลดูให้ดี เสร็จแล้วก็กด Close กลับไป 7. ทีนี้ ให้คลิกเม้าส์ที่เมนู Options อีกที แล้วเลือก Properties แล้วคลิกเลือกที่ Recording ดังรูปดูรูปข้างบน ในกรอบเลื่อนนั้น ถ้ามีเครื่องหมายติ๊กไว้ที่ใด ให้ติ๊กออกให้หมด เหลือไว้เพียงที่ Microphone ที่เดียวเท่านั้น แล้วคลิก OK กลับไป8. จากรูปข้างล่างนี้ ต้องติ๊กเครื่องหมายไว้ที่ Select ดังรูป และเลื่อนก้าน Volume ขึ้นมาจนสุด เพื่อให้การรับเสียงมีความไวมากๆหากได้ตามนี้แล้วก็คลิก X ออกไปได้เลย ทีนี้ก็มาที่ MSN กันบ้าง อ่อ...บอกก่อนว่าผมใช้ Windows2000 จึงติดตั้งได้เพียง MSN 7.0 เท่านั้น ใครที่ใช้ตัวใหม่ๆกว่านี้ ก็คงต้องเทียบเคียงให้ดีอีกที9. เปิด MSN ขึ้นมา ยังไม่ต้อง Sign In ก็ได้ คลิกที่เมนู Audio Tuning Wizard จากรูปข้างล่าง เขาบอกไว้ว่า ถ้ามีโปรแกรมที่ใช้เสียง เช่น WinAmp หรืออื่นๆ ให้ปิดลงก่อน และให้แน่ใจว่า ได้ต่อลำโพง และเสียบไมค์ไว้ให้ตรงช่องเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็คลิก Next10. หน้าจอนี้บอกว่า ระยะห่างระหว่างปากกับไมค์ น่าจะประมาณ 3 ถึง 5 นิ้ว และอย่าวางลำโพงไว้ใกล้กับไมค์นัก เพราะจะเกิดการหอนได้ อ่านแล้วก็คลิก Next11. รูปข้างล่าง จะแสดงถึงชื่อรุ่นหรือชื่อชิพของซาวด์การ์ดในเครื่องเรา ตรงนี้ต้องไม่ขึ้นคำว่า None เด็ดขาด ถ้าไม่มีชื่อใดๆขึ้น โครงการนี้จะต้องยกเลิกซะแล้ว แต่ถ้ามีชื่อขึ้นถูกต้อง ก็คลิก Next12. ตามรูปข้างล่างนี้ จะเริ่มทดสอบก่อนว่าลำโพงมีเสียงมั้ย โดยเอาเม้าส์เลื่อน Volumn มาทางขวาสุด แล้วคลิกที่ปุ่มยาวๆ จะต้องได้ยินเสียงออกมา ถ้าไม่ได้ยินต้องหาสาเหตุ ว่าเสียบสายถูกต้องหรือไม่ ถ้าได้ยินเสียงเรียบร้อยแล้วก็คลิก Next13. รูปข้างล่างนี้เป็นการทดสอบไมค์ จะสังเกตว่า แถบสีเขียวๆ จะวิ่งขึ้นๆลงๆเล็กน้อย ให้เอาเม้าส์จับ Volumn เลื่อนไปทางขวาสุด แล้วลองเคาะๆที่ไมค์ หรือจะ "อะโหลๆ" ก็ได้ แถบสีเขียวจะต้องพุ่งขึ้นตามเสียงเรา หากว่าเราทำตามขั้นตอนมาตั้งแต่ข้อ 1. เราจะไม่ได้ยินเสียงเราเอง ออกที่ลำโพง แต่จะต้องสังเกตที่แถบสีเขียว ถ้ามันไม่ขยับ หรือไม่พุ่งขึ้นตามที่เราพูดใส่ไมค์ ต้องตรวจสอบว่าเสียบสายไมค์ตรงกับช่องของมันหรือไม่ อาจจะลองสลับดูก็ได้ เพราะมักจะสับสนกันอยู่เสมอๆ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็คลิก Next14. อ่าาาา...เรียบร้อยละ คลิก Finish ได้เลยทีนี้ก็ถึงขั้นตอนสำคัญ คือจะส่งเสียงคุยกันกับเพื่อนแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ฝ่ายที่กำลังแชตใน MSN กับเรา จะต้องมีไมค์ด้วย จึงจะสามารถทดสอบได้ราบรื่น เอ้า... Sign In เข้าไปเล้ยยยย... 15. เมื่อเราดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อของคู่สนทนา หน้าจอสำหรับพิมพ์ข้อความก็จะเป็นแบบนี้ให้คลิกที่ปุ่มที่ชื่อว่า "Audio" โปรแกรมจะส่งคำขอเปิดการสนทนาด้วยเสียงไปยังฝั่งตรงข้ามทันที โดยถ้าหากเกิดเปลี่ยนใจกระทันหัน ก็สามารถคลิกที่ปุ่ม "Cancel" ได้16. ข้อนี้ไม่เกี่ยวกับเรา แต่ก็ต้องรู้ไว้ เพราะบางทีก็มีคนเรียกเรา แทนที่เราจะเรียกเขา (งงมั้ย?) รูปนี้เป็นหน้าจอของคู่สนทนาที่ฝั่งตรงข้ามเรา โปรแกรมจะถามว่า คุณจะตอบรับการขอสนทนาด้วยเสี่ยงมั้ย? ถ้าตอบรับก็กด Accept หรือถ้าไม่ต้องการก็กด Decline ตอนนี้ สมมติว่าตอบรับก็แล้วกัน17. พอคู่สนทนาของเราคลิกตอบรับปุ๊บ โปรแกรมก็จะแจ้งให้เราทราบ เราก็จะได้ยินเสียงกันและกันได้ทันที ไม่ต้องคลิกแล้วพูดเหมือนพวก Intercom แต่ประการใด ดูรูปข้างล่างนี้เวลาหมาพูด (ฝ่ายตรงข้าม) สังเกตที่รูปลำโพงข้างๆหมา และใต้ลำโพงนั้นก็คือ Volumn หากว่าเสียงจากฝ่ายตรงข้ามดังมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็สามารถเอาเม้าส์จับก้าน Volumn เลื่อนขึ้นลงได้ และตรงนี้ จะมีแถบไฟสีเขียวๆแสดงสัญญาณตามการพูดของหมาด้วยเวลาเราพูดบ้าง ก็จะเห็นแถบไฟสีเขียววูบวาบตามเสียงเราพูดด้วย สำหรับ Volumn ของไมค์ เราน่าจะต้องดันขึ้นให้สุดด้านบนไว้ก่อน ทีนี้ก็พูดๆๆๆๆกันเข้าไป จะพูดไปด้วยพิมพืไปด้วยก็ยังไหว18. ทีนี้จะเป้นเรื่องตรงกันข้ามบ้าง ดูรูปข้างล่างนี้หากว่ามีใครเข้ามาขัดจังหวะ ต้องคุยกับคนทางนี้ โดยที่ไม่อยากให้คนทางโน้นได้ยิน เราก็สามารถเอาเม้าส์ไปคลิกเบาๆที่รูปไมค์ ก็จะมีเครื่องหมาย "ห้ามจอด" ขึ้นมาบังไว้ เท่านี้ฝ่ายตรงข้ามก็จะไม่ได้ยินเสียงเราแล้ว พอคุยธุระทางนี้เสร็จ ค่อยกลับไปคลิกที่เครื่องหมายห้ามจอดตรงไมค์อีกที เครื่องหมายก้จะหายไป คุยกันต่อได้เหมือนเดิมในทำนองเดียวกัน หากฝ่ายโน้นพูดไม่หยุดจนน่ารำคาญ หรือไม่ต้องการให้คนทางนี้ได้ยินในบางประโยค ก็สามารถไปคลิกที่รูปลำโพงข้างบน เครื่องหมายห้ามจอดก็จะเกิดขึ้น ต่อให้ฝ่ายโน้นบ่นแทบตาย เราก็จะไม่ได้ยินเสียงใดๆ กะว่าปล่อยให้พุดจนเหนื่อยแล้ว ค่อยกลับไปคลิกเพื่อคุยกัน(ดีๆ)ต่อไปและพอหมดอารมณ์(จะคุย)ด้วยกันทั้งคู่ ก็ไปกดที่ปุ่ม "Audio" ข้างบน ระบบก็จะยกเลิกการสนทนาด้วยเสียงออกจากกันทันที โดยที่เรายังสามารถพิมพ์ข้อความคุยกันได้เหมือนเดิม จบแล้วครับ...ทีนี้หลายๆคนน่าจะพอทำด้วยตัวเองได้กันละ วันนี้ไปก่อน สวัสดีครับผม... Create Date : 06 ตุลาคม 2549 Last Update : 11 ตุลาคม 2549 10:19:39 น. 15 comments Counter : 5069 Pageviews. ShareTweet
ขอบคุณค่ะ..ขอบคุณ