In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 

นุชรินทร์ ศงสะเสน สตรีผู้อนุรักษ์หมาป่า

 

เรื่องราวของผู้หญิงไทยบนเวทีโลก กับงานวิจัยเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ แถมยังเป็นสัตว์ป่าที่ไม่มีใครใคร่จะเหลียวแลนัก

 

 

 

ชีวิตของเธอเดินตามเส้นทางความรักความสนใจอย่างซื่อสัตย์ จากอาชีพสัตว์แพทย์ มาสู่การเป็นข้าราชการในกรมปศุสัตว์ ก่อนตัดสินใจออกสู่โลกกว้าง ในฐานะนักวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านการขยายพันธุ์สัตว์ ที่ผ่านมา เธอเคยผสมพันธุ์แกะในหลอดแก้ว ก่อนจะหันมาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยหมาป่าในปัจจุบัน

สพ.ญ.ดร.นุชรินทร์ ศงสะเสน (Dr. Nucharin Songsasen) นับเป็นคนไทยเพียงไม่กี่คน ที่ได้ทำงานเป็นนักวิจัยของ Smithsonian Conservation Biology Institute ภายใต้สถาบันสมิธโซเนียน สถาบันชื่อดังแห่งสหรัฐอเมริกา

"ทำวิจัยเรื่องสัตว์ป่า ส่วนมาก คนรู้จักสมิธโซเนียนเป็นมิวเซียม ถ้าไปวอชิงตัน ดี ซี ก็ต้องไปสมิธโซเนียน มิวเซียม แต่ภายในมิวเซียม เขามีหน่วยงานที่เป็นนักวิจัยเป็นนักวิทยาศาสตร์เยอะมาก มีหน่วยงานวิจัยในสาขานั้นๆ อย่างถ้า air and space ก็เป็นดาราศาสตร์ ถ้าเป็น natural history ก็เป็นพวกฟอสซิล เข้าไปในป่า ศึกษาชีววิทยาของสัตว์ป่า ของพืช อย่างของเรา ถ้าเป็น Smithsonian Conservation Biology Institute ก็จะอยู่ภายใต้สวนสัตว์ เนชั่นแนล ซู ซึ่งเป็นลีฟวิ่งมิวเซียมของสมิธโซเนียน และเป็นหน่วยงานวิจัยที่ศึกษาเรื่องสัตว์ป่า ศึกษาเรื่องนก เสือ ช้าง และสัตว์ตระกูลกวาง หมาป่า"

นุชรินทร์ จบจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้นไปศึกษาต่อระดับปริญญาโทกับเอก ที่ University of Guelph แคนาดา โดยเรียนทางด้าน bio medical science อันเกี่ยวข้องกับด้านระบบสืบพันธุ์ การแช่ถุงน้ำเชื้อ ตัวอ่อน หลังจากนั้นกลับมาเมืองไทย เธอทำงานที่กรมปศุสัตว์ได้ 2 ปี จนวันหนึ่ง เธอตัดสินใจลาออกไปแสวงหาชีวิตที่ใฝ่ฝัน ด้วยการเริ่มต้นงานที่สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในเมืองนิวออลีนส์ สหรัฐอเมริกา ทำอยู่ราว 2 ปี ก่อนจะย้ายมาทำงานประจำที่สถาบันสมิธโซเนียนได้ราว 10 ปีแล้ว

ก่อนเข้าทำงานที่สถาบันสมิธโซเนียน เป็นคนที่รักสัตว์อยู่แล้ว ?
ใช่ค่ะ รักสัตว์ตั้งแต่จำความได้ ถ้าไปดูรูปตอนเด็กๆ จะเห็นรูปเรากอดหมาตลอด

ความรักสัตว์ ทำให้ฝันอยากเป็นอะไรมาก่อนไหม
ตอนเด็กๆ ก็อยากเป็นสัตวแพทย์นี่แหละค่ะ เพราะคุณพ่อเป็นสัตวแพทย์ อยากไปทำอย่างคุณพ่อ ตอนเด็กๆ จำได้ว่า คุณพ่อทำงานกองผสมเทียม ต้องไปผสมเทียมวัว พอคุณพ่อถูกเรียกไป ก็จะติดรถคุณพ่อไป เดินตามคอกวัว ชอบ

ตอนนั้นอายุเท่าไร

จำไม่ได้ว่าอายุเท่าไร แต่รู้ว่าเด็กมาก จำได้แค่ว่าเดินตามคอกวัวแถวเอกมัย นานมากแล้ว

มันเป็นงานที่เด็กไม่น่าจะประทับใจ?
อาจเป็นเด็กแปลกมั้งคะ ชอบอย่างนั้น เห็นสัตว์แล้วชอบ เลยเลือกเรียนสัตวแพทย์ เกษตรศาสตร์ ตอนนั้นเรียนเพราะอยากเป็นหมอรักษาสุนัขกับแมว มุ่งว่าจบมาแล้วจะมาทำงานคลีนิก ช่วยหมาช่วยแมวให้มีชีวิตรอด พออยู่มาอยู่ไป ยังไงก็ไม่รู้ มาเป็นนักวิจัย พอเป็นจริงๆ เริ่มคิดว่าบางตัวเราช่วยเขาไม่ได้ ก็เศร้า ก็ทุกข์

เคยเป็นสัตวแพทย์มาก่อน?
ใช่ เคยทำอยู่ช่วงหนึ่ง

เห็นสัตว์บาดเจ็บมา ไม่กลัวหรือ
ไม่กลัวหรอกค่ะ กลัวเลือดคนมากกว่า สำหรับคน แผลเล็กๆ ก็ดูไม่ได้ แต่สัตว์นี่ยังไงก็ไม่กลัว

ทำไมคิดว่าการวิจัย ช่วยสัตว์มากกว่าการเป็นสัตวแพทย์
เพราะการวิจัย ถ้าวิจัยทางด้านสืบพันธุ์ คือช่วยให้เขาเกิด ถ้ารักษา ต้องมีเจ็บแล้วหาย หรือตาย เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องไปข้องเกี่ยวกับการตายของสัตว์

ทั้งที่ผ่านอะไรมาเยอะแยะ ไม่ชินหรือ
ไม่ชิน มันรู้สึกเศร้า หากทำต่อไป 10 ปีอาจจะชินมั้ง แต่นี่เลิกซะก่อนไง ทำปีกว่าๆ ก็เลิกซะก่อน อันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เราทำตลอดชีวิต ก็ตัดสินใจไปลองทำราชการดู

พูดถึงงานวิจัยหมาป่า มันน่าสนใจขนาดไหน
หมาป่านี่น่าสนใจมาก เพราะมีความหลากหลายมาก ขอบอกก่อนว่า สัตว์ตระกูลสุนัขในโลกเรามีทั้งหมด 36 ชนิด และมีขนาดแตกต่างกันไป ตัวเล็กที่สุด ก็เล็กๆ ถ้าขนาดใหญ่สุดก็คือ ทิมเบอร์วูล์ฟ และทางด้านชีววิทยาของเขาจะต่างกันมาก มีหลากหลาย จากที่พูดว่ามีทั่วโลก แต่จะมีคนละชนิดกัน แต่ละทวีป มีสุนัขป่าแต่ละชนิด และที่เรามาสนใจ เพราะคนไม่ค่อยสนใจกัน เพราะมีอคติว่าหมาป่าเป็นตัวร้าย คนก็ไม่ค่อยอยากจะรักษา เป็นสัตว์ตระกูลที่อาภัพ ยิ่งตัวโตเท่าไร คนยิ่งไม่ชอบ

สาเหตุที่มาวิจัย เพราะใกล้สูญพันธุ์หรือยังไม่รู้จักเขาดีพอ
ทั้งสองอย่างค่ะ ใน 36 ชนิด มี 6 ชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ ถือว่ามีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์หรือถูกคุกคามต่อการใกล้สูญพันธุ์ ใน 6 ชนิด ถึงแม้ว่าเขาตั้งว่าใกล้สูญพันธุ์ เราก็ยังไม่รู้จักมากมาย อย่างหมาในที่บ้านเรามี ก็ถือว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่ไม่มีการศึกษา ลองค้นดูว่าปีที่ผ่านมามีคนศึกษาหมาในมีออกมากี่เปเปอร์ ก็มีแค่ 4 เอง เราจะไม่รู้ ส่วนมากเวลาเขาดูจะมีสถานภาพ มีการกระจายตัวแถบถิ่นไหน มีประชากรเท่าไร อย่างหมาใน ก็รู้ว่ามีในอินเดีย ในพม่า ในประเทศไทย ในเขมร ในลาว แต่ว่าอยู่ตรงไหนกันบ้าง ก็ไม่ค่อยทราบ ประชากรหนาแน่นเท่าไรก็ไม่ทราบ

การศึกษาหมาในกับทางสถาบันสมิธโซเนียน คุณเดินเข้าไปบอกว่าอยากทำเรื่องนี้ ?
เราต้องไปสร้างงาน ตอนที่ไปทำ พอนายจ้างปุ๊บก็บอกว่า หน้าที่เธอคือไปสร้างงานการอนุรักษ์สัตว์ตระกูลสุนัขป่า เขาให้โจทย์เรามา เราก็มานั่งคิดเองว่า จะทำอย่างไร ก็ไปหาพวก ตั้งโจทย์ว่าสัตว์ตระกูลนี้ขาดข้อมูลตรงไหน ไม่มีข้อมูล เราก็ไปเจาะลึก ถ้าเป็นด้านที่เราไม่มีประสบการณ์ ก็ต้องไปหา collaborator มาช่วยทำ เราไม่ได้จบมาทางนิเวศ พี่ก็ต้องไปหานักนิเวศวิทยามาช่วยทำงาน ของเราเหมือนกับ coordinator ต้องมองภาพว่า ตอนนี้เราต้องเห็นภาพข้างหน้าไป เราต้องการทำอะไร เราต้องหาคนนั้นทำอันนี้เป็น คนนั้นทำอันนี้เป็น เขาจะไม่มาบอกเราว่า วันนั้นควรทำอันนี้ วันนี้ควรทำอันนั้น ต้องวางแผนเอง หาเงินทุนวิจัยมาทำ จ้างนักเรียนมาทำ

กว่าจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสมิธโซเนียนยากไหม
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ช่วงเราคือจับพลัดจับผลู เราเรียนจบที่แคนาดา พอดีตอนที่เป็นนักเรียนปริญญาเอก รู้จักกับเจ้านาย เคยเจอกันตอนที่ไปสัมมนา เราเป็นนักเรียนก็ไปพรีเซนต์งานของเรา อาจจะพรีเซนต์ดีมาก ก็จำได้ พอกลับมาเมืองไทยได้สักพัก แล้วกลับไปอยู่อเมริกา อยู่ทางใต้ได้ 2-3 ปี ก็รู้สึกว่ามีคนพูดถึงสมิธโซเนียน เราก็อยากจะเข้าไป เลยติดต่อเจ้านายคนนี้ มีตำแหน่งไหม ฉันอยากทำงานด้านนี้ ด้านอนุรักษ์ เขาก็บอกว่ามาคุยกัน ก็เชิญไปคุย ไปเสนอผลงานของเรา เขาอาจประทับใจ ก็เลยจ้าง

เขาไม่มีคนที่ทำด้านนี้โดยเฉพาะ?
เขาไม่มีคนที่ทำด้านนี้ ก่อนเราเข้าไป เขาทำศึกษาด้านแมวป่า ทางด้านกวางป่า แต่ทางด้านสุนัขป่า ทีมงานไม่มี เขาต้องการคนมาบุกเบิกตรงนี้ เขาอาจเห็นว่าเรามีแววมั้ง เขาเลยจ้าง

คุณชอบมาก่อนหรือเปล่า หรือสนใจเป็นพิเศษ
เป็นคนรักสัตว์ค่ะ อยากจะช่วยสัตว์ พอเข้าไปก็ถูกทางเลย คิดว่าเป็นเรื่องโชคดี ได้ทำอะไรที่ตัวเองรัก เพราะตอนนี้รักงาน ทำแล้วมีความสุข สนุกดี

อยู่ที่อเมริกาอย่างเดียว หรือได้ไปดูที่อื่นด้วย
ส่วนมากไปอยู่ที่อเมริกา งานที่ทำก็ทำภาคสนาม ตอนที่เข้าไปใหม่ๆ เราไปบุกเบิกงานทางหมาป่าที่บราซิล ก็ไปร่วมงานกับทางบราซิล ศึกษาหมาป่าประจำชาติของบราซิล ตอนนี้ก็ไม่ค่อยไปบราซิล เพราะตอนนี้สร้างนักเรียน ตอนที่เราเข้าไปทำงานใหม่ๆ ตัวของเราคนเดียว เราก็ต้องไปทุกที่ ไปไหนไปหมด

ไปบราซิลนี่ไปคนเดียวเหรอ
ก็ไปคนเดียว ไปร่วมงานกับชาวบราซิล เข้าไปในป่ากับเขา พอตอนนี้มีนักเรียน ก็ส่งนักเรียนไป พอปีหน้าจะส่งนักเรียนไปอยู่กับเขาปีหนึ่ง

นักเรียนจากที่ไหน
จากที่โน่นค่ะ เป็นเด็กอเมริกัน แล้วต้องหัดให้พูดโปรตุกีส

นอกจากบราซิล มีเดินทางไปที่อื่นไหม
พองานบราซิลเริ่มอยู่ตัว เราก็อยากจะกลับมาทำงานที่้บ้านเรา เพราะเราเป็นคนไทย อนุรักษ์สัตว์ป่าของไทยดีกว่า เริ่มดูว่าในไทยมีชนิดใดที่วิกฤติ มีสัตว์ป่าอยู่สองชนิดคือ สุนัขจิ้งจอก และหมาใน หมาในนี่ถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ จึงเข้ามาคุยกับอาจารย์ คณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ แล้วก็คุยกับกรมอุทยานว่าเราสนใจเข้ามาทำตรงนี้ ถึงเราเป็นคนทำ ก็ไม่รู้จะเข้าทางไหน ก็เข้าหาผู้ใหญ่ก่อน ไปให้ท่านแนะนำช่วยเหลือ

ไม่ไปอินเดียบ้าง เพราะมีหมาป่าพันธุ์ที่เลี้ยงเมาคลีมาด้วย?
หมาในในอินเดียมี แต่ไม่ได้เลี้ยงเมาคลี แต่คนศึกษาในอินเดียเยอะแล้ว แต่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีคนศึกษา

บ้านเรา เมื่อเทียบกับนานาประเทศ เราอยู่ในระดับไหน
บ้านเรายังล้าหลังกว่าคนอื่นเขา แต่ตอนนี้ระดับเราค่อยๆ เพิ่มขึ้นมา มีคนสนใจมากขึ้น เด็กรุ่นใหม่ น้องจากเกษตรฯ น้องจากองค์การสวนสัตว์ เขามาทำการศึกษามากขึ้น ก็มีคนสนใจมากขึ้น ดีขึ้น ดีใจที่เห็นคนรุ่นใหม่เริ่มตื่นตัว เพราะตอนที่เราเรียนสัตวแพทย์ การอนุรักษ์สัตว์ป่าไม่ได้อยู่ในความคิดเลย

พอเราทำวิจัย มีขอบข่ายที่ต้องทำอะไรบ้าง
มีหลายอย่าง ยกตัวอย่าง ตอนที่ทำเรื่องหมาใน เริ่มต้นต้องดูก่อนว่า เขาอยู่กันตรงไหนบ้าง ส่วนมากถ้าดูก็จะตั้งกล้องดักถ่ายภาพในป่า อาจจะไปเดินดูรอยเท้า รอยมูล พอเราทราบแล้วอยากรู้ว่าพื้นที่ที่เขาหากินมีอยู่ขนาดไหน เราจะต้องจับใส่ปลอกคอวิทยุ ถ้าอยากรู้ว่าปัญหาคุกคามคืออะไร ติดโรคแบบสุนัขบ้านไหม เราต้องเอาเข็มฉีดยามาเจาะเลือด ดูควบคู่กันไปทั้งสุนัขป่าและสุนัขบ้าน ดูว่ามีการติดเชื้ออะไรที่เหมือนกันไหม

แล้วหลังจากนั้น เราต้องประชาสัมพันธ์ คือทำวิจัยก็ทำไป แต่ถ้าเราไม่ประชาสัมพันธ์ให้คนในท้องที่ที่สัมผัสกับสัตว์พวกนี้ทราบ ทำวิจัยไปก็เสียเปล่า เพราะถ้าชาวบ้านไม่อยากอนุรักษ์ ก็ไปไม่ได้

ทำแบบนี้ มีคนหันมาสนใจมากขึ้นแค่ไหน
ตอนนี้ ในกรณีของหมาในมีคนสนใจมากขึ้นนะคะ ตอนที่เราเข้ามาจัดเวิร์คชอปหมาครั้งแรกในประเทศไทย ตอนนั้นยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับหมาในเลย พอเราเวิร์คชอป ได้เชิญนักวิจัยมหาวิทยาลัย กรมอุทยาน มาร่วมงานกัน ก็มีหลายกลุ่มงาน นั่นเริ่มกระตุ้นความสนใจ เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ จากอดีตที่ไม่มีหวัง ตอนนี้เริ่มมีคนให้ความสำคัญมากขึ้น

หมาในบ้านเราใกล้สูญพันธุ์?
เขามีความเสี่ยงค่ะ เพราะป่าหมดไปทุกวัน แล้วเหยื่อก็เริ่มร่อยหรอไป คนก็ไม่ค่อยชอบ คนไม่ค่อยอยากอนุรักษ์ ความเสี่ยงจึงมาก

สัตว์ตระกูลสุนัขเหมือนเป็นประชากรชั้นสอง?
พอเรามาทำงานเกี่ยวกับสัตว์ตระกูลสุนัข ตระกูลหมา เราต้องประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ว่า สัตว์พวกนี้มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ เพราะพวกนี้จะเป็นตัวควบคุมสัตว์ที่เป็นเหยื่อ

เหมือนเราใช้สัตว์ชนิดหนึ่งไปกินสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ไม่มีวิธีคุมอย่างอื่นหรือ
ไม่ได้ค่ะ ระบบมันเกี่ยวโยงกันหมด สัตว์ทุกชนิดมีหน้าที่ต่อกัน สัตว์ผู้ล่าเป็นนิสัย เป็นธรรมชาติของเขา เขาต้องกินเนื้อสัตว์ เขามีบทบาทของเขา คนเองยังกินทุกอย่าง เราต้องกันมาดูตัวเองด้วย

ทำวิจัยแบบนี้ ต้องเข้าป่าด้วย ไม่ได้นำเข้ามาให้เราทำในห้องทดลอง ?
มีสามแบบ เข้าป่า ทำในห้องทดลอง คือสร้างเทคนิคสมัยใหม่ เพื่อช่วยขยายพันธุ์สัตว์ในสวนสัตว์ เราต้องเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรม ไม่ใช่ว่าเอาตัวนี้มาใส่ตัวนั้น แล้วหมดเรื่อง ต้องดูพันธุกรรมว่ามาทางไหน พ่อแม่เดียวกันไหม บางตัวต้องย้ายทางไกลมาก บางทีต้องใช้การผสมเทียมช่วย หรือถ้าสัตว์ตายขึ้นมา โดยที่เราไม่คาดคิด เราต้องวิจัยว่า เรารักษาพันธุกรรมนี้ไว้ได้ไหม อาจแช่งแข็ง หรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไว้ เพื่อขยายพันธุ์ต่อ นั่นคือทำในห้องทดลอง

ส่วนทำในสวนสัตว์ เราต้องมาดูที่ตัวสัตว์ว่า สัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์บางครั้งมีปัญหาทางด้านสืบพันธุ์ หรือมีปัญหาทางสุขภาพ เราต้องมาวิจัยว่าจะทำอย่างไรให้เขามีสุขภาพดี มีระบบสืบพันธุ์ดี พอได้เทคนิคต่างๆ ก็นำไปใช้ในป่า

เป็นผู้หญิง การเข้าป่านี่ลำบากไหม
เวลาเข้าไปปกติ จะมีที่อยู่อาศัย เช่น ถ้าใกล้เขตอุทยาน ใกล้หมู่บ้าน เราก็เช่าที่อยู่ แล้วนั่งรถขึ้นไป ไปเดินดูบ้าง แต่อย่างที่บราซิล ไปอุทยาน เขาไม่ให้ค้าง ไปอุทยานเช้า เย็นกลับ อาจเป็นโชคดีที่เวลาไปทำ มันก็ไม่ใช่ถิ่นทุรกันดารเท่าไร แต่ถ้าเป็นทุรกันดารก็ชอบ เพราะเป็นคนโลดโผนอยู่แล้ว

เป็นนักวิจัย น่าจะดูนิ่งๆ ชอบอย่างนี้ด้วยหรือ
ชอบสิคะ ไม่ชอบแล้วจะทำหรือ

เคยเจอสัตว์ดุร้ายอย่างเสือ แบบประชิดๆ บ้างไหม
ไม่เคยเจอค่ะ เคยเจอแต่หมาป่า เสือจะอยู่ในเขตป่า พวกหมาป่าจะอยู่ในทุ่งหญ้า จะอยู่คนละที่กัน แต่บางครั้งก็เดินเข้าป่าเหมือนกัน ก็เสียวๆ ต้องคอยมองว่าอยู่ตรงไหน

ป่าเมืองไทยที่คุณเข้าไป เป็นป่าลักษณะไหน
ป่าดิบชื้น บางทีก็ทึบหน่อย บางที่ก็โปร่งหน่อย มีทุ่งหญ้าเล็กน้อย

เคยเจออะไรน่าตื่นเต้นบ้าง
น่าตื่นเต้น คือ เคยเจอช้างไล่ เพราะเราไปกวนเขา มีครั้งหนึ่ง เข้าไปจับหมาในเพื่อติดปลอกคอ เราก็นั่งรถเข้าไป เพื่อดูกับดักของเรา ขับรถเข้าไป ก็มีช้างกลุ่มหนึ่ง มีลูกช้างด้วย พอเราผ่านไป แม่ช้างก็โมโห วิ่งไล่รถเรา ส่วนมากถ้าโดนไล่อย่างนี้ ก็ไม่ลงจากรถค่ะ อีกครั้งก็เจอช้างวัยรุ่น เกเร ออกมาเดินหาอาหาร เราก็ไปเช็คกับดัก ขับรถผ่านเขา ก็ถูกวิ่งไล่ ลงรถไม่ได้เหมือนกัน

สิ่งที่อยากสืบสานต่อ โครงการต่อไป
จะทำเรื่องหมาในนี่ต่อไป แต่ตอนนี้ อยากปลูกฝังน้องๆ ในเมืองไทย ให้สนใจงานด้านนี้ ให้นักวิจัยสนใจ อย่างเราเป็นชาวต่างชาติ ไปทำที่สมิธโซเนียนอาจอยู่ได้ไม่ยั่งยืน แต่ถ้าคนไทยปลูกฝังกันเอง สร้างฐานขึ้นมา นักวิจัยไทยจะไปได้ยั่งยืน อนาคตของสัตว์ป่าเมืองไทยก็จะไปได้สวย

ถ้าคนไม่มีความรู้เรื่องสัตว์ป่า หรือพันธุ์พืช อยากมีส่วนร่วม ทำอะไรได้บ้าง
ก่อนอื่น เราต้องคิดถึงการใช้ชีวิตของตัวเราเอง อย่าทิ้งขยะ พวกถุงพลาสติก ลดการใช้ถุงพลาสติก เพราะถุงพลาสติกจะไม่สลายไป บางทีลงแม่น้ำ ลงทะเล เต่ากิน ตาย การใช้กระดาษ โฟม บางทีต้องคิดว่า สิ่งที่เราใช้ไปแล้วมันไม่สูญสลายไป จะเกิดเป็นขยะ และไปทำลายธรรมชาติที่สัตว์เขาอยู่ ถ้าเราช่วยลดตรงนี้ได้ เราก็ช่วยสัตว์ได้ โดยไม่ต้องเข้าไปโดนช้างไล่

ทำงานวิจัยให้สมิธโซเนียน คงมีคนอยากรู้ว่ารวยไหม
ไม่รวยหรอกค่ะ ทำพอมีพอกิน อยู่ได้ มีความสุข แต่ว่าไม่รวย เพราะจริงๆ แล้ว มาทำตรงนี้ เงินไม่สำคัญ มันเป็นความสุข บางคนทำงานได้เงินเยอะแยะ แต่ไม่มีความสุข บางคนอาจไม่ชอบงานหรือเครียด แต่มาทำตรงนี้ มันมีคุณค่าทางจิตใจ รวยความอิ่มใจ เราได้ทำประยชน์ให้โลก ให้สังคม มันเกิดความสุขอย่างหนึ่ง ไม่อดตาย แต่ก็ไม่รวยล้นฟ้า พออยู่ได้

ทุกคนต้องมีภาระต้องใช้เงิน แล้วอยู่อย่างไร
ตอนเป็นนักเรียนก็ต้องจนหน่อยค่ะ ปริญญาโทปริญญาเอกก็จนมาก แต่ก็อยู่ได้ พอมีพอกิน มีน้อยก็ใช้น้อย ไม่ฟุ่มเฟือย พอเริ่มจบเอกมาทำงานก็รับราชการ เงินก็ไม่เยอะ ประหยัดเอา พอไปอยู่โน่นก็มีเงินเล็กน้อย ใช้ตามสถานภาพตัวเอง แต่พอเรามีความสุขที่จะทำก็มีความสุข พอเพียง มีเท่านี้ก็กินเท่านี้ ถ้าอยากมีบ้าน แต่เงินน้อย ก็ไม่ต้องซื้อบ้านใหญ่ ซื้อที่เรามีกำลังจะซื้อได้ หรือจะแต่งงาน ไม่มีเงิน ก็แต่งแบบประหยัด

ในอนาคต เจอเพื่อนคุยกัน อวดร่ำอวดรวย อายเขาไหม
ไม่เห็นอายเลย ไม่เปรียบเทียบค่ะ เรามีความสุขของตัวเอง มองตัวเองว่ามีความสุขตรงนี้ไหม ก็มีความสุข ให้ไปทำอย่างอื่นไหม ก็ไม่อยากทำ อยู่อย่างนี้ ก็มีความสุขดี

อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่อยู่ในสังคมที่ใครๆ ก็บอกว่าต้องทำงานต้องหาเงิน ?
เราต้องมีความเชื่อมั่นของตัวเองว่า นี่คือสิ่งที่เราอยากจะทำ เราต้องตั้งเป้าว่า นี่คือสิ่งที่อยากทำ ไม่ต้องไปฟังใคร ตอนที่เราจะลาออกจากงานราชการ ตอนนั้นทุกคนถามว่า เธอโรคจิตหรือเปล่า อยู่กรมเธอมีงานทำมั่นคง แต่ไปอยู่โน่น เธอไปทำอะไร เราก็ไม่รู้ ต้องดูเอา น่าจะมีหนทาง ตอนนั้นมีแต่คนคัดค้าน ไม่มีคนสนับสนุนเลยนะ คุณแม่ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงจะทิ้งพี่น้องไปอยู่โน่น ถ้าตัดสินใจตรงนี้แล้วเนี่ย บางครั้งก็มีท้อแท้บ้าง แต่อย่าหยุดเป้าหมาย ต้องทำงานหนัก ทำงานเต็มที่ อย่าไปวอกแวก แล้วก็มองหาโอกาส อย่างที่เราได้ทำสมิธโซเนียน เพราะเราไม่อายไงที่จะติดต่อเขา มีงานไหม มีอะไรไหม ถ้าเรานั่งอยู่เงียบๆ ฝันว่าอยากไปทำ แต่เราไม่เริ่ม มันก็ไม่มาหาเรา เราต้องเตรียมพร้อมตัวเราด้วย แล้วก็มองหาโอกาสเพื่อไปถึงตรงนั้น

เคยท้อไหม ที่เราเลือกเส้นทางไม่เหมือนใคร
ไม่เคยท้อค่ะ เพราะเป็นนิสัยอยู่แล้ว ชอบอะไรท้าทาย มันเป็นความภูมิใจ เราสร้างโปรแกรมตรงนี้มาด้วยมือของเราเอง จนเดี๋ยวนี้ เป็นหัวหน้าโครงการ มีเด็กนักเรียน 6-7 คนทำงานให้เรา ก็มีโปรแกรมจะขยายมากขึ้น มันเป็นความภูมิใจของเรา

คำว่า 'เด็ก' หมายถึงระดับไหน
นักเรียนปริญญาโท ปริญญาเอก ที่เข้ามาทำงานด้วยกัน อย่างปริญญาตรีก็มีเข้ามาทำงาน 3-4 เดือน แล้วลองดูว่าชอบตรงนี้ไหม ที่เมืองนอกจะมีให้ลองดูว่าชอบไหม เพราะบางคนยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนต่อแบบไหนดี

มีน้องๆ ในเมืองไทยอยากทำตรงนี้มากไหม
มีมากค่ะ มีมากขึ้นค่ะ อย่างคณะวนศาสตร์ มีกลุ่มสัตว์ป่า ทางคณะแพทย์ก็มีให้เลือกความเชี่ยวชาญทางกลุ่มสัตว์ป่า องค์การสวนสัตว์ก็มีวิจัยสัตว์ป่าโดยเฉพาะเหมือนกัน ตอนนี้จะมีโอกาสมากขึ้น ที่น้องจะเข้ามาทำ แต่ปัญหาคือ น้องใหม่ต้องมีใจรัก ทำวิจัยสัตว์ป่าจะมานั่งในกรุงเทพฯก็ไม่ได้ ต้องมีใจรัก ไปอยู่กับป่า ไปเดินป่า ไปศึกษาธรรมชาติ ต้องลุย อย่างไปกลัว อย่าไปย่อท้อ

เป้าหมายอนาคต อีก 5 ปี 10 ปี จะไปทำอะไร
จะทำวิจัยต่อไปค่ะ ที่มาตรงนี้เพราะอยากสร้างงานนี้ให้รุ่นน้องๆ ทำ อยากเทรนนักเรียนไทยให้อนุรักษ์สัตว์ เรายังอยู่ตรงนี้ แต่ในอนาคตเราอาจไม่ลงมาคลุกเอง มีคนมาช่วย แต่ก็คงจะทำตรงนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเลิกจ้าง หรือหมดแรงทำงาน

เห็นด้วยกับประโยคนี้ไหม "ศักยภาพคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"
เห็นด้วยค่ะ ถ้าเรามีความตั้งใจจริง เราก็เทียบเขาได้ ดูอย่างเราสิ ต้องตั้งใจ ศักยภาพเรามีอยู่แล้ว.

(หมายเหตุ : ผู้สนใจสามารถชมเทปสัมภาษณ์ นุชรินทร์ ศงสะเสน ได้ ในรายการ World Class Smart Thai ทางกรุงเทพธุรกิจทีวี หรือชมย้อนหลังได้ทางยูทู้บดอทคอม)




 

Create Date : 29 มกราคม 2556    
Last Update : 29 มกราคม 2556 16:40:38 น.
Counter : 877 Pageviews.  

ธปท.เตรียมงัดเครื่องมือคุมเข้มสกัดหนี้ครัวเรือน




 

Create Date : 29 มกราคม 2556    
Last Update : 29 มกราคม 2556 14:55:04 น.
Counter : 663 Pageviews.  

Fact File : "โรฮิงญา" เหยื่อความโกรธแค้น

รัฐบาลพม่ากระทำโดยไม่ตระหนักว่า ปัญหาชาวโรฮิงญา สุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชน






 

Create Date : 29 มกราคม 2556    
Last Update : 29 มกราคม 2556 14:54:01 น.
Counter : 443 Pageviews.  

ธนิตยันเดินหน้าประชุมวันนี้ปลดพยุงศักดิ์

"ธนิต"ยันเดินหน้าประชุมวันนี้ ปลด"พยุงศักดิ์"ระบุถูกถอดถอนไปตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.55 ยันไม่ก่อกวนการประชุมบอร์ด




นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และ รักษาการประธาน ส.อ.ท. ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการ Morning News "กรุงเทพธุรกิจทีวี" ในช่วงเช้าของวันนี้ (28 ม.ค.) หากพบคุณคุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ต้องบอกก่อนว่า คุณพยุงศักดิ์โดยข้อบังคับของเรา ท่านถูกถอดถอนไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.

ประเด็นคือไม่ออกจากที่ทำงาน เอาตำรวจมาตรึงสถานที่ไว้ ทำให้เราเข้าไปไม่ได้ ประการที่ 2 ที่บอกว่าเราจะมาก่อกวน ที่เรามาวันนี้ คือ เอสเอ็มอีและผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกกรรมการสภาอุตสาหกรรมทั่วประเทศ คือสภาอุตสาหกรรมในจังหวัด ต่างจังหวัด

"หมายความว่าคือเลยจากกรุงเทพฯไป คือสมาชิกของเราทั้งหมด กรรมการของเราทั้งหมด กรุงเทพมันไม่มีโรงงาน สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ก็คือ กลุ่มใหญ่ของอุตสาหกรรมทั้งหมด วันนี้ที่ท่านจะไปก่อกวน เราจะไปก่อกวนอะไร คนที่มา 60 บ้าง 70 บ้าง เป็นเจ้าของธุรกิจทั้งนั้นเลย วันนี้เป็นวันประชุม ซึ่งเราใช้แนวทาง คืออย่างนี้ที่ไม่ได้เจอหน้ากัน เราพยายามจะเจรจา อย่างน้อยเป็นทางการ 3-4 ครั้ง ท่านไม่เจรจาด้วย แม้แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีงานกาชาดจะจัดเดือน เม.ย. เราก็ส่งคนไปบอกว่างานกาชาด เราอย่ามาทะเลาะกันเลยดีกว่า เรามาร่วมมือกันจัดดีกว่า เป็นงานการกุศล พูดตรงๆ เป็นงานของเบื้องสูงอยู่แล้ว เรามาร่วมมือกันจัดเหมือนเดิมดีกว่า ท่านบอกว่าไม่สนใจ แม้แต่งานกาชาดแกยังไม่อยากร่วมมือกันจัด วันนี้คงไม่ได้เผชิญหน้าอะไร ตอนเช้าเรามีสัมมนา รัฐมนตรีอุตสาหกรรมก็มาเปิด อย่างน้อยมี 300 คน เดี๋ยวตอนบ่ายโมง เรามีประชุมสายงานต่างจังหวัด"

ส่วนกรณีที่คุณพยุงศักดิ์บอกว่า คุณทวี ปิยะพัฒนา ที่ดูแลสายงานนี้ ไม่ได้จัดประชุมนี้ คุณธนิตใช้อำนาจอะไรในการจัดประชุม นายธนิต กล่าวว่า คุณพยุงศักดิ์โดนถอดถอนไปแล้ว คนที่ถูกถอดถอน จะไปตั้งใครได้ ตัวแกเองต้องออกจากสภาแล้ว พูดตรงๆ แกไปตั้งคุณทวี บอกว่าให้เป็นประธานสายงานต่างจัวหวัด มีจังหวัดไหนบ้างที่ขึ้นกับแก ผมว่าไม่เกิน 3 จังหวัด แม้แต่ท่านนายกฯ ไปที่อุตรดิตถ์จัดงานประชุม ครม. สัญจร เชื่อไหม ภาคเหนือทั้งภาคไม่มีเลย ผมต้องนัดท่านนายกฯ ต่างๆ และเอาภาคเหนือทั้งภาคไปประชุมกับท่านนายกฯ คุณพยุงศักดิ์ไม่สามารถดูแลคนทั้งหมดได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ลองย้อนถามคุณธนิตว่า การประชุมวันนี้ ทางฝั่งคุณธนิตเอง มีอำนาจตามกฎหมายมากน้อยแค่ไหน นายธนิต กล่าวว่า ต้องมีสิ ประการแรก คือ คุณพยุงศักดิ์ถอดถอนไปแล้วตามการประชุม ซึ่งแกบอกว่าประชุมวันที่ 26 พ.ย. แกเลื่อนประชุม ซึ่งเป็นวันถอดถอนแก ถ้าแกมีอำนาจเลื่อนประชุมได้ แสดงว่า วันนั้นเป็นโมฆะหมด เราก็ถามแกว่า แกมีอำนาจเลื่อนประชุมวันที่ 26 พ.ย. ตามภาพที่พวกเรามานั่งริมบันได แกอ้างว่าเลื่อนได้ด้วยข้อกฎหมายข้อที่เท่าไหร่ แกไม่เคยตอบ ผมบอกว่า ผมประชุมภายใต้ข้อบังคับ ฉบับที่ 3 พ.ศ.2531 ข้อ 7 ที่ระบุชัดเจนว่า การประชุมประจำเดือนให้มีเดือนละครั้ง การเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับกรรมการเห็นสมควร

"เราต้องประชุม การเปลี่ยนแปลงต้องไปเปลี่ยนในกรรมการ ประการที่ 2 เรามีข้อบังคับชัดเจน กรณีที่ประธานไม่อยู่ในห้องประชุม ถ้าจำไม่ผิด ข้อ 9 ประธานไม่อยู่ในที่ประชุมต้องตั้งรองประธานท่านใดท่านหนึ่งขึ้นแทน ซึ่งเขาตั้งผมวันนั้น และก็มีข้อบังคับด้วยว่า กรณีที่คุณสันติลาออกไป กรณีที่ประธานพ้นจากวาระก่อน 180 วัน อย่างนี้เป็นต้น ก็ให้เลขาธิการรักษาการแทน คือเราพูดเป็นข้อๆ คุณพยุงศักดิ์นี่ไม่เคยบอกข้อไหน สื่อมวลชนเคยให้เราออกในข้อที่ท่านถาม แต่เราไม่เคยออก ผมทำหนังสือชี้แจงไปที่กระทรวงอุตสาหกรรมก่อนหน้านี้เป็นเดือนแล้ว ถ้าไม่ถูกต้องท่านคงท้วงติงไปนานแล้ว"

ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายเรียกร้องให้นายธนิต ถอยเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสภาอุตฯ นายธนิต กล่าวว่า ผมถอยตลอดเวลา ขนาดเจรจาว่ามันเลยมาตั้ง 2 เดือนแล้วนะ ภาพลักษณ์อุตสาหกรรมก็เสีย ประเทศก็เสีย อย่ามาเอาผิดเอาถูกกันเลย เราเดินมาเลยเถิดกันมาขนาดนี้ ผมเป็นคนบอกว่า ท่านกลับไปอยู่เหมือนเดิมดีไหม ใครอยู่ตรงไหนก็ให้กลับไปอยู่สถานะเดิมแล้วมาสู่การเลือกตั้งเหลืออีกแค่ 1 ปี ท่านบอกว่าไม่เอา เราพยายามเจรจาทุกอย่างหมดเพื่อเห็นแก่องค์กร ท่านไม่เอาหมดเลยนะ

สำหรับ ในการประชุมในวันนี้ บอกว่ามีวาระหาทางเยียวยาเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่ถูกปรับขึ้นไป นายธนิต กล่าวว่า เรื่องเยียวยา ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้มันเลยเวลาที่มาบอกว่าเอา ไม่เอา แล้วนะ เพราะมันเป็นกฎหมายแล้วต้องเดินหน้าไปด้วยกันแล้ว พวกเอสเอ็มอีในต่างจังหวัด ก็มีปัญหามาก เพราะการขึ้นค่าจ้าง 2 รอบ ตรงข้อมูลราชการ ผลกระทบประมาณ 8 -9 % กำไรธุรกิจมี 5% อันนี้ ก็ขาดทุน มันต้องมาเยียวยา พูดถึงเรื่องการใส่เม็ดเงินเข้าไป สภาพคล่อง ส่วนต่างของภาครัฐ เอกชน มันต้องประคองไปด้วยกันในช่วงนี้ วันนี้คงจะมาคุยมาตรการต่างๆ กัน

//www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130128/487630/ธนิตยันเดินหน้าประชุมวันนี้ปลดพยุงศักดิ์.html




 

Create Date : 28 มกราคม 2556    
Last Update : 28 มกราคม 2556 17:54:18 น.
Counter : 919 Pageviews.  

ศึกสภาอุตฯยากเยียวยา 2ฝั่งถกท้าชน




รอยร้าวสภาอุตฯยากเยียวยา 2 ฝั่งจัดประชุมท้าชน เจ้าหน้าที่ตร.ร่วมรักษาความปลอดภัย "วัลลภ"วอน"ธนิต"เห็นแก่สภาฯ

นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้สัมภาษณ์รายการ Morning News "กรุงเทพธุรกิจทีวี" ในช่วงเช้าของวันนี้ (28 ม.ค.) ก่อนเข้าร่วมประชุมส.อ.ท.ในฝั่งของนายวัลลภ ว่า จะมีการทบทวนเรือ่งของสายการทำงาน เนื่องจากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีความขัดแย้งเกิดขึ้น กระทบต่อการติดต่อหรือประสานการทำงานกับภาครัฐ ขณะที่คณะทำงานอีกฝั่งก็ทำงานของเขาอยู่

ส่วนกรณีที่การประชุมวันนี้มีตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยเพื่อป้องกันความวุ่นวาย นายวัลลภ กล่าวว่า ไม่ห่วงว่าจะเกิดความวุ่นวาย เพราะอีกฝ่ายต้องการแสดงออกว่าอยากจะเข้าร่วมประชุมในสภาจังหวัด

"ต้องมองอย่างนี้ว่าสภาจังหวัด กลุ่มของสภาจังหวัดบางกลุ่มเองเขาไม่ยินดีด้วยกับคุณธนิต โสรัตน์ อาจจะเข้ามาดูบรรยากาศว่าในการประชุมคราวนี้มีวาระอะไรบ้าง ผมมองว่ามันก็เป็นธรรมดาพอดีทางฝั่งโน้นเองก็คงจะเห็นอย่างที่บอกกันอยู่แล้วว่าเขาเตรียมไว้เหมือนกัน"

ส่วนผลกระทบในแง่ภาพลักษณ์ของส.อ.ท. นายวัลลภ กล่าวว่า เท่าที่ฟังดูน่าจะก่อความวุ่นวายพอสมควร เนื่องจากการประชุมคราวนี้เป็นการประชุมกรรมการสภา เห็นว่าจะเกณฑ์คนของสมาชิกเข้ามาด้วย ซึ่งตเห็นว่าวิธีนี้จะสร้างความวุ่นวาย เพราะว่าเจตนาอาจเป็นเจตนาที่ไม่ดี มาในลักษณะของการประท้วง

"ผมก็วิงวอนว่าไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ตำรวจที่เข้ามาต้องเพิ่มเนื่องจากว่าด้วยสาเหตุข้อนี้แหละที่มีสมาชิกเข้ามาร่วมด้วย"

ส่วนการประชุมของบอร์ดบริหารในวันนี้ นายวัลลภ กล่าวว่า มีกรรมการร่วมเกินกึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 200 คน
นอกจากนี้ นายวัลลภ ยังกล่าวว่า อยากจะให้คุณธนิตเห็นแก่สภาได้แล้ว เพราะจริงๆ แล้วคุณธนิตเองก็ไม่ได้โฟกัสไปที่กรรมการของทุกคนในสภา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม หรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดบางกลุ่ม หรือสภาจังหวัดที่คุณธนิตดูแลอยู่ก็ตาม

"อยากวิงวอนว่าสภาเองก็เสียหาย จริงๆ แล้วเขาก็โฟกัสไปที่ประธานสภา ซึ่งประธานสภายืนยันวันนี้คงจะมาบอกว่าประธานสภาให้ลาออกได้ไหม ผมมองแล้วประธานสภาต้องทำงานแล้วครับ สภาเองก็ต้องมีการดำเนินงานตามปกติต่อไป ไม่งั้นสภาจะทำงานอย่างไร"

ปัญหาค่าแรง 300 บาท ที่ส่งผลกระทบผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) จะมีทางออกอย่างรไร นายวัลลภ กล่าวว่า คงจะต้องคุยกับภาครัฐเป็นประเด็นไป เรื่องค่าเงินบาทยังมีความพยายามที่จะดันค่าใช้จ่ายส่วนชดเชยอยู่เพื่อปรับตัว ส่วนค่าเงินบาทอาทิตย์นี้ต้องนัดพบกับท่านผู้ว่าฯ นิดหนึ่ง ขอคำชี้แจงและขอเสนอมาตรการต่่างๆ เพื่อไม่ให้อัตราค่าเงินบาทผันผวน

ส่วนการประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นในส.อ.ท. นายวัลลภ กล่าวว่า วันนี้คงมีหลายความคิด หลายแนวความคิดกันเกินไป ผมคิดว่าคงไม่ประสบความสำเร็จที่จะคุยกันวันนี้

//www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20130128/487621/ศึกสภาอุตฯยากเยียวยา-2ฝั่งถกท้าชน.html




 

Create Date : 28 มกราคม 2556    
Last Update : 28 มกราคม 2556 17:52:29 น.
Counter : 482 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.