In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
10 กฎทอง Entrepreneur (ตอนที่ 1)

ชีวิตไม่เหมือนเกมคอมพิวเตอร์ เมื่อ Game over แล้วก็ยังเริ่มใหม่ได้ เวลาผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย

เจ้าของกิจการจะต้องมีแรงขับเคลื่อนที่ริเริ่มได้เอง ไม่ต้องให้ใครมาเข็น ด้วยการยึดกฎทองทั้ง 10 ข้อ ต่อไปนี้

กฎข้อที่ 1 ชัดเจนใน DOs and DON’Ts
ผู้ที่จะริเริ่มทำธุรกิจใหม่ ต้องการความสำเร็จ ต้องตีโจทย์ให้แตกว่าอะไรเป็นเงื่อนไข Must คือเงื่อนไขจำเป็นในการเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องค้นให้พบคือ เป็นธุรกิจที่มีความต้องการในตลาด ขณะเดียวกันก็เป็นความต้องการที่ตัวคุณเองสามารถตอบสนองได้ดีกว่าคนอื่น แก้ปัญหาได้เก่งกว่าคนอื่น มีความเป็นเอกลักษณ์ที่คนอื่นเอาอย่างได้ยาก ต้องมองเห็นสิ่งที่คนอื่นเขามองไม่เห็น โอกาสธุรกิจมีอยู่เกลื่อนกลาด แต่ต้องเข้าให้ถึงแก่นแท้ของความต้องการตลาดอย่างแท้จริง คนที่เข้าถึงตลาดไม่เคยมีใครล้มเหลว ตอบตัวเองให้ได้ว่า “ลูกค้า” ของคุณต้องการอะไร

กฎข้อที่ 2 เมื่อโอกาสมาถึงต้องกดคันเร่ง
โลกยุคนี้เป็นโลกแห่ง inorganic growth ที่ทุกอย่างความเร็วเหนือเสียง เมื่อเริ่มใหม่ๆ อาจจะต้องคอยดูปัจจัยต่างๆ ไม่เสี่ยงกับสิ่งที่ไม่รู้หรือควบคุมไม่ได้ เมื่อสำเร็จ ต้องมีลูกตาม ต้องหาวิถีทางที่จะทะยานให้เร็ว อย่างนี้จึงจะเรียกว่าทำธุรกิจยุคดิจิทัล ลองไปดูธุรกิจที่โดดเด่นในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะเข้าใจ แต่ละแห่งมีช่วงที่โตเร็วทั้งนั้น ตอนนั้นเป็นช่วงจังหวะที่เขาไม่รีรอ แต่ฉกฉวยสร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นอย่างรวดเร็ว

คนยุคนี้เลียนแบบเก่งมาก ขณะเดียวกัน วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) ก็สั้นลงอย่างน่าใจหาย ปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่การสร้างความแตกต่าง ซึ่งมีเพียง 2 ประการเท่านั้น นอกจากคุณค่า (Customers’ Value) แล้ว ก็คือความรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี คำว่า Economies of Speed ก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ความว่องไวช่วงสั้นๆ การทำธุรกิจเป็นเรื่องระยะยาว คุณต้องซ้อมให้มี footwork ดีอยู่เสมอ เร็วอยู่ตลอดเวลา รักษาระดับอยู่ตลอดเวลา

กฎข้อที่ 3 เจ้าของธุรกิจต้องรู้คุณคน
คนเราไม่ว่าจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิต ก็ต้องโน้มตัวให้ต่ำลงไว้ ทำใจให้นอบน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวด และเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ก็ยิ่งต้องนอบน้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่เคยให้ความเมตตามาก่อน ต้องมีสำนึกถึงบุญคุณที่เขาให้คำชี้แนะ ให้ความช่วยเหลือเรามา ไม่ว่าจะเล็กน้อยสักแค่ไหน หรือคนเหล่านั้นจะกลายเป็นคนที่ต่ำต้อยกว่าตนเอง

ความสำนึกต่อบุญคุณที่ “ครู” ให้คำสั่งสอนเรา ให้เราได้มองเห็นแนวทางสู่ความสำเร็จ รวมถึงผู้ที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือยามที่ตกต่ำ จนถึงเพื่อนร่วมงานที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างธุรกิจขึ้นมา จะทำให้เราเป็นผู้ที่คนอื่นยินดีให้ความช่วยเหลือ เป็นคนที่เรียนรู้ไม่รู้จบ จะเป็นเลิศอย่างยั่งยืน แล้วจะมีคนยื่นมือมาช่วยให้ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

กฎข้อที่ 4 คบเพื่อนที่มีความเห็นต่าง
การทำธุรกิจ เป็นการทำงานเป็นทีม ต้องรวมพลังจากคนที่มีความคิดจากหลากหลายมุม มีความสามารถจากหลากหลายด้าน แต่มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน จึงจะสำเร็จ ไม่ใช่หาแต่คนที่คิดเหมือนกันมาสุมหัวกันทำงาน ทีมที่มีกลุ่มผู้นำที่มีความแตกต่างกันเข้ามาบริหารร่วมกันมักจะแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าเสมอ เพราะคนหนึ่งเกิดมีความคิดที่จะลุยเดี่ยว ก็จะมีอีกคนหนึ่งมองแตกต่างกัน คอยถ่วงดุลให้คิดรอบคอบมากขึ้น งานบางอย่างที่สำคัญอาจจะตรงกับความถนัดของคนหนึ่ง แต่ไม่ตรงกับความถนัดของอีกคนหนึ่งก็เป็นไปได้ กรณีนั้นก็ให้ผู้ที่ถนัดกว่าเข้ามาทำ งานจึงจะเป็นได้ราบรื่น

กฎข้อที่ 5 หัดตั้งคำถาม เพื่อแก้ปัญหา
เป็นเจ้าของธุรกิจต้องกัดไม่ปล่อย คอยตั้งคำถาม “ทำไม” ไว้ในใจตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ปัญหาอะไร ต้องมีคำถามนี้เสมอ

ต้องสร้างนิสัยให้มองเห็นปัญหา แล้วปัญหาคืออะไร มันก็คือทุกอย่างที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่เป็นไปตามที่มันสมควรเป็น เมื่อพบปัญหาแล้วตั้งคำถาม “ทำไม” หาคำตอบได้ คุณก็เก่งขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว หลายๆ ครั้งคำตอบนั้นเองกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่หรือจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง สร้างความแตกต่างกับคู่แข่งอย่างเด่นชัดได้

คนที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่อง เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของวงการธุรกิจอย่าง Henry Ford ผู้พลิกโฉมกระบวนการผลิตรถยนต์ หรือ Steve Jobs ผู้สร้าง Apple Computer แล้วกลับมาสร้าง iPod อีกครั้งหนึ่ง หรือ Edison นักประดิษฐ์คิดค้นเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมายจนกลายมาเป็นอาณาจักร GE ในปัจจุบัน ล้วนเป็นนักตั้งคำถามและนักหาคำตอบทั้งนั้น

เจ้าของกิจการที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากความรู้และความสามารถในการทำแล้ว ยังต้องมีความกระหายต่อข้อมูลและความฉลาดที่เกิดมาจากการถามและการหาคำตอบ การรู้จากสิ่งที่ได้สัมผัสอย่างแท้จริงจากสภาพความเป็นจริงเท่านั้น แล้วเอาคำตอบที่ได้นั้นไปทำให้เป็นรูปธรรม

เถ้าแก่มือใหม่ต้องเรียนรู้วิธีคิด มุมมองของเถ้าแก่รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะจากการอ่านหรือจากการได้สนทนา จากการร่วมงาน เอาคนเหล่านั้นมาเป็น role model ให้ตัวเองมีความคิดที่ถูกต้อง

แล้วจะพบว่าผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ไม่ว่าจะยุคในสมัยใด มีสิ่งที่เหมือนกันคือ “Inquisitive Mind” ที่อยากรู้เหตุผลไปเสียหมด มีคำถามว่า “ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้” “ไม่เป็นอย่างนี้ไม่ได้หรือ” “วิธีนี้ดีที่สุดแล้วหรือ” อยู่ตลอดเวลา

โอกาสต่อไปผมจะมานำเสนอกฎทองอีก 5 ข้อ ที่เหลือครับ

สุธี พนาวร
โรงเรียนเถ้าแก่
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/sutee/20091018/85524/10-กฎทอง-Entrepreneur-(ตอนที่-1).html


Create Date : 29 กรกฎาคม 2554
Last Update : 29 กรกฎาคม 2554 11:38:24 น. 0 comments
Counter : 634 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.