In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
เมื่อเงินเยนอ่อนค่า...การค้าเอเชียจะเป็นอย่างไร

ตั้งแต่ต้นปี 2556 เงินเยนอ่อนค่าลงมากถึง 8.5 % เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

การอ่อนค่าของเงินเยน ปัจจัยหลักๆ มาจากการคาดกันว่า เงินเยนจะอ่อนค่าลงในอนาคตตามแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ ที่ทั้งนโยบายการเงินและการคลังในระยะต่อไปมีทิศทางที่จะผ่อนคลายเพิ่มขึ้น โดยจุดประสงค์หลัก คือ ต้องการให้ประเทศญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับผู้ส่งออกและนักลงทุนทั่วไปรวมทั้งไทย ทั้งในด้านความสามารถในการแข่งขันและผลกระทบที่จะมีต่อการลงทุนในระยะต่อไป จึงมีคำถามว่าทิศทางการค้าเอเชียจะเป็นอย่างไรเมื่อเงินเยนอ่อนค่า

จากการศึกษา พบว่าการอ่อนค่าของเงินเยนจะทำให้ประเทศในเอเชียรวมทั้งไทยได้ประโยชน์ทางการค้า จาก (1) ต้นทุนการนำเข้าที่ถูกลงซึ่งจะมีส่วนช่วยลดการขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นของประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะ ฮ่องกง เกาหลี จีน ไทย และไต้หวัน โดยกลุ่มสินค้าที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดคือกลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ และเหล็กกล้า ที่มีสัดส่วนการนำเข้าจากญี่ปุ่นสูงกว่า 20-35% ของการนำเข้าทั้งหมด

(2) แม้ราคาสินค้านำเข้าในญี่ปุ่นจะสูงขึ้นจากค่าเงินเยนอ่อน แต่เอเชียจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าจำเป็นไปญี่ปุ่นที่ไม่น่าจะลดลงแม้ราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะ สินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิง และพลังงานที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลี เพื่อทดแทนการผลิตไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์หลายโรงที่ปิดไป สำหรับไทยจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารไปญี่ปุ่น นอกจากนี้ การส่งออกของเอเชียจะได้รับอานิสงส์จากการบริโภคและการลงทุนญี่ปุ่นที่อาจเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

(3) ความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นจากเงินเยนอ่อนค่าคาดว่าจะช่วยให้การส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่รวมถึงไทยดีขึ้น เนื่องจากประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะ กลุ่มชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ การส่งออกญี่ปุ่นที่คาดว่าจะดีขึ้นก็จะส่งผลให้การส่งออกของเอเชียดีขึ้นตามไปด้วย ยกเว้นประเทศเกาหลีใต้ที่สินค้าส่งออกแข่งขันกับญี่ปุ่นชัดเจนและไม่ได้อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทญี่ปุ่น และ (4) ประเทศในเอเชียไม่ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับญี่ปุ่น เนื่องจากมีลูกค้าคนละตลาดโดยสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีรายได้สูง ขณะที่สินค้าส่งออกของเอเชียส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับต่ำกว่าจึงเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลาง

นอกจากนั้น การอ่อนค่าของเงินเยนจะไม่ทำให้การลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment : FDI) จากญี่ปุ่นมายังเอเชียลดลง เนื่องจากเอเชียเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพสำหรับญี่ปุ่น จากต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า กอปรกับตลาดในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของประชากรชนชั้นกลาง นอกจากนี้ บริษัทญี่ปุ่นยังต้องการเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศอาเซียนเนื่องจากต้องการได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเมื่อมีการรวมกลุ่ม AEC สำหรับในประเด็นเงินทุนเคลื่อนย้ายในเอเชีย ยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนจากญี่ปุ่นจะไหลเข้าในตลาดการเงินของเอเชียเพิ่มขึ้นหรือไม่

ดังนั้น ผู้ส่งออกและนักลงทุนในเอเชียรวมทั้งชาวไทยน่าจะคลายความกังวลกับผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยน ได้บ้าง เพราะประเทศในเอเชียส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ทางการค้า ในขณะที่การลงทุนไม่ได้มีผลกระทบ ซึ่งประเด็นที่จะต้องติดตามต่อไปคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายหลังจากรัฐบาลได้เริ่มดำเนินนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม และทิศทางการอ่อนค่าของเงินเยนในระยะต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย

การอ่อนค่าของเงินเยน ปัจจัยหลักๆ มาจากการคาดกันว่า เงินเยนจะอ่อนค่าลงในอนาคตตามแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายชินโสะ อาเบะ ที่ทั้งนโยบายการเงินและการคลังในระยะต่อไปมีทิศทางที่จะผ่อนคลายเพิ่มขึ้น โดยจุดประสงค์หลัก คือ ต้องการให้ประเทศญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความกังวลให้กับผู้ส่งออกและนักลงทุนทั่วไปรวมทั้งไทย ทั้งในด้านความสามารถในการแข่งขันและผลกระทบที่จะมีต่อการลงทุนในระยะต่อไป จึงมีคำถามว่าทิศทางการค้าเอเชียจะเป็นอย่างไรเมื่อเงินเยนอ่อนค่า

จากการศึกษา พบว่าการอ่อนค่าของเงินเยนจะทำให้ประเทศในเอเชียรวมทั้งไทยได้ประโยชน์ทางการค้า จาก (1) ต้นทุนการนำเข้าที่ถูกลงซึ่งจะมีส่วนช่วยลดการขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นของประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะ ฮ่องกง เกาหลี จีน ไทย และไต้หวัน โดยกลุ่มสินค้าที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดคือกลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ และเหล็กกล้า ที่มีสัดส่วนการนำเข้าจากญี่ปุ่นสูงกว่า 20-35% ของการนำเข้าทั้งหมด

(2) แม้ราคาสินค้านำเข้าในญี่ปุ่นจะสูงขึ้นจากค่าเงินเยนอ่อน แต่เอเชียจะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าจำเป็นไปญี่ปุ่นที่ไม่น่าจะลดลงแม้ราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะ สินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิง และพลังงานที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเกาหลี เพื่อทดแทนการผลิตไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์หลายโรงที่ปิดไป สำหรับไทยจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารไปญี่ปุ่น นอกจากนี้ การส่งออกของเอเชียจะได้รับอานิสงส์จากการบริโภคและการลงทุนญี่ปุ่นที่อาจเพิ่มขึ้นจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

(3) ความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นจากเงินเยนอ่อนค่าคาดว่าจะช่วยให้การส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกของประเทศในเอเชียส่วนใหญ่รวมถึงไทยดีขึ้น เนื่องจากประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ส่งออกสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะ กลุ่มชิ้นส่วนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนยานยนต์ การส่งออกญี่ปุ่นที่คาดว่าจะดีขึ้นก็จะส่งผลให้การส่งออกของเอเชียดีขึ้นตามไปด้วย ยกเว้นประเทศเกาหลีใต้ที่สินค้าส่งออกแข่งขันกับญี่ปุ่นชัดเจนและไม่ได้อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทญี่ปุ่น และ (4) ประเทศในเอเชียไม่ได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันให้กับญี่ปุ่น เนื่องจากมีลูกค้าคนละตลาดโดยสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นเน้นกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีรายได้สูง ขณะที่สินค้าส่งออกของเอเชียส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับต่ำกว่าจึงเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลาง

นอกจากนั้น การอ่อนค่าของเงินเยนจะไม่ทำให้การลงทุนโดยตรง (Foreign Direct Investment : FDI) จากญี่ปุ่นมายังเอเชียลดลง เนื่องจากเอเชียเป็นแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพสำหรับญี่ปุ่น จากต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า กอปรกับตลาดในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูงจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของประชากรชนชั้นกลาง นอกจากนี้ บริษัทญี่ปุ่นยังต้องการเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศอาเซียนเนื่องจากต้องการได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเมื่อมีการรวมกลุ่ม AEC สำหรับในประเด็นเงินทุนเคลื่อนย้ายในเอเชีย ยังไม่ชัดเจนว่าเงินทุนจากญี่ปุ่นจะไหลเข้าในตลาดการเงินของเอเชียเพิ่มขึ้นหรือไม่

ดังนั้น ผู้ส่งออกและนักลงทุนในเอเชียรวมทั้งชาวไทยน่าจะคลายความกังวลกับผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยน ได้บ้าง เพราะประเทศในเอเชียส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ทางการค้า ในขณะที่การลงทุนไม่ได้มีผลกระทบ ซึ่งประเด็นที่จะต้องติดตามต่อไปคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายหลังจากรัฐบาลได้เริ่มดำเนินนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม และทิศทางการอ่อนค่าของเงินเยนในระยะต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย

 

แจงสี่เบี้ย โดย : วรันธร ภู่ทอง

//www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/jangsibia/20130402/498238/เมื่อเงินเยนอ่อนค่า...การค้าเอเชียจะเป็นอย่างไร.html




Create Date : 10 เมษายน 2556
Last Update : 10 เมษายน 2556 15:58:18 น. 0 comments
Counter : 1728 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.