In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
กลไกแห่งความสำเร็จ

มีบทความหลายๆ ชิ้น และหนังสือหลายๆ เล่ม ที่เอ่ยถึงองค์กรชั้นนำที่ล้วนมีบุคลากรระดับหัวกะทิทุ่มเททำงานเพื่อสร้าง สรรค์สิ่งใหม่ๆ

ทำรายได้ให้องค์กรอย่าง ต่อเนื่อง มั่นคง น่าทึ่งที่แต่ละคนในองค์กรนั้น ล้วนตระหนักดีว่าตัวเองเป็นเฟืองจักรสำคัญขององค์กร

ตรงกันข้ามกับใครหลายๆ คน ที่อาจอยู่รอบตัวเราที่เขาอาจไม่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญต่อองค์กรอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า ใครก็ตามที่คิดเช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีความรู้สึกถึงความผูกพัน และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์กรอีกต่อไป

กลายเป็นบทหนักของแต่ละองค์กรที่ต้องคิดหาทางจุดประกายให้พนักงานเหล่า นั้น กลับมาเป็นกลไกสำคัญที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนองค์กรได้อีกครั้ง แต่บุคลากรหรือพนักงานแต่ละคนก็ต้องกระตุ้นตัวเองด้วยเช่นกัน โดยอาศัยแนวทาง 3 ข้อดังนี้

1. ต้องมี Commitment ซึ่งความรับผิดชอบนี้เองที่จะทำให้เราแตกต่าง เพราะคนที่ไม่มีความรับผิดชอบจะไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ เช่น เมื่อองค์กรมีงานให้ทำโดยตั้งโจทย์ให้ทำเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ เรามักจะพบว่าคนที่มี Commitment หรือรับผิดชอบสูง จะสามารถส่งงานที่ต้องการได้ก่อนกำหนดเสมอ

ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่คิดจริงจังที่มักจะเริ่มทำเอาวันสุดท้าย และเมื่อส่งไปแล้วจะมีข้ออ้างมากมายว่าไม่มีเวลามากพอจึงไม่สามารถทำอย่าง พิถีพิถันได้ ผลงานที่ออกมาไม่ดี อาจได้แค่ 50-60% เท่านั้น ซึ่งน่าเสียดายเพราะว่าเขาทำไม่ได้ไม่ใช่เพราะไม่มีความสามารถ แต่เป็นเพราะขาดความรับผิดชอบและตั้งใจจริง

การสร้างความมี Commitment สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ ทัศนคติที่เป็นบวก คนที่จะสำเร็จได้ในองค์กรล้วนอาศัยความตั้งใจจริงเป็นหลัก และแน่นอนว่า ผู้บริหารก็ย่อมเห็นความสำคัญของเขาแล้วหยิบยื่นโอกาสให้เป็นกำลังสำคัญของ องค์กรได้ต่อไป

2. ต้องทำมากกว่าที่ได้ เพราะคนที่สำเร็จได้ล้วนอาศัยความมุมานะบากบั่นด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ประสบความสำเร็จได้โดยทำงานเฉพาะที่ได้รับมอบหมาย หรือทำเฉพาะหน้าที่ของตัวเอง อย่าคิดว่าทำงานเพียงเท่านี้ เพราะได้เงินเดือนเพียงเท่านี้

คนที่จะเติบโตในองค์กรได้ส่วนใหญ่และจะมีบทบาทมากกว่าตำแหน่งหน้าที่ของ ตัวเอง เช่นเป็น Supervisor ต้องมีผลงานเท่ากับ Manager ซึ่งคนเหล่านี้ได้พิสูจน์ให้เห็นผลงานมาก่อนแล้ว เมื่อวันหนึ่งมีโอกาสเขาก็ย่อมได้รับเลือกก่อนเสมอ

3. ทำงานอย่างมีเป้าหมาย โดยความสำเร็จไม่ใช่แค่การวัดที่กำไร หรือการทำเต็มที่แล้ว แต่ความสำเร็จนั้นต้องมีผลต่อการเติบโตขององค์กร และผลต่อความสมบูรณ์ขององค์กรที่มีความสามารถที่จะสร้างความพึงพอใจของ ลูกค้า ซึ่งเป็นฐานของการเติบโตขององค์กร

อย่าคิดเพียงว่าปีนี้ทำกำไรได้เท่านี้ก็คิดว่าทำหน้าที่ได้แล้ว เพราะกำไรเป็นเพียงปลายทาง ไม่ใช่ตัววัดการประสบความสำเร็จ แต่ความพยายามที่จะสร้างองค์กรให้แข็งแรง และมีโอกาสเติบโตในปีต่อๆ ไป หรือตามโอกาสที่สังคมเปิดให้ จะเป็นตัวที่จะต่อเนื่องที่จะวัดความสำเร็จได้ดีกว่า

บ่อยครั้งในห้องประชุมมักพบว่า มีไอเดียที่น่าสนใจเกิดขึ้นแต่ไม่ถูกกระทำ หรือถูกฆ่าโดยอุปสรรค เป็นผลทำให้สิ่งดีๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในองค์กร ไม่สามารถทำได้

คนที่ก้าวหน้าในองค์กรได้ จึงต้องเป็นคนที่มีบุคลิกกล้าท้าทายกับตัวเอง และใช้อุปสรรคให้เป็นเป้าหมายของตัวเอง แม้ความพยายามที่ทำลงไปจะสำเร็จแค่เพียง 70-80% ย่อมจะดีกว่าไอเดียถูกฆ่าไปก่อนที่จะลงมือทำ เพราะหากไม่ลงมือทำ ความพยายามก็จะไม่มี และความสำเร็จก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น

แจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ
ไอทีไร้ พรมแดน
//www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/jack/20100707/341652/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%88.html


Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 21:26:15 น. 2 comments
Counter : 846 Pageviews.

 

มีประโยชน์มากครับ จะลองเอาไปใช้.....




โดย: nonthon วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:52:26 น.  

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 7 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:54:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.