In the last analysis, our only freedom is the freedom to discipline ourselves. - Bernard Baruch
Group Blog
 
All Blogs
 
ชีวิตทำงานของคนรุ่นต่อไป

สัปดาห์นี้ผมขอคุย เรื่องอนาคตคือเรื่องชีวิตทำงานของคนในอีก10-20ปีข้างหน้า เผื่อว่าใครที่มีลูกมีหลานอยู่ตอนนี้จะได้วางแผนการศึกษาที่เหมาะสมไว้

ในอีก 10-20 ปีข้างหน้า แนวโน้มที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้น การลดลงของประชากรวัยทำงานทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว เพราะสังคมเมืองทำให้ผู้คนนิยมมีลูกน้อยลงเรื่อยๆ ปรากฏการณ์นี้จะ ส่งผลให้แรงงานที่มีทักษะสูงเริ่มขาดแคลน ก่อน ส่วนแรงงานที่ใช้ทักษะน้อยจะยังไม่ขาดแคลนไปอีกระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้ว ก็จะขาดแคลนด้วยเช่นเดียวกัน แนวโน้มนี้อาจส่งผลกระทบหลายอย่างต่อโลกของเราโดยรวม แต่สำหรับลูกหลานของเราแล้ว พวกเขาจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความสามารถสูงๆ ครับ


เพื่อแก้ไขปัญหานี้ส่วนหนึ่ง ประเทศที่พัฒนาแล้วจะเกษียณกันอายุช้าลง ซึ่งทำได้เพราะเทคโนโลยีด้านสุขภาพสมัยใหม่ช่วยทำให้พวกเขาแก่ช้าลงด้วย แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอ บริษัทในประเทศที่พัฒนาแล้วจะยินดีแสวงหาคนทำงานจากทั่วทุกมุมโลกมากขึ้น เรื่อยๆ งานไหนที่สามารถ outsource ไปยังประเทศกำลังพัฒนาได้ จะถูก outsource มากขึ้นอีก งานไหนที่ outsource ไม่ได้ก็จะต้องจ้างคนจากทั่วโลกให้มาทำงานมากขึ้น โอกาสของงานที่ใช้ทักษะสูงๆ (งานดีๆ) จึงมักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากขึ้น (cross-culture environment) การส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีเพื่อนต่างชาติมากๆ หรือส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ยังเล็ก จะช่วยทำให้พวกเขาเคยชินกับสภาพแวดล้อมของที่ทำงานในยุคต่อไป และทำงานพวกเขาสามารถปรับตัว และทำงานได้ดีกว่าคนอื่นๆ


เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในปัจจุบันโดยเฉพาะ เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร จะทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานในอนาคต เป็นแบบหลวมๆ มากขึ้นเรื่อยๆ รูปแบบการทำงานแบบเข้างาน 9 โมง เลิก 5 โมงแบบโรงงานจะมีน้อยลง แม้ว่าในอนาคต ออฟฟิศของบริษัทต่างๆ จะยังคงต้องมีอยู่ต่อไป เพราะมนุษย์ยังต้องการการทำงานในรูปแบบที่ได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับเพื่อน ร่วมงานอยู่ แต่บริษัทจะแข่งขันกันสร้างความได้เปรียบเรื่องต้นทุน ด้วยการให้พนักงานของตัวเองนั่งทำงานที่ออฟฟิศให้น้อยลง (ลดค่าเช่าและค่าใช้จ่ายของการมีออฟฟิศใหญ่โต) แล้วหันมาแจกอุปกรณ์ไอที ซึ่งมีราคาถูกลงอย่างรวดเร็ว ให้พนักงานใช้ทำงานร่วมกันแบบทางไกลมากขึ้นแทน พนักงานในอนาคต จะได้รับอนุญาตให้ทำงานอยู่ที่บ้าน หรือทำงานตามร้านกาแฟมากขึ้น และบริษัทจะหันมาวัดผลพนักงานจากผลงานที่ออกมาแทนที่จะสนใจว่าพนักงานมาทำ งานกี่ชั่วโมง ในขณะเดียวกัน พนักงานในอนาคตเองก็ชอบวิธีการแบบนี้ด้วย เพราะคนสมัยใหม่มีแนวโน้มที่จะโหยหาสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ถ้าบริษัทไหนให้พวกเขามีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น พวกเขาย่อมอยากทำงานที่บริษัทนั้นมากกว่า บริษัทจึงหันมาแข่งขันกันดึงดูดคนเก่งๆ ด้วยเรื่องของไลฟ์สไตล์มากขึ้น แทนที่จะแข่งขันกันเรื่องผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินอย่างเดียว


ด้วยเหตุนี้ คนทำงานยุคใหม่จะมีความยึดติดกับองค์กรน้อยลง องค์กรเองก็จะคาดหวังให้พนักงานทำงานกับองค์กรนานๆ น้อยลงด้วย องค์กรสมัยใหม่เองก็ต้องดิ้นรนภายใต้การแข่งขันของตลาดและต้องเผชิญกับความ เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขึ้น องค์กรเองจึงไม่อาจให้หลักประกันเรื่องความมั่นคงของรายได้ในระยะยาวให้กับ พนักงานได้อีกต่อไป รูปแบบการจ้างงานแบบพนักงานชั่วคราว ฟรีแลนซ์ และการเอาท์ซอร์สซิ่งจะเริ่มกลายเป็นรูปแบบมาตรฐานมากขึ้นเรื่อยๆ คนในยุคใหม่อาจจะยังมีงานประจำอยู่ แต่ทุกคนจะมีงานที่สอง ที่สาม เพิ่มด้วย อันเป็นวิธีที่จะทำให้พวกเขามีรายได้มากกว่าคนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ คนในยุคต่อไปจึงต้องมีความคิดแบบ entrepreneurial มากขึ้น พวกเขาจะต้องกล้ารับความเสี่ยงมากขึ้น อยู่กับความไม่แน่นอนให้ได้มากขึ้น ยึดติดกับองค์กรให้น้อยลง จึงจะเป็นคนที่สามารถใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมแบบอนาคตได้เป็นอย่างดี


โลกของเราผ่านการเปลี่ยนแปลงในเรื่องรูปแบบของการทำมาหากินมาแล้วสองยุค สองสมัย ยุคแรก คือ ยุคที่เราเปลี่ยนจากการทำงานในไร่ไปเป็นการทำงานที่โรงงานจากผลของการ ปฏิวัติอุตสาหกรรมเป็นหลัก ยุคที่สอง คือ ยุคข้อมูลข่าวสารที่เราหันมาทำงานด้วยสมองมากกว่าการออกแรง ในยุคต่อไปที่กำลังจะมาถึง เรากำลังเปลี่ยนจากการทำงานที่ใช้สมองข้างซ้ายส่วนใหญ่ ไปสู่การทำงานที่ใช้สมองข้างขวาเป็นหลัก เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันกำลังจะทำให้งานหลายๆ อย่างที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำแทนคนได้ถูกยกให้เป็นหน้าที่ของคอมพิวเตอร์มากขึ้น งานเหล่านี้โดยมากแล้วมักเป็นงานที่ใช้สมองข้างซ้าย เพราะเป็นทักษะที่คอมพิวเตอร์มักทำได้ดีกว่าคน


พนักงานธนาคารทุกวันนี้ จะนั่งทำรายการให้ลูกค้าน้อยลง เพราะลูกค้าจะทำรายการเองผ่านเครื่องหรืออินเทอร์เน็ตมากขึ้น พวกเขาจะต้องผันตัวมาทำงานด้านการแนะนำ หรือผลักดันการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ให้กับลูกค้ามากขึ้นแทน ที่จริงแล้ว แม้แต่งานขายของและงานบริการหลายอย่างสมัยนี้ ก็ยังถูกแทนด้วยเสียงสังเคราะห์ทางโทรศัพท์ได้หมดแล้ว เพราะฉะนั้น ตำแหน่งงานในอนาคตที่จะมีมูลค่าเพิ่มสูงๆ จะกลายเป็นงานที่จะต้องใช้สมองซีกขวามากๆ เช่น งานที่เกี่ยวกับศิลปะ งานออกแบบ งานประพันธ์ หรืออาจเป็นงานที่ต้องการความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) สูง เช่น การบริหารคน บริหารความขัดแย้ง เป็นต้น ทักษะเหล่านี้เป็นทักษะที่คอมพิวเตอร์ยังทำแทนคนได้น้อยมาก เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่อยากให้ลูกหลานของตัวเองมี Value สูงๆ ในอนาคต น่าจะพิจารณาส่งเสริมให้เลือกเรียนวิชาที่เน้นไปทางด้านสายศิลป์ศาสตร์ เพราะจะเป็นสายอาชีพที่มีอนาคตที่สดใสมากกว่าสายวิทยาศาสตร์ในอนาคตอีกด้วย ครับ

นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์
คอลัมนิสต์ ประจำคอลัมน์ "มนุษย์เศรษฐกิจ 2.0"
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/human-eco/20100629/340081/%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9B.html


Create Date : 02 กรกฎาคม 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2553 2:11:01 น. 4 comments
Counter : 530 Pageviews.

 
-ขอบคุณค่ะ

-ตอนนี้กำลังจะออกจากงานไปนั่งทำงานที่บ้าน เป็นด้านงานเขียน งานประชาสัมพันธ์ อย่างที่เขียนในบทความนี้

-รู้สึกสิ้นเปลืองเวลากับการเดินทางมาก มาที่ทำงานก็ทำงานคนเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่รู้จะให้มาทำไม เคยบอกที่ทำงานว่า อย่างนี้ทำงานที่บ้านแล้วงส่งงานมาทาง NET ให้เอาไหม จะลดเงินเดือนลงก็ได้ เพราะคิดหักกับค่าพาหนะ

-ที่ทำงานไม่ให้ เพราะรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำงาน ทั้งๆ ที่ดูจากชิ้นงานก็ได้

-จะออกสิ้นเดือนนี้ละ ตอนนี้จัดบ้านเป็นโฮมออฟฟิศ สั่งพวก IT แรง ๆ มาลง

-ที่สำคัญบอกกับลูกสาว (นางฟ้าน้อย ๆ) ว่า เดือนหน้าแม่จะทำงานที่บ้านนะ แม่ได้ว่างงานหรือตกงานนะ ถ้าเพื่อนถามว่าแม่เธอทำงานที่ไหน บอกว่าแม่เราทำงานที่บ้าน

-รู้สึกตัดสินใจแล้ว HAPPY เพราะจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง แล้วมีเวลารอรับลูกตอนลงจากรถโรงเรียน ทำงานอยู่กับ 2 ทุ่ม ดูแลล๔กไม่เต็มที่ รู้สึกทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ยังไงพิกล


โดย: นางฟ้า IP: 125.25.80.108 วันที่: 2 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:37:58 น.  

 
ยินดีด้วยครับ กับชีวิตที่เลือกได้


โดย: ขอบฟ้าบูรพา วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:39:52 น.  

 
ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาแบ่งปันค่ะ
ขอ add VIP Blog จะได้แวะมาอ่านอีกเรื่อยๆ


โดย: แมวกะหมา อะไรสักอย่าง วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:56:40 น.  

 
คุณนางฟ้าค่ะ ทำงานที่บ้านเป็นธุรกิจส่วนตัว หรือธุรกิจออนไลน์ค่ะ เล่าสู่กันฟังได้มั๊ยค่ะ


โดย: Pop IP: 202.93.52.46 วันที่: 18 สิงหาคม 2553 เวลา:14:02:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ขอบฟ้าบูรพา
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ผู้ประกาศกรุงเทพธุรกิจทีวี พิธีกรรายการแกะรอยหยักสมองและ World Class Smart Thai
สนใจประวัติศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา ต่างประเทศ เทคโนโลยี สังคม และชนชั้น

ติดตามทวิตเตอร์ได้ที่ @atis_kttv นะครับ
New Comments
Friends' blogs
[Add ขอบฟ้าบูรพา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.