พร้อมหรือยัง... "ออม"..ก่อนซื้อบ้าน
"บ้าน" เป็นทรัพย์ชิ้นใหญ่ บางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อให้ได้บ้านสักหลัง แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า.. จำเป็นแค่ไหนสำหรับการออมก่อนซื้อบ้าน!
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : โดยทั่วไปเวลาจะซื้ออะไรเรามักออมก่อนแล้วค่อยซื้อ ยกเว้น..บ้านที่ยอมกู้เงินเพื่อซื้อ เพราะหากรอออมให้ได้เงินครบก่อนซื้อคงยาก เพราะราคาบ้านอาจเพิ่มขึ้น ในที่สุดก็อดซื้อจนได้!
สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการซื้อบ้าน จึงขึ้นอยู่ว่าคุณพร้อมแค่ไหนเมื่อคิดจะซื้อบ้าน ในมุมผู้เขียนขอแนะนำว่า สิ่งที่จะช่วยคุณได้ คือการออมให้มากที่สุด เพราะกำแพงขวางกั้นการออมไม่ใช่เรื่องรายได้น้อย แต่เป็นวินัยการใช้เงินต่างหาก
เริ่มต้นจำกัดเงินจำนวนหนึ่งแม้ไม่มาก เก็บโดยฝากไว้กับธนาคารให้ผลตอบแทนมากที่สุด เพราะไม่มีการเงินรูปแบบใด ช่วยให้คุณนอนหลับสบายได้ในยามค่ำคืน เท่ากับการออมเงินไว้เผื่อใช้กรณีฉุกเฉิน หรือในยามที่คุณเดือดร้อน
นอกจาก เตรียมความพร้อม สำรวจเงินในกระเป๋าตนเองแล้ว การซื้อบ้าน หรือที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน มีแพ็คเกจที่สถาบันการเงินแต่ละแห่งต่างคิดนวัตกรรมออกมาให้เลือกมากมาย และการเลือกอัตราดอกเบี้ย ไม่ว่าจะการเลือกอัตราดอกเบี้ยประเภทไหน รูปแบบใดต่างมีข้อดี-ข้อเสีย ทั้งนั้น
การกำหนดอัตราดอกเบี้ย ในบ้านเราไทยมีอยู่ 3 ประเภท คือ
(1) สินเชื่อมาตรฐาน ชนิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ... สินเชื่อชนิดนี้ อัตราดอกเบี้ยไม่คงที่ตลอดสัญญาการกู้ ซึ่งวางไว้สูงสุด 30 ปี
ข้อดี คือ หากอัตราดอกเบี้ยลดลง ยอดการชำระคืนเงินกู้ก็จะลดตาม, สามารถชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดได้ ส่วนจะเสียค่าปรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแบงก์, สามารถปรับสินเชื่อให้เหมาะสมกับสภาวะดอกเบี้ยขาลงในตลาด
ข้อเสีย คือ หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ยอดการชำระคืนเงินกู้ของคุณ ก็จะสูงตามจึงไม่เหมาะสำหรับช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยสูง
(2) สินเชื่อ ชนิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ อัตราดอกเบี้ยจะคงที่ในช่วงเวลาตามข้อตกลงในเงื่อนไข หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ภายในระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ในสัญญา
ข้อดี คือ หากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ยอดการชำระคืนเงินกู้ของคุณจะไม่สูงขึ้นตามไปด้วย เหมาะกับสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด
ข้อเสีย คือ กรณีที่อัตราดอกเบี้ยต่ำลง ยอดการชำระคืนเงินกู้ของคุณ จะไม่ต่ำลงตามไปด้วย ไม่มีความยืดหยุ่นมากนัก
(3) สินเชื่อ ชนิดแบบผสม สินเชื่อชนิดนี้ โดยมากจะเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรกเพื่อดึงดูดลูกค้า หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะเปลี่ยนเป็นดอกเบี้ยลอยตัวไปตลอดสัญญา หลายสถาบันการเงินนำมาใช้
ตลาดสินเชื่อชนิดแบบผสมนี้ เป็นการ Co-Promotion กับเจ้าของโครงการ มีความแตกต่างกันไป เช่น แพ็คเกจอยู่ฟรี หรือผ่อนทั้งต้นทั้งดอก 12 เดือน และอัตราดอกเบี้ย 1.99 %ในปีแรก (ปกติ 2%) หลังจากนั้นเป็นดอกเบี้ยลอยตัว MLR (-)+ โดยส่วนผู้ประกอบการจะเป็นคนรับส่วนต่างดอกเบี้ยแทน
ข้อดี คือ โดยมากจะเป็นข้อเสนอที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดในช่วงแรก หากการชำระคืนเงินกู้อยู่ในช่วงที่ใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงแรก จะสามารถลดเงินต้นลงได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสียคือ ยอดการชำระคืนเงินกู้จะเพิ่มขึ้นหลังจากใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
Create Date : 02 มกราคม 2552 |
Last Update : 2 มกราคม 2552 13:08:17 น. |
|
1 comments
|
Counter : 484 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ
มาอัพเดทข้อมูลน่ะค่ะ