... Travel with Lizard ... Explore the world with me * highlight Taiwan!

:: บทเรียนที่ไม่มีวันลืม : :

สวัสดีวันต้นสัปดาห์ค่ะ 
วันนี้ขออนุญาตไม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางหรือเรื่องราวของไต้หวันหนึ่งวันนะคะ
พอดีไปประสบกับเหตุการณ์ที่อยากจะเอามาแชร์มาเล่าให้กับเพื่อนๆน้องๆฟังกัน
.
.
.
ที่นี่ฝนตกติดต่อกันมาหลายวันแล้ว อยู่บ้านเบื่อๆก็เลยไปหากิจกรรมที่ไม่ต้องออกไปเดินตากแดดตากลมข้างนอก "โรงหนัง" ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดี
หนังที่เราเลือกดูวันนี้ เป็นหนังที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ที่สำคัญเห็นเขาว่า special effect แจ่ม .. หมายมั่นปั้นมือมาหลายวัน ดีใจจริงๆที่ได้ดู 
ตอนที่เดินเข้าไปในโรง เขาปิดไฟหมดแล้ว จะมีก็แสงจากจอหนังที่ทำให้เราพอเดินผ่านเข้าไปหาที่นั่งของตัวเองได้
หลังจากนั่งลงเรียบร้อย แอบหันไปสำรวจรอบๆตัว อืมม.. มีหลายช่วงอายุจริงๆ
.
.
.
หนังเริ่มฉายแล้ว แถวหน้าถัดไปสัก 3-4 แถวพาเด็กเล็กๆมาด้วย 
เสียงเจ้าตัวน้อยเริ่มงอแง อดไม่ได้ที่จะแอบรำคาญนิดๆ แต่เอาน่า เด็กยังเล็ก จะไปห้ามธรรมชาติของเขาได้อย่างไร อีกอย่างเราเองก็เคยทำแบบนั้นมาก่อนเหมือนกัน (นึกแล้วอดสงสารแม่ตัวเองไม่ได้)
ว่าแล้วตั้งใจดูหนังต่อไป
.
.
.
ไม่นานก็ได้ยินเสียงคุณป้าข้างหน้าเริ่มพูดงึมงำๆ
แอบคิดในใจ แกพูดกับใคร(วะ)? 
ลองสังเกตดู อ๋อ แกพูดกับลูกสาววัยรุ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ 
ลูกสาวก็นั่งก้มหน้าก้มตา สงสัยกำลังแชทกับแฟนผ่าน Line แน่ๆ
อย่างนี้คงโดนแม่บังคับมาดูแหงๆ 
ยิ่งหนังเข้มข้นมากขึ้น (อี)ป้าแถวหน้าก็เริ่มพากย์หนักขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ใช่ฉันคนเดียวแน่ๆที่แอบรำคาญ เพราะคนข้างหน้าหลายคนเริ่มหันมาดู
เสียดายที่โรงมันมืด ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นสายตาเพชรฆาตอีกหลายคู่
ยิ่งเรื่องเข้าไคลแมกซ์ ป้ายิ่งพากย์เสียงดัง จะหมูจะหมาวิ่งผ่าน ป้าบรรยายซะละเอียดยิบ
ฉันเริ่มตบะจะแตก หายใจเข้า-หายใจออก นับ 1 ไม่ถึง 50
นึกถึงที่เมื่อเช้าอ่านหนังสือธรรมะก่อนออกมา
เออ-- (อี)ป้า ฉันไม่เอาเรื่องก็ได้ !
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะค่อนขอดแกในใจ สงสัยที่บ้านไม่ค่อยมีใครคุยด้วย 

.
.
.
ผ่านไปไม่น่าจะเกิน 5 นาที มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเดินกลับเข้ามาจากไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่างแกเดินกลับ แกเดินผ่านที่ป้านั่งพอดี
น้องคนนั้นหยุดพูดกับป้า เสียงดังฟังชัด จับใจความได้ว่า
"หยุดพล่ามสักที คนเขาจะดูหนังกัน ไม่เกรงใจคนอื่นเขาบ้าง พากย์อยู่ได้"
ป้าแกดูเหมือนจะพยายามตอบ แต่แกอึกอักๆได้ 2-3 คำแล้วก็เงียบไป
ฉันแทบจะกระโดดจากเก้าอี้เข้าไปกอดน้องคนนั้น
โหย--น้อง! น้องเป็นอิสตรีผู้กล้าจริงๆ 
รู้สึกเหมือนถูกหวย ดีจริงๆไม่ต้องลงมือเองก็มีคนพูด(ความในใจ)แทน 
.
.
.
ท่าทางจะได้ผล เพราะหลังจากนั้นป้าก็เงียบไป 
ทุกคนในโรงได้ดูหนังอย่างสงบสุขสมความตั้งใจ 
ฉันนึกขอบใจน้องคนนั้น คิดถึงขั้นถ้าเดินผ่านจะไปจับมือแสดงความชื่นชม
.
.
.
หนังจบแล้ว ไฟค่อยๆสว่างขึ้น สว่างขึ้น
ฉันไม่ชอบแย่งคนออก จึงนั่งรอให้คนซาๆลงก่อน 
มองไปข้างหน้า อ้าว! ป้ากับลูกสาวยังนั่งอยู่ สงสัยจะอาย 
ป้าลุกขึ้นเกือบจะพร้อมๆกับฉัน ลูกสาวป้าเกาะแขนแม่แล้วยืนขึ้นตามมา
ไฟในโรงสว่างเต็มที่แล้ว
ฉันแทบจะน้ำตาร่วง ... 
ภาพที่เห็นข้างหน้าคือแม่คนหนึ่งกำลังจูงลูกสาวตาบอดออกจากโรงหนัง!
.
.
.
ฉันกลับบ้านมาพร้อมกับก้อนความรู้สึกจุกอยู่ในอก
ถึงแม้ฉันจะไม่ได้เป็นคนพูดเตือนให้ป้าหยุด แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย
ฉันหยิบกระดาษโน้ตที่จดเรื่องที่อ่านจากหนังสือเมื่อเช้าออกมาจากแฟ้ม
รอยปากกาสีชมพูขีดเส้นใต้ข้อความที่พยายามจะเตือนตัวเองลอยอยู่ข้างหน้า
ข้อความที่คนเขียน คัดลอกมาจากเพลงเก่าๆของวงเฉลียง
"อาจจะจริงเราเห็นอยู่ เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น"
"อาจเลวเพราะแสนเข็ญ หยาบช้าเพราะขมขื่น"
.
.
.
ฉันเริ่มรู้สึกเข้าใจกับที่อดีตประธานาธิปดีสหรัฐ Abraham Lincoln เคยกล่าวไว้ 
"I don't like that man. I must get to know him better."
ถ้าเราให้เวลาและพยายามเปิดใจที่จะทำความเข้าใจเหตุที่มาของเรื่องรอบตัว
บางมีโลกนี้อาจจะไม่มีคนที่เลวจริงๆเลยก็ได้  
แล้วเจอกันครั้งหน้าค่ะ



Create Date : 21 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2556 9:17:46 น. 0 comments
Counter : 453 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Travel with Lizard
Location :
Taipei Taiwan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




[Add Travel with Lizard's blog to your web]