เรื่องกิน เรื่องเที่ยว คือเรื่องเดียวกัน และเป็นเรื่องราวของเราสองคน :)

ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]




ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ
เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว

และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ

ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ

ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^

Click ข้างล่างได้เลยจ้า

click เพื่อเข้าสู่ facebook Eat and Travel Diary
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง's blog to your web]
Links
 

 
ภัทรา - PATARA Fine Thai Cuisine

ชื่อร้าน : ภัทรา
รายการอาหาร : อาหารไทย
เวลาเปิดบริการ : 11.30 –14.30 น.และ 18.00 – 23.00 น.
ที่ตั้งร้าน : 375 ซอยทองหล่อ 19 แขวงคลองตันเหนือ, กรุงเทพมหานคร วัฒนา Thailand
พิกัด GPS : 13° 44' 12.03" N 100° 34' 52.63" E





PATARA FINE THAI CUISINE

ซอยทองหล่อ 19




ถ้าพูดถึงอาหารไทย หลายๆ คนคงจะคิดว่าหาทานเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารไทยที่มาพร้อมบรรยากาศดีๆ คงจะมองไปยังร้านอาหารไทยในโรงแรม 5 ดาว แต่วันนี้ผมมีร้านอาหารไทย ที่มีบรรยากาศดีไม่แพ้โรงแรม 5 แถมอยู่ใจกลางเมือง และราคายังน่าคบกว่าด้วยนะครับ ร้านที่จะพาไปรู้จักก็คือ PATARA Fine Thai Cuisine ซึ่งร้าน ภัทรา นั้นอยู่ในซอยทองหล่อ 19 มีที่จอดรถสะดวกสบาย







โดยบรรยากาศภายในร้านนั้นดัดแปลงมาจากบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่กว้างรอบๆ บ้านส่วนหนึ่งเป็นที่จอดรถ อีกส่วนหนึ่งเป็นสวนนอกบ้าน ซึ่งเหมาะสำหรับนั่งรับลมในมื้อเย็นได้สบายๆ













ส่วนบรรยากาศด้านในร้าน แม้ด้านนอกจะดูเหมือนบ้านธรรมดา แต่ด้านในนั้นตรงได้สวยงามในบรรยากาศไทยๆ ซึ่งมีทั้งพื้นที่รับรองลูกค้า ชั้นล่างเป็นจัดเป็นโต๊ะอาหาร หรือจะมานั่งดื่มตรงเคาเตอร์บาร์ก็ได้นะครับ













ส่วนชั้นบนนั้นเป็นห้องอาหารที่สามารถรับรองลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม หรือต้องการจัดเป็นไพรเวทปาร์ตี้ได้สบายๆ ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว ซึ่งการตกแต่งก็ดูหรูหราไม่แพ้ร้านอาหารไทยในโรงแรม 5 ดาวเลยนะครับ









พาไปชมบรรยากาศสวยๆ กันแล้วก็มาดูเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าครับ แน่นอนว่าที่ร้านภัทรานั้นจะเน้นให้บริการอาหารไทยเป็นหลัก แต่ก่อนอื่นขอเสิร์ฟเครื่องดื่มก่อนนะครับ แม้จะเป็นร้านอาหารไทย แต่ก็มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ซึ่งผมเลือกสั่งเป็นเครื่องดื่ม mocktail เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในมื้อค่ำแบบนี้ ขอเริ่มที่ L.A. Paradise (฿120) ม็อคเทลที่ผสมระหว่านน้ำลิ้นจี่ แอปเปิ้ล lime และน้ำผึ้ง รสชาติหวานกลมกล่อม ชื่นใจ



ส่วนอีกแก้วเป็น Patara Fruit Punch (฿120) ม็อคเทลสีสันสดใส เติมความสดชื่นด้วยเชอรี่สีแดงสด ถือว่าช่วยเพิ่มความสดชื่นก่อนมื้ออาหารได้ดีทีเดียว



ระหว่างรออาหารทางร้านก็จะเสิร์ฟข้าวเกรียบไว้ทานเล่น รสชาติถือว่าไม่เลวเลยครับ เรียกน้ำย่อยได้ดีมาก



จากนั้นเมนูแรกก็เสิร์ฟ ยำมะเขือย่างเนื้อปูไข่ปลาคาร์เวียร์ (฿275) ถือว่าเป็นเมนูอาหารไทยที่เติมความหรูหราด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์ ที่วางบนเนื้อปู ซึ่งตัวมะเขือย่างก็อร่อยนุ่มลิ้นแถมรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ด้วยน้ำยำรสเปรี้ยวนิด หวานเค็มหน่อยๆ อร่อยลงตัว



เติมความเป็นไทยเข้ามาอีกนิดด้วยเมนู แกงเนื้อปูใบชะพลู (฿485) แกงใบชะพลูแบบไทยๆ ที่มาพร้อมกับเนื้อปูก้อนโต รสชาติเผ็ดร้อนนิดๆ ซึ่งถ้าให้อร่อยยิ่งขึ้นต้องทานกับขนมจีนที่เสิร์ฟมาคู่กัน จะอร่อยลงตัวมากๆ หรือใครจะทานกับข้าวสวยก็ไม่ขัดเขิน ยิ่งเป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่หุงด้วยน้ำมะพร้าว เสิร์ฟในลูกมะพร้าวเผา อร่อยหอม หวาน มัน มากครับ







หรือจะเลือกเป็นข้าวสามสี ที่หุงมาจากข้าวหอมมะลิสีขาวนวล ข้าวหอมใบเตยสีเขียว และข้าวดอกคำฝอยสีเหลืองน่าทาน ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ



และเมนูที่ไม่พูดถึงไม่ได้ถ้าหากมาทานร้านอาหารไทยแบบนี้นั่นก็คือเมนูน้ำพริกนั่นเองครับ ที่ร้านเสิร์ฟ น้ำพริกพริกไทยอ่อน (฿265) น้ำพริกแบบไทย ที่ตำเข้ากับพริกไทยอ่อน รสชาติไม่เผ็ดมากนัก คนที่ไม่ชอบทานเผ็ดน่าจะทานได้สำหรับเมนูนี้ ยิ่งมาพร้อมกับผักสดที่มาจากโครงการหลวงทั้งหมด และไข่ต้มยางมะตูม แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ





ต่อด้วยเมนู ปูนิ่มทอดกรอบผัดใบยี่หร่า (฿355) อีกหนึ่งเมนูรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ซึ่งจัดเต็มปูนิ่มกันมาแบบเน้นๆ ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนบวกกับเนื้อหวานๆ ของปูนิ่ม เป็นอีกเมนูที่ทานกับข้าวสวยได้อร่อยลงตัวเช่นกันครับ





จากนั้นก็ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย พล่าหอยเชลล์ (฿285) หอยเชลล์ตัวโตๆ มาพร้อมน้ำซอสปรุงรสจัดจ้านแบบไทยๆ อร่อยนุ่มลิ้นแบบเต็มปากเต็มคำ



แล้วก็มาถึงเมนูของหวานกับเมนูลูกผสมไทยกับตะวันตกนั่นก็คือ เครมบรูเล่อบควันเทียน (฿195) Crème brulee ที่มีส่วนผสมของใบเตย ทำให้มีกลิ่นหอมใบเตยเวลาเคี้ยว ซึ่งรสชาติไม่หวานเกินไปด้วยครับ เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมเสาวรส ซึ่งมีรสเปรี้ยวชื่นใจตัดกับรสชาติหวานของตัวเครมบรูเล่ได้ดีครับ ถือว่าเป็นเมนูปิดท้ายที่ชื่นใจสุดๆ





สำหรับที่ภัทราแห่งนี้นั้น ถือว่าเป็นร้านอาหารไทยที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย แถมบรรยากาศก็ดูดี เหมาะสำหรับพาครอบครัว หรือเพื่อนๆ มาลิ้มลองความอร่อยแบบไทยๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น แถมอยู่ใจกลางเมืองอีกต่างหาก









นอกจากที่ไทยแล้วร้านภัทรายังมีสาขาอยู่ที่ต่างประเทศซึ่งถือว่าได้รับความนิยมจากต่างชาติเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่ประเทศอังกฤษซึ่งมีร้านภัทรา หรือ Patara Fine Thai Cuisine เปิดอยู่หลายสาขาทีเดียวครับ เอาเป็นว่าใครอยากทานอาหารไทยบรรยากาศดีๆ ก็แวะไปที่ซอยทองหล่อ 19 ได้เลยนะครับ เข้าซอยไปไม่ไกลร้านจะอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถสะดวกสบาย หรือหากเดินทางโดย BTS ก็ลงสถานีทองหล่อ และสามารถใช้บริการรถรับส่งของทางร้านอาหารได้เลย แต่ต้องโทรไปนัดทางร้านล่วงหน้านะครับ เค้าจะได้ส่งรถมารับที่ BTS ครับ Smiley







Create Date : 14 มีนาคม 2559
Last Update : 14 มีนาคม 2559 12:25:37 น. 4 comments
Counter : 4001 Pageviews.

 
บรรยากาศโอ อาหารหน้าตาน่ากินมากค่ะ
ทุกอย่างลงตัวหมดเลยนะคะ
แหล่มเลย....สุดยอด


โดย: อุ้มสี วันที่: 14 มีนาคม 2559 เวลา:23:06:44 น.  

 
น้ำพริกพริกไทยอ่อนน่ากินมากเลยครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 มีนาคม 2559 เวลา:7:03:21 น.  

 
@ คุณอุ้มสี : อาหารอร่อย บรรยากาศดีมากครับ แถมอยู่ใจกลางเมืองด้วย อิอิ

@ คุณทนายอ้วน : อร่อยมากๆ เลยครับพี่ทนาย


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 18 มีนาคม 2559 เวลา:11:43:59 น.  

 
น่าทานค่า


โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 29 มิถุนายน 2563 เวลา:14:05:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.