Review : Coffret D'or Smile Up Cheeks บลัชออนลายกุหลาบน่ารักสุดกรี๊ดด
สวัสดีค่าทุกคนนน วันนี้มารีวิวไอเทมใหม่ล่าสุดที่รอคอยมาน๊านนนนนาน นั่นก็คือ Coffret D'or Smile Up Cheeks อาจจะมีคนเคยเห็นอุ้ยเวิ่นเว้อเมื่อหลายเดือนก่อนว่าอยากได้เจ้าบลัชออนตัวนี้มากๆ ซึ่งมันเพิ่งเข้าไทยเดือนนี้เอง เลยไม่รอช้าให้คุณเพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด(ย้อนหลัง)ซะเลย อิอิอิบลัชรุ่นนี้มีทั้งหมด 4สีค่ะ ความจริงเบอร์ 01 Pink น่ารักมากๆๆๆๆ แต่ว่าอุ้ยมีบลัชสีชมพูอยู่หลายอันแล้ว เลยเอาสี 03 Rose มาแทนค่ะ สีสวยงาม ออกชมพูอมแดง ^^บางคนอาจจะงงนะคะ ว่าแปรงจะวางยังไง วางลงไปบนบลัชแล้วมันไม่ขูดกันหรอ? นี่เลยค่ะ เค้ามีพลาสติกใสๆ เอาไว้วางแปรงให้ด้วย เริ่ดใช่ม้า...แต่พลาสติกใสมันก็แอบก๊องแก๊งไปหน่อยนะ ความจริงน่าจะทำเหมือนตลับแป้ง ใช้พลาสติกแข็งๆกว่านี้หน่อยอ่ะค่ะมาดูแปรงกันดีกว่า แป้งอันจิ๋วที่แถมมากับบลัชเนี่ย คุณภาพไม่จิ๋วเลยนะคะ ขนแน่นแล้วก็นุ่มมากๆ ไม่มีข่วนหน้าเลยซักนิ๊ดดดดเดียว รู้สึกว่าเค้าทำแปรงได้คุณภาพดีมากเลย เพราะตอนที่ลอง พี่ BA เอาแปรงแป้งหรือบลัชนี่ล่ะ เป็นแบบพกพา มาปัดให้ ขนนุ่มจนเคลิ้มเลย >__< (แต่ตัวจิ๋วอันนี้ไม่เคลื้มนะคะ 5555)เวลาใช้ก็เอาแปรงวนๆตรงกลางที่เป็นสีๆ ขึ้นมาก่อนค่ะ ปัดเป็นวงกลมบนแก้ม แล้วเอาแปรงหมุนๆวนๆตรงส่วนไฮไลท์มาปัดทับอีกที แก้มก็จะวาวๆใสๆ ปาดสีให้ดูกันค่า สีจะใสๆ วาวๆ ขยายรูขุมขนเหมือนกันนะ ใครรูขุมขนกว้างอาจจะต้องบ๊ายบาย อุ้ยเองคราวหน้ากะว่าจะลง Primer ก่อน เพราะไม่ใช่คนหน้าเนียน รูขุมขนเล็ก T^Tสรุปนะคะ เป็นบลัชที่น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ ชอบที่ความน่ารัก ตลับใหญ่เหมือนกัน แต่ก็พกได้ไม่ลำบากอะไร มีแปรงคุณภาพดีให้ในตัว ถือว่าคุ้มนะ เนื้อบลัชก็สวยยยย ติดทนมากพอสมควรค่ะ หลายชม.เลยล่ะ แม้แต่หน้ามันๆแบบอุ้ยก็ยังทน เอาเป็นว่าไม่ติอะไรเลยละกันค่ะอ๊ะ... แต่ไม่ได้ถึงกับ Must Have นะ มีไว้น่ารักๆ ประดับกระเป๋าแล้วมีความสุขค่ะ (โรคจิตอ้ะ =-=)บ๊ายบายค่า...
Review : Sigma Mrs.Bunny Travel Edition ขนนุ๊มนุ่ม
สวัสดีค่า.... ได้เห่อไปซักพักใหญ่มากกกกแล้วกับ Sigma Mrs.Bunny Travel Edition แล้วก็เคยสัญญาไว้ว่าจะรีวิวให้ชม (ไม่มีใครรอหรอก แต่อยากรีวิว 5555) ก็ได้ทำการลองใช้ จนรู้สึกว่าโอแล้วนะ รู้จักมันดีพอและ เลยเอามารีวิวให้ชมกันค่า ^^อุ้ยสั่ง preorder จากเว็บในไทยนะคะ เค้าแถมแปรง E25 ให้ด้วย เหมือนกับที่สั่งจากเว็บ sigma โดยตรง ราคาของเซ็ตนี้อยู่ที่ 59 เหรียญค่ะ อุ้ยพรีมาในราคา 2,200 บาทสิ่งที่ปลื้มกับเซ็ตนี้... อย่างแรกคงจะเป็นสีค่ะ สีมันหวานม๊ากกกกก หว๊านนนหวานน ชอบสุดๆ อันนี้เป็น brush cup holder ที่เอาไว้ใส่แปรง ไซส์เล็กกว่าขนาดปกติน่าจะเยอะอยู่เหมือนกัน ซึ่งอุ้ยชอบนะ มันเล็กกระทัดรัดทำให้อยากจะพกไปไหนต่อไหน แต่ก็หนักอยู่เหมือนกันค่ะ แข็งแรงดีมีเอ่อ... เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ ป๊อกแป๊ก?? ที่เอาไว้ล็อคข้างๆอ่ะค่ะ ล็อคไว้เวลาเดินทาง ไม่ต้องกลัวว่ากระป๋องจะเปิดแล้วแปรงกระเด็นออกมา คิดว่ามันน่าจะไม่หลุดนะ คิดว่าๆ เปิดออกมามีแปรงอยู่ 7+1 ด้าม... คือแปรงเซ็ต Mrs.bunny 7 ด้าม แล้วก็แปรง E25 อีก 1 ด้าม แปรงสีหวานมากอีกแล้ววว โอ๊ยยย จะละลาย >___<ขนาดของแปรงอุ้ยว่าความจริงมันก็ไม่เล็กนะคะ ประมาณ 1 ฝ่ามือ พอๆกับ RMK Cheek Brush ค่ะ ด้ามสั้นแบบนี้ทำให้ใช้งานง่ายพอสมควรเลย ด้ามแปรงไม่ค่อยชนกับกระจกเท่าไหร่ ^^อันนี้ลองเทียบกับแปรง Sigma ขนาดปกติให้ดูนะคะ จะเห็นได้ว่า แปรงส่วนใหญ่ขนาดของแปรงเท่ากันนะคะ เพียงแค่ด้ามของเซ็ต travel จะสั้นกว่า ยกเว้น F30 Large Powder ที่ขนาดแปรงเล็กกว่าไซส์ปกติค่อนข้างมาก แล้วก็ F40 Large Angled Contour ความจริงขนาดเท่ากันค่ะ แค่แปรงเซ็ตปกติขนมันฟูจนเสียรูป เลยดูว่าขนาดใหญ่กว่าทีนี้มาดูแปรงแต่ละด้ามกันนะคะF30 Large Powder Brush เป็นแปรงปัดแปรง ขนาดไม่ใหญ่มาก ขนนุ่มแล้วก็แน่นมากๆค่ะ สามารถใช้ปัดได้ทั้งแป้งอัดแข็ง และแป้งฝุ่น ด้วยความที่ขนนุ่มแล้วก็แน่นสามารถเอามาบัฟๆ วนๆได้เลยล่ะ แต่ผลที่ได้ไม่เนียนหนาเท่าแปรงคาบูกินะคะ อุ้ยชอบใช้ในการปัดแป้งผสมรองพื้น เพราะว่าให้ลุคที่ไม่หนามาก เนียนพอดีๆ ปัดแป้งฝุ่นแล้วรู้สึกว่าเบาไปค่ะ ในบางวันถ้าอยากได้ลุคแก้มใสๆ ฟุ้งๆก็เอามาปัดแก้มได้ด้วยนะคะ แตะน้อยๆแล้วปัดวนๆ กระจายๆ สีแก้มจะฟุ้งๆแบบไม่จงใจค่าF40 Large Angled Contour Brushแปรงคอนทัวร์ อันนี้ไม่ค่อยเหมาะกับการคอนทัวร์เท่าไหร่นะคะจากที่ลองใช้มา เพราะว่าขนมันไม่ค่อยนิ่ม คือนุ่มแต่ไม่นิ่ม มันจะเด้งๆ ทำให้เวลาคอนทัวร์แล้วสีไม่กระจายค่ะ สีจะเป็นปื้นๆ หน้าดำเป็นช่วงๆ แล้วก็ไม่ค่อยติดสีด้วย แต่ว่าพอเอามาปัดแก้มแล้วเวิร์คมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะเวลาปัดกับบลัช M.A.C สี Pink Swoon ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ฮ่าฮ่าF60 Foundation Brushแปรงรองพื้นเซ็ตบันนี่ด้ามนี้ อุ้ยประทับใจมากกว่าเซ็ตใหญ่นะคะ เพราะขนนิ่มกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน ยังมีข่วนหน้าบ้างค่ะ แต่น้อยมากๆ เป็นบางครั้งที่ใช้เท่านั้นเองแปรงด้ามนี้ทำให้การลงรองพื้นง่ายและรวดเร็วขึ้นมากๆ สามารถลงได้หลายแบบ ทั้งหนาและบาง ด้วยแปรงที่ค่อนข้างใหญ่ปาดปิ้ดๆไม่กี่ที่ก็ทั่วหน้า เนียนกริ๊บ ไม่เป็นเส้นๆ ถ้าต้องการปกปิดเพิ่มก็ใช้แปรงแตะรองพื้นแล้วแตะที่รอย ถ้าต้องการให้บางลงก็เอาแปรงปาดสั้นๆ ตบท้ายด้วยการเอาฟองน้ำกดย้ำให้ทั่วหน้า เนียนสวย เริ่ด!!!(แต่ช่วงนี้หน้าพัง งดรองพื้นอีกนานเลย T^T)E30 Pencil Brush แปรงทาตาหัวดินสอ อันนี้ไม่ค่อยแหลมมากค่ะ แต่ก็ยังสามารถลงสีในพื้นที่เล็กๆได้ดี สร้าง v shape ที่หางตาได้ ลงสีที่หางตาล่างก็ยังได้ค่ะ ขนนิ่มไม่ทิ่มตา ไม่มีอะไรจะติค่า...E40 Tappered Blending Brushแปรงเบลนดิ้งอันโด่งดัง ขนนุ่มแล้วก็แน่น แต่ใช้งานได้ไม่หลากได้เท่าไร เพราะมันเป็นขนสังเคราะห์ จึงจะเด้งแล้วก็ลื่น สามารถใช้เบลนด์สีตาได้ แต่ไม่ฟุ้งเท่าที่ควร ใช้ไล้ดั้งไม่ค่อยดีเพราะจะเป็นปื้นๆ แต่ๆๆๆ สิ่งที่แปรงตัวนี้ทำได้ดีคือ ลงคอนซิลเลอร์เนื้อครีมค่ะ ลงได้สวยมากกกกกก เนียนเรียบ ลงในบริเวณกว้างๆ ก็ไม่หนาเตอะ(ถ้าเลือกคอนซิลเลอร์ที่สีพอดีกับผิว) วิธีการ ก็แค่เอาแปรงวนๆในคอนซิลเลอร์ให้ได้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา แล้วระบายลงบนหน้า ตรงที่ต้องการปกปิด ไม่ต้องบัฟวนๆนะคะ เดี๋ยวจะหนา ลงได้ทั้งรอยคล้ำใต้ตา รอยสิว แผลเป็น ฯลฯ เนียนมากจริงๆE55 Eye Shading Brushแปรงลงสีตา ขนแน่น นุ่มอีกแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นขนสังเคราะห์ก็เลยลงผลิตภัณฑ์เนื้อฝุ่นไม่ค่อยดีค่ะ ลงได้... แต่สีจะไม่จัดเท่าลงด้วยแปรงขนสัตว์จ้าE65 Small Angle Brushแปรงปลายตัดเฉียง สารพัดประโยชน์ ใช้ลงสีคิ้วก็ได้ เขียนอายไลเนอร์ก็ได้ ปลายแปรงไม่หนาเลยใช้งานได้หลายอย่าง ดีพอๆกันกับเซ็ตขนาดจริงสีชมพูที่เคยมีค่ะ แต่ด้ามที่สั้นกว่าทำให้พกไปไหนมาไหนง่ายมากๆE25 Blending Brushแปรงเบลนดิ้ง เป็นแปรงที่แถมมา ด้ามนี้เป็นขนสัตว์นะคะ อุ้ยเองมี 2 ด้ามนะ แต่คุณภาพต่างกันอ่ะ ด้ามแรกขนแข็งข่วนตาด้วย แต่ด้ามนี้ไม่เป็นเลย นิ่มฟู ใช้เบลนด์ก็ดี ลงสีตาก็ได้ ติดที่ขนาดมันใหญ่ไปหน่อย คงจะเหมาะกับฝรั่งที่เค้าเบ้าตาลึกๆ ด้ามนี้อุ้ยเลยใช้ปัดแป้งใต้ตา ไฮไลท์โหนกคิ้ว สันจมูกค่าสรุปความเห็นส่วนตัว แปรงเซ็ตนี้อุ้ยพอใจมากๆนะคะ ด้วยสีที่หวานสวยถูกใน ขนาดกระทัดรัดถึงแม้กระบอกจะหนักไปหน่อยแต่ก็แข็งแรงดี ขนแปรงคุณภาพดีมาก นุ่มแน่น ตอนล้างไม่มีหลุดออกมาซักเส้น สีไม่ตกเลย แต่เพราะมันเป็นขนสังเคราะห์ ก็ต้องหาวิธีใช้งานเค้าให้เหมาะสมนะคะ อย่าเพิ่งคิดว่า เฮ้ย...ทำไมซื้อมาตั้งแพง ลงสีไม่ค่อยติดเลย ทำไมมันเป็นปื้นๆแบบนี้ ฯลฯ ของแบบนี้ต้องหาวิธีใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์การแต่งหน้าของตัวเองด้วยค่า...วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ ถ้ามีคำถามหรือต้องการแนะนำ ติชมอะไรก็คอมเม้นต์ได้เลยค่า ยินดีรับไปปรับปรุง
Review : Cezanne Face Control Color #4 เทียบกับ Cezanne Nose Shadow & Hilight จ้า
ดีค่าทุกกกกกคน วันนี้ กลับมารีวิวกันอีกแล้ว เพราะว่าดัน(ตั้งใจ)ได้ของเล่นใหม่มาทดลอง ด้วยความที่เดิมอุ้ยใช้ Cezanne Nose Shadow & Hilight มาซักพักใหญ่มากๆ หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ เน่าหน่อยเน้อ... >_<ใช้อยู่ด้านเดียวจนมันโบ๋แล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงจะหมด แต่ครั้นจะซื้อตลับใหม่ โดยที่ด้านไฮไลท์ยังเต็มขนาดนี้ก็รู้สึกเปลืองเกินไป เลยมองหาไอเทมที่จะช่วยเสริมดั้งน้อยๆ ให้โด่งเด้งดึ๋งและด้วยความที่หลังปีใหม่ Watsons MBK ได้เอาเคาเตอร์ Cezanne มาลง เลยได้สนุกสนานกับของเล่นมากมาย ฮ่าๆๆ เดี๋ยวจะทำรีวิวเคาเตอร์เซซานเบาๆด้วยนิดนึงค่ะ อิอิ สิ่งที่เอามารีวิววันนี้คือเจ้านี่ค่ะ Cezanne Face Control Color วันที่ไปซื้อ Tester ดันหมดค่ะ เลยไม่ได้ลองเล่นเลย เห็นเหลืออยู่ 2 ตลับ สติหลุดลอยรีบคว้ามาทันที พอเดินไปตรงโบนันซ่าเห็นวัตสันเปิดใหม่อีก เลยแว้บเข้าไปดู ต๊ายยยย... มีเซซานเหมือนกันเลย ของเยอะกว่าบน MBK อีกตะหาก Tester ตัวนี้ก็มี เอิ่ม!!!!! เศร้าเลยยยที่ซื้อมาคือเบอร์ 4 ค่ะ รู้สึกว่าในวัตสันมีขาย 3 เบอร์ คือ เบอร์ 1 เป็นไฮไลท์สีขาว เนื้อแมตต์ เห็นแล้วก็แอบอยากได้ มันไม่มีวิ้งๆให้รำคาญใจ พวกไฮไลท์ทั่วไปมักจะมีชิมเมอร์ กลิตเตอร์ ระยิบระยับไปหมด ใครมองหาไฮไลท์เนื้อ Matte แนะนำเลยจ้า...เบอร์ 2 เป็นไฮไลท์สีขาวเหมือนกันค่ะ แต่มีกลิตเตอร์ วิ้งๆ เหมือนกับด้านสีขาวของ Nose Shadow & Hilight เป๊ะเลย และก็เบอร์ 4 สี เป็นสีน้ำตาลไว้สำหรับเฉดดิ้ง เนื้อ Matte ค่า ไม่มีวิ้งเริ่ดมากๆแปรงน่าจะเป็นขนสัตว์ธรรมชาติ นิ่มแต่ไม่ได้นุ่มมากมาย แต่ก็ไม่ได้บาดหรือข่วนหน้า ขนแน่นพอสมควร คุณภาพดีกว่าแปรง 2 หัวใน Nose Shadow & Hilight เยอะอยู่เหมือนกัน เสียดายที่แปรงอันเล็กเกินไป ใช้ปัดบริเวณกราม หรือใต้โหนกแก้มได้ยาก มันจะเป็นปื้นๆ แต่ใช้ไล้ดั้งได้พอดีเลยล่ะค่าเทียบขนาดตลับกันแล้ว เท่ากันพอดีเป๊ะๆ คงจะเป็นตลับแบบเดียวกันแน่ๆเลย บลัชออนของเค้าก็ตลับแบบนี้เหมือนกัน ขนาดเล็กพกพาง่ายดี แต่ถ้าเค้าปรับปรุงให้มันมีลูกเล่นมากขึ้น เช่นเอาตลับมาต่อกันได้ หรือดีไซน์ให้พกด้วยกันได้ง่ายๆ จะเริ่ดมากๆเลยลองเอาแปรงปัดๆ สีติดขึ้นมาดีเลยแหล่ะ เป็นฝุ่นนิดดดหน่อย ไม่ได้แป้งๆ อะไรมากมาย ถ้าเอามาไล้จมูกก็จิ้มแต่น้อยนะคะ แล้วค่อยเพิ่มเอา จะได้เป็นธรรมชาติลองปาดๆ ป้ายๆให้ดู ภาพแรก ป้ายจากตลับให้สีติดที่นิ้วมือนะคะ เห็นสีไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ภาพที่สอง 1. Cezanne Nose Shadow & Hilight ด้านที่เป็นชาโดว์2. Cezanne Face Control Color #43. Nars Bronzing Powder #Lagunaสีของเซซาน ทั้งสองอันต่างกันมากๆ ใครที่สงสัยว่ามันจะแทนกันได้รึป่าว ตอบได้เลยค่ะว่าไม่ได้ เซซานตัวเสริมดั้ง ด้านที่เป็นเงาเค้าจะเข้มกว่าสีผิวนิดดดดดเดียวเองค่ะ สีออกเบจๆ เทาๆ เหมาะแก่การไล้ดั้งนะ ดูมันธรรมชาติมากๆ ถึงแม้จะมีวิ้งที่อุ้ยไม่ค่อยชอบ แต่ด้วยสีแล้ว... อภัยให้หมดส่วนเซซาน เฟส คอนโทรล คัลเลอร์จะออกสีน้ำตาลส้มค่ะ เทียบกับ Nars Laguna แล้วสีไม่ต่างกันมากเลยค่ะ แต่ที่เห็นว่านาร์สดูเหลืองกว่า เพราะว่าสี Laguna มีชิมเมอร์สีทองกระจายอยู่ค่ะ แต่เวลาปัดจริงๆ ก็ไม่ได้เห็นชิมเมอร์เท่าไหร่ ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้หน้าวิ้งเลื่อมค่าสรุปความเห็นส่วนตัว คิดว่าเป็น Shading Powder เนื้อ Matte ที่ดีมากตัวนึง ถึงแม้ว่าจะเอามาใช้แทน Nose Shadow & Hilight ไม่ได้(ต้องเสาะหากันต่อไป) แต่ก็เอาไว้เฉดดิ้งกราม แก้ม หน้าผากได้นะคะ เนื้อแมตต์แบบนี้ยิ่งใช้งานได้ง่าย เป็นธรรมชาติ เหมาะกับ everyday look มากๆTip ถ้าใครมี Nose Shadow & Hilight อยู่แล้วรู้สึกว่าสีชาโดว์มันอ่อนเกินไป ไล้จมูกแทบตายก็ไม่เห็นว่ามันจะลึกลงตรงไหน ให้ลองใช้ Shading Powder อะไรก็ได้(แนะนำว่าเป็นเนื้อแมตต์จะดีที่สุด) ลงที่ข้างสันจมูกก่อนเบาๆ ให้ดูมีสีที่เข้มขึ้น แล้วใช้ Nose Shadow & Hilight ทับลงไป จมูกก็จะดูโด่งแบบธรรมชาติมากๆค่ะ Cezanne Face Control Color 320 bahtCezanne Nose Shadow & Hilight 350 bahtวันนี้พอแค่นี้ก่อนน้าคะ ถ้ามีอะไรน่าสนใจจะรีบมาทำรีวิวแน่นอนค่า... ถ้ามีคำถาม สงสัย หรือต้องการติชมให้คำแนะนำอะไร comment ได้เลยนะคะ ยินดีตอบคำถาม และนำคำแนะนำไปปรับปรุงค่ะ
Review : EOS Lip Balm ลิปบาล์มรูปไข่ที่มีดีมากกว่าความน่ารัก ^^
สวัสดีค่าทุกคน อากาศเริ่มหนาวมาซักพักใหญ่ๆแล้ว วันนี้เลยจะขอมารีวิวลิปบาล์มน่ารักๆ ที่ใช้ดีมากๆให้ชมกันค่า ซึ่งก็คือ EOS Lip Balm Smooth Sphere นั่นเอ๊งงงลิปบาล์มรูปไข่อันนี้ไม่ได้มีส่วนผสมทำมาจากไข่แต่อย่างใด แต่เป็นลิปบาล์มที่ 100% Natural, 95% Organic ด้วยย ไม่ผสมปิโตรเลี่ยมเจลลี่กับพาราเบน(สารกันเสีย)ด้วยนะ ถ้าจำไม่ผิดอันนี้คือของอุ้ยเอง สีชมพูกลิ่น Strawberry Sorbet ค่ะ หอมหวานอมเปรี้ยว แอบรู้สึกว่าฉุนไปนิดหน่อย แต่รสชาดหวานๆอร่อยมากกกก ชอบๆ เวลาทาปากจะไม่มันๆเงาๆนะคะ แต่ถ้าเม้มปากก็จะรู้สึกได้ว่ามันเคลือบปากอยู่ หมุนตัวถ่ายซ้ายขวาชะแว้บๆ ลูกอาจจะเล็กกว่าที่คิดไว้นะคะ แต่มันก็พอดีนะสำหรับการเป็นลิปบาล์ม ถ้าลูกใหญ่กว่านี้ไม่รู้จะทายังไงเหมือนกัน 5555+ แต่เอามือกำก็ไม่มิดนะคะ มาต่ออันที่สีฟ้าลูกนี้ดีกว่า อันนี้กลิ่น Sweet Mint จ้า ไม่ใช่ของอุ้ยหรอก แต่ขอยืมมารีวิว แหะๆสำหรับลูกสีฟ้าอันนี้ เป็นของคุณชายข้างๆตัว เลยยืมมารีวิว ตอนแรกซื้อมาให้ใช้ก็ออกแนวบังคับนิดนึง แต่ตอนนี้ฮีติดซะแล้ว =-= ตอนยืมมารีวิวนี่แบบมีโวยวาย 5555+ กลิ่น Sweet Mint ชื่อก็บอกอยู่แล้วเน๊อะกว่ากลิ่นมิ้นต์ ถ้าใครนึกไม่ออกนึกถึงมายด์มิ้นต์เลยค่ะ กลิ่นเหมือนกันเป๊ะๆ จะบอกว่ารสชาดก็เหมือน หวานๆเย็นๆ เหมาะกับผู้ชายดีเหมือนกันนะ ลูกสีฟ้าก็ยังพอถถือได้ไม่น่าอายเท่าไหร่ หึหึหึ แฟนใครปากแห้งปากแตกลองบังคับให้พกไว้ใช้อาจจะติดใจนะจ๊ะสรุปผลการใช้ ทั้ง 2 ลูกต่างกันแค่ที่กลิ่นกับรสชาดค่ะ Strawberry Sorbet ออกแนวหวานๆอมเปรี้ยวนิดนึง แต่ Sweet Mint จะหวานๆเย็นๆ ตัวอุ้ยเองชอบทั้งสองลูกเลย แหะๆๆ ด้านการบำรุง ชนะเลิศมากๆ แล้วคือมันใช้งานสะดวกหยิบมาถูๆ ถูได้ทั้งวันปากก็เลยไม่แห้ง เวลาทาปากไม่เยิ้มเลยชอบที่จะทาซ้ำอยู่เรื่อยๆ และที่สำคัญ มันไม่มีกลิ่นปิโตรเลี่ยมเจลลี่เลย(เป็นเหตุผลว่าทำไมอุ้ยไม่ชอบใช้วาสลีน) อ้อ... ไม่ค่อยมีคราบขาวๆบนริมฝีปากด้วยล่ะ ต่างจากลิปมันที่เคยใช้มามากๆลิปตัวนี้อุ้ยสั่งจากในเว็บนะคะ ราคาประมาณ 220 บาท ราคาจริงๆไม่แน่ใจว่า 3เหรียญรึป่าวค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มองหาลิปบาล์มอยู่นะคะ ถ้ามีคำถามหรือต้องการติชมอะไรยังไง ก็คอมเม้นต์ได้เลยค่า สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน ขอตัวไปแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกับครอบครัวก่อนจ้า...
Review : Kinesys Performance Sunscreen/Fragrance Free กันแดดแบบสเปรย์ที่เจ๋งมากๆ
สวัสดีค่าทุกคน วันนี้มีรีวิวมาให้ชมกันอีกแล้ว สิ่งที่หยิบมารีวิววันนี้เป็นของที่ได้รับมาให้ทดลองใช้ค่ะ ก็คือกันแดดแบบสเปรย์ Kinesys Performance Sunscreen/Fragrance Free นี่เองค่ะความจริงตอนแรกก็ไม่รู้จักเลยแหล่ะ ยี่ห้ออะไรน้อไม่เคยได้ยิน แต่คุณกลที่ติดต่อมาก็แนบลิ้งค์ของเว็บ //www.kinesys.in.th/ ไว้ให้ด้วย ลองเข้าไปหาข้อมูลดูก็ เอ้ยยย... มีคนรีวิวไว้เยอะเหมือนกันนะ เลยตอบตกลงไปค่ะขอสารภาพว่าได้มานานมากๆแล้ว แต่ไม่ได้รีวิวซักที เนื่องด้วยหน้าพังสิวขึ้น เลยยังไม่อยากใช้อะไรใหม่ๆ รอจนคิดว่าจะไม่มีสิวขึ้นใหม่แล้วก็ทดลองใช้ จำระยะเวลาใช้ไม่ได้ค่ะ น่าจะประมาณ 2-3 อาทิตย์ละมั้ง >_<ผลิตภัณฑ์หน้าตาเยี่ยงนี้แล... กันแดดตัวนี้เคลมว่าอ่อนโยนมากๆ ไม่ทำให้เกิดสิว - Alcohol-Free- Fragrance-Free- Preservative-Free- Oil-Freeง่ายๆก็คือ ไม่ผสมแอลกอฮอล์ น้ำหอม สารกันบูด และน้ำมันค่า แถมด้วย SPF30 อีก มั่นใจได้เลยว่าปกป้องผิวเราได้ยาวนาน เพราะเป็นกันแดดแบบ Water-Resistant ในส่วนของสารกันแดด อุ้ยไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ค่ะ ทราบเพียงแค่เป็นกันแดดแบบ Chemical ล้วนๆ(ถ้าจำไม่ผิด) ทำให้ไม่อุดตันผิว เวลาใช้หน้าไม่ขาววอก อ้อ... กันแดดตัวนี้คิดว่าไม่ผสมสีนะคะ เพราะตัวกันแดดเป็นน้ำใสๆเลย ลองฉีดปี๊ดๆ ออกมาเป็นละอองค่ะ ถ้ายังไม่ชินที่จะฉีดลงไปตรงๆบนผิวหน้า ก็ฉีดใส่ฝ่ามือแล้วค่อยทาหน้าก็ได้ค่ะ หลังใช้ผิวหน้าจะมันๆแป๊บนึง แล้วก็ซึมหายไปหมด ไม่เหลือความมันเลยค่ะ ชอบมากๆ ใช้หลังแต่งหน้าก็ไม่เละค่ะ ฉีดแล้วรอให้แห้ง ตบแป้งฝุ่นทับนิดดดนึงก็เด้งเหมือนเดิมแล้ว ทำให้สามารถเติมระหว่างวันได้สบายๆเลย อ้อ!!! แต่อุ้ยไม่แน่ใจว่ามันกันรังสี UVA รึป่าวค่ะ เพราะไม่ได้เขียน PA ไว้เลย** แถมยังอ่านส่วนผสมไม่เป็นอีก =-= เดี๋ยวจะไปหาข้อมูลเพิ่มนะคะสรุปผลการใช้ ถือว่าชอบมากๆเลยค่ะ ในด้านการกันแดดค่ะ ใช้แล้วผิวไม่แสบแดง ไม่มีอาการคันแพ้ สิวไม่ขึ้นเพิ่มเลย แล้วก็ไม่เป็นคราบด้วย แต่ในด้านการล้างออกเนี่ย อุ้ยใช้ Cleanser เป็นประจำอยู่แล้วเลยไม่ทราบว่าล้างยากมั๊ย แต่ทางที่ดีใช้น้ำอุ่น+ฟองน้ำล้างหน้า ช่วยก็จะทำให้หน้าสะอาดได้แล้วค่ะติดอยู่ที่ความเห็นส่วนตัวของอุ้ยนิดนึงค่ะ คือแอบชอบกันแดดแบบ Physical มากกว่า เพราะมันจะวอกเบาๆ เวลาทาแล้วหน้าจะสว่างขึ้น 555+ เป็นความชอบส่วนตัวนะ ขออภัยที่ไม่ทราบว่าหาซื้อได้ที่ไหน และราคาเท่าไหร่ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก //www.kinesys.in.th/ ค่ะจบแล้วค่ะรีวิวสั้นๆ หวังว่าจะชอบกันนะคะ ถ้ามีข้อสงสัยหรือต้องการแนะนำ ติชมอะไรก็คอมเมนต์ได้เลยค่ะ ยินดีรับไปปรับปรุงค่า*ผลิตภัณฑ์ใน Review นี้ทาง Kinesys ได้ส่งมาให้ทดลองใช้ค่ะ และได้ลองใช้และรีวิวจากผลการใช้จริงๆ*