การใช้กฎหมาย
การใช้กฎหมาย 1. การใช้กฎหมาย มีความหมาย 2 ประการ คือ (1) การบัญญัติกฎหมายตามที่กฎหมายแม่บท (รัฐธรรมนูญ) ให้อำนาจไว้ เช่น ร่าง พรบ. จะตราเป็นกฎหมายได้ก็โดยคำแนะนำ และยินยอมของรัฐสภา (2) การใช้กฎหมายกับข้อเท็จจริง หมายถึง การนำกฎหมายที่เป็นข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ทั่วไปมาปรับเข้ากับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นกรณีๆ ไป ว่าข้อเท็จจริงนั้นมีผลในทางกฎหมายอย่างไร มีหลักเกณฑ์ในการใช้ดังนี้ 2.1 เป็นเรื่องอะไร 2.2 มีหลักเกณฑ์ของกฎหมายในเรื่องนั้นๆ อย่างไร 2.3 ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเข้ากับหลักกฎหมายนั้นหรือไม่ 2.4 เมื่อข้อเท็จจริงเข้ากับหลักกฎหมายแล้ว ผลเป็นอย่างไร
2. การใช้กฎหมายตามข้อเท็จจริงนั้น ทุกคนที่เกี่ยวข้องและได้รับผลจากกฎหมาย จำเป็นต้องนำเอาข้อกฎหมายมาปรับใช้กับข้อเท็จจริงนั้น ซึ่งอาจแยกได้ดังนี้
(1) ราษฎร : พลเมืองทุกคนต้องเกี่ยวข้องกับกฎหมายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในชีวิตประจำวันหรือในการประกอบธุรกิจ ทั้งทางอาญาและแพ่ง เพราะกฎหมายเป็นเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง (2) เจ้าพนักงานของรัฐ : มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องใช้กฎหมายบังคับให้ราษฎรปฏิบัติตาม แต่การใช้กฎหมายของเจ้าพนักงานฯ ก็ต้องใช้ภายในขอบเขตที่รัฐกำหนดอำนาจหน้าที่ไว้เท่านั้น (3) ศาล : ศาลจะเป็นผู้ใช้กฎหมายในการวินิจฉัยและชี้ขาดตัดสินคดี ในกรณีพิพาทระหว่างคู่กรณี
3. การใช้กฎหมายกับข้อเท็จจริง แบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ คือ (1) การใช้กฎหมายโดยตรง เริ่มจากการศึกษาตัวบทกฎหมาย เพื่อให้รู้ถึงความหมายหรือเจตนารมย์ที่แท้จริงของกฎหมายก่อน แล้วจึงจะมาพิจารณาว่าตัวบทกฎหมายนั้นสามารถปรับเข้ากับข้อเท็จจริงได้หรือไม่ (2) การใช้กฎหมายโดยอ้อม ในกรณีที่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่บัญญัติไว้โดยตรงที่สามารถยกมาปรับแก่คดีได้ ให้วินิจฉัยคดีตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น, เทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง และหลักกฎหมายทั่วไป ตามลำดับ
Create Date : 05 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 5 กรกฎาคม 2550 8:51:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 7027 Pageviews. |
|
|
|
| |